ลี่ถิงเซิ่งที่พิงอยู่กับหัวเตียง เสื้อเชิ้ตสีขาวบนตัว โดนแกะกระดุมออกไปสองเม็ด ทำให้เห็นถึงแผงอกที่ขาวสะอาดและก็ยังมีกระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม
ดูแล้วทำให้สวี่รั่วฉิงที่เคยรับวัฒนธรรมต่างชาติมา รู้สึกอยากจะทิ้งรอยจูบของตัวเองไว้บนกระดูกไหปลาร้าของเขาจริง ๆ
เสน่ห์ของผู้ชายชักจูงคนจริง ๆ
โดยเฉพาะผู้ชายที่เสน่ห์เหลือล้นและยังหน้าตาหล่อเหลามากแบบลี่ถิงเซิ่ง
ซึ่งปกติแล้วถึงแม้ว่าจะมีเสน่ห์แข็งแกร่งทำให้คนอื่นตกตะลึง อยู่พอนาน ๆ ทีไม่สบายครั้งหนึ่งสีหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อยทำให้สวี่รั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะมองมากขึ้นหลายที
การกระทำเล็ก ๆ ของสวี่รั่วฉิง แน่นอนว่าหนีไม่รอยสายตาที่แหลมคมของลี่ถิงเซิ่งแน่
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้เปิดโปงความคิดเล็ก ๆ ของสวี่รั่วฉิงตรง ๆ แต่กลับปล่อยให้เธอ“แทะโลม”ไปอย่างใจกว้าง
“แอบรักเหรอ?” ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะพรืด “ทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะว่าคุณแอบรักผม? ผู้ช่วยแอน ไหนลองพูดมาหน่อยซิว่าคุณเริ่มแอบรักผมตั้งแต่เมื่อไหร่?”
สวี่รั่วฉิง “……” ในใจของเธอมีคำพูดหยาบคายเป็นหมื่นคำไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดดี
เธอก็แค่รู้สึกดีในใจกับลี่ถิงเซิ่ง ก็ไม่ได้ถึงขั้นแอบรักสักหน่อย
เธอรักใครก็รักอย่างเปิดเผยมาตลอดนะ
สวี่รั่วฉิงเอาแก้วน้ำวางลงบนโต๊ะอย่างแรง ริมฝีปากค่อย ๆ ขยับขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง
“ประธานลี่ ฉันเดาว่าคุณหมอเสิ่นจะต้องดูผิดไปแน่ ๆ คุณดูดวงตาของฉันซิมีความรู้สึกแอบรักคุณอยู่ไหม?”
ลี่ถิงเซิ่งทำเป็นให้ความร่วมมือด้วย เงยหน้าขึ้นมา แล้วสบเข้ากับดวงตาที่สว่างไสวของสวี่รั่วฉิง
เขาเพียงแต่แค่จ้องมองอยู่อย่างนั้น ก็ทำให้สวี่รั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไปทีหนึ่ง
ตายแน่ สวี่รั่วฉิงแอบคิดอยู่อย่างเงียบ ๆ ใครจะไปคิดว่าเธอแค่มองสบดวงตาของลี่ถิงเซิ่งเข้า ก็ทำให้รู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้นมาก?
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอ่อน ๆ “เจ้าเสิ่นเหย่นั่น ปกติแล้วพูดไม่มีคำไหนแม่นเลยสักคำ แต่ว่าเขามองคุณนี่ช่างมองได้แม่นยำจริง ๆ”
ดวงตาดำลึกของชายหนุ่ม หยุดลงบนร่างกายของหญิงสาวไม่ไปไหน
เขาพยุงตัวขึ้นมาเล็กน้อย ลมหายใจที่ร้อนผ่าวรดลงตรงข้าง ๆ ซอกหูที่แดงระเรื่อของสวี่รั่วฉิง
“คุณชอบผมเหรอ”
น้ำเสียงที่ขรึมต่ำแหบแห้งเล็กน้อย เคาะลงตรงกลางใจของสวี่รั่วฉิงอย่างแรง
……
หลังจากที่หลี่อานกลับมาแล้ว สวี่รั่วฉิงก็แทบจะเป็นการเผ่นหนีไปอย่างร้อนรน แล้วก็ออกไปจากห้องทำงานเลย
เหลือหลี่อานยืนทิ้งไว้ที่ข้างเตียง มองอย่างงง ๆ
“เอ่อ ประธานลี่ ผู้ช่วยแอนนี่คือ?”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ร้อนใจไม่ร้อนรน พูดขึ้นเสียงเรียบว่า “โดนฉันพูดแทงความในใจแล้ว ก็เลยหนี”
“ความในใจอะไรครับ?” หนี่อานรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้าง
ทำไมเขาแค่ไม่อยู่บริษัทครึ่งวัน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่ประธานลี่พูดคือเรื่องอะไรแล้วนะ?
