บทที่ 581 ศึกแย่งชิงกระบี่
บทที่ 581 ศึกแย่งชิงกระบี่
เยวี่ยอู๋ฉือมองกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ที่อยู่ในอ้อมแขน มือของนางก็กระตุกอย่างรุนแรง จากนั้นก็มีกระบี่สั้นเล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากข้างกายเยวี่ยอู๋ฉือ แล้วลอยตระหง่านอยู่กลางฟากฟ้า!
กระบี่เล่มนี้คือ “ไท่เออ” เป็นกระบี่ประจำกายของเยวี่ยอู๋ฉือ!
กระบี่ไท่เออนั้นดูเหมือนจะรับรู้ถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ ปราณของกระบี่ทั้งเล่มก็ปะทุขึ้นราวกับพายุในทันที ประหนึ่งว่าต้องการจะกดข่มปราณกระบี่อันน่าเกรงขามของกระบี่เทวะผนึกสวรรค์
แต่ไม่ว่ากระบี่ไท่เออจะพยายามเพิ่มปราณไปมากเพียงใดก็ตาม ทว่าภายใต้ปราณกระบี่อันน่าเกรงขามของกระบี่เทวะผนึกสวรรค์มันก็ไม่ต่างจากมดอุ้มช้าง!
เมื่อปราณของกระบี่ไท่เออเพิ่มขึ้นทีละน้อย ปราณของกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีลงมา!
“ตู้ม!”
ปราณกระบี่ทั้งสองปะทะกันอีกครั้ง ตระกูลเสวียนทั้งตระกูลสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งหมด เยวี่ยอู๋ฉือโอบกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ไว้ ปราณทั้งสองก็กระแทกกันจนร่างของนางถอยออกไปไกล
เมื่อลู่หยวนเห็นเหตุการณ์นี้ รอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปาก “การแย่งชิงจิตวิญญาณแห่งกระบี่อย่างนั้นรึ น่าสนใจจริง ๆ”
จิตวิญญาณแห่งกระบี่ของเยวี่ยอู๋ฉือที่กลับชาติมาเกิดในฐานะมนุษย์ การที่จะรับรู้ได้ต้องใช้กลวิธีบางอย่าง ซึ่งคนอื่น ๆ นั้นไม่สามารถตรวจสอบได้
เช่นเดียวกับลู่หยวน หากปราศจากระบบคอยช่วย เขาก็คงไม่รู้ว่าเยวี่ยอู๋ฉือมีสถานะเช่นนี้แฝงอยู่
ทว่าในฐานะกระบี่ โดยเฉพาะกระบี่ที่มีจิตใจอย่างกระบี่เทวะผนึกสวรรค์และกระบี่ไท่เออ ย่อมจะรับรู้ได้ถึงความผันผวนแห่งโชคชะตาของจิตวิญญาณแห่งกระบี่ในทันทีที่ได้สัมผัสกับเยวี่ยอู๋ฉือ!
ลู่หยวนเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับการถือกำเนิดของกระบี่เลื่องชื่อจำนวนมาก หลังจากจิตวิญญาณแห่งกระบี่ถือกำเนิด พวกมันจะอยู่ร่วมกัน ต่อมาเมื่อได้โอกาสบางอย่าง ทำให้จิตวิญญาณแห่งกระบี่มีเส้นทางชีวิตของตนเอง ต่อมาก็จะสามารถแยกออกจากกระบี่แล้วดำรงอยู่ด้วยตนเองได้
แต่ถึงกระนั้น จิตวิญญาณแห่งกระบี่ก็ยังต้องพึ่งพากระบี่เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังที่แข็งแกร่งที่สุด!
