ข้างหลังของสวี่รั่วฉิงเป็นรถซูเปอร์คาร์ สีแดงของเธอ สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านผมหน้าม้าของเธอ เธอพยายามที่จะกะพริบตา เพื่อให้ตัวเองแน่ใจว่าตัวเธอเองไม่ได้ตาฝาด และไม่ได้ดูผิด
ชายขรึมจริงจังเย็นชาที่อยู่ข้างๆหลี่อาน เป็นนายของเธอจริงๆ ลี่ถิงเซิ่ง
ริมฝีปากของสวี่รั่วฉิงขยับนิดหน่อย “ประธานลี่ นี่ทาน……?”
หลี่อานกะพริบตาขมวดคิ้วส่งสัญญาณให้สวี่รั่วฉิง ใครจะรู้ว่าเมื่อก่อนเธอที่ฉลาดมาก แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เข้าใจการบอกเป็นนัยของเขา
“หลี่อาน ตาของนายไม่สบายหรือ?” สวี่รั่วฉิงถาม
หลี่อานเอามือปิดหน้าทันที เขาไม่อยากที่จะไปเข้าร่วมในสงครามของพวกเขา
สวี่รั่วฉิงชิดรถซูเปอร์คาร์สีแดงของตัวเอง เอาแขนกอดอกเนาๆ มองไปหาผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คิ้วที่บางของเธอได้ขมวดคิ้ว: “ประธานลี่ ฉันแค่ไปเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมงานฉันเอง คุณคงไม่ต้องตามมาก็ได้มั้ยคะ?”
ดวงตาที่ดำมืดของลี่ถิงเซิ่งหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้ ผ่านไปสักพัก เขาถึงพูดออกมาว่า: “ทางบริษัทห้ามคนในออฟฟิศมีความรัก ผมเป็นผู้บังคับบัญชาของพวกคุณ ผมมีสิทธิ์ที่จะดูแลควบคุม”
เมื่อพูดจบ ลี่ถิงเซิ่งได้เดินไปที่ฝั่งซ้ายของรถ และเปิดประตู แล้วเข้าไปนั่งฝั่งข้างคนขับ
สวี่รั่วฉิง: “……” ประธานบริษัทควบคุมดูแลการมีความรักของพนักงานได้ด้วยหรือ?
หลี่อาน: “…….” เดี๋ยวก่อนนะครับประธานลี่ ผมมีแฟนแล้วนะครับ
สวี่รั่วฉิงมองไปที่ ลี่ถิงเซิ่งที่มือของเขาวางอยู่บนประตู สวี่รั่วฉิงรู้เลยว่าพรุ่งนี้อะไรจะขึ้นเทรนด์การค้นหาอันดับหนึ่งบนเวยป๋อ
ลี่ถิงเซิ่ง: “วันนี้ผมไม่ได้ขับรถมา”
สวี่รั่วฉิง: “…….” นี่เป็นข้ออ้างที่ฟันไม่ขึ้นเลยนะ!
หลี่อานทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงนั่งอยู่เบาะหลังรถ
ได้รับการปฏิบัติแบบนี้ชาตินี้เขาคงยังไม่เคยได้รับมาก่อน….
ประธานลี่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ หลี่อานกลับไปนั่งอยู่เบาะหลังคนขับ
สวี่รั่วฉิง: “รัดเข็มขัดให้ดี”
หลี่อานอึ้ง เขายังไม่ทันที่จะรัดเข็มขัด สวี่รั่วฉิงได้เหยียบคันเร่งแล้ว
ลมยามค่ำคืนพัดไปกระทบที่ใบหน้าของเธอ ตามความเร็วรถของเธอ ผมสีดำของเธอได้ปลิวว่อน
ตอนนี้เป็นฤดูที่เหมาะสมกับการซิ่งรถ ถ้าคืนนี้ไม่ติดที่จะเลี้ยงข้าวหลี่อาน คืนนี้เธอจะต้องไปซิ่งรถที่ถนนเลียบคลอง สักสองสามรอบ
เมื่อจอดรถ ลี่ถิงเซิ่งลงจากรถด้วยสีหน้าที่ปกติ
“ทักษะการขับรถไม่เลวนะ” เขาประเมินด้วยน้ำเสียงเบาๆ
ผู้หญิงที่มีทักษะการขับรถดีขนาดนี้ หาได้ยากมาก
หลี่อานสีหน้าเขียว ประคองประตูไว้ และคลื่นไส้อาเจียนออกมา
ด้วยความเร็วรถของแอนนา เขาเกือบจะตายแล้ว
ทำไมประธานลี่ไม่เห็นเป็นอะไรเลย?
