เสียงของลี่ถิงเซิ่งทั้งเย็นชาและเยือกเย็น
เขาเหลือบมองไปที่ผู้บริหารที่กำลังเปิดโทรศัพท์มือถือ เขาจึงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขายิ้มมุมปากและถามว่า ริมฝีปากของเขาก็ขยับขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ” เรื่องอะไรทำไมน่ายินดีนัก น่าดึงดูดมากกว่าการพัฒนาของบริษัทหรือ”
ผู้บริหารระดับสูงที่ลี่ถิงเซิ่งถามนั้น ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ประธานลี่ครับ ไม่มีอะไรจริงๆ”
หลี่อานเดินเข้าไปและยิ้ม ” ผู้จัดการเฉิน คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับ”
ชายที่ถูกเรียกว่าผู้จัดการเฉินนั้นไม่มีทางเลือก จึงต้องส่งโทรศัพท์ไปให้หลี่อาน
หลี่อานมองดูและเงียบทันที
ไอบ้านี้เป็นคลิปตัดฉากจูบในโฆษณาของผู้ช่วยแอนและนายแบบไม่ใช่หรือ!
ถ้าประธานลี่เห็น การประชุมนี้คงจบสิ้นอย่างแน่นอน
ใบหน้าของหลี่อานเต็มไปด้วยความมืดมน เขามองจ้องไปที่ผู้จัดการเฉินอย่างแรง
หลังจากนั้นหลี่อานก็ได้คืนโทรศัพท์ให้ผู้จัดการเฉิน แล้วเดินไปที่ข้างๆของลี่ถิงเซิ่งและกระซิบ
คิ้วของลี่ถิงเซิ่งขมวดหนักมาก
สีหน้าที่มืดมนเมื่อสักครู่นั้นก็แย่ลงกว่าเดิม
ในห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ และผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ใกล้ลี่ถิงเซิ่งนั้นรู้สึกว่าอากาศรอบตัวของตนเย็นลงอย่างมาก
หลังจากเงียบไปสองสามนาทีลี่ถิงเซิ่งก็เคาะบนโต๊ะเบาๆ: “รายงานต่อได้”
เสียงที่ไม่แยแสและเย็นชานั้นทำให้ทุกคนในห้องประชุมหยุดหายใจ
มีเพียงผู้จัดการเฉินเมื่อสักครู่เท่านั้นที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ประธานลี่ปล่อยเขาไปง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ? วันนี้เขาโชคดีเกินไปรึเปล่า?
หลังการประชุมจบสิ้น ลี่ถิงเซิ่งไม่รอช้าในห้องประชุมเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เขายืนขึ้นอย่างแน่วแน่ และเดินตรงไปที่ประตูด้วยขาที่เรียวยาวของเขา
ระหว่างทาง เมื่อทุกคนเห็นลี่ถิงเซิ่ง พวกเขาทำได้แค่ก้มหน้าและกล่าวอย่างเคารพว่า “ประธานลี่”
เมื่อมองดูเงาร่างที่จากไปอย่างแน่วแน่ของลี่ถิงเซิ่งแล้ว พนักงานของบริษัทก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดา ว่า เกิดอะไรขึ้นกับประธานลี่หรือ? เขากินระเบิดมารึเปล่า?
