วีแชทกลุ่มเดือดขึ้นทันที
ถึงแม้ในลี่ซื่อกรุ๊ปจะมีข่าวลือซุบซิบของลี่ถิงเซิ่งกับสวีรั่วฉิงมาโดยตลอด
แต่อย่างที่ทุกคนรู้ คู่หมั้นของประธานลี่คือสวีรั่วยีคุณหนูใหญ่ตระกูลสวี่
ลูกพี่ของพวกเขาผู้ดูแลแอนยังกล้าขึ้นขี่หลังเสืออีก
“จริงหรือมั่วนิ่ม”
“คงไม่ใช่แกงพวกเราเล่นหรอกนะ”
“ฟ่านเซียวเซียว เธอต้องดูให้ชัดนะ วันนี้ไม่ใช่วันโกหกโลกนะ!”
ฟ่านเซียวเซียวกระตุกมุมปาก ตอบกลับไปทีละประโยค:“เรื่องจริงสิ อย่างฉันมีไม่จริงด้วยเหรอ แต่ว่าหยุดคุยแค่นี้พอ คุยเรื่องอย่างอื่นบ้าง อย่าให้ผู้ดูแลแอนมาเห็นเข้า!”
คนในกลุ่มแชทเมื่อรู้ตัวต่างก็ให้ความร่วมมือ โต้ตอบกลับคุยหัวข้ออื่น ข้ามหัวข้อนั้นไป
แต่ว่าในใจพวกเขานั้นยังคงซุบซิบกันว่าลึกๆแล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้ดูแลแอนถึงกล้าจูงมือประธานลี่ออกไป
ใจกล้าเกินไปแล้ว
นอกห้องเตรียมตัว
ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาลงมองหญิงสาวที่จับมือของเขาไว้
มือของสวี่รั่วฉิงไม่ใหญ่ เรียวบางและนุ่มมาก
ผิวขาวเนียนซึ่งตรงกันข้ามกับลี่ถิงเซิ่งอย่างเห็นได้ชัด
ลี่ถิงเซิ่งเม้นริมฝีปากเป็นเส้นตรง หนึ่งวินาทีต่อมาเขาได้เอ่ยปากขึ้น :“คุณจะจับนานอีกเท่าไหร่”
สวี่รั่วฉิงราวกับจับกองเพลิงไว้ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของลี่ถิงเซิ่ง ก็ขยับไปด้านข้างสองสามก้าวทันที ขณะเดียวกันก็ได้ปล่อยมือของเขาออก
ระเบียงทางเดินมีผู้คนไม่มากนัก
นักปรุงน้ำหอมส่วนใหญ่กำลังจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ของตัวเองอยู่ในห้อง
เพราะเหลือเวลาอีกแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็จะเริ่มการแข่งขัน
แต่ก็ยังไม่วายมีคนจำลี่ถิงเซิ่งได้
“นั่นไม่ใช่ประธานลี่ซื่อกรุ๊ปเหรอ”
“ดูเหมือนว่าจะใช่นะ เมื่อสักครู่เขาถูกผู้หญิงที่อยู่ข้างๆจูงมือใช่ไหม”
“เป็นอะไรกัน”
“ไม่รู้”
ลี่ถิงเซิ่งมองไปตามเสียงกระซิบกระซาบเมื่อสักครู่ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย สักพักคนเหล่านั้นก็หุบปากทันที แล้วหันหลังไป ไม่มองมาทางพวกเขาสองคนอีก
สวี่รั่วฉิงเม้มริมฝีปาก หลังจากนั้นสักพักเธอเตรียมจะอ้าปาก ก็ถูกมือใหญ่ที่อุณหภูมิร้อนจัดขัดจังหวะขึ้น
ลี่ถิงเซิ่งจูงมือของสวี่รั่วฉิง ไม่รอให้สวี่รั่วฉิงได้เอ่ยปาก เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม :“มีอะไรเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
สวี่รั่วฉิงยังไม่ทันเข้าใจ ก็เห็นพนักงานคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีเดินเข้ามาหาพวกเขา
“ประธานลี่ ท่านมีอะไรต้องการให้รับใช้หรือครับ”
“พาผมกับเพื่อนสาวของผมไปที่ห้องรับรองหน่อย”
พนักงานงานพยักหน้าเบาๆ:“ท่านโปรดตามกระผมมา”
พนักงานพาทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องรับรองแขก แล้วหยิบกุญแจออกมาไขประตู