ลี่ถิงเซิ่งอารมณ์ค่อนข้างดี มุมปากคลี่ออกเล็กน้อย “งานหลินฉวนอีโคโนมิคฟอรั่มในวันพรุ่งนี้ ส่งรองประธานบริษัทไปเข้าร่วม ฉันจะไม่เข้าร่วมแล้ว”
หลี่อานพยักหน้า แล้วก็วางใจได้สักที
ตอนแรกเขายังกลัวว่า ลี่ถิงเซิ่งเพื่องานแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นไข้สูงอยู่ก็ยังจะไปเข้าร่วมงานหลินฉวนอีโคโนมิคฟอรั่มอีก
ถึงแม้ว่าจะเป็นงานสำคัญ แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปไม่ได้เลย
“ส่งคนไปเก็บกวาดคฤหาสน์เฉินซานสักหน่อย คืนนี้ฉันจะไปที่นั่น” ลี่ถิงเซิ่งสั่งกำชับขึ้น
หลี่อานอึ้งไปครู่หนึ่ง “ประธานลี่ ที่คุณพูดคือคฤหาสน์เฉินซานเหรอ? ที่นั่นไม่มีคนไปพักอาศัยมานานแล้วนะครับ……”
ในฐานะที่ตระกูลลี่เป็นตระกูลผู้ดีอันดับหนึ่งของเมืองหลินชวน จะมีบ้านช่องหลายที่ก็เป็นเรื่องปกติมาก
แต่ว่าคฤหาสน์ที่เฉินซานนั้น ถือเป็นบ้านส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่ง และไม่ได้มีคนใช้อาศัยอยู่มานานแล้ว
ดวงตาที่เย็นชาของลี่ถิงเซิ่งค่อย ๆ มองขึ้นมา “ส่งคนไปเก็บกวาด”
หลี่อานรีบจดจำไว้ในใจ และไม่กล้าถามเหตุผลมากนัก “ผมรู้แล้วครับ”
หลังจากที่หลี่อานจากไปแล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็ดูเอกสารอีกหลายฉบับแล้วก็วางแท็บเล็ตลงอีกข้างหนึ่ง
เขาค่อย ๆ หลับตาที่ร้อนผ่าวลง ท่าทางของสวี่รั่วฉิงที่ตกใจจนลืมตาโต โผล่เข้ามาในหัวสมองของเขา
ชายหนุ่มยิ้มขรึมอย่างที่หาได้ยากขึ้นทีหนึ่ง
วันรุ่งขึ้น ภายในคฤหาสน์เฉินซานที่เพิ่งเก็บกวาดเสร็จมา คนรับใช้ยกอาหารเช้ามาถึงห้องรับแขก
เพราะว่าเป็นไข้ สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งจึงซีดขาวเล็กน้อย บนแก้มก็ปรากฏรอยแดง ๆ อย่างคนสุขภาพไม่แข็งแรงออกมา
เขาไม่ได้ใส่ชุดสูทอย่างหาได้ยากนัก แต่กลับสวมใส่เสื้อขนแกะสีเทาอ่อนไว้ตัวหนึ่ง ด้านล่างนั้นเป็นกางเกงสวมใส่อยู่บ้านสบาย ๆ สีเทาและรองเท้าแตะ
บนหลังมือข้างซ้ายที่ขาวซีดนั้น มีสก๊อตเทปพยาบาลสีขาวติดอยู่ข้างล่างมีสำลีก้อนหนึ่งรองเอาไว้
เมื่อวานหลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งกลับมาถึงคฤหาสน์ในเฉินซานแล้ว ก็ยังเป็นไข้สูงอยู่ดี เมื่อไม่รู้จะทำยังไงแล้ว จึงได้แต่ต้องตามเสิ่นเหย่มาให้น้ำเกลือ
เมื่อวานตอนที่เสิ่นเหย่มาช่วยให้น้ำเกลือนั้นยังหัวเราะเยาะเขา บอกว่าเป็นไข้สูงยังจะพยายามฝืนไม่ยอมให้น้ำเกลือต่อหน้าผู้ช่วยสาวของตัวเองอีก
“อย่างน้อยต้องให้น้ำเกลือสามวัน” เสิ่นเหย่พูดขึ้น เขาพิจารณาการตกแต่งของคฤหาสน์เฉินซานแล้ว ก็หึทีหนึ่ง “ทำไม ไม่อยู่กับคู่หมั้นคนนั้นของคุณ แล้ววิ่งมาอาศัยอยู่ที่นี่ล่ะ?”
