มีคนเห็นสวี่รั่วฉิงเข้ามา ได้บอกเป็นนัยให้พวกผู้บริหารชั้นสูงที่กำลังกระซิบคุยกันรู้ว่าเธอเข้ามาแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าผู้บริหารชั้นสูงเหล่านี้ที่กำลังกระซิบคุยกันอยู่คงไม่ยังรู้ว่าเพื่อนร่วมงานที่กำลังบอกเป็นนัยให้เขา แถมยังถามเขาว่า: “นายยักคิ้วปลิ้นตาทำอะไร?”
ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยพวกเขา แต่ตัวเองยังไม่มีสายตาที่บอกเป็นนัยเลย พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้นะ
สวี่รั่วฉิงหรี่ตายิ้มเสียงที่ใสและไพเราะ: “ผู้นำทุกท่านพูดเกินไปแล้ว ถ้าสงสัยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของประธานลี่ ไม่ลองถามไปเจ้าตัวดูเองละ”
ผู้บริหารชั้นสูงตัวแข็งทื่อทันที
ต้องรู้ว่าตอนนี้สวี่รั่วฉิงเป็นคนที่ลี่ถิงเซิ่งให้ความสนใจมากที่สุด ไม่เพียงหน้าตา เธอยังเป็นคนที่มีความสามารถอีกด้วย เธอเป็นคนระดับต้นๆของบริษัทเลยนะ
ในห้องประชุมมีผู้คนมากมายมีคนบางคนตบไปที่หน้าอกของตัวเอง สิ่งที่สวี่รั่วฉิงทำได้ ถ้าเป็นพวกเขาก็สามารถทำได้?
ไม่มีใครกล้าที่จะรับประกัน
ไม่งั้นคงไม่มีเรื่องที่สวี่รั่วฉิงไปเจรจากับผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องหอมที่ยุโรปด้วยตัวเองหรอก
ผู้บริหารชั้นสูงที่เคยมีความเห็นกับสวี่รั่วฉิง ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรกับเธออีกเลย
“ความจริงก็คือผู้ช่วยแอนนี่เอง” ผู้บริหารชั้นสูงหนึ่งในนั้นในใจก็ยังไม่พอใจสวี่รั่วฉิง
ผู้หญิงที่ใช้หน้าตาเพื่อแลกกับตำแหน่ง จะมีเหตุผลอะไรถึงสามารถอยู่ห้องประชุมเดียวกับหัวกะทิที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างพวกเขา
เขาตั้งใจเรียกว่า “ผู้ช่วยแอน” ไม่ใช่ “ผู้ดูแลแอน” เห็นได้ชัดเจนว่าเขาดูถูกสวี่รั่วฉิงอย่างชัดเจน
สวี่รั่วฉิงก็ไม่ได้ร้อนตัวอะไร เธอก็แค่หรี่ตายิ้มก้มหน้ามองผู้ชายคนที่พูดว่าเธอ
มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนอายุสามสิบเจ็ดสามสิบแปด แต่หน้าแต่งกายก็ดูไม่เลว แต่น่าเสียดายที่ในแววตาเขามีเพียงความอยากหนีจากโลกและปัญหา
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะเรียกฉันว่าอะไร” ริมฝีปากที่แดงสดของสวี่รั่วฉิงได้ขยับ และพูดคำพูดที่ทำให้พวกผู้บริหารชั้นสูงก้มหน้า: “อย่างน้อยฉันก็ทำในสิ่งที่พวกคุณทำไม่ได้ ถ้าเป็นเพราะว่าฉันหาซื้อเครื่องหอมได้แล้วมาอิจฉาฉัน ฉันจะไม่สนใจเลยเพราะคนที่มีความสามารถจะไม่กลัวว่าคนรอบข้างจะมองอย่างไงกับตัวเอง คนที่ไร้ความสามารถก็จะกีดกันทางเพศ คุณว่าถูกมั้ยผู้จัดการหวาง?”
