แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
บทที่146 ประธานลี่เมื่อคืนฉันคงไม่ได้พูดภาษาเมาใช่ไหม
สวี่รั่วฉิงพอได้ยินว่าไม่ต้องบอกพาสเวิร์ดบัตรธนาคารให้ชายหนุ่ม ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
อีกอย่างดูเหมือนลี่ถิงเซิ่งไม่ได้คัดค้านอะไรที่จะต้องเลี้ยงดูหล่อน
งั้นหล่อนคงไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้วสินะ!เอาเป็นว่าเธอชอบใบหน้าของชายหนุ่ม และก็ชอบรูปร่างของเขา ใช้เงินเป็นการแลกเปลี่ยนนี่คิดน้อยสุดแล้ว!
ลี่ถิงเซิ่งตาละห้อย กวาดแววตาไปที่นาฬิกา ที่ปารีสเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว
อีกอย่างดื่มเมาแล้วด้วย
ลี่ถิงเซิ่งฟังคำเพ้อของสวี่รั่วฉิงอย่างค่อยเป็นค่อยไป พูดเสียงเรียบ“พักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมดื่มน้ำชาแก้สร่างเมาล่ะ”
สวี่รั่วฉิงเองก็ไม่รู้ว่าได้ยินคำสั่งของลี่ถิงเซิ่งหรือเปล่า
เธอง่วงจัดมาก เปลือกตาบนล่างกำลังตีกันพัลวัน
นับแต่เธอได้ยินว่าลี่ถิ่งเซิ่งตกลงที่จะเลี้ยงดูเธอ จึงค่อยสบายใจ ความง่วงงุนก็ค่อยเข้ามาอย่างเด่นชัด
เธอขานรับ“อืม”อย่างสะลึมสะลือ โยนมือถือไปไว้ข้างหมอน
เสียงนอนหลับสบายของหญิงสาวดังลอดออกมาจากโทรศัพท์
ลี่ถิ่งเซิ่งส่ายหน้า แบบนี้ก็หลับได้ด้วย
พอเขาวางสายโทรศัพท์ แล้วจึงวางโทรศัพท์ลงบนข้างโต๊ะ เปลือยท่อนบน เดินไปที่ห้องน้ำอาบ
……
ซี๊ด ปวดหัวเหลือเกิน สวี่รั่วฉิงนวดขมับตนเอง แล้วคลานขึ้นมาจากเตียง
เธอพิงอยู่ที่หัวเตียง มือหนึ่งค่อยๆคลึงจุดชีพจร พวกย้อนคิดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน
จิ่วเอ๋อร์มาดื่มไวน์กับเธอเมื่อคืน พอคุยกันเมามันส์ ทั้งคู่ก็ดื่มมากขึ้น
ดูท่าความทนเหล้าของเธอจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปมากสักเท่าไหร่ ดื่มไวน์นิดเดียวก็เมาได้ด้วยเหรอ สวี่รั่วฉิงยิ้มอย่างอ่อนใจ เตรียมที่จะลงไปขอน้ำชาสักถ้วยจากสาวใช้ตระกูลซู
จู่ๆ สวี่รั่วฉืงคลำไปเจอสิ่งของทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของตัวเอง
สวี่รั่วฉิงชะงักเล็กน้อย หลังจากที่คลำอยู่บนเตียงเป็นนาน จึงค้นพบว่าวัสดุแข็งชิ้นนี้เป็นโทรศัพท์มือถือของเธอเอง
หน้าจอโทรศัพท์ยังค้างบทสนทนาที่คุยค้างไว้เมื่อคืน
เมื่อคืนหล่อนโทรคุยกับใครเหรอ
สวี่รั่วฉิงตกใจ ความทนเหล้าของเธอไม่ค่อยแกร่งนัก สวรรค์รู้ว่าพอเมาแล้วเธอจะพล่ามอะไรออกไปได้บ้าง
เธอรีบตัดไปที่หน้าจอบันทึกการโทร ตัวอักษรสามตัว“ลี่ถิงเซิ่ง”โชว์อยู่ ทำให้สวี่รั่วฉิงตกตะลึงจนทรุดลงไปกับพื้น
เมื่อคืนคนที่คุยกับเธอคือลี่ถิงเซิ่งเหรอ
เธอคงไม่ได้พูดมั่วอะไรออกไปหรอกเนอะ
