ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 597 โจมตีตระกูลชิวก่อน!!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 597 โจมตีตระกูลชิวก่อน!!

บทที่ 597 โจมตีตระกูลชิวก่อน!!

ภายในของตระกูลเสวียน ผู้ที่นั่งอยู่ล้วนเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อดินแดนแห่งนี้

กู่จินเจานั่งลงทางทิศตะวันออก ข้างกายเขาคือกู่อี้เจี้ยนที่กำลังอุ้มกระบี่ไว้ ดวงตาหลุบต่ำลง และมีปราณกระบี่ล้อมอยู่รอบ ๆ ตัว

“ถึงแม้ว่าอาณาเขตตำหนักประตูสวรรค์จะไม่ใหญ่มากนัก แต่ตระกูลทั้งเก้าก็อยู่ร่วมกันมานานหลายปีแล้ว ตอนนี้ตระกูลซ่งเป็นตระกูลใหญ่ที่สุด และยังกดดันให้แปดตระกูลที่เหลือยอมสวามิภักดิ์อย่างเต็มที่ ถ้าหากเราโจมตีโดยปุบปับ พวกเขาจะต้องร่วมมือกันต่อต้านเราอย่างแน่นอน!”

“อีกทั้ง สมรภูมิยังอยู่ใกล้ ๆ กับตำหนักประตูสวรรค์ ข้าเกรงว่า ไม่ว่าอย่างไรเราก็จะต้องสูญเสียไปบ้าง”

กู่จินเจาเอ่ยช้า ๆ ในตอนนี้ พวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อจะทำลายตำหนักประตูสวรรค์ทั้งหมด

แต่ด้วยพลังของพวกเขาในตอนนี้ มันก็เพียงพอที่จะบดขยี้ได้แน่แล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องใช้กำลังทั้งหมดในการต่อสู้จนราบเป็นหน้ากลอง แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำลายล้างตำหนักประตูสวรรค์จนหมดสิ้นได้เช่นกัน ทว่าสิ่งใดคือหนทางที่จะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้นพวกเขาควรไตร่ตรองให้มากที่สุดในตอนนี้

หากว่ากดดันเข้าไปอย่างเต็มที่ ตำหนักประตูสวรรค์อาจจะต้องจนมุมราวสุนัขจนตรอก และหากว่าทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อลู่หยวนได้เช่นกัน

ถึงอย่างไรเสีย ครั้งหนึ่ง ลู่หยวนก็เคยมีบัญชาอันเด็ดขาดมายังเสวียนเทียนชวน กู่จินเจา และฉินหยี่หาน ว่าต้องปกป้องแดนมัชฌิมและราชวงศ์อู๋ซวงไว้ให้จงได้

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถสูญเสียอะไรไปมากได้

“ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้องแล้ว”

เสวียนเทียนชวนพยักหน้า มุมปากเผยรอยยิ้มออกมา “ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงตัดสินใจที่จะทำให้มันรวดเร็วและเด็ดขาด! และสมรภูมินั้นก็จะไม่เกิดขึ้นที่ตำหนักประตูสวรรค์! แต่จะอยู่ในแดนมัชฌิมของเรา!”

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็มองไปที่เสวียนเทียนชวน เหล่าบุคคลที่สามารถนั่งอยู่ในที่แห่งนี้ได้ ล้วนมีวิสัยทัศน์ และสามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้อย่างชัดเจน

หากทำให้มันรวดเร็วและเด็ดขาด ก็คงทำได้ โดยการวางแผนอย่างแยบยลแล้วก็ระดมกำลังทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน

ทว่าสมรภูมินี้ ไม่ว่าจะดูอย่างไรแล้วก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นที่แดนมัชฌิมได้!

“ทุกท่านจงวางใจเถิด”

เสวียนเทียนชวนกำหมากรุกสามเม็ดไว้ในมือ เขามั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่า “การต่อสู้ครานี้ ไม่ต้องให้เราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ตำหนักประตูสวรรค์เองก็คงจะมีคนใจร้อนกว่าข้า!”

“ส่วนเรา ก็แค่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้พวกนั้นอดรนทนไม่ได้ก็พอ!”

ดวงตาของเสวียนเทียนชวนมองออกไปเบื้องนอก ตอนนี้ซ่งชิงจากไปแล้ว ตำหนักประตูสวรรค์ก็มีกวนผิงซื่อเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์

เมื่อเอ่ยถึงกวนผิงซื่อ เสวียนเทียนชวนก็พอจะมีมิตรภาพกับเขาอยู่บ้าง

กวนผิงซื่อพอจะมีความรู้เรื่องมนตร์คาถาอยู่บ้างเช่นกัน และเขายังสามารถทำนายดวงชะตาได้

ด้วยความสามารถในการควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยอดเยี่ยม เสวียนเทียนชวนกล้าเอ่ยได้เต็มปากว่าตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ในปัจจุบัน หากส่งมอบให้กับกวนผิงซื่อ เขาผู้นั้นย่อมสามารถทำได้ดีเยี่ยม!

