ในสายตาของคุณนายลี่ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งมีความสามารถมากเกินไป ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังเธอแน่นอน
รวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่สวี่รั่วฉิงใช้สีหน้าที่เต็มไปด้วยรักคุยกับเธอ คุณนายลี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงง่ายตั้งแต่เกิด
ถ้าผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในตระกูลลี่จะเกิดอะไรขึ้น? เธอคงจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นแน่นอน?
คุณนายลี่คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็สั่งกับเลขาของเธอเอง: “เรื่องนี้ยังไม่ต้องบอกคุณนายใหญ่นะ”
เลขาพยักหน้า
“และส่งคนไปสืบความสัมพันธ์ระหว่างซูซื่อกรุ๊ปและตระกูลโทมัส ดูว่าระหว่างเธอกับผู้ชายของตระกูลผู้ดีเหล่านั้นมีความสัมพันธ์อย่างไร”
เธอไม่เชื่อว่าแอนนาจะไม่ขายตัวเอง เพื่อจะทำให้ผู้ผลิตเครื่องหอมสองรายใหญ่ยอมขายเครื่องหอมให้เธอ?
เลขาได้รับคำสั่งจากคุณนายลี่แล้วก็ได้รีบไปดำเนินการ
ตอนแรกที่คุณนายลี่ยังอารมณ์ดีๆอยู่ตอนนี้ได้อารมณ์เสียไปแล้ว เลยไม่มีอารมณ์ที่จะไปเล่นกับแมว เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมที่จะโทรไปหาลี่ถิงเซิ่ง แต่ก็ไม่ได้โทร
ครั้งก่อนที่ลี่ถิงเซิ่งพูดเย็นชากับเธอเพราะเรื่องของแอนนา เธอยังจำเรื่องนี้ได้
สวี่รั่วยีรับสายด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าคุณนายลี่จะโทรหาเธอในเวลานี้
สวี่รั่วยีเปลี่ยนเสียงพูดเป็นเสียงที่อ่อนหวาน: “สวัสดีค่ะป้า”
คุณนายลี่เอ่ยคำว่า “อืม” อย่างเย็นชาและก็ได้บ่นตามภาษาเธอ: “รั่วยีช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและลี่ถิงเซิ่งไม่ค่อยจะดีใช่มั้ย? ทำไมฉันถึงได้ข่าวว่าเขาใกล้ชิดกับคนคนหนึ่งนะ?”
คำพูดของคุณนายลี่แฝงด้วยคำด่าที่ชัดเจน
สวี่รั่วฉิงจับมือถือไว้แน่นและร้อนรนขึ้นมา สีหน้าเธอยิ่งดูมืดมนเข้าไปใหญ่
เธอรู้ว่าคุณนายลี่กำลังว่าเธออยู่ผู้ชายคนหนึ่งยังรักษาไว้ไม่ได้ แต่เสียงของเธอก็ยังอ่อนหวานเหมือนเดิม: “ช่วงนี้งานของลี่ถิงเซิ่งเยอะมาก ฉันเลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเขา ป้าลี่เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