ผู้บริหารชั้นสูงที่แซ่หวังหน้าแดงขึ้นมาทันที
“คุณ คุณ…..” พูดเกือบครึ่งวันสุดท้ายก็ไม่มีคำพูดไหนที่เด็ดขาดเลย
สวี่รั่วฉิงมองปราดไปหาเขาอย่างเยือกเย็น ถือเอกสารเดินไปที่โต๊ะที่มีป้ายชื่อของตัวเอง ทิ้งผู้บริหารที่เหลืออ้าปากค้างอึ้งอยู่กับที่
ชั่งเป็นผู้หญิงที่ปากดีมากเลย
สวี่รั่วฉิงนั่งอยู่ที่นั่งตัวเอง สีหน้าที่สงบเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเมื่อกี้
วิธีที่จะทำให้พวกเขาหุบปากได้ มีวิธีเดียวก็คือทำโครงการให้ดีกว่าที่พวกเขาทำ
ทำให้พวกเขาอ้าปากอึ้งอย่างสิ้นเชิงไปเลย
แววตาที่มืดมนของลี่ถิงเซิ่งที่กำลังมองเธออยู่ได้หันไปมองทางอื่น เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่มุมห้องประชุม เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย
เขามองสีหน้าที่เธอยิ้มอย่างได้ใจ เธอที่กำลังประชันกับพวก อาวุโสที่ทำงานอยู่ที่บริษัทมานาน
เธอไม่แพ้คนพวกนี้เลย ริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งปรากฏรอยยิ้มที่มีอะไรแอบแฝงอยู่
นิ้วมือของเขาไปจี้ที่โต๊ะ: “เริ่มประชุม”
สายตาของทุกคนมองไปที่ลี่ถิงเซิ่ง
หลี่อานแจกเอกสารการประชุมให้กับทุกคน
เมื่อทุกคนได้อ่านเอกสารนี้ ใจของพวกเขาเริ่มร้อนรนตื่นเต้นขึ้นมา
สวี่ซื่อกรุ๊ปช่างทุ่มเทจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่วันก็ใช้ช่องโหว่ที่ทางลี่ซื้อกรุ๊ปกำลังขาดแคลนเครื่องหอมอยู่นั้น ไปทำการขายขยายขอบเขตไปทั่วประเทศ แถมยังโฆษณาบนบล็อกเกอร์อีกหลายบล็อกเกอร์เลย
ยอดขายตอนนี้อาจจะทะลุสิบล้านไปแล้ว
ใช้เวลาเพียงสามวัน น้ำหอมใหม่ของสวี่ซื่อกรุ๊ปทำยอดขายกว่าล้านหยวนไปแล้ว
มีเพียงสวี่รั่วฉิงที่เมื่อดูรายงานจบ ก็เอาเอกสารวางไว้ข้างๆริมฝีปากเอียงขึ้นมา
ลี่ถิงเซิ่งที่ให้เธอมาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วยก็หมายความว่า คุณภาพสินค้าของสวี่ซื่อเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลเลย
แต่ครั้งนี้สิ่งที่เธอสงสัยก็คือสวี่รั่วยีเอาใครมาเป็นมือปืน?
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่สวี่รั่วฉิงที่อยู่ในที่ประชุมพร้อมมีสีหน้านิ่งเฉย เขาได้หรี่ตาขึ้นมา
“แอนนา” ลี่ถิงเซิ่งพูดขึ้นมากะทันหัน น้ำเสียงที่เย็นชา: “คุณดูไม่ค่อยสนใจข้อมูลในเอกสารนะ?”
เมื่อสิ้นเสียงในที่ประชุมเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
สิ่งที่พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์กันก็คือสวี่รั่วฉิงที่มีความกล้ามาก ถึงจะมีความสามารถในการปรุงน้ำหอม แต่ก็ต้องเห็นลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในสายตาด้วย
ยอดขายน้ำหอมที่มากมายขนาดนี้ ถึงน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงปรุงจะดีแค่ไหนก็ยากที่จะชดเชยความเสียหายได้
สวี่รั่วฉิงค่อยๆเปิดกล่องสีขาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย ข้างในมีน้ำหอมที่ถูกห่อไว้อย่างดี
เครื่องหอมที่ถูกส่งมาจากยุโรปมาถึงที่เมืองหลินชวน เธอได้นำเครื่องหอมบางส่วนกลับบ้านไป และปรุงเมลิโลตัสด้วยสัดส่วนเท่าเดิม
เป็นเพราะเครื่องหอมที่ไม่เหมือนกัน ปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้เกิดน้ำหอมก็แต่งต่างกันออกไป
สวี่รั่วฉิงขี้เกียจที่จะอธิบาย เธอเอาน้ำหอมออกมาเอาไปว่างที่กลางห้องประชุม: “ผู้บริหารทุกท่านสามารถของได้นะคะ”
ผู้บริหารขั้นสูงที่อยู่ในห้องประชุมมองหน้ากัน
ผู้หญิงคนนี้จะเล่นอะไรอีก?
