ผ้าห่มสีน้ำเงิน เตียงสีดำ สีสันซ้ำซากในห้อง คือห้องนอนเรียบง่ายของลี่ถิงเซิ่ง
บนเตียงขนาดกว้างใหญ่ ครึ่งบนชายคนนั้นพิงหัวเตียง มีเบาะพิงสีขาวบริสุทธิ์อยู่ด้านหลัง
แตกต่างกับเสื้อกันหนาวสีเทาอ่อน ใบหน้าซีดเรืองแดง ทำให้สวี่รั่วฉิงเกิดภาพลวงตาเล็กน้อย
วันนี้เขาอ่อนโยนมาก
สวี่รั่วฉิงมองลี่ถิงเซิ่งบนเตียง เขาพิงอยู่ตรงนั้น บนเตียงมีโน้ตบุ๊คสีเทาบางๆ หนึ่งเครื่องวางอยู่
เพราะมือขวากำลังให้น้ำเกลืออยู่ ลี่ถิงเซิ่งจึงใช้มือซ้ายจับเมาส์ อ่านเอกสารคร่าวๆ
ไม่แปลกใจที่เรียกเธอมา……
สวี่รั่วฉิงคว่ำปากเล็กน้อย ที่แท้ก็เพื่อบีบบังคับผู้ช่วยตัวน้อยผู้น่าสงสารอย่างเธอมาเป็นพนักงานพิมพ์ดีด
“ประธานลี่ สรุปการประชุมเรื่องสำคัญแบบนี้ คุณวางใจให้ฉันช่วยป้อนข้อมูลเหรอคะ?” สวี่รั่วฉิงกะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์มองชายหน้าซีดบนเตียง เอ่ยถามติดตลก
ตั้งแต่วันนั้นที่เธอกลายเป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่ง รับผิดชอบการจัดเตรียมแผนการทำงานของลี่ถิงเซิ่งมาตลอด ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวสุดยอดความลับทางการค้าของลี่ซื่อกรุ๊ปเลย
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะอย่างหนักอึ้ง เสียงเสนาะหูราวกับเชลโล่ ดังก้องอยู่ในห้องนอนอันเงียบสงบ ทำให้มึนเมา
“เธอกล้าเปิดเผยความลับทางการค้าเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว เลื่อนเก้าอี้หนึ่งจากในห้องมาวางไว้ข้างเตียง แล้วนั่งลง
“ไม่กล้าค่ะ”
ลี่ถิงเซิ่งใช้มือซ้ายหยิบแท็บเล็ตตัวเองส่งให้สวี่รั่วฉิงข้างเตียง นิ้วเรียวเคาะโต๊ะหัวเตียง “แป้นพิมพ์อยู่ในลิ้นชักที่สอง”
โต๊ะหัวเตียงเป็นที่วางของใช้ส่วนตัวเสมอ ลี่ถิงเซิ่งใจกว้างขนาดให้เธอดูมันเหรอ? สวี่รั่วฉิงค่อนข้างแปลกใจ ถ้าตนเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ควรเห็นที่โต๊ะหัวเตียง เช่นของใช้ในตอนกลางคืน ฉากนั้นคงวิเศษมาก
ในฐานะท่านประธานบริษัทใหญ่คนหนึ่ง ให้สวี่รั่วฉิงเชื่อว่าในโต๊ะหัวเตียงห้องนอนส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่งไม่มีของน่าสนใจเหล่านั้น มันเชื่อยากเกินไป
สวี่รั่วฉิงเปิดลิ้นชักชั้นสอง
ในนั้นสิ่งของถูกวางอย่างเป็นระเบียบ กองผ้าเช็ดหน้าแอร์แม็สสีเข้มที่วางอย่างเป็นระเบียบ แท็บเล็ตสีขาวบริสุทธิ์มีแป้นพิมพ์แยก เทียนหอมหนึ่งชุด และสาย USB หนึ่งเส้น
ไม่มีสิ่งของเหล่านั้นที่สวี่รั่วฉิงจินตนาการเลย
……รักษาตัวให้พ้นจากปัญหายุ่งยากจริงๆ สวี่รั่วฉิงคิด นำแป้นพิมพ์ออกมาจากลิ้นชัก เชื่อมต่อกับแท็บเล็ต
“ประธานลี่ รหัสแท็บเล็ตคุณคือ?” สวี่รั่วฉิงมองข้อความแจ้งป้อนรหัสบนหน้าจอ เอ่ยถามชายที่อยู่บนเตียง
ริมฝีปากบางลี่ถิงเซิ่งเผยอเล็กน้อย รายงานตัวเลขชุดหนึ่ง
ตัวเลขค่อนข้างคุ้นเคย
สวี่รั่วฉิงเอานิ้วแตะหน้าจอ ป้อนชุดตัวเลขนั้น
เธอไม่ทันได้คิดอะไรมาก
พื้นหลังเดสก์ท็อปแท็บเล็ตของลี่ถิงเซิ่งคือระบบที่ทำขึ้นเอง มันเรียบง่ายและสะอาดสะอ้าน
ซอฟต์แวร์ในนั้นนอกจากซอฟต์แวร์พื้นฐานในการทำงาน ก็ไม่มีความบันเทิงใดๆ
