สวี่รั่วยีเบ้าตาแดงก่ำ นัยน์ตาเปียกซึมเล็กน้อย
รูปร่างหน้าตาของเธอน่ารักน่าเอ็นดู ถึงแม้ว่าจะสวยไม่มาก แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดู
รอยย่นหว่างคิ้วของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่คลายลงเล็กน้อย
เธอยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้กับสวี่รั่วยี:“เช็ดหน้าก่อน จะได้เตรียมทานอาหารกัน”
สวี่รั่วยีพยักหน้า แล้วรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่หางตา แต่ในใจนั้นกลับเต็มไปด้วยความดีใจ
ระหว่างทานอาหาร คุณนายใหญ่ตระกูลลี่กับคุณนายลี่ได้พูดคุยกับสวี่รั่วยีเรื่องแฟชั่นและน้ำหอมทั่วไป และไม่ได้ถามเรื่องของแอนนาอีก นี่จึงทำให้ในใจของสวี่รั่วยีหงุดหงิดเล็กน้อย
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ใช้กระดาษทิชชูเช็ดมุมปากด้วยท่าทีที่อ่อนช้อย จากนั้นก็ลุกขึ้น
เลขาฯที่อยู่ข้างๆได้นำเสื้อคลุมมาคลุมใส่ให้เธอ
ผู้เฒ่าถอนสายตากลับด้วยความพอใจ แล้วเหลือบมองสวี่รั่วยีแวบหนึ่ง จากนั้นยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ลำบากเธอแล้วนะที่ดูแลถิงเซิ่ง”
สวี่รั่วยีที่กำลังใจลอย หลังถูกคุณนายลี่มองเขม็งแวบหนึ่ง จึงรีบยกมือโบกไปมา : ไม่ลำบากเลยค่ะคุณย่า หนูชอบถิงเซิ่ง ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเขา เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่เหรอคะ”
พูดจบ ใบหน้าของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ยิ่งดูพอใจมากกว่าเมื่อสักครู่
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นเดินขึ้นรถไปพร้อมกับเลขาฯ
สวี่รั่วยีโค้งคำนับเบาๆจนกระทั่งคุณนายใหญ่ตระกูลลี่จากไป ขณะเตรียมตัวที่จะเดินไปที่ลานจอดรถนั้น เสียงคุณนายลี่ได้ดังมาจากข้างหลัง
“วันนี้ทำได้ดีมาก” คุณนายลี่ถือกระเป๋าเดินมาหยุดตรงหน้าสวี่รั่วยี:“ไม่มีการแนะนำของฉัน แต่รับมือได้ไม่เลวทีเดียว”
สวี่รั่วยียิ้มเบาๆ : “ขอบคุณคุณป้าที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณฉัน ที่ฉันช่วยเธอฉันย่อมมีแผนของฉัน” ริมฝีปากแดงของคุณนายลี่ค่อยๆเม้มขึ้น น้ำเสียงบางเบา จ้องมองสวี่รั่วยีที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มอย่างลึกซึ้งมีเลศนัย
“รั่วยีรู้ค่ะ” สวี่รั่วยีตอบกลับอย่างสุภาพ :“ไม่ว่าคุณป้าจะมีแผนอะไร หนูก็เต็มใจที่จะอยู่ข้างๆถิงเซิ่งค่ะ”
คุณนายลี่พึงพอใจเป็นอย่างมาก
เธอชอบสวี่รั่วยีที่ทำตัวเชื่อฟังเวลาที่อยู่ต่อหน้าเธอ
สำหรับเรื่องที่สวี่รั่วยีทำไว้ข้างนอกนั้น……
คุณนายลี่หรี่ดวงตาเรียวยาวลงที่แฝงด้วยความเย็นชา
“รั่วยี อะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ คุณแม่ของเธอคงเคยสอนเธอ ต่อไปอย่าให้เกิดเรื่องเรื่องวุ่นวายขึ้นกับทางถิงเซิ่งอีก ไม่เช่นฉันแม้แต่ฉันก็อาจจะไม่สามารถช่วยเธอได้”
คุณนายลี่เตือน
ความอับอายแวบเข้ามาบนใบหน้าของสวี่รั่วยี เธอจึงรวบรวมสติอย่างรวดเร็ว : “ขอบคุณคุณป้าที่สอนค่ะ รั่วยีจะจำใส่ใจไว้”
