บทที่ 97 โธ่ แอนนาถูกประธานลี่เล่นงานอีกแล้ว
หลังจากสวี่รั่วฉิงรับสายของหลี่อาน เพียงแต่แต่งหน้าง่ายๆ ใบหน้าเรียบๆ ไม่มีสีสันเหมือนปกติ
ใบหน้ารูปไข่ขาวนวลไร้ร่องรอยอารมณ์มากมาย สวี่รั่วฉิงเหมือนจะเดาได้ลี่ถิงเซิ่งจะต้องให้เธอขอโทษ ดวงตาดำขลับใสกระจ่างมองชายหนุ่มตรงหน้าจริงจัง
ครู่ใหญ่ เธอเม้มริมฝีปากเบาๆ ยิ้มนิดๆ
หลี่อานอึ้งกิมกี่
ผู้ช่วยแอนทำอะไร
ในเมื่อแต่แรกประธานลี่ไม่อยากไล่เธอออก ให้สวี่รั่วยีขอโทษยอมอ่อนข้อหน่อยไม่ดีหรือไง!
หลี่อานที่ยืนอยู่หลังลี่ถิงเซิ่งส่งสายตาให้สวี่รั่วฉิง หวังว่าหญิงสาวจะไม่ดื้อดึงเกินไป ฉลาดหน่อย
ต่างกับหลี่อาน สวี่รั่วยีนั่งสบายๆ ที่โซฟา
เพราะเธอหวังให้สวี่รั่วฉิงไสหัวออกไป ไปจากลี่ซื่อกรุ๊ปตลอดกาลอยู่แล้ว
“ก็ได้” เสียงสวี่รั่วยีอ่อนหวาน พูดขึ้นทำลายความเงียบ “ฉันไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ถ้าคุณแอนนาอยากจะลาออกให้ได้ ฉันก็รับได้ ถึงแม้ฉันจะจำเรื่องที่แอนนาตบฉันตลอดไป ฉันขอร้องให้เธอไปจากเมืองหลินชวนซะ ไปหางานทำที่อื่นเถอะ ถ้าเธอยังอยู่เมืองหลินชวน อย่าได้คิดจะมีที่ยืนในวงการน้ำหอมอีก”
ในใจสวี่รั่วยีแอบดีใจ ความดีใจบนใบหน้าปิดไม่มิด
เธอพูดจบ ก็กลับไปนั่งที่โซฟา หยิบชาดำที่หลี่อานเพิ่งชงมาให้ จิบชาท่าทางสง่างาม
สวี่รั่วยีกลับไปเป็นคุณหนูอ่อนหวานอีกครั้ง
สวี่รั่วฉิงทำเหมือนไม่ได้ยินที่สวี่รั่วยียั่วยุ
คนที่จะตัดสินใจให้เธอไปหรืออยู่มีเพียงแค่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าการออกจากลี่ซื่อกรุ๊ป เธอจะรู้สึกเสียดายไม่น้อย
ในเมื่อลี่ซื่อกรุ๊ปเป็นเพียงไม่กี่บริษัทที่เคารพเธอเต็มที่ ไม่แก้ไขเครื่องหอมของเธอโดยพลการ
ลี่ถิงเซิ่งก็ให้อิสระและความเคารพเธอมากทีเดียว
สวี่รั่วฉิงคิดถึงตรงนี้ ดวงตาที่เปล่งประกาย ก็มีแววเสียดายฉายทับ
ถ้าหากคิดได้เร็วกว่านี้ลี่ถิงเซิ่งคือคนที่เธอช่วยชีวิตเมื่อหกปีก่อน บางทีอาจจะหาโอกาสที่เหมาะสม พูดเรื่องราวทุกอย่างออกไป สถานการณ์อาจจะตรงข้ามกับตอนนี้
ลี่ถิงเซิ่งเม้มริมฝีปากบางแน่น
แววตาเฉียบคมกวาดตามองสวี่รั่วฉิง พูดเสียงเย็น “ใครให้สิทธิ์คุณ ลาออกตามใจชอบ”
สวี่รั่วฉิงได้สติ ดวงตาเบิกโต
“ประธานลี่ ตอนที่เราเซ็นสัญญา…”
“สัญญาหรือ” น้ำเสียงลี่ถิงเซิ่งแฝงด้วยความไม่พอใจและหมดความอดทน
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนฉลาดเฉลียวมาก
ปกติมักจะตามความคิดเขาได้เร็วมาก กระทั่งมองทะลุแผนที่เขาวางไว้
ลี่ถิงเซิ่งชื่นชมหญิงสาวแสนฉลาดมาตลอด แต่เขาไม่ชอบหญิงสาวฉลาดที่ทำตัวงี่เง่า โดยเฉพาะตะแบงงี่เง่า
