เมื่อสวี่อี้หานพูดจบ ก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เธอกับสวี่อี้ฝานต่างรู้มาโดยตลอดว่าคุณพ่อของพวกเขาคือลี่ถิงเซิ่งประธานบริษัทแห่งลี่ซื่อกรุ๊ป
พี่สวี่อี้ฝานยังช่วยโปรแกรมเมอร์ของบริษัทคุณพ่อแก้ไขBUGตั้งมากมาย!
ก่อนที่จะมาเมืองหลินชวนโอกาสที่สวี่อี้หานจะเจอลี่ถิงเซิ่งนั้นค่อนข้างน้อย
หลังจากที่มาเมืองหลินชวนแล้ว ขอเพียงแค่เปิดทีวีก็จะสามารถเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาละม้ายคล้ายกับพี่สวี่อี้ฝาน
บางครั้งสวี่อี้หานนั่งดูทีวีก็เกิดอาการคลั่งไคล้โดยไม่รู้ตัว
คุณพ่อหล่อจังเลย!
แต่ดูเหมือนว่าคุณแม่จะไม่ยอมคืนดีกับคุณพ่อ สวี่อี้หานรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ใครจะไม่อยากมีคุณพ่อรูปหล่อสมาร์ตล่ะ!
โชคดีที่แม่บุญธรรมซูจิ่วเอ๋อร์เคยบอกไว้ คุณพ่อไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อคุณแม่ ก่อนหน้านั้นที่ทำร้ายคุณแม่เป็นเพราะผู้หญิงใจร้ายคนนั้น!
“ก็พูดยากนะ คิดว่าผู้ชายที่คุณแม่ไปออกงานด้วยครั้งนี้คงจะเป็นปะป๊ามั้ง” น้ำเสียงของสวี่อี้ฝานราบเรียบเหมือนอย่างเคย
“พี่รู้ได้ไง”
นัยน์ตาที่เรียบเฉยของสวี่อี้ฝานจ้องมองไปที่ร่างของแม่ตัวเอง ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ถามขึ้น : “คุณแม่ ชุดเดรสบนตัวนั้นคงออกแบบโดยนักออกแบบชื่อดังใช่ไหม ขนาดพอดีกับรูปร่างคุณแม่เลย เพียงแต่สไตล์ชุดไม่ใช่สไตล์แบบที่ผ่านมาของคุณแม่ หลังจากที่มาเมืองหลินชวน ผู้ชายที่คุณแม่ติดต่อพูดคุยด้วยนั้นก็มีไม่กี่คน นอกจากคุณพ่อแล้ว ก็มีผู้ช่วยของคุณพ่อ ผู้ชายที่สามารถรู้สัดส่วนรูปร่างของคุณแม่ เห็นทีจะมีแต่คุณพ่อเท่านั้น ผมพูดถูกไหมครับคุณแม่”
สวี่รั่วฉิง:“…………”
การเงียบของสวี่รั่วฉิงทำให้สวี่อี้ฝานเข้าใจว่าตัวเองนั้นพูดถูก
“อย่างนั้นหนูก็วางใจแล้ว!” สวี่อี้หานยกมือสองข้างขึ้นมาตบ “เดิมทียังกังวลว่าคุณแม่แต่งตัวสวยอย่างนี้ จะทำให้มีคุณลุงที่น่ารำคาญมาเกาะแกะคุณแม่! ถ้าหากคุณพ่ออยู่ด้วย ก็คงไม่มีใครกล้ามาเจ๊าะแจ๊ะแทะโลมคุณแม่แน่ๆ!”
“ทำไมล่ะ” สวี่รั่วฉิงรู้สึกสงสัย
สาวน้อยจึงยิ้มแล้วพูด: “เพราะว่าคุณพ่อที่อยู่ในทีวีนั้นดูเหมือนจะดุมากน่ะสิคะ!”
