ชาวเน็ตชิปนายแบบและสวี่รั่วฉิงมาตั้งแต่ต้นแล้ว
นายแบบชายนั้นมีชื่อเสียงภายในประเทศอย่างมาก ทุกครั้งที่ไปโปรโมทก็จะมีแฟนคลับตามเขาไปอย่างนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่ที่นายแบบชายเริ่มทำงานเป็นนายแบบ แม้ว่าเขาจะมีข่าวอื้อฉาวกับนางแบบหญิงอยู่บ้าง แต่เขาไม่เคยโพสต์เวยป๋อที่ไม่ให้เหล่าแฟนๆไปตีความผิดนางแบบอย่างสาธารณะมาก่อน
แน่นอนว่าเหล่าแฟนคลับต้องเชื่อฟังเขาอยู่แล้ว
เจ้าตัวเองก็ออกมาพูดแล้ว เช่นนี้เหล่าแฟนคลับยังจะไปโจมตีสวี่รั่วฉิงอีกเหรอ?
หากพวกเธอไปสอดแนมชีวิตส่วนตัวของสวี่รั่วฉิงอีกล่ะก็ ก็หมายความว่าพวกเธอไม่ได้สนใจนายแบบเลย เอาแต่สนใจแค่ระบายความโกรธของตัวเองเท่านั้นเหรอ?
ดังนั้น หลังจากที่นายแบบโพสต์ข้อความนั้นไปแล้ว แฟนคลับของนายแบบก็ได้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ของเขา โดยยอมรับความผิดพลาดและยอมรับว่าพวกตนนั้นผิดไปแล้ว พวกตนไม่ควรไปรบกวนชีวิตประจำวันของผู้หญิงที่ร่วมงานกับเขา
นอกจากนี้ พวกเธอยังตั้งใจลบคำหยาบคายที่เขียนใต้เวยป๋อของสวี่รั่วฉิงออกอีกด้วย แล้วขอโทษอย่างจริงใจ
แต่แม้ว่าพวกเธอจะทำทุกอย่างเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีความไม่พอใจอยู่บ้าง พวกเธอคิดว่าระหว่างนายแบบและสวี่รั่วฉิงนั้นมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออยู่จริงๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงต้องช่วยสวี่รั่วฉิงล่ะ?
“บางทีพวกเขาทั้งสองอาจจะกำลังคบหากัน ดังนั้นแฟน ๆ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปดูการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน! นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาช่วยผู้หญิงที่ร่วมงานกัน จะบอกว่าไม่มีอะไรกันฉันไม่เชื่อหรอก เห้อ แต่เราก็ทำได้แค่ขอโทษเท่านั้นแหละ น่าอึดอัดมาก”
“ฉันจะคอยดูว่าหลังจากนี้ไปพวกเขายังติดต่อกันอยู่ไหม น่าโกรธชะมัด!”
แฟนคลับของนายแบบระบายความรู้สึกลงในเวยป๋อส่วนตัว หลังจากที่มีคนไปเห็นข้อความเหล่านี้ จึงได้นำไปพูดคุยกันในวงข่าวซุบซิบเพื่อหารือว่าความสัมพันธ์ระหว่างสวี่รั่วฉิงและนายแบบนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ขณะที่มีการพูดคุยกันอย่างดุเดือด ทันใดนั้นลี่ถิงเซิ่งก็แชร์โพสต์เวยป๋อของสวี่รั่วฉิง
ชาวเน็ตที่ซุบซิบกันต่างตกใจเป็นอย่างมาก และอึ้งไปชั่วขณะ
อย่างที่ทุกคนทราบเป็นอย่างดีว่า เวยป๋อของลี่ถิงเซิ่งนั้นเป็นเพียงสิ่งประกอบ
ตั้งแต่เขาเปิดเวยป๋อมา เขาไม่เคยโพสต์เวยป๋อเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ครั้งนี้เขากลับรีโพสต์เวยป๋อของสวี่รั่วฉิง นี่หมายความว่าอย่างไร?
ชาวเน็ตที่เมื่อสักครู่ยังสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายแบบกับสวี่รั่วฉิงอยู่นั้น ก็เบี่ยงความสนใจไปที่ลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงทันที
“นี่หมายความว่าอย่างไร? หรือว่าประธานของลี่ซื่อกรุ๊ปก็เสพข่าวเหมือนเราเช่นกัน? จากนั้นเขาก็บังเอิญรีโพสต์อย่างไม่ตั้งใจหรือ?”
“เป็นไปได้อย่างไร! นี่คงเป็นคำใบ้!”