คุณนายลี่หัวเราะอย่างเย็นชายิ่งพูดยิ่งตรงเข้าประเด็น: “แม่ของเธอไม่เคยสอนเธอหรือว่า จะทำอย่างไงถึงทำให้ผู้ชายอยู่บ้างๆเราไม่จากไปไหน? ฉันโทรมาก็เพราะจะมาเตือนเธอ ถ้าเธอไม่อยากแต่งงานไปแล้วยังต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนอื่นละก็ รีบทำให้หัวใจของลี่ถิงเซิ่งกลับไปอยู่กับเธอได้แล้ว”
เมื่อคุณนายลี่พูดจบก็ขี้เกียจจะไปพูดมากกับสวี่รั่วยีและวางสายไปทันที
สีหน้าสวี่รั่วยีเก้อเขิน
คำพูดเมื่อกี้ของคุณนายลี่เหมือนตบสวี่รั่วยีไปครั้งหนึ่ง
ก็เท่ากับว่าสวี่รั่วยีที่เป็นผู้หญิงยังไม่สามารถจะรักษาผู้ชายของตัวเองไว้ได้เลย
คุณนายลี่ทำดีต่อสวี่รั่วฉิงตลอดไม่เคยพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังแบบนี้กับเธอเลย
สวี่รั่วยีทนไม่ไหวแล้วเธอโยนมือถือใส่กำแพง
มือถือตกลงที่พื้นหน้าจอแตกละเอียด
ตึ้งตึ้งตึ้งตึ้ง
เสียงขึ้นบันไดรอยมา
เลขาส่วนตัวของสวี่รั่วยียื่นอยู่หน้าประตูและเคาะประตูเบาๆ : “คุณสวี่ปรากฏ ข้อมูลที่ท่านให้ไปสืบมีความคืบหน้าแล้ว”
สวี่รั่วยีเรียกเธอเข้ามาด้วยเสียงที่เย็นชา
เลขามองไปที่มือถือที่อยู่บนโต๊ะแล้วหันไปมองทางอื่น
“แอนนาและตระกูลซูมีความสัมพันธ์ที่ลึกลับมาก ตอนที่แอนนาอยู่ต่างประเทศเธอออกงานเลี้ยงกับประธานซูเป็นประจำ” เลขาเอารูปออกมาจากแฟ้มเอกสาร
สวี่รั่วยีมีแววตาที่เยือกเย็นและหยิบรูปขึ้นมาจากโต๊ะ
งานเลี้ยงที่หรูหรา ประธานซูที่อายุยังไม่ถึงห้าสิบข้างๆมีผู้หญิงที่เด็กและหน้าตาดีมาด้วย
สวี่รั่วยียิ้มอย่างเยือกเย็น: “งั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลซูก็เป็นคนโง่ไปเลยสินะ เพราะพ่อของตัวเธอเองเลี้ยงเด็กอยู่ เธอยังจะเป็นเพื่อนกับเด็กของพ่ออีกหรือ?”
พูดจบสวี่รั่วยีโยนรูปนั้นไปบนโต๊ะ
เลขาพูดว่า: “คุณผู้หญิงซูและคุณหนูซูอาจจะยังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแอนนากับประธานซูสินะ”
“ฉันเดาว่าพวกเขาก็ไม่รู้เช่นเดียวกันไม่งั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลผู้ดีไหนจะยอมเป็นเพื่อนกับเด็กที่พ่อเลี้ยง?”
สวี่รั่วยีมองไปที่รูปภาพที่อยู่บนโต๊ะ ในใจเธอก็ผุดแผนการออกมา
ตอนนี้เรามีหลักฐานที่หนาแน่นแล้วว่าแอนนาเคยออกงานเลี้ยงรูปแบบต่างๆกับประธานซูทุกวันตอนอยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่แฟนกันแล้วจะเป็นอะไรกัน?