สวี่รั่วฉิงเงียบ
ช่างมีเหตุผลมากๆ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้ตอบกลับได้
……
เหลือเวลาอีกสี่วันที่การประกวดการปรุงน้ำหอมจะเริ่มขึ้น
“คุณสวี่ โทรศัพท์ของคุณนายลี่ค่ะ” สาวใช้ที่ถือโทรศัพท์อย่างนอบน้อมเดินมาที่ห้องแต่งตัว
ในห้องแต่งตัวกองเต็มไปด้วยชุดเดรสสั่งตัดหรูหรา และสวี่รั่วยีกำลังลองใส่ทีละตัว
เพื่อต้องการเป็นที่สะดุดตาผู้คน สวี่รั่วยีได้หาช่างที่มีชื่อเสียงมาตัดชุดให้หลายชุด แต่ว่าเธอรู้สึกแต่ละชุดนั้นล้วนมีตำหนิ
สวี่รั่วยีขมวดคิ้ว คว้าโทรศัพท์มาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
“หนูเองค่ะคุณป้าลี่”
นาทีที่สวี่รั่วยีรับโทรศัพท์ขึ้นนั้น น้ำเสียงได้แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานละมุน ซึ่งราวกับเป็นคนละคนกับผู้หญิงที่อารมณ์หงุดหงิดเมื่อสักครู่
“รั่วยี การประกวดการปรุงน้ำหอมใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ป้ารู้สึกเป็นห่วงหนู อย่าหักโหมมากเกินไปนะ ต่อให้ไม่ได้ที่หนึ่ง ป้าก็ชอบหนูเหมือนเดิม รู้ไหม”
สวี่รั่วยีผุดรอยยิ้มพึงพอใจขึ้นที่มุมปาก
“ขอบคุณคุณป้าที่เป็นห่วงค่ะ ผลิตภัณฑ์น้ำหอมของหนูได้ปรุงเสร็จแล้ว ถึงเวลานั้นยินดีให้คุณป้ามาทดลอง หากคุณป้าชอบ หนูจะรีบทำการปรุงสักสองสามขวด แล้วจัดคนส่งไปให้คุณป้า”
คุณนายลี่ชอบท่าทางการเสแสร้งทำตัวน่ารักดูเชื่อฟังของสวี่รั่วยีที่สุด
สวี่รั่วยีพูดเพียงสองสามคำก็ทำให้คุณนายลี่ถึงกับโอนอ่อนคล้อยตาม ปลื้มปีติเปรมปรีดิ์
คุณนายลี่นั่งเอนอยู่ที่โซฟาอย่างสุขใจ ในมืออุ้มแมวลายไว้ในอ้อมกอด:“รั่วยีจ๊ะ พอดีวันนี้ป้าจองโต๊ะที่ร้านอาหารไว้หนึ่งโต๊ะ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว อีกอย่างป้าก็คิดถึงหนูด้วย ถือว่าเป็นโอกาสในการอวยพรให้การแข่งขันของหนูราบรื่นแล้วกันนะ”
สวี่รั่วยีแสร้งอุทานขึ้นด้วยความปลื้มใจ ทำทีปัดปฏิเสธ สุดท้ายทำเป็นรับปากด้วยความจนใจ
“คุณป้ามาสิ้นเปลืองเพราะรั่วยี รั่วยีรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ”
คุณนายลี่ยิ้มแล้วพูด : “สิ้นเปลืองอะไรกัน”
“การเคารพคงไม่สู้การทำตาม อย่างนั้นหนูก็จะทำตามที่คุณป้าต้องการค่ะ” สวี่รั่วยีตอบรับอย่างเชื่อฟัง
เมื่อสิ้นสุดการสนทนา สวี่รั่วยีก็ยื่นโทรศัพท์กลับไปให้สาวใช้ จากนั้นก็พูดสั่งขึ้น “เรียกช่างทำผมกับช่างแต่งหน้ามาที่คฤหาสน์ด่วน อีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ฉันจะไปที่ร้านอาหารหัวซี”
“ค่ะ”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา สวี่รั่วยีก็ทำผมแต่งหน้าอย่างสวยงามเสร็จสรรพเรียบร้อย สวมใส่ชุดเซตสั่งตัดสีขาวดูหรูหรา ในมือถือกระเป๋าดิออร์เลดี้ จากนั้นขึ้นรถไป
ร้านอาหารหัวซีมีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในเมืองหลินชวน
ต่อให้คุณนายลี่อยากให้เธอแต่งงานกับลี่ถิงเซิ่ง ก็คงไม่มีทางเชิญคนให้เอิกเกริก
แต่เมื่อพนักงานช่วยสวี่รั่วยีเปิดประตูห้องอาหาร จากนั้นสวี่รั่วยีเดินเข้าไปข้างในแล้วเห็นคุณนายใหญ่ตระกูลลี่นั้น ถึงได้รู้ตัวขึ้น
สวี่รั่วยีมองไปทางคุณนายลี่อย่างเงียบๆ คุณนายลี่หรี่ตาลงเบาๆส่งสัญญาณแนะนำเธอ
“สวัสดีค่ะคุณย่า” สวี่รั่วยียิ้มหวาน ยื่นกระเป๋าถือดิออร์เลดี้ให้กับพนักงานที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นถอดเสื้อคลุมแขวนที่ราวแขวนเสื้อ แล้วนั่งลงข้างโต๊ะด้วยท่าทีที่สง่างาม
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่พยักหน้า
“เสิร์ฟชาเหล่าจวินดีๆสักกาก่อนนะ” คุณนายลี่หันไปสั่งกับพนักงาน
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่มองสวี่รั่วยีที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีที่น่ารักน่าเอ็นดู จากนั้นก้มลงจิบน้ำชาเหล่าจวินเบาๆ แล้วก็พูดเข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“รั่วยี ฉันได้ยินว่าเธอมีเรื่องผิดใจกันกับแอนนาเหรอ”
สวี่รั่วยีชะงักไปหนึ่งวินาที จากนั้นก้มหน้าลงเล็กน้อย และรู้สึกจี๊ดที่ดวงตา
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่จึงพูดขึ้นอีกว่า : “เกิดอะไรขึ้น เธอลองเล่าให้ฟังหน่อยซิ เพราะถึงอย่างไรเธอก็อายุน้อยกว่า หากคนอายุน้อยกว่าถูกรังแก ฉันในฐานะผู้ใหญ่ไม่ทวงความยุติธรรมให้ แวดวงผู้ดีมีเงินในเมืองหลินชวนจะมองฉันอย่างไร”
สวี่รั่วยีเข้าใจดี คิดว่าคุณนายลี่คงพูดเรื่องไม่ดีของแอนนาให้กับคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ฟัง
บังเอิญที่เธอก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย
แอนนาเดิมทีก็คือหนามยอกอกสำหรับเธอ
อาศัยโอกาสนี้กำจัดให้สิ้นซากเสียดีกว่า
ขอเพียงคุณนายใหญ่ตระกูลลี่มีอคติต่อแอนนา ต่อให้แอนนาจะเก่งกาจสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะมีปัญญามาสู้กับเธอ
สวี่รั่วยีถอนหายใจขึ้นแล้วเงยหน้ามองคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ด้วยใบหน้าที่น่าสงสาร
“คุณย่า ถ้าหากต้องพูดจริงๆ ความจริงแล้วแอนนาก็ใช่ว่าจะไม่ดี หนูเคยไปหาถิงเซิ่งที่บริษัทของถิงเซิ่ง และมีโอกาสเจอแอนนาสองสามครั้ง ใบหน้านั้นงดงามจริงๆ เหมือนกับดาราก็ไม่ปาน เพียงแต่การพูดการจานั้นค่อนข้างทำให้คนรู้สึกรังเกียจ มีกิริยาท่าทางที่โอ้อวด หนูได้ยินมาว่าผู้ชายไม่น้อยในบริษัทถิงเซิ่งหลงใหลคลั่งไคล้เธอ คิดว่าคงมีกิริยาที่ไม่ค่อยสำรวม”
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ผู้มีจิตใจดี
เมื่อได้ยินการเอ่ยถึงการพูดการจาของสวี่รั่วฉิง จึงขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าเกิดอารมณ์ซับซ้อน
“เพียงแต่ว่าการมีผู้หญิงแบบนี้ข้างกายถิงเซิ่ง…… หนูเป็นผู้หญิงใจแคบ ชอบถิงเซิ่ง และก็หวังให้เขามีหนูอยู่ในสายตาเพียงคนเดียว” สวี่รั่วยีพลางพูด สีหน้าพลางปรากฏความขวยเขิน
ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ และคิดว่าการผิดใจกันของสวี่รั่วยีกับแอนนานั้นเกิดจากความหึงหวงของผู้หญิง
บวกกับสวี่รั่วยีบอกว่ากิริยาท่าทางที่ไม่สำรวมของแอนนา อีกทั้งยังมีผู้ชายหลงใหลไม่น้อย ทำให้ความเกลียดชังที่อยู่ภายในใจจึงได้เพิ่มทวีขึ้น
“หนูเคยลองพูดเรื่องนี้กับถิงเซิ่ง เพราะพื้นฐานทางบ้านของแอนนานั้นธรรมดา……และท่าทางยังไม่เสงี่ยมสำรวม ใกล้ชิดกับเธอมากเกินไป จะทำให้คนภายนอกซุบซิบเขาไปในทางที่ไม่ดี สื่อกอสซิปต่างๆเหล่านั้น คุณย่าก็ทราบดี วันๆรอแต่จ้องทำข่าวซุบซิบของถิงเซิ่ง”
“ถิงเซิ่งปกป้องแอนนา หนูเองก็จนปัญญา จึงทำได้เพียงอธิบายดีๆให้กับแอนนา”
“ใครจะไปรู้ว่าเธอนั้นจะไม่ยอมรับฟัง หนำซ้ำยังยื่นมือมาตบหนูอีกหนึ่งฉาด!”