“คำใบ้อะไรเหรอ?”
“ก็หมายความว่าแอนนาเป็นคนของเขาไงล่ะ! ใครจะกล้าไปโจมตีคนที่ลี่ถิงเซิ่งปกป้องไว้ล่ะ? อยากรับจดหมายจากทนายหรือไง!”
ทันใดนั้น เวยป๋อที่พูดคุยเกี่ยวกับลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงนั้นมากกว่านายแบบก่อนหน้านี้ไป
ชาวเน็ตพอใจแล้ว ใครกันที่ไม่ชอบข่าวซุบซิบแบบนี้!
แต่หลี่อานนั้นคงลำบากแล้ว
หลี่อานเห็นการค้นหาที่ร้อนแรงในเวยป๋อนั้น และดวงตาของเขาก็กลายเป็นสีดำ
เขาไปที่ออฟฟิศด้วยสีหน้าที่แทบจะร้องไห้ออกมา ” ประธานลี่ครับ ถ้าประธานจะรีโพสต์เวยป๋อของแอนนา อย่างน้อยก็บอกคนของฝ่ายประชาสัมพันธ์สักหน่อยก็ดีนะครับ… ตอนนี้มีแต่คนบอกว่าคุณรีโพสต์ของแอนนาเพราะหึงเวยป๋อที่นายแบบโพสต์ ”
หลี่อานแทบจะร้องไห้ออกมา
คืนนี้เขาไม่ต้องคิดจะพักผ่อนแล้ว เขาต้องจัดการกับผลที่ตามมาพร้อมฝ่ายประชาสัมพันธ์ทั้งคืน!
ดวงตาที่คมลึกของลี่ถิงเซิ่งนั้นเงยขึ้นมาเล็กน้อย เขาขยับริมฝีปากบางๆอย่างเฉยเมย: ” พวกเขาพูดถูก”
หลี่อานเบิกตากว้าง: “???”
ประธานลี่หมายความว่าอย่างไร? เขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า?
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบตามองหลี่อาน แล้วพูดย้ำสิ่งที่เขาพูดเมื่อสักครู่นี้ด้วยน้ำเสียงเฉยชา: “พวกเขาพูดถูก”
สีหน้าของหลี่อานตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า
ประธาน..ไม่น่าเชื่อว่าประธานลี่จะหึงแอนนาเพราะผู้ชายคนอื่นงั้นหรือ?
ช่างเป็นเรื่องที่ยากที่จะพบเห็นจริงๆ…
เขาติดตามลี่ถิงเซิ่งมานานขนาดนี้ ในที่สุดเขาก็ได้เห็นอะไรมากมาย!
……
ข่าวลือที่เกี่ยวกับสวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่ง บวกกับนายแบบ ข่าวของทั้งสามคนนั้นดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆบนอินเทอร์เน็ต
พวกเขาติดอันดับที่หนึ่งของการค้นหามาทั้งวัน และไม่มีวี่แววว่าจะตกลงอันดับไป
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงประชุมผู้ปกครองเสร็จสิ้น เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็สั่งหม้อไฟแบบเดลิเวอรี่มา
สวี่อี้ฝานเทเนื้อม้วนบนจานลงในหม้อ คนไปด้วยและถามแม่ว่า “คุณแม่ครับ คุณแม่ดูเวยป๋อหรือยังครับ?”
สวี่รั่วฉิงกำลังถือลูกชิ้นออกมาจากห้องครัว เพื่อเดินมาที่โต๊ะทานอาหาร
เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายตารางไว้ และผมยาวสีดำของเธอถูกมัดไว้ด้านหลังศีรษะ
หากใครเห็นเธอและเด็กสองคนที่หน้าตาคล้ายเธอนั่งอยู่ในร้านอาหาร คงต้องคิดว่าเธอเป็นพี่สาวของพวกเขาอย่างแน่นอน
“เวยป๋ออะไรเหรอ?” สวีรั่วฉิงวางลูกชิ้นไว้บนโต๊ะ แล้วเปิดน้ำผลไม้ออกมาหนึ่งขวดเทออกมาสามแก้ว
เนื้อม้วนในหม้อไฟยังไม่สุก สวี่อี้ฝานก็ยื่นโทรศัพท์มือถือของตนให้สวี่รั่วฉิงดู
สวี่รั่วฉิงเหลือบมอง แล้วเห็นชื่อของเธอ ลี่ถิงเซิ่งและนายแบบ
“กินข้าวก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกันหลังกินเสร็จ” สวี่รั่วฉิงพูดไปด้วยพลางวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ “พวกนายอยากกินลูกชิ้นปลาหมึกมากกว่าหรือว่าอยากกินลูกชิ้นเนื้อมากกว่าคะ?”