ลี่ถิงเซิ่งกวาดตามองเสิ่นเหยเย็น ๆ ทีหนึ่ง แล้วเตือนเขาเสียงเย็นขึ้นว่า อย่าเอาเรื่องราวของเมื่อหกปีก่อนบอกกับสวี่รั่วฉิง
เสิ่นเหยหึเสียงเย็น
“คุณชายลี่ อาหารเช้าวันนี้ได้ทำของว่างสไตล์ซูโจวที่คุณชอบที่สุดครับ” เสียงของคนรับใช้ในคฤหาสน์ ทำให้ความคิดของลี่ถิงเซิ่งถูกดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
แบนโต๊ะอาหารวางอาหารเช้าที่หลากหลายเอาไว้
เขา“อืม”อย่างเรียบเฉยไปคำหนึ่ง หลังจากที่นั่งลงแล้ว ก็ดื่มน้ำเต้าหู้คำหนึ่ง แล้วเปิดหน้าจอแท็บเล็ตขึ้น แล้วกินอาหารไปด้วย และทำงานไปด้วย
ในฐานะที่หลี่อานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่ง ในช่วงที่ชายหนุ่มเป็นไข้อยู่นี้ ก็แน่นอนว่าต้องอยู่ในคฤหาสน์ด้วยแน่
“ประธานลี่ ทางด้านคุณสวี่ต้องตอบว่ายังไงดีครับ” หลี่อานถามขึ้น
ลี่ถิงเซิ่งลืมตาโตขึ้นมาทีหนึ่ง “ไม่ต้องสนใจ ถ้ามาโวยวายถึงบริษัท ก็ให้ไล่ออกไปโดยตรงเลย”
หลี่อานถอนหายใจทีหนึ่ง “ประธานลี่ ทำแบบนี้ดูใจดำไปหน่อยหรือเปล่าครับ?”
มือที่เคาะแป้นพิมพ์อยู่ของลี่ถิงเซิ่งหยุดนิ่งไปหนึ่งวินาที จากนั้นก็เคาะบนแป้นพิมพ์ต่อไป
“นายสงสารสาวงามเหรอ?”
“เปล่าครับ เปล่าครับ” หลี่อานรีบปฏิเสธทันที
หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งทานอาหารเช้าเสร็จ ก็มาที่ห้องนอน
สี่สิบนาทีให้หลัง หลังจากที่เสิ่นเหย่ตรวจเช็กเส้นเลือดของลี่ถิงเซิ่งเสร็จแล้ว ก็ส่ายหน้า “วันนี้ต้องให้ข้างขวา”
ลี่ถิงเซิ่งวางแท็บเล็ตลง แล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย
หลังจากที่เจาะเข็มน้ำเกลือแล้ว มือซ้ายของลี่ถิงเซิ่งก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดหน้าบันทึกรายชื่อผู้ติดต่อของตัวเองขึ้นมา หลังจากที่ค้นหาชื่อแอนนาสองตัวนี้ได้แล้ว ก็ส่งที่อยู่ชุดหนึ่งออกไป
แต่ก็เสริมต่ออีกคำว่า “ช่วงสายมาที่นี่”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงส่งสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานไปที่โรงเรียนเสร็จแล้ว และกำลังจะเตรียมตัวกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ก็ได้รับข้อความของลี่ถิงเซิ่งเข้า
เมื่อคืน หลี่อานบอกเธอว่า ลี่ถิงเซิ่งจะกลับไปพักรักษาตัวที่คฤหาสน์ รอให้หายไข้แล้วถึงจะกลับมาที่บริษัท
สวี่รั่วฉิงจึงโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง
เมื่อวาน คำพูดที่ลี่ถิงเซิ่งพูดอยู่ข้างหูของเธอ ยังเหมือนกับว่าเพิ่งจะเกิดขึ้นเอง
คำพูดประโยคเดียวของลี่ถิงเซิ่งกลับเปิดโปงสิ่งที่เธออยากจะปิดบังมาตลอด
สวี่รั่วฉิงยังไม่ได้คิดให้ดีว่าจะรับมือกับผู้ชายคนนี้ยังไง ก็ได้ยินมาว่าเขาจะรอให้หายไข้ก่อนถึงจะกลับบริษัท
ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่ง ขอแค่มีหลี่อานอยู่ เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปบริษัทแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าเช้าวันนี้ กลับได้รับข้อความของลี่ถิงเซิ่งเข้า
เพียงแต่ว่าที่อยู่ที่ลี่ถิงเซิ่งส่งมาให้เธอนั้น เหมือนกับว่าจะไม่ใช่คฤหาสน์ที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้มั้ง?
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงใช้การกำหนดตำแหน่งช่วยนำทางแล้ว ก็ขับรถไปประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงคฤหาสน์เฉินซานที่ลี่ถิงเซิ่งให้ที่อยู่มา
คนที่มาเปิดประตูเป็นคนรับใช้แปลกหน้าคนหนึ่ง
“ผู้ช่วยแอนใช่ไหม? เชิญเข้ามาเลยค่ะ ประธานลี่รออยู่นานแล้วค่ะ”
คนรับใช้พาสวี่รั่วฉิงมาถึงห้องนอนของลี่ถิงเซิ่ง ในระหว่างที่เดินผ่านห้องรับแขกนั้น เสิ่นเหย่ที่ยังไม่ได้จากไปเหล่มองเธอทีหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตากลับไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องนอนตกแต่งได้อย่างเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
ลี่ถิงเซิ่งพิงอยู่กับหัวเตียง มือขวากำลังเจาะสายน้ำเกลืออยู่
พอเห็นสวี่รั่วฉิงมาแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ช่วยผมจดบันทึกความต้องการในที่ประชุมหน่อย”