ผนังกระจกที่สว่างไสว ตู้เก็บไวน์ที่เต็มไปด้วยไวน์แดง
โคมระย้าห้อยประดับอยู่บนเพดาน ภายในห้องมีการตกแต่งที่ค่อนข้างหรูหรา
สวี่รั่วฉิงอยู่ๆก็นึกถึงรูปแบบการตกแต่งตอนที่อยู่คฤหาสน์เฉินซาน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าแตกต่างจากที่นี่
แท้ที่จริงแล้วแบบไหนกันคือแบบที่ผู้ชายชื่นชอบ
สวี่รั่วฉิงรู้สึกสงสัย
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เหมือนเขาจะห่อจิตใจข้างในของตัวเองไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีใครสามารถเดาความคิดของเขาได้ว่ากำลังคิดอะไร
“ประธานลี่ เชิญท่านพักผ่อนตามสบายครับ หากต้องการอะไรสามารถเรียกใช้พนักงานได้ทันทีนะครับ”
หลังจากที่พนักงานจากไปแล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็เดินมาที่หน้าตู้เก็บไวน์ หยิบไวน์แดงออกมาหนึ่งขวด จากนั้นรินลงแก้วครึ่งแก้ว แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โซฟา
“ฟ่านเซียวเซียวเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว” ลี่ถิงเซิ่งถามขึ้น
สวี่รั่วฉิงรู้สึกมึนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงพาตัวเองมาที่นี่
เดิมทีเธอแค่เป็นห่วงหากลี่ถิงเซิ่งอยู่ในห้องจะทำให้การเตรียมตัวของฟ่านเซียวเซียวเกิดความล่าช้า ดังนั้นถึงได้ลากเขาออกมา
“คะแนนจะต้องดีกว่าปีก่อนๆอย่างแน่นอน” สวี่รั่วฉิงตอบกลับตามความเป็นจริง
ลี่ถิงเซิ่งหันมองเธอแล้วเขย่าแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ
ไวน์แดงในแก้วไวน์ราวกับพระจันทร์สีเลือด แดงระเรื่อแยงตา
เขาก้มจิบเบาๆ:“ยังจำสัญญาได้ไหม”
สวี่รั่วฉิงเม้มปาก:“จำได้ๆ ฉันได้เตรียมถุงนอนและเต็นท์พร้อมไว้แล้ว ถ้าฟ่านเซียวเซียวไม่สามารถคว้าที่สามได้ ฉันก็จะนำถุงนอนและเต็นท์ไปที่ห้องสำนักงาน ถึงเวลานั้นประธานลี่นอนบนเตียง ส่วนฉันนอนที่พื้น”
ท่าทางการจิบไวน์ของลี่ถิงเซิ่งได้หยุดชะงักชั่วครู่
สักพักเขายิ้มเยาะ และไม่ออกเสียงใดๆ
ในห้องนั้นเงียบสนิท
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ การมาของหลี่อานได้ทำลายความเงียบสงบลง
เมื่อหลี่อานเห็นสวี่รั่วฉิงอยู่ในห้อง ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขาเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟาแวบหนึ่ง ในใจเกิดความสงสัย
แอนนาควรอยู่ห้องเดียวกับฟานเซียวเซียวไม่ใช่หรือ
ทำไมถึงมาอยู่กับประธานลี่ได้
แต่ว่าหลี่อานเป็นคนรู้กาลเทศะ จึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย เขาเดินมาที่ข้างลี่ถิงเซิ่งแล้วพูดสองสามประโยค สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งแปรเปลี่ยนทันที
เขาวางแล็ปท็อปลงข้างๆ แล้วหันไปมองสวี่รั่วฉิง :“ผมต้องออกไปสักครู่ คุณรออยู่ตรงนี้นะ”
ไม่รอคำตอบจากสวี่รั่วฉิง เขาก็จากไปพร้อมกับหลี่อาน
สวี่รั่วฉิงจ้องแผ่นหลังที่จากไปของลี่ถิงเซิ่งด้วยจิตใจที่งุนงง