“ลูกชิ้นเนื้อ!” สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานกล่าวพร้อมกัน
สวี่รั่วฉิงก็ใส่ลูกชิ้นเนื้อเพิ่มอีกสองสามลูก
สวี่อี้หาน: “แม่คะ หนูเห็นรูปถ่ายของพี่ชายนายแบบแล้วนะคะ เขาหล่อมาก! แต่อี้หานคิดว่าเขาไม่หล่อเท่าคุณพ่อของเราหรอก… เอาล่ะ พี่นายแบบจะไม่กลายมาเป็นคุณพ่อของหนูใช่ไหมคะ?หนูอยากให้คุณพ่อมาเป็นคุณพ่อของหนูมากกว่าค่ะ”
สวี่รั่วชิงหยิบเนื้อวัวม้วนและไส้กรอกออกจากหม้อไฟแล้วใส่ลงในจานของสวี่อี้หาน โดยหวังว่าจะทำให้เธอหยุดพูด
แต่ไม่คาดคิดว่าแม้อาหารที่น่ากินเช่นนี้อยู่ตรงหน้า เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็ยังไม่สามารถหยุดพูดได้
สวี่รั่วฉิงเอามือปิดหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ เธอรู้สึกว่าในอนาคตลูกสาวของเธอนั้นต้องเป็นคนประเภทที่มองเห็นผู้ชายหล่อๆ แม้ยังไม่รู้จักกัน ก็สามารถตั้งชื่อลูกของเธอทั้งสองขึ้นมาได้แล้วอย่างแน่นอน
หลังกินอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานช่วยสวี่รั่วฉิงทำความสะอาดเครื่องครัวที่ใช้
สวี่รั่วฉิงทำพุดดิ้งสองอันเพื่อให้รางวัลแก่เด็กทั้งสองคน
ถือโอกาสที่สวี่อี้ ฝานกำลังกินพุดดิ้งนั้น เธอนั่งบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา และเหลือบดูกระแสความพูดคุยคร่าวๆของเวยป๋อ
นายแบบออกตัวมาพูดแทนเธอ ซึ่งเกินความคาดหมายของสวี่รั่วฉิงเป็นอย่างมาก
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและคลิกเข้าไปที่เวยป๋อของลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่รั่วฉิงรู้ว่าผู้ชายอย่างลี่ถิงเซิ่งนั้นก็ใช้เวยป๋อเช่นกัน
แต่เมื่อเธอกดเข้าไปดู มุมริมฝีปากของเธอก็กระตุกเล็กน้อย
เวยป๋อของเขานั้นสะอาดหมดจด ยกเว้นมีการรีโพสต์เวยป๋ออันล่าสุดของเธอ
ทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเข้ามายุ่งให้เรื่องนี้วุ่นวายกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ? สวี่รั่วฉิงเม้มฝีปากและครุ่นคิด
นี่ไม่ใช่สไตล์การกระทำของลี่ถิงเซิ่ง สวี่รั่วฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และยากที่จะคาดเดาจุดประสงค์ของชายผู้นี้ และในที่สุดเธอก็กดติดตามไปอย่างเงียบๆ
จากนั้นก็พบว่าเธอและลี่ถิงเซิ่งนั้นกลายเป็นเป็นการติดตามร่วมกัน
สวี่รั่วฉิง : “…”
นิ้วที่ขาวเรียวของสวี่รั่วฉิงเลื่อนที่หน้าจอโทรศัพท์เบาๆ แล้วออกจากเวยป๋อของลี่ถิงเซิ่ง และกลับไปที่หน้าเวยป๋อของตน
เธอครุ่นคิด แล้วเขียนเวยป๋อพร้อมเม้มปาก
“คนที่บริสุทธิ์อย่างถ่องแท้ย่อมบริสุทธิ์ใจ”
หลังจากโพสต์ลงไป สวี่รั่วฉิงก็ทิ้งโทรศัพท์ของเธอไว้ และไม่สนว่าคนในเวยป๋อจะพูดหรือคิดเกี่ยวกับเธออย่างไร
ชาวเน็ตเหน็ดเหนื่อยหลังจากไล่ตามข่าวมาทั้งวัน
แต่เมื่อเห็นสวี่รั่วฉิงโพสต์เวยป๋อเช่นนี้ อีกทั้งมีแค่ประโยคเดียว
ทันใดนั้นทุกคนก็ตื่นตัวอีกครั้ง!