สวี่รั่วฉิงแอบมองชายรูปงามที่เม้มริมฝีปากบางแน่น
ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาทนวันที่ไม่มีความบันเทิงได้อย่างไร
หากเป็นเธอ คงขาดอากาศใจตายไปนานแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองสวี่รั่วฉิงอย่างสงบ ก่อนพูดขึ้น “เตรียมเสร็จหรือยัง?”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า “ประธานลี่ คุณพูดมาสิ”
ถึงแม้สวี่รั่วฉิงจะไม่ใช่ผู้ช่วยมืออาชีพ แต่รับประกันความรวดเร็วในการพิมพ์ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์และความคล่องตัว ตามความคิดของลี่ถิงเซิ่งได้อย่างรวดเร็ว
ก้นบึ้งจิตใจหญิงสาวแอบประหลาดใจ ถึงเธอจะรู้ว่าพรสวรรค์ด้านธุรกิจของลี่ถิงเซิ่งนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่ไม่คิดเลยว่าความใฝ่ฝันของชายคนนี้จะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“ประธานลี่ คุณตั้งใจจะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดน้ำหอมยุโรปเหรอคะ?” สวี่รั่วฉิงเปิดๆ ปิดๆ ริมฝีปากแดง “ถ้าอยากเดินหน้าเข้าสู่ตลอดน้ำหอมยุโรป เกรงว่าลี่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้จะต้องลงทุนมากขึ้นในการวิจัยและพัฒนาน้ำหอม”
สวี่รั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะแสดงความเห็นของตัวเอง
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองเธอ
วันนี้สวี่รั่วฉิงมาอย่างเร่งรีบ ไม่ได้แต่งหน้าอย่างระมัดระวัง
แต่ผิวบนใบหน้าเธอก็ยังบอบบางขาวดุจหิมะ เปล่งแสงระยิบระยับ
ดวงตาลี่ถิงเซิ่งหรี่ลงเล็กน้อย แตะพื้นที่สัมผัสของเมาส์บนโน้ตบุ๊กอย่างสงบนิ่ง “ป้อนสรุปการประชุมให้เสร็จก่อน”
สีหน้าเขาเรียบเฉย ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงหลุบตาลง รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง
เธอนึกว่าลี่ถิงเซิ่งจะต้องสนใจความคิดของตนอย่างแน่นอน
หลังจากสรุปการประชุมของลี่ถิงเซิ่งจัดการเสร็จสิ้นแล้ว สวี่รั่วฉิงก็ปวดข้อมือ
เธอวางแท็บเล็ต บิดขี้เกียจหนึ่งที
ลี่ถิงเซิ่งจงใจลดเสียง ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง
“ทำได้ไม่เลว”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้ามองถุงให้น้ำเกลือเขา
ของเหลวภายในขวดแก้ว เหลือไม่มาก
สวี่รั่วฉิงลุกขึ้นทันที “งั้นฉันไปเรียกคุณหมอเสิ่นมานะคะ”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้า
เขากลับไปเพียงหัวเตียงอีกครั้ง ใช้มือซ้ายที่ไม่มีเข็มหยิบแก้วเก็บความร้อนขึ้นมา หลังจากดื่มน้ำร้อนหนึ่งอึก ก็วางลงบนโต๊ะอีกครั้ง
สายตามองแผ่นหลังสวี่รั่วฉิงอย่างส่งเดช
วันนี้เธอสวมชุดกระโปรง ถึงปลายกระโปรงจะยาว แต่ก็ยังเผยน่องขาวของเธอ
ดวงตาสีเข้มของลี่ถิงเซิ่งจมลง
ไม่กี่นาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกเปิดอีกครั้ง สวี่รั่วฉิงตามหลังเสิ่นเหย่มาในห้อง
เสิ่นเหย่ค่อยๆ เอ่ยปาก “ลี่ถิงเซิ่ง นายสู้สุดใจจริงๆ ตัวเองเหนื่อยแย่แล้ว ยังให้ผู้ช่วยมาเหนื่อยด้วยอีกเหรอ?”