ผู้บริหารขั้นสูงคนหนึ่งมองไปที่ลี่ถิงเซิ่ง: “ประธานลี่ พวกเราต้องลองน้ำหอมของผู้หญิงหรือ?”
ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกว่าความคิดนี้ก็ไม่เลว เขานั่งพิงไปที่เก้าอี้และพูดว่า: “เป็นความคิดที่น่าสนใจนะ พวกคุณลองหน่อยก็ได้นะ”
ผู้บริหารชั้นสูง: “…….”
ประธานลี่มีน้ำเสียงที่ลอยๆ ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ พวกเขาบางคนถึงจะยังไม่มีภรรยาแต่ก็มีแฟนกันแล้ว ถ้าฉีดน้ำหอมผู้หญิงไปจะไม่ไปมีปัญหากับทางแฟนหรือ?
ไม่มีใครกล้าที่จะลอง
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วให้หลี่อานเอาน้ำหอมมา
แขนที่ขาวและเย็นรับขวดแก้วที่หลี่อานส่งมาเพียงแค่ฉีดไปครั้งเดียว
ดวงตาที่ดำมืดพร้อมก้มหน้าลงไป
ลี่ถิงเซิ่งเป็นคนที่มีการดมที่ยอดเยี่ยมมากและไวต่อกลิ่นมาก เพียงแค่ดมไปครั้งเดียวก็สามารถระบุเครื่องหอมที่อยู่ข้างในได้
เขาส่งน้ำหอมให้หลี่อานและพูดด้วยเสียงที่เย็นชา: “เอาไปให้ทุกคนลอง”
เพียงประโยคเดียวผู้บริหารขั้นสูงก็ต้องจำใจต้องลอง
หลายนาทีผ่านไปทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมถูกน้ำหอมของสวี่รั่วฉิงพิชิตแล้ว
เพียงแค่เปลี่ยนเครื่องหอมสองตัวก็สามารถมีผลแบบนี้ได้เลยหรือ
ผู้รับผิดชอบสายการขายได้ยืนขึ้นมาทันที: “ผมคิดว่าน้ำหอมของพวกเราไม่ต้องไปกังวลเกี่ยวกับยอดขายของสวี่ซื่อกรุ๊ปเลยนะ น้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณภาพและน้ำหอมที่แอนนาปรุง……”
เขาเม้มปากเสียงพูดด้วยเสียงที่เสียงดังฟังชัด: “ในเมืองหลินชวนคงไม่มีใครสามารถทำได้ดีกว่าเธอแล้ว”
แววตาของลี่ถิงเซิ่งปรากฏความพอใจ สวี่รั่วฉิงนั่งอยู่ตรงนั้น นั่งหลังตรงเหมือนดั่งต้นสน
เหมือนว่าเธอรู้แล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน
สำหรับเธอแล้วเธอมั่นใจกับผลงานของตัวเธอเองมาก
ลี่ถิงเซิ่งจับไปที่บริเวณริมฝีปากที่มีรอยฟันกัดอยู่ และหัวเราะออกมาอย่างชัดเจน
มีเพียงผู้หญิงแบบนี้ถึงกล้าดึงเนคไทและทิ้งรอยแผลที่น่ากลัวไว้ที่ริมฝีปากเขา
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าขึ้นมาใช้สายตาที่แหลมคมและเย็นชามองไปหาคนทุกคนในที่ประชุม รวมไปถึงสวี่รั่วฉิง
สุดท้ายเขาพูดออกมาว่า: “คนอื่นยังมีข้อคิดเห็นจะเสนอมั้ย?”