เธอที่กำลังเตรียมจะบอกกับลี่ถิงเซิ่งว่าตัวเองจะกลับไปที่ห้องของฟ่านเซียวเซียว ดูว่าเธอเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว แต่เขาก็จากไปแล้ว
คิดว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัท
ในขณะที่สวี่รั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ประตูห้องได้ดังขึ้น
สวี่รั่วฉิงถามกลับ:“ไม่ทราบว่าใครคะ”
พนักงานที่อยู่หน้าประตูก็ตกใจเช่นกัน
ผู้จัดการตึกได้ให้เขานำของหวานมาเสิร์ฟ ผู้จัดการบอกว่าประธานลี่เป็นบุคคลสำคัญ จะต้องทำให้เขาประทับใจ
หรือว่าเป็นผู้หญิงของประธานลี่
“สวัสดีครับ กระผมเป็นพนักงาน ผู้จัดการสั่งให้ผมนำของหวานมาเสิร์ฟครับ”
สวี่รั่วฉิงตอบ”ออ”กลับไป วางโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปเปิดประตู
ด้วยนิสัยที่ยิ้มแย้มของเธอ ทำให้พนักงานตะลึงเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงรับถาดจากพนักงาน แล้วกะพริบตาใส่:“ลำบากแล้วค่ะ”
พนักงานส่ายหน้า
จนกระทั่งประตูปิดลง พนักงานที่ตะลึงงัน:“ที่แท้ประธานลี่ซ่อนผู้หญิงไว้นี่เอง ……”
ไม่นาน พนักงานอาคารซ่ายเซิ่งต่างทราบกันถ้วนหน้าว่าในห้องรับรองของลี่ถิงเซิ่งมีสาวงามคนหนึ่งอยู่ในนั้น
ลี่ถิงเซิ่งกับหลี่อานจัดการเรื่องด่วนเสร็จสรรพ หลี่อานเหลือบมองเวลา : “ประธานลี่ ใกล้ถึงเวลาแข่งขันแล้ว ท่านจะไปดูหรือไม่ครับ”
“ไม่ไป กลับห้องรับรอง”
หลี่อานพยักหน้า
ระหว่างทางที่ลี่ถิงเซิ่งกลับไปที่ห้องรับรอง ผู้จัดการอาคารซ่ายเซิ่งเจอหลี่อาน หลังจากที่ทักทายสองสามประโยคตามมารยาทแล้ว ผู้จัดการพูดขึ้น:“ผู้ช่วยหลี่ครับ ขอคุยด้วยสักหน่อยได้ไหมครับ”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้าเบาๆ หลี่อานถึงได้เดินไป
“ผู้ช่วยหลี่ครับ ต้องการให้ส่งของหวานที่ผู้หญิงชอบ หรือไวน์หวานต่างๆไปที่ห้องประธานลี่ไหมครับ” ผู้จัดการที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถามอย่างระมัดระวัง
หลี่อานเม้มปาก สักพักเขาก็โยงเรื่องที่สวี่รั่วฉิงอยู่ในห้องรับรองของลี่ถิงเซิ่งก่อนหน้านี้ จึงได้เข้าใจความหมายของผู้จัดการ
“ไม่ต้อง” หลี่อานกล่าว
ผู้จัดการรีบทำท่าตอบรับอย่างสุภาพ ขณะเดียวกันก็กดเสียงต่ำแล้วพูดขึ้น:“ผู้ช่วยหลี่ไม่ต้องเกรงใจกระผมนะครับ เรื่องที่ประธานลี่ซ่อนผู้หญิง พวกเราต่างทราบกันหมดแล้ว และจะทำให้ผู้หญิงของประธานลี่ประทับใจอย่างแน่นอน ท่านได้โปรดวางใจ”
หลี่อาน:“……”คนสมัยนี้สายตาช่างไม่มีไหวพริบเลย
หลี่อานเหลือบมองเจ้านายตัวเองอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็คว้าตัวผู้จัดการเดินไปข้างๆ
“ผมจะบอกคุณนะ ถ้าหากพวกคุณยังอยากทำงานที่นี่ต่อไป ก็อย่าได้เอ่ยเรื่องซ่อนผู้หญิงอะไรนั่นต่อหน้าประธานลี่ ซุกซ่อนอะไรกัน นั่นมันผู้ช่วยสาวของประธานลี่”
ผู้จัดการท่าทางที่อาบน้ำร้อนมาก่อน จึงยิ้มขึ้นแล้วพูด:“เข้าใจ เข้าใจครับ พวกเราเข้าใจทุกอย่างครับ”