สวี่รั่วฉิงคำนวณเวลาดู ตอนนี้ที่ปารีสเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า เธอยังมีเวลาล้างหน้าล้างตาอีกสามชั่วโมง
ตอนนี้ที่เมืองหลินชวนเป็นเวลาบ่ายโมงตรง ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย
สวี่รั่วฉิงไม่แม้แต่จะคิด เธอเปิดเบอร์ของลี่ถิงเซิ่งขึ้น ในตอนที่เตรียมจะโทร เธอคึกขึ้นมา
ครู่ใหญ่ เธอส่งข้อความไปหาลี่ถิงเซิ่งข้อความหนึ่งอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ประธานลี่ เมื่อคืนฉันคงไม่ได้พูดภาษาเมาใช่ไหม”สวี่รั่วฉิงถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
หลังจากนั้นหนึ่งนาที สวี่รั่วฉิงก็ได้รับคำตอบจากลี่ถิงเซิ่ง
เธอเปิดเสียงฟัง น้ำเสียงทุ้มต่ำของลี่ถิงเซิ่งจึงลอดออกมา
“คุณบอกว่าจะรับเลี้ยงผม”
สวี่รั่วฉิง“………………”
เธอนิ่งงันไปหนึ่งนาที แล้วยัดโทรศัพท์กลับลงไปใต้หมอน กระโดดขึ้น วิ่งไปที่ห้องน้ำ
ขอเพียงเธอไม่ได้ยิน เธอก็จะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
อ๋าๆๆๆ เมื่อคืนเธอพูดกับลี่ถิงเซิ่งแบบนี้จริงๆเหรอ
เดิมทีจิ่วเอ๋อร์แค่ล้อเล่น เธอจะไปกล้าเลี้ยงดูลี่ถิงเซิ่งได้อย่างไรกัน!
ต่อให้เอาเธอไปขายสักสิบคนยังไม่พอที่จะเลี้ยงใครบางคนแม้เพียงคืนเดียวเลย
ตอนที่สวี่รั่วฉิงเดินออกมาจากห้องน้ำ มีหมอกควันลอยคลุ้งตามออกมา
เธอสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ เปิดประตู
พอเห็นสาวใช้ตระกูลซูรออยู่ที่หน้าประตูเป็นที่เรียบร้อย“คุณสวี่ คุณอี้หานกับ คุณชายยังหลับอยู่เลยค่ะ คุณจิ่วเอ๋อร์บอกว่าเมื่อวานคุณดื่มเหล้า เมื่อครู่ทางห้องครัวเตรียมน้ำชาสร่างเมาเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
สาวใช้ยกถาดมา เป็นน้ำชาสร่างเมาที่เพิ่งต้มเสร็จพอดี
สวี่รั่วฉิงยิ้มอ่อนให้สาวใช้“ขอบใจนะ”
หลังจากที่เธอดื่มน้ำชาสร่างเมาเรียบร้อย ในระหว่างทางที่เดินไปห้องของสวี่อี้หานกับสวี่อี้ฝาน เห็นซูจิ่วเอ๋อร์ที่ยืนหาวหวอดๆพอดี
ในมือของซูจิ่วเอ๋อร์ประคองน้ำชาสร่างเมา แล้วจึงหาวหวอดๆขึ้นอีกครั้ง“เมื่อคืนหลับไม่สนิทเลย ต่อไปก่อนนอนคงดื่มได้แค่แก้วเดียวแล้วล่ะ รั่วฉิงเธอล่ะ ยังปวดหัวไหม เมื่อคืนนอนหลับดีใช่ไหม”
สวี่รั่วฉิงคิดถึงคำพูดในโทรศัพท์ของลี่ถิงเซิ่ง สั่นเทิ้มไปทั้งตัว รีบส่ายหน้าพัลวัน“ก็ดี”
“งั้นเหรอ”ซูจิ่วเอ๋อร์มองสวี่รั่วฉิงอย่างมีเลศนัย ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
ในหัวของสวี่รั่วฉิงมีแต่คำพูดของลี่ถิงเซิ่ง แม้แต่อาหารเช้าก็กินแบบใจลอยอย่างกับวิญญาณหลุดจากร่าง