และในตอนนี้ จิตวิญญาณแห่งกระบี่ที่แยกออกจากกระบี่เหล่านี้ก็เริ่มมองหากระบี่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ครั้งหนึ่งมีจิตวิญญาณแห่งกระบี่สองตนต่อสู้แย่งชิงกระบี่เล่มหนึ่งจนไม่มีวันจบสิ้น
แม้เรื่องราวเหล่านี้จะเป็นเพียงเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งมีความเป็นนิทานปรัมปราอยู่ค่อนข้างมาก
ทว่าในวันนี้ทั้งกระบี่เทวะผนึกสวรรค์และกระบี่ไท่เออกลับต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงวิญญาณกระบี่ตนเดียว
กระบี่ไท่เออแฝงไปด้วยความลับอยู่ไม่น้อย ลู่หยวนรู้สึกได้วูบหนึ่งว่ากระบี่ไท่เออเล่มนี้มิใช่ร่างหลัก อาจเป็นเศษกระบี่ที่มีพลังแข็งแกร่งมากบางเล่มรวมตัวกัน
ไม่ต้องเอ่ยถึงกระบี่เทวะผนึกสวรรค์เลย กระบี่เล่มเดียวผสานแผ่นดิน กำหนดสวรรค์ ลู่หยวนได้เห็นพลังของกระบี่เล่มนี้ด้วยตาตนเองมาแล้ว
กระบี่สองเล่มนี้สามารถจัดอยู่ในกระบี่ที่ดีที่สุดในใต้หล้า และควรจะเหนือกว่ากระบี่อื่น ๆ ทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ ทว่าในวันนี้กลับต่อสู้กันเพราะเยวี่ยอู๋ฉือ จึงมองออกได้ว่าเยวี่ยอู๋ฉือผู้เป็นจิตวิญญาณแห่งกระบี่นั้นแข็งแกร่งเพียงใด!
แววตาของลู่หยวนก็มีประกายขึ้นมาเช่นกัน เขาอยากรู้เสียจริง ว่าหากเยวี่ยอู๋ฉือหลอมรวมกับกระบี่เทวะผนึกสวรรค์แล้วจะแข็งแกร่งมากเพียงใด!
ทันใดนั้น เสียงครางต่ำ ๆ ก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง กระบี่ไท่เออก็ถูกกดขี่ในทันที กระบี่เทวะผนึกสวรรค์คลุ้มคลั่งจนปราณของมันกระจายออกมาอย่างรุนแรง!
ในชั่วพริบตานั้น ผลแพ้ชนะก็ได้ถูกตัดสิน!
กระบี่ไท่เออสลายหายไปในชั่วพริบตา เมื่อพลังของมันกลับมาปรากฏอีกครั้ง ก็พบว่ามันอยู่เหนือท้องฟ้าของแดนมัชฌิม
ปราณกระบี่ระเบิดตัวออกเป็นกลุ่ม ๆ กลายเป็นกระบี่เมฆาที่เกือบจะอัดแน่นเต็มท้องฟ้าของแดนมัชฌิม
กระบี่เมฆาที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ราวกับสายฟ้าฟาดและฉีกเวหาออกเป็นสองส่วน
ทั่วทั้งแดนมัชฌิม เมื่อเทียบกับกระบี่เมฆาแล้ว มันช่างไร้ค่าเสียจริง!
“ครืน!——”
กระบี่ไท่เออบนท้องฟ้าส่งเสียงราวกับกำลังคำรามออกมา กระบี่ทั้งหมดในแดนมัชฌิมต่างถูกปลุกเร้าให้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ปกคลุมเวหาไปในพริบตาเดียว!
กระบี่หมุนคว้างชี้เป้าไปยังตำหนักที่ลู่หยวนอาศัยอยู่
ลู่หยวนเองก็รับรู้ได้ถึงการเล็งเป้าอย่างสุดกำลังของไท่เออ
“ข้านึกแล้วว่าข้ามิได้คาดการณ์ผิดไป ไท่เออเล่มนี้ยังพอมีความสามารถอยู่บ้าง นี่อาจจะเป็นการรวมตัวของชิ้นส่วนกระบี่หลัก หากกระบี่หลักที่แท้ปรากฏที่นี่จริง ๆ เกรงว่าพลังคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากระบี่เทวะผนึกสวรรค์เลยกระมัง!”
ทันทีที่ลู่หยวนเอ่ยจบก็หายวับไปแล้วปรากฏกายอยู่ข้าง ๆ เยวี่ยอู๋ฉือ
จากนั้นก็ยื่นมือขวาไปแตะตรงบ่าของนาง
“กระบี่เทวะผนึกสวรรค์อยู่ในมือเจ้าแล้ว จิตวิญญาณแห่งกระบี่ยังไม่กลับคืนที่อีกรึ!”