ลี่ถิงเซิ่งกลับไปที่ห้องทำงาน เขาดึงเนคไทออกจากคอแล้วนำไปวางไว้บนที่วางแขนของโซฟา
ตอนนี้สวี่รั่วฉิงไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน เธอทำการปรุงน้ำหอมอยู่ที่ห้องปฏิบัติการของแผนกปรุงน้ำหอม
ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกหงุดหงิด คำพูดที่หลี่อานบอกเขาเมื่อสักครู่นั้นยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา
“ประธานลี่ วันนี้เป็นวันที่โฆษณาที่แอนนาแสดงออกอากาศ สิ่งที่ผู้จัดการเฉินดูเมื่อสักครู่นั้นคือโฆษณาครับ”
ริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งกดแน่นเป็นเส้นตรง
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา สุ่มคลิกดูสื่อบนเวยป๋อ มีรีโพสต์โฆษณาของสวี่รั่วฉิง
ผู้หญิงในโฆษณาสวมเสื้อแจ็กเกตกีฬาสมัยเรียน และผมหางม้ามัดสูงสีดำเผยให้เห็นหูที่ถูกปกปิดไว้ในช่วงที่ผ่านมา
หูนั้นเล็กมาก ขาวๆ ทำให้เขารู้สึกอยากกัดกินขึ้นมา
ดวงตาสีดำของลี่ถิงเซิ่งนั้นมืดมนลงในทันที
มือที่เห็นกระดูกข้อได้อย่างชัดเจนถือโทรศัพท์มือถือไว้แน่น
แถบของคลิปโฆษณานั้นยังคงเดินต่อ แสงอาทิตย์นั้นส่องลงบนใบหน้าที่ขาวสวยของสวี่รั่วฉิงและมองเห็นขนปุยสีทองบนใบหน้าได้ชัดเจน
หญิงสาวนั้นหลับตาแน่น ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย
มือที่เล็กกว่ามือของผู้ชายอย่างมากนั้นจับไปที่เสื้อนักเรียนของชายที่กำลังจะจูบเธอ
พวกเขาเข้าหากันอย่างช้าๆ อย่างช้าๆ
ลี่ถิงเซิ่งก็กดล็อกโทรศัพท์ทันที แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ
เขาหันกลับมาแล้วเข้าไปที่ห้องนอนในห้องทำงาน และเปิดประตูห้องน้ำมาอย่างไม่คิดอะไร
ไม่นานก็มีเสียงน้ำดังขึ้นในห้องน้ำ
ลี่ถิงเซิ่งอาบน้ำเย็นไปอย่างรวดเร็ว และขจัดความหงุดหงิดของร่างกายและจิตใจออกด้วยน้ำเย็น
เขาถอนหายใจออกด้วยความโล่งอก แล้วสวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกจากห้องน้ำ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สวี่รั่วฉิงกลับมาที่ห้องทำงาน และเห็นว่าผมของลี่ถิงเซิ่งที่ใส่ชุดสูทอยู่เปียกเล็กน้อย น่าแปลกใจ
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นด้วยแววตาที่เย็นชาและลึกล้ำ
วันนี้เธอแตกต่างไปจากวันที่เธอถ่ายโฆษณาโดยสิ้นเชิง
ตอนที่ถ่ายทำโฆษณา เธอแทบไม่แต่งหน้าเลย แต่ตอนนี้เธอกลับแต่งหน้าจัดเต็ม ริมฝีปากสีแดงราวกับปีศาจในทะเลที่ยั่วยวนใจผู้ชาย
ลี่ถิงเซิ่งถามคำถามที่ทำให้สวี่รั่วฉิงตกตะลึงและสับสนออกมา
“วันนั้นพวกคุณจูบกันหรือเปล่า”
“อะไรนะ?” สวี่รั่วฉิงเงยหน้าขึ้นและสบตากับดวงตาสีเข้มของสวี่รั่วฉิง
ดวงตาสีดำสนิทของชายผู้นี้ดูเหมือนจุดประกายไฟขึ้น แววตาที่แผดเผานั้นทำให้และสวี่รั่วฉิงหายใจเข้าอย่างลึกๆ นั่นคือแววตาของสัตว์กินเนื้อที่จับจ้องไปที่เหยื่อ
นั่นคือแววตาที่นักล่าจ้องมองเหยื่อ
“ประธานลี่คะ คุณหมายถึงการถ่ายโฆษณาในวันนั้นใช่หรือไม่คะ” สวี่รั่วฉิงนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ถ่ายทำฉากจูบในวันนั้น ลี่ถิงเซิ่งได้ออกไปแล้ว
เธอถามลี่ถิงเซิ่งด้วยความติดตลกว่าเขาหึงเธอรึเปล่า
