คุณผู้หญิงซูเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในลูกสาวของตนเอง จึงมองสวี่รั่วฉิง
“แน่ใจนะจ๊ะว่าคนบ้านตระกูลสวี่จะไม่รังแกหนู”
คุณหญิงซูน้ำเสียงลังเล ทำไมเธอถึงไม่เชื่อลูกสาวตัวเองบ้างเล่า ถ้าซูจิ่วเอ๋อร์รู้ว่าคุณหญิงซูคิดอะไรคงจะกระอักเลือด
สวี่รั่วฉิงหยิบเครื่องดื่มน้ำแข็งที่สาวใช้ยื่นส่งมาให้ ก้มหน้าดื่มอึกหนึ่ง แก้คอแห้ง
คุณหญิงซูดีกับเธอเหลือเกิน เธอจะให้คุณหญิงซูมาเป็นห่วงทุกเรื่องไม่ได้
สวี่รั่วฉิงกระพริบตาให้คุณหญิงซูสบายใจ“คุณน้าคะ สบายใจนะคะ จิ่วเอ๋อร์พูดไม่ผิดหรอกค่ะ หนูไม่ปล่อยให้คนตระกูลซูมารังแกได้หรอก”
คุณผู้หญิงซูพยักหน้า เปลี่ยนคำพูด“ถ้าไม่งั้น น้าให้หนูพกบัตรแบล๊กการ์ดไปด้วย”
ในใจซูจิ่วเอ๋อร์:นี่ตกลงใครเป็นลูกสาวกันแน่เนี่ย!
สวี่รั่วฉิงยิ้มบาง มีคนที่รักเธอขนาดนี้ ก็พอแล้ว
เธอยังจะต้องไปคิดถึงความรักจากตระกูลสวี่ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อเธอทำไม
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงกลับเข้ามาในห้องนอน เธออาบน้ำแบบง่ายๆ เก็บกระเป๋าสัมภาระ แล้วเตรียมพักผ่อน
ลี่ถิงเซิ่งส่งวีแชทมาอย่างไม่คาดหมาย
“จะนอนแล้วเหรอ”เขาส่งข้อความเสียงมา พูดเสียงเบา สะกิดใจที่ใคร่รู้ของสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงสะกดใจไว้ ในใจคิดคำนวณ ขมวดคิ้ว นิ้วที่ล้างจนขาวสะอาดเคาะลงบนหน้าจอแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว“ประธานลี่ ตอนนี้ประเทศเรากี่โมงแล้ว คุณนอนตื่นแล้วหรือว่าอดนอน”
ความเป็นห่วงของหญิงสาวลี่ถิงเซิ่งรับรู้แล้ว
หลินชวนมืดสนิท เขาพิงอยู่ตรงหัวเตียงที่ออกแบบเรียบๆ ด้านหลังมีหมอนนุ่มๆ
ในห้องเงียบสนิท เสียงนาฬิกาเดินดังชัด
ตอนนี้หลินชวนเป็นเวลาตีสอง
แสงบนมือถือส่งกระทบหน้าลี่ถิงเซิ่ง เขาอ่านข้อความที่สวี่รั่วฉิงส่งมา ถามขึ้นคำหนึ่ง“เจอกันพรุ่งนี้”
ชะงักงัน เขาเสริมขึ้นอีกคำ“นอนก่อนนะ”
พูดจบ ชายหนุ่มใช้นิ้วเรียวยาววางโทรศัพท์ไว้ตรงหัวเตียง
สวี่รั่วฉิงกระพริบตา อ่านตัวอักษรบนวีแชท
ลี่ถิงเซิ่งอดนอนจนถึงตีสอง เพื่อที่จะบอกเธอ ว่าเขานอนแล้วหรือยังงั้นหรือ
ประธานลี่ผู้ไร้เทียมทานพักผ่อนแบบนี้เหรอ
สวี่รั่วฉิงกุมมือถือในมือไว้ แน่นเล็กน้อย ในหัวปรากฏคำพูดของลี่ถิงเซิ่งเมื่อวาน
“ผู้หญิงหลายคนชอบผม แล้วคุณล่ะ”
คำตอบแทบจะโดดออกมาจากหัวใจ
หัวใจสวี่รั่วฉิงเต้น ตูมๆๆๆ
เธอแค่หลับตา ก็เห็นภาพผู้ชายหล่อปรากฏตรงหน้า หูเธอก็แว่วได้ยินเสียงทุ้มต่ำ แล้วนิ้วมือที่ทำให้ผิวเธอสะท้าน
สวี่รั่วฉิงมือทาบอก นิ้วมือค่อยๆจิ้มไปสองตัว
“ราตรีสวัสดิ์”
ลี่ถิงเซิ่งที่อยู่ในคฤหาสน์เฉินซาน มือถือสีดำที่วางอยู่หัวเตียงสั่นไหว
ผู้ชายหลับไม่ลึกมาก ขนตางอนยาวพริ้ว
ลี่ถิงเซิงเกลียดการรบกวนตอนนอนหลับที่สุด แต่ตอนนี้ เขาหยิบมือถือจากหัวเตียง มองดูทีหนึ่ง
“ยัยเซ่อ”ชายหนุ่มอมยิ้ม แล้ววางมือถือกลับ
วันถัดมา สวี่รั่วฉิงล้างหน้าเสร็จ แต่งหน้าอ่อนๆ
เพื่อที่จะสบายตัวหน่อย เธอเปลี่ยนชุดลำลอง แล้วเกล้ามวยตรงท้ายทอย