โต๊ะที่สวี่รั่วฉิงจองเป็นโต๊ะสำหรับสองคนนั่ง
ร้านมิชลินนี้เป็นร้านที่เธอมากินเป็นประจำ
“เพิ่มอีกหนึ่งที่นั่งนะคะ” สวี่รั่วฉิงสั่งผู้จัดการร้านนี้
เธอที่เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ ทางผู้จัดการก็เลยรีบดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว
ผู้จัดการร้านมองไปหาผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเธอ เขามีแววตาที่ตกใจเล็กน้อย
นั้นไม่ใช่ประธานของลี่ซื่อกรุ๊ปหรือ?
ถึงร้านของเขาจะมีชื่อเสียงมากในเมืองหลินชวน แต่ไม่บ่อยนักที่คนระดับ ลี่ถิงเซิ่งจะกินร้านเขาด้วยตนเอง
ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกค้าประจำคนนี้ของเขาเป็นคนแบบไหน ทำไมถึงเชิญประธาน ลี่ซื่อกรุ๊ปออกมากินข้าวได้
สวี่รั่วฉิงสั่งอาหารของตัวเธอเองเสร็จแล้ว แล้วมองไปที่ ลี่ถิงเซิ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้า: “ประธานลี่คุณชอบท่านอะไร?”
ลี่ถิงเซิ่งเปิดเมนูมาดู และมองไปที่ผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ ใช้ภาษาฝรั่งเศสคุยกับผู้จัดการร้านอยู่สักพัก
แววตาของผู้จัดการปรากฏความแปลกใจ
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่เหมือนคนในแวดวงคนรวยทั่วไป เพราะเขาให้ความสำคัญกับอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลักมาก
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาหารหลักของพวกเขาได้มาเสิร์ฟจนครบแล้ว
ปกติตอนกินข้าวสวี่รั่วฉิงชอบกินข้าวไปเล่นมือถือไป หรือไม่ก็ชอบกินข้าวไปและคุยกับเพื่อนไปด้วย
วันนี้มี ลี่ถิงเซิ่งอยู่ด้วย สวี่รั่วฉิงเลยต้องกินข้าวอย่างเงียบๆ เพราะออร่าของเขา เธอเลยไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก
หลี่อานก็เหมือนกัน
ระหว่างที่เขากินไปครึ่งหนึ่ง เขาได้ว่างมีดซ่อมลง
“ประธานลี่ขอโทษนะครับ พอดีแฟนผมโทรมาครับ” หลี่อานยิ้มอย่างเกรงใจไปหาสองคนที่อยู่ตรงหน้า
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้มีสีหน้าตกใจหรือแปลกใจเลย เขายังกินอาหารของตัวเขาเองอย่างเอร็ดอร่อย
หลี่อานเห็นแบบนี้ ก็ได้รีบไปรับโทรศัพท์
ตอนนี้เหลือเพียง ลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงอยู่ที่โต๊ะอาหาร
มองดูแล้วเหมือนพวกเขาเป็นแฟนกัน ที่หลังเลิกงานก็มากินข้าวด้วยกัน
ไม่ไกลมาคนคนหนึ่งเอามือถือขึ้นมา และแอบถ่ายรูปของทั้งคู่ และโพสต์ขึ้นไปอินเทอร์เน็ต
“วันนี้มากินข้าว เจอประธานลี่และแอนนาด้วยความบังเอิญ ทั้งคู่คงไม่คบกันจริงๆหรอกนะ?”