คุณผู้หญิงซูดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ วางมือลงจากช้อนซุป ถามอย่างห่วงใย“รั่วฉิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะ ถ้าไม่สบาย เรื่องที่จะไปสวนวันนี้ก็ให้ลูกน้องไปจัดการแทนได้นะ”
สวี่อี้หานกับสวี่อี้ผานก็จ้องไปที่ใบหน้าของสวี่รั่วฉิง“นั่นสิคะ/ครับ วันนี้คุณแม่ใจลอยเหลือเกิน เป็นอะไรไป”
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้า บอกว่าไม่เป็นไร
แต่ในใจกลับอยากสับตัวเองออกเป็นหมื่นชิ้น
เมื่อคืนเธอพูดอะไรไม่ดีออกไป ทำไมต้องเอาเรื่องที่พูดกับจิ่วเอ๋อร์พูดให้ลี่ถิงเซิ่งฟังด้วย
หลังอาหารสวี่รั่วฉิงเอามือกุมหน้า เธอรู้สึกว่าตั้งแต่กลับมาที่หลินชวน ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับลี่ถิงเซิ่งยังไงดี
เมืองหลินชวน ในเวลาเดียวกัน
วันนี้อารมณ์ของลี่ถิงเซิ่งดีใช้ได้ ในการประชุมการตรวจสอบบัญชี หลังจากที่เขาตำหนิออกไปอย่างเข้มงวด ก็ไม่ได้มีมาตรการลงโทษอะไรอีก
หลี่อานนิ่งอึ้งไป
วันนี้ประธานลี่ไปเจอเรื่องอะไรดีๆมา ทำไมถึงอารมณ์ดีขนาดนี้
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มมุมปาก ส่งเอกสารบนโต๊ะให้หลี่อาน น้ำเสียงแสดงความขนลุก“สกุลสวี่เคลื่อนไหวแล้ว”
หลี่อานรับเอกสารไป พลิกดู“ประธานลี่ พวกเรายังต้องรออีกไหม เห็นๆอยู่ว่าสกุลสวี่เพื่อที่จะทำให้เข้ากับน้ำหอมของแอนนา เลยนำเสนอสินค้าอื่นๆไม่ได้ก็เลยได้แต่รีบนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตัวเอง”
หลี่อานโมโหเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่าโยนหินถมบ่อ
“ถ้าเกิดแอนนาเจรจกับดิสทรีบิวเตอร์เมืองนอกล้มเหลวล่ะ……”
ลี่ถิงเซิ่งกลอกลูกตาขึ้น ค่อยๆเปิดปากพูด“คุณรู้จักตระกูลซูมั้ย”
หลี่อานตะลึง“ใครไม่รู้บ้างเล่า ทรัพย์สินตระกูลซูส่วนใหญ่อยู่เมืองนอก คราวที่แล้วคนที่ไปรับแอนนาที่สนามบิน เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซู ชื่อซูจิ่วเอ๋อร์”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเจื่อน“ตระกูลซูมีสวนสมุนไพรอยู่ที่ฝรั่งเศส”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งหลุบตาลง โบกมือเป็นสัญญาณให้หลี่อานไปได้แล้ว
หลี่อานจึงได้สติกลับ“มิน่าประธานลี่ดูไม่เป็นห่วงเลย!”
ถ้าแอนนากับซูจิ่วเอ๋อร์สนิทกันขนาดนี้ ซูซื่อกรุ๊ปก็คงไว้หน้าแอนนาบ้างแหละ
แต่หลี่อานกลับไม่เห็นแววตาที่แฉลบไปของลี่ถิงเซิ่ง
เมื่อกี้ลี่ถิงเซิ่งมีคำหนึ่งยังพูดไม่จบ
แม้ว่าตระกูลซูจะมีสวนสมุนไพรที่ฝรั่งเศส แต่ก็ไม่ได้เพาะพันธุ์ดอกไลลัก
และวัตถุดิบที่ขาดหายไปดันมาเป็นดอกไลลักเสียอีก
แอนนาไปฝรั่งเศสครั้งนี้ ถ้าไม่มีการเจรจาเรื่องดอกไลลัก งั้นการไปเจรจาครั้งนี้ ลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นฝ่ายแพ้อยู่ดี