ทัดปอยผมข้างหู
“คุณแอนคะ สัมภาระเก็บเรียบร้อยหรือยังคะ”ด้านนอกประตู สาวใช้ถามเข้ามาอย่างนอบน้อม
“เก็บเรียบร้อยแล้วจ๊ะ จะเปิดให้เดี๋ยวนี้ รอหน่อยนะ”สวี่รั่วฉิงหยิบกระเป๋า เหยียบรองเท้าแตะเดิน
เธอชี้ไปที่สัมภาระในห้อง“แค่นี้จ๊ะ เอาไปไว้บนรถก่อน รบกวนนะ”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงกำชับ ก็มาที่ห้องสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หาน
หนูน้อยสองคนนั่งบนเตียง เหม่อลอย
โดยเฉพาะสวี่อี้หาน หัวยุ่งอย่างกับรังไก่
สวี่รั่วฉิงอดรนทนไม่ได้ เดินไปข้างๆลูกสาวตัวเอง อุ้มขึ้นมาจากเตียง ลูบหัวที่ยุ่งเหยิงของสวี่อี้หานเบาๆ
สวี่อี้หานออดอ้อนในอ้อมกอดมารดา“แม่ขา หนูไม่อยากตื่น”
สวี่อี้ฝานมองดูนาฬิกาที่ดังไม่หยุด ดวงตาสีดำบางๆหรี่ลง
พอลุกขึ้นเด็กชายยังเอ้อระเหย เขากดนาฬิกาปลุกอย่างอืดอาด เปิดผ้าห่มออก แล้วลุกจากเตียง
ชุดนอนบนตัวเมื่อเทียบกับสวี่อี้หาน
กระดุมบนชุดนอนหมาป่าน้อย กลัดอยู่สนิท
สวี่รั่วฉิงพูดห้าคำขึ้นมาในใจ:ลี่ถิงเซิ่งฉบับมินิ
“คุณแม่ค้าบบ ผมจะไปล้างหน้า”น้ำเสียงของสวี่อี้ฝานยังง่วงงุนหนัก เขาค่อยๆตั้งสติเดินเข้าห้องอาบน้ำ
สวี่รั่วฉิงเงียบงัน การควบคุมตัวเองยังสู้ลูกชายไม่ได้
อยากร้องไห้แบบไร้น้ำตาเหลือเกิน
สวี่รั่วฉิงอุ้มสวี่อี้หาน โอ๋ลูกสาวพักหนึ่ง รอจนสวี่อี้ฝานออกจากห้องน้ำ สวี่รั่วฉิงจึงพูดกับลูกสาวอย่างอดกลั้น“ลูกจ๋า พี่ชายล้างหน้าเสร็จแล้ว ตอนนี้ถึงตาลูกแปรงฟันแล้วไหม”
สวี่อี้หานหาวหวอดๆ แววตาประกายกระพริบ กระโดดผลุงออกจากอ้อมกอดสวี่รั่วฉิง ก้าวขาน้อยๆไปยังห้องน้ำ สวี่อี้ฝานเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว
“วันนี้ป่ะปี๊จะมารับหม่ามี๊ใช่ไหมฮะ”สวี่อี้ฝานพูดจ้อตอนสวมเสื้อเชิ้ตขาว ผูกเนคไทสีดำ
สวี่รั่วฉิงเอียงหน้า“หนูรู้ได้ไงจ๊ะ”
สวี่อี้ฝานอธิบายจ้อ“คุณแม่จิ่วเอ๋อร์บอกว่าจะกลับหลินชวนกับหม่ามี๊ แต่สองสามวันนี้คุณแม่ยังมีงานแฟชั่น นอกจากหม่ามี๊จะพาผมกับอี้หานลงเครื่องไม่สะดวกแล้ว ยังต้องมีคนปกป้องด้วยฮะ”
สวี่อี้ฝานพูดพลาง ยิ่งดูเหมือนลี่ถิงเซิ่งฉบับมินิ มือทั้งสองกอดอก มองสวี่รั่วฉิงเงียบๆ
น้ำเสียงเด็กน้อยค่อยๆนิ่งลง
“หม่ามี๊พูดสิฮะ ป่ะปี๊จะมารับใช่ไหม หือ ตอนนี้หม่ามี๊ป่ะปี๊ไปถึงขั้นไหนแล้วฮะ คงจะไม่จู่ๆพาป่ะปี๊กลับมาใช่ไหมฮะ”
ดวงตาสวี่อี๊ฝานประกายราวเพลิง มองดูสวี่รั่วฉิงที่แทบจะเก็บเด็กคนหนึ่งลงราบกับพื้น
เด็กคนนี้!จะฉลาดไปถึงไหน!
นี่พันธุกรรมจากลี่ถิงเซิ่งเหรอนี่!
สวี่อี้ฝานเก็บทุกปฏิกิริยาสวี่รั่วฉิงไว้ในใจ ในใจคาดคะเนได้
เขาเดินไปหยุดหน้าสวี่รั่วฉิง เงยหน้าน้อยๆ ดวงตาที่เหมือนลี่ถิงเซิ่งราวกับพิมพ์กำลังจ้องมองสวี่รั่วฉิง
“หม่ามี๊ ป่ะปี๊มีสายเลือดเดียวกับพวกเราไหมฮะ แต่คนที่ผมกับอี้หานรักมากที่สุดตลอดไปคือหม่ามี๊ ป่ะปี๊อาจจะทำให้พวกเราเกิด แต่ถ้าไม่มีหม่ามี๊ พวกเราก็มาอยู่บนโลกไม่ได้”
“ดังนั้น นอกจากหม่ามี๊จะรักป่ะปี๊จริงๆ ไม่งั้นหม่ามี๊ไม่ต้องลำบากใจนะฮะ”
“และไม่ต้องคืนดีกับป่ะปี๊ เพื่อพวกเรา”
“หม่ามี๊สำคัญที่สุด”