เมื่อลู่หยวนผ่อนลมหายใจแผ่วเบา ก็ปรากฏปราณนับหมื่นนับพันหลั่งไหลมารวมกันที่มือของลู่หยวน ร่างของเยวี่ยอู๋ฉือถูกปราณของลู่หยวนเปลี่ยนให้กลายเป็นความว่างเปล่าไปในพริบตาเดียว!
เมื่อกายเนื้อของเยวี่ยอู๋ฉือหายลับไป วิญญาณของนางก็ก่อตัวกันเป็นรูปร่าง ลู่หยวนชี้ไปที่หน้าผากของวิญญาณนั้น แสงสีเขียวก็ฉายวาบขึ้นในทันใด
พลังบางอย่างจากส่วนลึกของจิตวิญญาณของเยวี่ยอู๋ฉือถูกกระตุ้นขึ้นมาในฉับพลัน จากนั้นก็พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง!
“อ๊าก!”
เยวี่ยอู๋ฉือถูกลู่หยวนบังคับดึงเอาปราณจิตวิญญาณแห่งกระบี่ที่ซ่อนอยู่ในกายออกมา ความเจ็บปวดจากการถูกฉีกกระชากร่างปรากฏถาโถมที่หน้าผาก พร้อมกับเสียงแห่งความเจ็บปวดแผดก้องอยู่ในลำคอของนาง!
ในดวงตาของลู่หยวนไร้ความเมตตา เขากลับยิ่งเพิ่มพลังมากขึ้นไปอีก เพื่อกระตุ้นปราณจิตวิญญาณแห่งกระบี่ทั้งหมดในตัวนางออกมา!
ทั่วทั้งแดนมัชฌิมมีจิตวิญญาณแห่งกระบี่อยู่ไม่กี่ดวง เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายที่เป็นของเยวี่ยอู๋ฉือ ต่างก็เกิดความหวาดกลัวในจิตใจ!
ในฐานะจิตวิญญาณแห่งกระบี่ด้วยกัน กลิ่นอายของเยวี่ยอู๋ฉือสำหรับพวกนั้นแล้วคือพลังกดขี่ที่ไม่อาจต่อต้านได้!
มุมปากของลู่หยวนปรากฏรอยยิ้มบาง “ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็ถึงมือเจ้าแล้ว!”
เอ่ยจบ ลู่หยวนก็กระแทกวิญญาณของเยวี่ยอู๋ฉือเข้าไปในกระบี่เทวะผนึกสวรรค์อย่างรุนแรง!
“ครืดดดดด!”
โซ่ตรวนนับพันจากกระบี่เทวะผนึกสวรรค์พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วพันธนาการวิญญาณของเยวี่ยอู๋ฉือไว้ทั้งหมด!
ราวกับว่ากระบี่เทวะผนึกสวรรค์ได้ซึมซับพลังที่แข็งแกร่งมากมาย จากนั้นมันก็สั่นสะเทือนขึ้นมาในทันที เล่มกระบี่ทั้งหมดก็กระโดดโลดเต้นอย่างคึกคัก
แสงสีเขียวหลายชั้นครอบคลุมอยู่บนกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ จากนั้นก็ค่อย ๆ จางลง
บนกระบี่เทวะผนึกสวรรค์มีรอยสลักอักขระสีเขียวจำนวนมาก อักขระเหล่านั้นสั่นไหว แผ่ขยายพลังอำนาจของความลึกลับออก
ลู่หยวนยื่นมือออกไปกำกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ไว้ในมืออย่างช้า ๆ!
ปราณกระบี่อันรุนแรงราวกับจะบดขยี้ทั้งสวรรค์และนรกก็ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
ไท่เออที่อยู่เหนือท้องฟ้าเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ระบายปราณทั้งหมดของตนออกมาอย่างสุดกำลัง กระบี่เมฆาขนาดมหึมาจึงค่อย ๆ เคลื่อนตัวแล้วพุ่งลงสู่แผ่นดินแดนมัชฌิมทั้งหมด!
กระบี่เมฆาพุ่งลงมา ปราณรุนแรงคล้ายจะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมองจากแดนมัชฌิมขึ้นไป ราวกับว่าวันสิ้นโลกกำลังมาเยือนแล้ว!
ผู้คนจำนวนมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างก็หวาดกลัวอย่างสุดขีด