ดวงตาลี่ถิงเซิ่งเย็นเยือก หรี่ตา ระงับความหงุดหงิดและไม่พอใจไว้ข้างใน
ไม่รู้เพราะอะไร หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าถึงดื้อดึงยอมลาออกไม่ยอมขอโทษ ทำให้เขาที่ไม่สามารถควบคุมให้เธออยู่กับเขาได้รู้สึกไม่พอใจ
“ใครกันเป็นคนเคยให้คำมั่นสัญญาจะพาลี่ซื่อกรุ๊ปขึ้นไปเป็นน้ำหอมระดับโลก หืม”
“เอ่อ…ฉันเองค่ะ” สวี่รั่วฉิงกะพริบตา “แต่ประธานลี่ ฉันทำให้ ซิลวี่กรุ๊ปร่วมงานกับลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ทำไมคุณให้ฉันลาออกไม่ได้ เผด็จการเกินไปหรือเปล่า! สัญญาเขียนชัดๆ…”
ลี่ถิงเซิ่งเหล่ตานิดหนึ่ง “หลี่อาน เอาสัญญาให้เธอดูหน่อย”
หลี่อาน “ครับ”
ไม่กี่นาทีต่อมา หลี่อานหอบเอกสารกลับมาที่ห้อง หยิบสัญญาออกมาชุดหนึ่ง ยื่นให้สวี่รั่วฉิง
“ผู้ช่วยแอน นี่คือสัญญาที่คุณเซ็นตอนนั้น”
หลี่อานมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเสียดาย
เขารู้อยู่แล้วประธานลี่ไม่อยากให้แอนนาถูกไล่ออก
ยังไม่ต้องพูดถึงระดับการปรุงน้ำหอมของแอนนาดีเยี่ยมแค่ไหน เพียงแค่ทัศนคติของประธานลี่ต่อแอนนา…
เขาติดตามลี่ถิงเซิ่งมาหลายปี ไม่เคยเห็นชายหนุ่มพึงพอใจเวลาอยู่กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
เมื่อครู่หลี่อานไปที่ห้องเอกสาร อ่านสัญญาของหญิงสาว
มิน่าล่ะประธานลี่เรียกเขาให้ไปหยิบเอกสารมา
โธ่ แอนนาถูกประธานลี่เล่นงานอีกแล้ว
สวี่รั่วฉิงมองหลี่อานแปลกใจ รับสัญญาไป
พลิกไปหลายหน้า สุดท้ายสายตาก็หยุดอยู่ที่บรรทัดสุดท้ายในสัญญา สวี่รั่วฉิงในที่สุดก็เข้าใจสาเหตุที่ลี่ถิงเซิ่งเรียกให้เธออ่านสัญญา
ข้อความตัวอักษรสีดำนั้น
“หากยังไม่ได้ช่วยลี่ซื่อกรุ๊ปกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดน้ำหอมโลก จะไม่ลาออกจากลี่ซื่อกรุ๊ป”
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง
ตอนนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจอ่านรายละเอียดสัญญา เพียงแต่เซ็นชื่อตัวเองลงไปเท่านั้น
ใครจะไปนึกนักทุนนิยมจะใจดำขนาดนี้
“เดี๋ยวก่อน! ประธานลี่! สัญญานี้มีปัญหา นี่มันบีบพนักงานชัดๆ!” สวี่รั่วฉิงเบิกตาโต ความนิ่งสุขุมเมื่อครู่หายไปสิ้น
ลี่ถิงเซิ่งมุมปากเชิดนิดหนึ่ง
ตอนนี้หญิงสาวถึงจะเหมือนเธอคนเดิม
ผู้หญิงที่ไร้ชีวิตชีวาสงบเยือกเย็น เขาดูแล้วไม่ชอบใจ
ลี่ถิงเซิ่งพอใจนั่งพิงเก้าอี้ สองมือกอดอก “ชื่อในสัญญา ใช่คุณเซ็นหรือเปล่า”
“ฉันเซ็นก็จริง…แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้อ่านละเอียด สัญญานี้เผด็จการชัดๆ ไม่เท่ากับฉันต้องขายชีวิตให้ลี่ซื่อกรุ๊ป หรือ!”