ถ้าลี่ถิงเซิ่งรักแอนนาจริงๆ เธอเพียงแค่ส่งรูปเหล่านี้ไปให้ลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วยีไม่เชื่อว่าถ้าลี่ถิงเซิ่งเห็นรูปภาพเหล่านี่แล้วจะไม่โกรธ
เลขาเธอเหมือนดูออกว่าเธอกำลังจะวางแผนทำอะไร และหยิบเอกสารลับออกมาจากแฟ้มเอกสาร
“คุณหนูใหญ่ยังไม่ต้องรีบส่งรูปพวกนี้ไปให้ประธานลี่” เลขาพูดออกมา
สวี่รั่วยีเงยหน้าและถามว่า: “ให้เหตุผลฉันหน่อยสิทำไมถึงไม่ให้ฉันทำแบบนี้”
“ช่วงนี้ประธานซูจะมาที่เมืองหลินชวนเพื่อมาร่วมงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจ” เลขาเอาเอกสารที่ไปสืบมาส่งไปให้สวี่รั่วยี
สวี่รั่วยีเป็นคนที่คุณนายสวี่สอนมากับมือ
ปกติจะถูกแอนนายั่วจนโมโหแต่ตอนนี้เธอสติอยู่ครบไม่ได้หายไปไหน
เธอรู้เลยว่าข้อมูลนี้มีความสำคัญมากแค่ไหน
สวี่รั่วยีเอาเช็คออกมาและเขียนเช็คหนึ่งล้านหยวนให้เธอและพูดออกมาเบาๆว่า:” ได้เลย ครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก”
เลขาอมยิ้มและรับเช็คมาพับแล้วใส่เข้ากระเป๋าไป: “งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”
สวี่รั่วยีพยักหน้า เธอเปิดเอกสารที่เกี่ยวกับงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจที่ประธานซูจะเข้าร่วม ริมฝีปากของเธอปรากฏรอยยิ้มที่หน้าเนื้อใจเสือ
ถ้าแอนนาเป็นแฟนของประธานซูจริงๆ จะใช้โอกาสนี้ทำให้ทั้งสองคนได้เจอกัน
ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหนถ้าเธอได้ไปเปิดโปงแอนนาให้ลี่ถิงเซิ่งเห็นได้ ความจริงก็จะกระจ่าง
ลี่ถิงเซิ่งเป็นคนที่หยิ่งผยอง เขาคงไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาเองไปเกี่ยวข้องกับผู้ชายอื่นหรอก
สวี่รั่วยียิ้มอย่างเยือกเย็น: “แอนนาคราวนี้ถึงคราวตายของเธอแล้ว”
……
สวี่รั่วฉิงก็ไปทำงานตามปกติทุกวัน กำลังประชุมอยู่ที่ห้องประชุมของแผนกน้ำหอม
ทันใดนั้นมือถือเธอก็ได้สั่นเป็นระยะๆ
เหลือบตาไปมองชื่อสายที่โทรเข้ามา เธอก็ได้ขมวดคิ้ว
“ฉันมีเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย ขออนุญาตรับโทรศัพท์ อาจจะต้องหยุดการประชุมไว้ก่อน” สวี่รั่วฉิงพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วออกจากห้องประชุมไป
เห็นเงาร่างของสวี่รั่วฉิงจากไป ผู้ร่วมประชุมก็เริ่มกระซิบกัน
“เรื่องส่วนตัวหรือ?” คงไม่ใช่ประธานหลี่โทรมาหรอกนะ
“จุ๊ๆ ฉันคิดว่าเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”
“อย่างไรก็ตามฉันก็เห็นด้วยที่ประธานลี่และผู้ดูแลแอนจะอยู่ด้วย
นอกห้องประชุม สวี่รั่วฉิงรับโทรศัพท์และพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังว่า: “คุณอาซูมีอะไรหรือเปล่า?”
ตามเวลาตอนนี้ ที่ปารีสน่าจะเป็นเวลาสองทุ่มนะ
ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร คุณผู้ชายซูคงไม่โทรมาในเวลานี้หรอก
เสียงในสายปรากฏเสียงของคุณผู้ชายซูที่อ่อนโยนน่าฟังและพูดกับเธอว่า: “รั่วฉิง อาทิตย์หน้าฉันจะไปร่วมงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจที่เมืองหลินชวน จิ่วเอ๋อร์เร่งให้ผมซื้อของขวัญมาฝากคุณ ผมก็เลยจะมาบอกคุณล่วงหน้าก่อน ถ้าคุณงานยุ่ง ผมจะให้คนส่งไปที่คอนโดของคุณ”
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปเลย เธอตบไปที่ศีรษะของตัวเธอเอง
ลืมไปเลยว่าจะต้องจัดงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจ ที่สำคัญลี่ซื่อกรุ๊ปยังเป็นเจ้าภาพอีกด้วย