คุณนายลี่ยกมุมปากยิ้มขึ้นอย่างพอใจ กุมมือของสวี่รั่วยีเบาๆ จานนั้นตบปลอบสองสามที แล้วก็ขึ้นรถจากไปพร้อมกับเลขาฯ
สวี่รั่วยีมองดูคุณนายลี่จนกระทั่งจากไป จากนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“เธอคิดว่าเธอวิเศษนักหรือไง” สวี่รั่วยีสบถคำออกมาจากริมฝีปาก น้ำเสียงขึงขัง แม้แต่เลขาฯที่อยู่ข้างกายของเธอยังตกใจ
“คุณสวี่ ตอนนี้พวกเรากลับที่ไหนดีคะ” เลขาฯกดเสียงต่ำถามขึ้น
ฟ้าดึกมากแล้ว ตอนนี้ระยะทางก็อยู่ห่างไกลจากคฤหาสน์ของลี่ถิงเซิ่งมาก แต่บังเอิญอยู่ใกล้กับคฤหาสน์ของตระกูลสวี่
สวี่รั่วยียิ้มเยาะ แววตาปรากฏความเหลืออด
“กลับคฤหาสน์เซียวซาน”
หลังจากที่สวี่รั่วยีขึ้นรถแล้ว ใบหน้ายังคงบึ้งตึงไม่เปลี่ยนแปลง
ถ้าไม่ใช่เพราะลี่ถิงเซิ่ง เธอไม่มีทางที่จะรองรับอารมณ์ของคุณนายลี่
พูดอย่างกับว่าถ้าไม่มีคุณนายลี่ เธอก็จะไม่สามารถแต่งงานกับลี่ถิงเซิ่งได้
สวี่รั่วยีกัดริมฝีปากล่าง กำหมัดแน่นแล้วหรี่ตาลง
หลังจากเงียบไปสักพัก สวี่รั่วยีก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือดิออร์เลดี้ จากนั้นโทรหาเบอร์ที่เธอคุ้นเคยเบอร์นั้น
คนที่รับสายโทรศัพท์ไม่ใช่ลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วยีขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเกรงใจ
“ถิงเซิ่งล่ะ”
หลี่อานอธิบายด้วยความอดทน :ประธานลี่ยังประชุมอยู่ครับ ขออนุญาตถามว่าคุณสวี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
ประชุม?
คุณสวี่ขมวดคิ้วขึ้น ในใจไม่เชื่อ
หลี่อานเหมือนจะเดาความคิดเธอออก จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น :“คุณสวี่ ประธานลี่กำลังติดประชุมจริงๆครับ ถ้าหากคุณไม่เชื่อก็สามารถมาที่บริษัทดูได้เลย”
สวี่รั่วยียิ้มแห้งๆ
ตอนนี้สองทุ่มแล้ว หัวซีตั้งอยู่ในเขตคนรวยในเมืองหลินชวน อยู่ห่างไกลลิบจากย่านการค้า เมื่อรอเธอไปถึงลี่ซื่อกรุ๊ปก็คงจะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว!
“ผู้ช่วยหลี่ ฉันเชื่อคุณ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ช่วยฝากบอกถิงเซิ่งว่าคืนนี้ฉันกลับบ้านนะ คงไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์” สวี่รั่วยียังคงรักษาน้ำเสียงให้อ่อนโยน เหมือนกับภรรยาที่ชาญฉลาดคนหนึ่งเป็นห่วงเป็นใยสามีตัวเอง
“ออ อีกอย่าง ถิงเซิ่งมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ อย่าลืมกำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำหอมที่รักษาอาการนอนไม่หลับ แล้วก็อย่าลืมช่วยเตรียมนมอุ่นๆหนึ่งแก้วให้เขาด้วย”
“คุณจงวางใจเถิดครับ ผมจะบอกตามที่คุณกำชับให้กับประธานลี่ คุณสวี่ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ผมฝากบอกอีกไหมครับ”
“ไม่มีแล้ว” สวี่รั่วยีกลอกตามองบน แล้วก็วางสายลง
หลี่อานใส่โทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋า “ประธานลี่ครับ คืนนี้คุณสวี่ไม่กลับไปที่คฤหาสน์ครับ”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว
“ผมทราบแล้ว” หลังจากนั้นสักพัก เขาก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม “รอก่อน วันนี้ตอนบ่ายเธอได้ไปที่ไหนมา”
หลี่อานชะงักไปชั่วขณะ แล้วหันหลัง :“ประธานลี่ครับ คนรับใช้ในบ้านไม่ได้รายงาน หรือว่าท่านกำลังสงสัย”
ใบหน้ารูปงามของลี่ถิงเซิ่งที่แทบจะไม่มีปฏิกิริยาอารมณ์ใดๆ
เขาขี้เกียจจะทำดีทำทานกับสวี่รั่วยีอีก
“ไปสืบซิ” ลี่ถิงเซิ่งออกคำสั่งอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็กลับมาจดจ่อกับการทำงานต่อไป
……
สวี่รั่วยีกลับไปที่คฤหาสน์เซียวซาน ทำให้คุณนายสวี่รู้สึกประหลาดใจ
เธอรีบให้คนรับใช้ในบ้านทำอาหารเย็นให้กับสวี่รั่วยี
“แม่ หนูทานอาหารเย็นมาแล้วค่ะ” สวี่รั่วยียื่นกระเป๋าที่อยู่ในมือให้กับคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ จากนั้นสายตาก็เหลือบมองไปเห็นชายวัยกลางคนที่อยู่บนโซฟา แววตาจึงเป็นประกาย
“พ่อ วันนี้พ่อกลับบ้านด้วยเหรอคะ” สวี่รั่วยียิ้มขึ้น แล้วเกาะแขนของคุณผู้ชายสวี่ไว้ จากนั้นนั่งลงข้างๆเขาอย่างออดอ้อนออเซาะ
คุณผู้ชายสวี่นำหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือวางลงบนโต๊ะน้ำชา แววตาแฝงด้วยรอยยิ้ม จากนั้นลูบผมของลูกสาวตัวเองเบาๆ
“วันนี้ที่บริษัทงานไม่ค่อยยุ่ง จึงได้กลับมาก่อน” คุณผู้ชายสวี่พลางพูดพลางถอดแว่นตาออกแล้วถามสวี่รั่วยีขึ้น :วันนี้หนูกลับมาได้อย่างไร ทะเลาะกับลี่ถิงเซิ่งเหรอ”
สวี่รั่วยีทำปากมุ่ย:“ใช่ที่ไหนคะ! นี่จะไม่อนุญาตให้หนูกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อกับแม่เลยเหรอ ตระกูลสวี่มีหนูลูกสาวเพียงคนเดียว หนูไม่อยู่ พวกท่านคงเหงาแย่!”
สีหน้าคุณผู้ชายสวี่ชะงัก
สวี่รั่วยีหัวใจเต้นตึกตัก
หกปีผ่านไปแล้ว อย่าบอกนะว่าคุณพ่อยังคงตำหนิติโทษเธอที่เธอทำร้ายสวี่รั่วฉิง
ไม่ใช่ลูกแท้ๆสักหน่อย ทำไมต้องไปใส่ใจขนาดนั้น
สวี่รั่วยีรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆข้างใน แต่ภายใต้การแนะนำสั่งสอนของคุณนายสวี่ เธอรู้ดีว่าควรทำอย่างไร
สวี่รั่วยีเขย่าแขนของคุณผู้ชายสวี่เบาๆ: “พ่อคะ นานๆหนูจะกลับมาที พ่ออย่าทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวสิคะ!”
คุณผู้ชายสวี่เห็นดังนั้น ก็รู้สึกไม่ดีที่จะไปคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาของลูกเลี้ยงอีก จึงปล่อยให้สวี่รั่วยีออดอ้อนอย่างตามใจ
คืนนั้น หลังจากที่สวี่รั่วยีอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จ ขณะที่กำลังให้คนรับใช้ช่วยเธอเป่าผมอยู่นั้น คุณนายสวี่ได้มาที่ห้องของเธอ
คนรับใช้เห็นดังนั้น ไม่รีรอให้สวี่รั่วยีปริปาก ก็เดินออกจากห้องไป
คุณนายสวี่นั่งลงบนเตียง:“วันนี้แม่ของถิงเซิ่งพูดอะไรกับหนู”
สวี่รั่วยีหัวเราะเยาะออกมา และบอกเล่าคำพูดของคุณนายลี่ให้กับคุณนายสวี่ฟัง
จากนั้นเธอก็พูดขึ้น :“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะตอนนี้ยังต้องการเธอ หนูล่ะขี้เกียจที่จะไว้หน้าเธอจริงๆ!”