แสดงให้เห็นว่าคนผู้นี้มีความสามารถไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ทว่าเพราะเสวียนเทียนชวนเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความสามารถของกวนผิงซื่อที่มากถึงขั้นนี้ เขาจึงต้องรีบลงมือ!

กวนผิงซื่อกับเขาเองก็คล้ายกัน ตรงที่หากจะเอ่ยถึงเรื่องความแข็งแกร่งแล้ว ถึงแม้ว่าจะเหนือกว่าคนทั่วไปในโลกนี้ แต่จะให้ถึงขั้นเป็นอันดับต้น ๆ ของใต้หล้าก็ยังไม่อาจเอ่ยได้ ถึงกระนั้นก็ยังสามารถปกป้องแผ่นดินของตนเองได้อยู่ดี

แต่พวกเขาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ทั้งคู่ต่างก็อยากจะไขว่คว้าบางสิ่งบางอย่าง เช่นอำนาจหรือความรุ่งเรืองของตระกูล!

เสวียนเทียนชวนได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งแทนลู่หยวน รวมถึงคุมกำลังของลู่หยวนทั้งหมด กล่าวได้ว่าตอนนี้เทียบเท่ากับเป็นเจ้าของแคว้นไปแล้ว แดนมัชฌิม เขตบูรพา และแดนเหนือ เพียงแค่เสวียนเทียนชวนเอ่ยคำเดียว ก็สามารถทำให้ทั้งสามแผ่นดินนี้สั่นสะเทือนได้

ภายใต้การกุมอำนาจอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ เสวียนเทียนชวนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในวันธรรมดาจะวุ่นวายมาก แต่เขาก็เต็มใจที่จะอุทิศทั้งชีวิตให้กับความวุ่นวายนี้ ความรู้สึกที่ได้กอบกุมอำนาจเอาไว้ แล้วยังสามารถสั่งการได้ทั้งใต้หล้านั้น ทำให้ความปรารถนาของเขานั้นเป็นจริง

และกวนผิงซื่อก็เป็นเช่นนั้น เขาเป็นคนประเภทเดียวกับเสวียนเทียนชวน

เขาปรารถนาที่จะได้กุมอำนาจไว้ในมือสักฝ่าย แม้ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นจัดการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความสุข

บัดนี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลังการบ่มเพาะมานานหลายปี ในที่สุดกวนผิงซื่อก็ได้ครอบครองอาณาจักรทั้งสาม ได้แก่ อาณาจักรประจิม ทะเลใต้ และ ตำหนักประตูสวรรค์

แต่แล้วในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างก็เกือบพังทลาย เหลือตำหนักประตูสวรรค์เพียงแห่งเดียว!

ตำหนักประตูสวรรค์เป็นของตระกูลซ่งอย่างแท้จริง และซ่งชิงซึ่งอยู่ที่นั่นก็มีสิทธิ์สั่งการอย่างเบ็ดเสร็จ

นั่นก็เพราะว่าซ่งชิง คือคุณชายรองแห่งตระกูลซ่ง!

หากซ่งชิงจากไป กวนผิงซื่อก็จะต้องถูกยึดคืนอำนาจอย่างแน่นอน!

ตระกูลอื่น ๆ อีกแปดตระกูล ย่อมรู้กันดีที่สุด เพียงแต่ว่ากวนผิงซื่อเป็นคนของ ซ่งชิง จึงให้เกียรติเขาอยู่บ้าง และไม่กล้าเอ่ยอันใด แต่หากคิดจะสั่งการคนเหล่านี้ นั่นก็แทบจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน

ไม่ใช่เพียงตระกูลทั้งแปดนี้ แม้แต่ตระกูลซ่งก็ยังเกรงว่ากวนผิงซื่อก็ยากที่จะสั่งการผู้คนจากที่นั่นได้

ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้แล้ว คนที่กวนผิงซื่อจะสามารถใช้การได้ ก็คือคนกลุ่มหนึ่งที่ซ่งชิงเลี้ยงดูมาด้วยตนเอง ซึ่งก็มีไม่มากนัก เป็นจำนวนราว ๆ พันคน แต่คนเหล่านี้ก็มิใช่แม่ทัพที่เก่งกล้าเสียทุกคน!