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองเธอเบา ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร
สวี่รั่วฉิงครุ่นคิดและตอบกลับไปว่า ” ใช้มุมกล้องค่ะ ไม่ได้สัมผัสกันเลยแม้แต่น้อยค่ะ”
ลี่ถิงเซิ่งเดินไปที่โต๊ะของสวี่รั่วฉิงอย่างไม่รีบร้อน และมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กๆในชุดสูทด้วยแววตาที่คนอยู่สูงกว่ามองลงไป
เห็นได้ชัดว่าคำตอบของหญิงสาวไม่สามารถทำให้เขาหายหงุดหงิดในใจได้
แม้จะมุมกล้อง แต่ว่าภาพนั้นก็ยังติดอยู่ในความคิดของเขาไม่หายไป
สวี่รั่วฉิงลุกขึ้นเล็กน้อยแล้วโบกมืออยู่หน้าชายคนนั้น “ประธานลี่? วันนั้นคุณดูแค่ครึ่งเดียวก็หายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ซีนแบบนี้เป็นมุมกล้องทั้งนั้นเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นแฟนคลับของนายแบบจะคิดว่าฉันฉวยโอกาสเขาอย่างแน่นอน ”
แววตาของลี่ถิงเซิ่งเป็นประกาย ปกติแล้วเขาควบคุมตัวเองได้อย่างดี แต่ในเวลานี้ การเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่าความคิดของเขาเสียอีก
มือข้างหนึ่งของเขาโอบเอวของสวี่รั่วฉิงไว้ ในขณะที่มืออีกข้างโอบหลังศีรษะของผู้หญิงไว้
จูบนี้แตกต่างจากจูบในทุกครั้งที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับการบุกรุกเมือง เมื่อมันเริ่มขึ้นก็ไม่มีทางที่จะหยุดลงได้
สวี่รั่วฉิงทำเหมือนตอนถ่ายโฆษณา เธอจับที่สูทของชายคนนี้ไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองร่วงลงกับพื้น จูบของชายคนนี้นั้นรุนแรงอย่างมาก แทบจะใช้อากาศในปอดของเธอไปจนหมด
มันแตกต่างจากการจูบตอนถ่ายโฆษณาอย่างสิ้นเชิง สวี่รั่วฉิงครุ่นคิด
ในเวลานั้นเธอรู้สึกเพียงแค่ว่าเธอกำลังทำงาน ไม่รู้สึกใจเต้นแรงเลย
แต่ในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าถ้าหากลี่ถิงเซิ่งไม่ได้โอบเอวของเธอไว้ และเธอไม่ได้จับเสื้อผ้าของเขาไว้แน่น เธออาจจะลื่นล้มราวกับโคลนเหลวไปแล้ว
ขาเธออ่อนแรง สมองของเธอก็อ่อนนุ่มราวกับขนมสายไหม เธอคิดอะไรไม่ออก
ดูเหมือนว่าลี่ถิงเซิ่งจะรู้สึกถึงความเหม่อลอยของหญิงสาว จึงลงแรงกับมือที่โอบเอวเธอไว้
สวี่รั่วฉิงทนเจ็บเล็กน้อย แต่ปล่อยให้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้อีกนิด
จมดิ่งลงไปจนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้
สวี่รั่วฉิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการจูบนี้สิ้นสุดลงเมื่อใด
เธอจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากจูบนี้สิ้นสุดลงแล้ว เธออ่อนแรงอย่างมาก ทำได้เพียงพิงกายลงที่ผู้ชายคนนี้อย่างนุ่มนวลเท่านั้น
แขนขาของเธออ่อนแรง
เธอรู้สึกเจ็บแสบๆที่ปาก ไม่ต้องคิดอะไรมากมันต้องบวมแน่ๆ ใบหน้าของสวี่รั่วฉิงซบอยู่ที่อกของชายคนนี้ และครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงกลับมามีแรง เธอเงยหน้าขึ้น
ดวงตาอันน่าสยดสยองของชายผู้นั้นร้อนแรง ราวกับว่าเขาต้องการจะกินเธอ
บนริมฝีบางๆนั้น มีรอยลิปสติกสีสดของเธอติดอยู่
เขาดูยั่วยวนมากกว่าผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอ