บทที่ 95 คุณกล้าเอาเรื่องเมื่อหกปีก่อนมาข่มขู่ผมหรือ
สวี่รั่วยีพูดพลาง ร้องไห้โฮ
น้ำตาไหลพราก ดวงตาแดงก่ำ น่าเวทนา น่าสงสารเหลือเกิน
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น พลางปาดน้ำตา “ตอนนี้หน้ายังบวมอยู่เลย เพราะผู้ช่วยของคุณตบ…ฉันไม่เคยถูกทำขนาดนี้ แม้แต่พ่อแม่ยังไม่เคยตบฉันอย่างนี้ แอนนาเป็นแค่ผู้ช่วย กล้าดียังไงมาตบฉัน”
สวี่รั่วยียิ่งพูดยิ่งน้อยใจ ยิ่งพูดยิ่งรับไม่ได้ สุดท้ายสองมือกุมใบหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้น
ไหล่บอบบางโยกคลอน หลี่อานถึงกับทนดูต่อไปไม่ไหว
“ประธานลี่ เอ่อ…” หลี่อานกดเสียงต่ำ กลัวสวี่รั่วยีได้ยิน “จะโทรไปถามแอนนามั้ยครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณสวี่ไม่ว่าจะยังไงก็คือคู่หมั้นของประธานลี่ ถ้ารู้ไปถึงหูคุณนายสวี่ คุณจะอธิบายกับคุณนายสวี่และคุณนายลี่ยังไง”
หลี่อานติดตามลี่ถิงเซิ่งมาหลายปี รู้ดีคุณนายลี่ชอบสวี่รั่วยีมากแค่ไหน เห็นเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่ง
แถมก่อนหน้านี้คุณนายลี่ยังตั้งใจเรียกแอนนาไปบ้านตระกูลลี่ดูหมิ่นอีกด้วย ไม่ต้องคิดก็รู้คุณนายลี่ไม่ชอบแอนนามากแค่ไหน
ถ้าข่าวแอนนารังแกสวี่รั่วยีรู้ไปถึงหูคุณนายลี่ เกรงว่าคุณนายลี่จะทำให้ประธานลี่ไม่สบายใจอีก
ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรของลี่ถิงเซิ่งนิ่งสุขุมไม่หวั่นไหว ดวงตาดำขลับลึกลับมีแววเคร่งขรึม
เมื่อได้ยินสวี่รั่วยีร้องเรียนทั้งน้ำตาและคำแนะนำของหลี่อาน ไม่ขมวดคิ้วสักนิด เหมือนเรื่องทั่วไปที่เห็นจนเคยชินแล้ว “แอนนาทำร้ายคุณ ทำไม ขอเหตุผล”
คำพูดเยือกเย็นของเขาทำให้หลี่อานอดที่จะหนาวสั่นไม่ได้
สวี่รั่วยีถึงอย่างไรก็เป็นคู่หมั้นของลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วยีถูกตบ ก็เหมือนกับลี่ถิงเซิ่งถูกตบหน้า
หรือว่าประธานลี่แคร์แอนนาขนาดนั้น ไม่สนใจแอนนาฉีกหน้าเขาสักนิด
หลี่อานไม่กล้าเชื่อการสรุปของตัวเอง
สวี่รั่วยีเงยหน้ามอง ดวงตาบวมแดงสองข้าง มีความรู้สึกอ่อนแอ
“วันนี้ฉันชอบกระเป๋าใบหนึ่ง อยากจะซื้อ ไม่รู้เพื่อนของแอนนาใช้วิธีไหน ทำให้ร้านแบรนด์เนมนั่นปฏิเสธขายให้ฉัน ฉันโมโหก็เลยพูดจาไม่น่าฟังออกไป แต่เธอกล้าดียังไงตบฉัน! พ่อแม่ยังไม่เคยตบฉัน เธอเป็นแค่ผู้ช่วย มีสิทธิ์อะไรสั่งสอนฉัน”
หลี่อานเงียบกริบ
ครู่ใหญ่เขาหันมา รู้สึกช่วยไม่ได้
คุณสวี่ถูกสั่งสอน สมน้ำหน้า
“คุณอยากให้ผมช่วยสั่งสอนคืนงั้นหรือ” ลี่ถิงเซิ่งสีหน้าเฉยเมย สองมือกอดอกสบายๆ “ขอโทษที ผมไม่เคยตบผู้หญิง คงช่วยไม่ได้”
“ฉันก็ไม่ได้ขอให้คุณช่วยฉันตบเธอ!” สวี่รั่วยีเห็นลี่ถิงเซิ่งยังยอมสนทนากับตัวเอง รีบพูดต่อ “เธอเป็นลูกน้องคุณ คุณช่วยอบรมแทนฉันก็สมควรหรือเปล่า! ไม่อย่างนั้นลูกน้องรังแกคู่หมั้นของคุณ ข่าวแพร่ไปจะน่าเกลียดขนาดไหน!”
สวี่รั่วยีพูดจามีเหตุมีผล
ในใจลึกๆ เธอมั่นใจมากลี่ถิงเซิ่งจะต้องตอบรับเงื่อนไขของตัวเอง
ถ้าหากคนอื่นรู้ลี่ถิงเซิ่งแม้แต่คู่หมั้นยังปกป้องไม่ได้ ข่าวลือซุบซิบไม่ใช่จะหยุดได้ในทันที
ต่อให้ลี่ซื่อกรุ๊ปมีทีมประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดในเมืองหลินชวนก็ตาม
ลี่ถิงเซิ่งได้ยินสวี่รั่วยีพูดอย่างนั้น ก็ยิ้มเยาะ
สวี่รั่วยีทำให้สิ่งที่คุณนายพร่ำสวี่สั่งสอนสูญเปล่า
“สวี่รั่วยีคุณลองพูดสิคุณดูถูกเธอต่อหน้าคนอื่นถูกสั่งสอนก็เลยอึดอัดใจ หรือผมปกป้องคุณไม่ได้ก็เลยอึดอัดใจมากกว่า”
สวี่รั่วยีตะลึง
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเย็นพูดต่อ “คู่หมั้นผมด่าคนอื่น นี่ทำให้ผมขายหน้ายิ่งกว่าอีก”
คำพูดนี้ ทำให้ใบหน้าที่อ่อนแอของสวี่รั่วยีมีแววยุ่งยากขึ้นมา
“ก็จริง ฉันไม่ควรดูถูกเธอ! แต่ถิงเซิ่งคุณไม่คิดหน่อยหรือคะ เธอเป็นผู้ช่วย มีสิทธิ์อะไรให้แบรนด์ระดับโลกช่วยเธอ คุณไม่สงสัยหรือสปอนเซอร์เบื้องหลังเธอคือใคร ผู้หญิงคนหนึ่ง อายุน้อยขนาดนั้น หน้าตาก็เหมือนจิ้งจอก! ต่อให้เธอมีฝีมือปรุงน้ำหอมขั้นเทพแล้วยังไง รถซูเปอร์คาร์ของเธอไม่ใช่แค่มีเงินธรรมดาก็ซื้อได้! ไม่ใช่คนตระกูลร่ำรวย สิทธิ์จะซื้อยังไม่มี! แอนนามีสิทธิ์อะไร! ไม่รู้เธอขึ้นเตียงผู้ชายมากี่คน ถึงได้มีวันนี้——”
สวี่รั่วยียิ่งพูด ยิ่งหัวร้อน แม้แต่มารยาทตระกูลเศรษฐีที่คุณนายสวี่เคยอบรมสั่งสอนยังลืมจนสนิท
คำพูดฟังไม่เข้าหูพรั่งพรู ด่าสวี่รั่วฉิงฉอดๆ
หลี่อานที่อยู่ข้างๆ ทนฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆ
พวกนี้เป็นเรื่องที่เชื่อไม่ได้ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ต่อให้สวี่รั่วยีไม่ชอบแอนนา ก็ไม่ควร——
ขณะที่หลี่อานจะห้ามเธอ ทันใดนั้นชายหนุ่มที่เงียบขรึมข้างๆ ก็ออกเสียงเย็นเฉียบ
“สวี่รั่วยี”
สามคำนี้ กัดฟันพูด
หลี่อานเหงื่อเย็นผุดทั้งตัว
คนที่สนิทสนมกับลี่ถิงเซิ่งต่างรู้ดี ตอนนี้ชายหนุ่มโกรธแล้ว