เสิ่นเหย่มีความหมายซ่อนอยู่
ใบหน้าหล่อขาวเย็นชาของลี่ถิงเซิ่งสงบเยือกเย็น เขาเลิกคิ้ว ค่อยๆ กวาดสายตามองเสิ่นเหย่ จากนั้นสายตาก็มองไปที่ร่างหญิงตัวสูงด้านหลังเสิ่นเหย่
สวี่รั่วฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “คุณหมอเสิ่น คุณคิดมากไปแล้ว ฉันเป็นผู้ช่วยประธานลี่ ทำงานวันธรรมดาเป็นเรื่องปกติ”
เสิ่นเหย่เหลือบมองสวี่รั่วฉิง ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
หลังจากเขานั่งลง ก็ถอดเข็มบนหลังมือลี่ถิงเซิ่งอย่างรวดเร็ว
บนผิวขาวเย็นยะเยือกชั้นสูงของชายหนุ่ม มีเลือดสีแดงสดหนึ่งถึงสองหยด
เสิ่นเหย่ลุกขึ้น ยัดสำลีก้อนหนึ่งไว้ในมือสวี่รั่วฉิง
“ช่วยประธานลี่พวกคุณกดสิ”
สวี่รั่วฉิงนั่งตรงหน้าลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง “ประธานลี่ มาค่ะ ฉันจะช่วยคุณกด”
เสิ่นเหย่นั่นหางานให้เธอจริงๆ เลย
ลี่ถิงเซิ่งไม่ใช่เด็กห้าขวบ ไม่ต้องการเธอช่วยกดสำลีด้วยซ้ำ!
ก้นบึ้งจิตใจของสวี่รั่วฉิงกำลังวิพากษ์วิจารณ์ แต่การกระทำที่มือเบามาก กลัวทำให้ชายคนนี้เจ็บ
“ประธานลี่ วันนี้วันศุกร์” สวี่รั่วฉิงพูด
ลี่ถิงเซิ่งเอ่ยปากเรียบๆ “แล้ว?”
สวี่รั่วฉิงจ้องมองหลังมือขาวเย็นยะเยือกมีเส้นเลือดของลี่ถิงเซิ่ง
มือเขาขาวมาก แม้ว่าเธอจะจับมันไว้ มันก็ขาวไม่แพ้เธอเลย
ชายคนหนึ่ง ขาวสะอาดแบบนี้ไปทำไม?
พระเจ้าไม่ยุติธรรมจริงๆ
“พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์” สวี่รั่วฉิงหลุบตาลง พูดบอกใบ้
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆ กวาดตามองขนตาหนาของสวี่รั่วฉิง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความรู้สึกในดวงตาไม่ชัดเจน
“ให้น้ำเกลืออย่างน้อยที่สุดสามวัน” ลี่ถิงเซิ่งยกริมฝีปากขึ้นเอ่ยช้าๆ
สวี่รั่วฉิงไม่เข้าใจ ยกดวงตาขึ้นมากะพริบ
เอ๋? หมายความว่าอย่างไร?
น้ำเสียงลี่ถิงเซิ่งเบาบางเล็กน้อย “วันนี้เป็นวันแรก พรุ่งนี้อีกสองวันมีงานต้องทำ