สวี่รั่วฉิงดวงตากลมโต จ้องมองชายหนุ่มที่นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องตรงหน้า ไม่สนใจสวี่รั่วยีที่อยู่ข้างๆ
เวลานี้สวี่รั่วยีที่อยู่ในห้อง ความรู้สึกหึงหวงแล่นขึ้นมาในใจ
เธอจ้องมองลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงรู้สึกเจ็บปวด
สายตาลี่ถิงเซิ่งที่มองสวี่รั่วฉิง ต่างจากปกติ
ในแววตาเย็นชาของเขา สวี่รั่วยีอ่านเห็นความอ่อนโยนและ…ความสุข
“ถิงเซิ่ง!” สวี่รั่วยีทนไม่ไหว ลุกขึ้นแทรกกลางการโต้เถียงของทั้งสองคน
เธอกระแทกรองเท้าส้นสูงเดินเร็วไปที่โต๊ะ เหล่มองสวี่รั่วฉิงแล้ว จ้องมองลี่ถิงเซิ่ง
“ถิงเซิ่ง เรื่องนี้คุณต้องอธิบาย! แอนนาต้องขอโทษฉัน หรือไม่ก็ออกไปซะ ไปให้พ้นลี่ซื่อกรุ๊ป!”
สวี่รั่วยีกัดฟันกรอด นิ้วเรียวงามเคาะโต๊ะ ท่าทางไม่สบายอกสบายใจอย่างเมื่อครู่
“เรื่องนี้ ถ้าไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ฉันจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ! ฉันจะต้องบอกครอบครัวและคุณนายลี่!”
สวี่รั่วยีขอบตาแดง กัดริมฝีปากแรง มองลี่ถิงเซิ่งโกรธจัด
สวี่รั่วฉิงที่เมื่อครู่ถกเถียงเรื่องสัญญากับลี่ถิงเซิ่ง ทันใดนั้นก็เข้าใจสาเหตุที่ลี่ถิงเซิ่งเรียกตัวเองมาที่บริษัท
สวี่รั่วฉิงที่เมื่อครู่สีหน้าค่อนข้างแดง ดวงตากลมโตมีแววตกใจ หลังจากนั้นเธอจ้องมองลี่ถิงเซิ่งที่ขมวดคิ้วอยู่
สวี่รั่วฉิงฉลาดมาก เพียงแค่คำพูดสั้นๆ ของสวี่รั่วยีก็เดาเจตนาของลี่ถิงเซิ่งออก
ถ้าหากสวี่รั่วยีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้คุณนายลี่กับคุณนายสวี่ทราบ คนใดคนหนึ่ง ตอนที่ลี่ถิงเซิ่งไม่ทันระวัง ก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ เพื่อให้เธอหายไปจากโลกนี้
ลี่ถิงเซิ่งให้เธอขอโทษสวี่รั่วยี เพราะอยากจะปกป้องเธอใต้ปีกของเขา
แม้เขาจะมีอำนาจมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจปกป้องเธอได้ตลอดเวลา
เมื่อเทียบกับการคอยตามปกป้อง สู้แก้ไขที่ต้นเหตุไม่ได้