เสียงด่าฉอดๆ ของสวี่รั่วยีหยุดลง
สายตาของลี่ถิงเซิ่งเคร่งขรึม ไม่เห็นแววความอ่อนโยน ทั้งหมดมีแต่ความเย็นเยือก
ริมฝีปากบางของเขา ขยับนิดๆ ทุกคำที่พูดออกมา ทำให้สวี่รั่วยีตัวสั่น
“อย่าให้ผมได้ยินคุณนินทาแอนนาลับหลังอีก ไม่อย่างนั้นผมจะเรียกคืนทุกอย่างที่คุณได้ตอนนี้ทั้งหมด”
“ถ้าวันนี้คุณมาหาผม เพื่อเล่าเรื่องไร้สาระพวกนี้ ต่อไปอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
พูดจบ สายตาโหดเหี้ยมของชายหนุ่มหรี่ตา กวาดตามองหลี่อาน “ส่งแขก”
“ถิงเซิ่ง!” สวี่รั่วยีเดินมาที่โต๊ะเขา สองมือเท้าโต๊ะ จ้องแววตาเย็นชาของลี่ถิงเซิ่ง “คุณปกป้องเธอขนาดนี้หรือ เธอเป็นแค่ผู้ช่วย! ฉันต่างหากเป็นคู่หมั้นของคุณ!”
ดวงตาลี่ถิงเซิ่งนิ่งสุขุมเลิกขึ้นช้าๆ “สวี่รั่วยี เรื่องหมั้นผมยอมให้มากที่สุดแล้ว เรื่องอื่นนอกจากนี้ คุณอย่าได้ฝันไป”
สวี่รั่วยีได้ยินเช่นนี้ ร่างสั่นเทิ้ม
เธอแทบจะยืนไม่ไหว ขาอ่อนแรง เกือบจะทรุดลงไปนั่ง
“ถิงเซิ่ง เพราะแอนนาคนเดียวหรือ” สวี่รั่วยีมองชายหนุ่มตรงหน้าผิดหวัง “ฉันเคยช่วยคุณ ถ้าฉันไม่ช่วยคุณ คุณคิดว่าตอนนี้จะได้มานั่งเป็นประธานลี่ซื่อกรุ๊ปหรือ!”
ใบหน้าเย็นชาของลี่ถิงเซิ่งเมื่อครู่ ในพริบตาเหมือนหิมะเยือกแข็งในฤดูหนาว
“สวี่รั่วยี คุณกล้ามาก ตอนนี้กล้าใช้เรื่องเมื่อหกปีก่อนมาข่มขู่ผม ใช่มั้ย”
สวี่รั่วยีไม่ยอมแพ้ มุมปากเชิดขึ้น น้ำเสียงแฝงความน้อยใจ แต่ที่มากกว่าคือร้ายกาจ
“ถิงเซิ่ง คุณอย่าลืมสิ คุณนายลี่ไม่พอใจแอนนามาก คุณลองเดาดูสิถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับคุณนายลี่ คุณป้าจะทำยังไง ตอนนี้ทั้งเมืองหลินชวน คนที่จะปกป้องแอนนาได้ก็มีแต่คุณ แต่…คุณต่อกรกับคุณนายลี่ได้หรือ ถึงยังไงเธอก็เป็นแม่ของคุณ”
สวี่รั่วยีน้ำเสียงอ่อนหวาน แต่คำพูดแต่ละคำ แต่ละประโยค ต่างเผยถึงพิษสงออกมา
คำสั่งสอนของคุณนายสวี่หลายปีมานี้ ตอนนี้เธอแสดงออกได้ทุกรายละเอียด