เมื่อโพสต์เสร็จคนคนนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ
บรรยากาศในร้านอาหารมืด ก็เลยต้องเพิ่มความอบอุ่นให้รูปหน่อย
หน้าตาของลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิง คนสามารถมองออกได้ง่ายมาก ชาวเน็ตแค่ดูรูปก็รู้แล้วว่าเป็นเขาสองคนจริงๆ ไม่ใช่ผู้โพสต์พูดมั่วซั่ว
“ดังนั้น ทั้งคู่นี้เขาคบกันอยู่จริงๆ หรือ?”
“แอนนาก็ไม่ใช่ดารานะ คบกันไม่เห็นต้องหลบๆซ่อนๆเลย”
“ผู้โพสต์ก็แปลกนะ พวกเขาไม่ได้หลบๆซ่อนๆนะ พวกเขาไปกินข้าวด้วยกันอย่างเปิดเผย คนที่หลบๆซ่อนๆคงเป็นคนถ่ายมากกว่ามั้ง!”
จางเฉิงเห็นรูปบนเวยป๋อแล้ว เขารู้สสึกตัวอย่างเชื่องช้า
ถึงว่าทำไม ลี่ถิงเซิ่งถึงปฏิเสธให้แอนนาเข้าร่วมการถ่ายทำโฆษณา ที่แท้เธอเป็นคนรักของ ลี่ถิงเซิ่งนี่เอง
จางเฉิงหรี่ตา เขายิ่งมองรูปของสวี่รั่วฉิงแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าสวี่รั่วฉิงเหมาะกับโฆษณานี้มาก
…….
“ลบออก” นิ้วของ ลี่ถิงเซิ่งได้ไปแตะรูปบนแท็บแล็ตเบาๆ
ก็คือรูปที่ ลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงกินข้าวกันเมื่อวาน
ความเร็วแผนกประชาสัมพันธ์ของลี่ซื่อกรุ๊ปก็เร็วไม่เบา ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รูปของเขาและสวี่รั่วฉิงกินข้าวกันเมื่อวานถูกลบออกไปหมดแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งมีสีหน้าที่เยือกเย็น เย็นจนเยื่อแข็ง
หลี่อานฝืนใจมาบอกว่า: “ประธานลี่ คนที่โพสต์รูปนี้เราได้สืบมาแล้วนะครับ เขาเป็นแค่ลูกคนรวยธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสวี่ซื่อกรุ๊ปใดๆ ทั้งสิ้น”
“ไปเตือนเขา ต่อไปอย่าโพสต์อะไรแบบนี้อีก ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ถ้าเจอแบบนี้อีก เขารอขึ้นศาลได้เลย” ลี่ถิงเซิ่งเงียบไปสักพัก และเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ และพูดเพิ่มเติมว่า: “เรื่องนี้ไม่ต้องบอกแอนนานะ”
ขณะเดียวกัน ในบ้านพักตากอากาศของ ลี่ถิงเซิ่ง คนใช้ได้นำรูปที่เก็บไว้ไปให้สวี่รั่วยีดู ยิ่งดูสวี่รั่วยีก็ยิ่งมีสีหน้าที่ไม่ดี
เธอมองไปที่คนใช้และพูดออกมาว่า: “ฉันรู้แล้ว ออกไปก่อนนะ”
พูดจบเธอเอาแหวนออกมาจากกล่องเครื่องประดับ และใส่ในมือของคนใช้
คนใช้จากไปแล้วเธอได้ไปเปิดตู้เซฟ เอายาที่ก่อนหน้านี้ที่คุณนายสวี่เป็นคนให้
สวี่รั่วยีมองไปที่ผงสีขาวและกำขวดไว้แน่น
ยังไม่รีบจัดการ ผู้หญิงเลวอย่างแอนนาจะต้องแย่งลี่ถิงเซิ่งไปจากเธอแน่นอน
หลายวันแล้ว ลี่ถิงเซิ่งยังไม่ได้กลับมาเลย
ได้ยินคนใช้บอกว่า เขาให้คนไปเก็บกวาดบ้านที่เฉินซานและหลายวันที่ผ่านมาเขาก็นอนค้างคืนที่เฉินซาน
สวี่รั่วยีกำขวดที่อยู่ในมือไว้แน่นและเล็บของเธอได้ทิ่มเข้าไปอยู่ที่อุ้มมือ