เสวียนเทียนชวนหรี่ตาลง เขาสามารถฟันธงได้เลยว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้กวนผิงซื่อกล้าบุกโจมตีก่อน ก็เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายเป็นคนเย่อหยิ่งอย่างมาก เขาจะต้องกลับมาทวงคืนชัยชนะยังจุดที่ตัวเองเคยพ่ายแพ้เป็นแน่

ในชั่วข้ามคืนหนึ่ง กองกำลังที่กวนผิงซื่อก่อตั้งขึ้นถูกโจมตีอย่างสายฟ้าแลบจากลู่หยวน และได้พ่ายแพ้ในเวลาอันรวดเร็ว

แม้เสวียนเทียนชวนกับกวนผิงซื่อจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และแม้ว่ากองกำลังเหล่านี้กำลังจะขัดแย้งกันเองอยู่ร่อมร่อ แต่ก็ไม่น่าจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ในทันทีที่เพิ่งไปประจำการได้

แต่ข้อเท็จจริงเช่นนี้ กลับเป็นการสื่อถึงความอ่อนหัดของกวนผิงซื่อเสียเอง!

กวนผิงซื่อกับเสวียนเทียนชวนต่างก็รู้ดีว่า ในเมื่อเจ้านายของพวกตนจากไปแล้ว ทั้งสองคงจะต้องมีการปะทะกัน

ทว่าสงครามครั้งนี้ผู้ใดจะเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อนนั้น ต่างฝ่ายก็ล้วนคิดใคร่ครวญกันอยู่

ในความคิดของกวนผิงซื่อนั้น หากรอให้เสวียนเทียนชวนเปิดฉากโจมตีก่อน เกรงว่าก็คงยกทัพเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลานั้นก็คงต้องสู้รบกันอย่างยากลำบาก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตำหนักประตูสวรรค์ขับไล่พวกเขาไปได้ ก็คงต้องปิดประตูไม่ยอมสู้รบอีกแล้ว เสวียนเทียนชวนก็คงจะสูญเสียไปไม่มากนัก

การรอคอยไม่สู้การเคลื่อนไหว กวนผิงซื่อจะต้องคิดหาวิธีเปิดฉากโจมตีก่อน เพื่อไม่ให้เสวียนเทียนชวนได้ทันตั้งตัว!

เมื่อคิดเช่นนี้ เสวียนเทียนชวนก็หยิบยันต์ออกมาหลายแผ่นแล้วมอบให้ทุกคน “ทุกท่าน ยันต์นี้สามารถใช้ในการติดต่อกันได้ หากมีอะไรเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่ทุกท่านรับผิดชอบ ก็สามารถใช้ยันต์นี้ได้เลย! ส่วนเจิ้งชิงเทียน เทียนเม่ยเอ๋อร์ และฉินหยี่หาน ข้าจะแจ้งให้ทราบทีละคน แดนมัชฌิมแห่งนี้ ไม่มีทางที่กวนผิงซื่อจะกล้ารุกล้ำเข้ามาอย่างง่ายดาย เมื่อมองดูสถานการณ์ในตอนนี้ ในความคิดของข้า ตระกูลชิวที่เจิ้งชิงเทียนรับผิดชอบอยู่อาจจะเป็นจุดที่สามารถตีแตกได้เป็นจุดแรก!”

“เช่นนั้น เราต้องเตรียมตั้งรับได้แล้ว!”

เสวียนเทียนชวนยิ้มอย่างมีความสุข

ในตำหนักประตูสวรรค์

กวนผิงซื่อและซ่งชิงพร้อมด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาอีกไม่กี่คนมารวมตัวกัน ตรงกลางโต๊ะคือแผนที่หยวนหงขนาดใหญ่

คราวนี้ที่ซ่งชิงต้องออกไป เขาได้พาผู้แข็งแกร่งมากมายติดตามไปด้วย ผู้ที่เหลืออยู่ตอนนี้ ล้วนไม่มีความสามารถโดดเด่น แต่ก็มีข้อดีตรงที่เชื่อฟังคำสั่ง

ชายผู้หนึ่งเริ่มเอ่ยก่อน “ท่านกวน ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณชาย พวกเราจะติดตามท่านไปทุกที่ ท่านคิดว่าเราควรโจมตีที่ใดก่อน?”

กวนผิงซื่อมองแผนที่ พลางคำนวณอยู่ในใจ คราวนี้ เขาอ้างว่าเป็นคำสั่งลับของซ่งชิง จึงสามารถเกณฑ์คนเหล่านี้ให้ติดตามเขาและสาบานว่าจะจงรักภักดีได้สำเร็จ ก็นับว่าดีที่คนเหล่านี้รู้งานกว่าในยามปกติ อีกทั้งซ่งชิงไว้วางใจกวนผิงซื่ออย่างถึงที่สุดจึงมิได้ถามอะไรเพิ่มเติม แล้วก็ตกลงตามที่เขาเอ่ยทุกประการ

ไม่กี่อึดใจต่อมา กวนผิงซื่อก็ชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ แล้วกล่าวว่า “เราจะโจมตีตระกูลชิวก่อน!”

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท