สวี่รั่วฉิงมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว
เธอยุ่งอยู่กับการดูไฟล์ กระทั่งลืมปิดผ้าม่านห้องหนังสือ
นอกหน้าต่าง กลางคืนนั้นมืดมาก เพราะอากาศดี บวกกับอพาร์ตเมนต์ของสวี่รั่วฉิงตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุด สามารถมองเห็นดวงดาวได้มากมาย
เธอถึงจะได้สติ ว่ามันดึกมากแล้ว
“ประธานลี่คุณ… หรือว่าหลังจากประชุมเสร็จคุณก็มาที่นี่เลย?” สวี่รั่วฉิงเม้มริมฝีปากของเธอ หลังจากนั้นสักพักก็มีเสียงที่ไม่เข้าใจเล็กน้อย
เสียงของเธออู้อี้เล็กน้อย อาจเป็นเพราะเมื่อครู่เธอไม่ได้พูดมานาน
เหลือบมองนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์บนโต๊ะ เลยห้าทุ่มมาตั้งนานแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งเอนพิงไปทางประตูรถ มองดูรถที่วิ่งผ่าน ดวงตาของเขาอ่อนลงโดยไม่ตั้งใจ
เขายิ้มอย่างแผ่วเบา “ในเมื่อคุณกำลังดูเอกสาร ผมก็จะไม่ไปแล้ว แค่รู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ก็พอ”
คำพูดของผู้ชาย เป็นพิษเสมอ
แม้ว่าจะเป็นความห่วงใย แต่ระหว่างคำพูดก็มีเนื้อหาที่ซับซ้อนทำให้คนไม่สบายใจ
หัวใจที่เพิ่งอ่อนลงของสวี่รั่วฉิง ก็ถูกครึ่งประโยคสุดท้ายของลี่ถิงเซิ่งกระตุ้นให้โกรธ แต่เร็วมาก อารมณ์โกรธของเธอที่เพิ่งพุ่งขึ้นมาอ่อนลงอีกครั้ง
วันนี้แผนการเดินทางของลี่ถิงเซิ่ง เธอรู้ดีกว่าใคร ว่าเยอะจนเรียงกันเป็นแถว ประชุมติดๆกันหลายครั้ง คำนวณตามเวลาเกรงว่าที่เขาเพิ่งจะประชุมครั้งสุดท้ายเสร็จ ก็คงขับรถอยู่ในระหว่างทาง
สวี่รั่วฉิงไม่ได้ตอบลี่ถิงเซิ่ง แต่กลับถามคำถามแปลกๆหนึ่งคำถาม
“ประธานลี่ คุณถึงไหนแล้ว?”
นัยต์ตาของลี่ถิงเซิ่งตื่นตกใจเล็กน้อย
คอนโดของสวี่รั่วฉิงตั้งอยู่ในเมืองหลินชวนระดับไฮเอนด์รอบย่านการเงินของหมู่บ้านคอนโดหรู
เขาเคยส่งสวี่รั่วฉิงกลับบ้าน แต่ไม่เคยสนใจสถานที่ก่อสร้างสำคัญที่อยู่ข้างๆ
วันธรรมดาลี่ถิงเซิ่งจะมีคนขับรถของตัวเองเวลาออกเดินทาง แม้ว่าเขาจะรักรถ ถึงจะซิ่งรถก็ไม่เลือกว่าที่จะมาแถวย่านการเงิน
ในเวลานี้เขามองไปรอบๆ ขมวดคิ้วขึ้นมา และสับสนขึ้นมาเล็กน้อย
ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดด้วยเสียงหนักว่า “…ดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อ”
เขาเห็นแค่ว่าฝั่งตรงข้ามมีแฟมิลี่มาร์ทอยู่หนึ่งร้าน
สวี่รั่วฉิงหัวเราะ “คิก” ออกมา
ก็ใช่ ทำให้ลี่ถิงเซิ่งคนอย่างนี้สามารถออกมาสถานที่ก่อสร้างสำคัญๆได้ ถือเป็นเรื่องว่ายากสำหรับเขาแล้ว
สวี่รั่วฉิงผลักประตูห้องหนังสือ เดินไปพูดไป “งั้นก็ใกล้จะถึงที่ฉันแล้ว ประธานลี่คุณรอสักครู่ ฉันจะเดินไป”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว “มาทำอะไร?”
สวี่รั่วฉิงหยิบเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวบางๆขึ้นมาสวม เดินไปที่ทางเข้า เปลี่ยนรองเท้า แล้วออกจากคอนโด
“มาก็มาแล้ว ทำให้ประธานลี่มาแล้วกลับไปมือเปล่าก็ไม่สนุกสิ? รอบๆมีร้านบาร์บีคิวไม่เลวอยู่ ฉันเลี้ยงเอง!”
พอดีเธอก็หิวเหมือนกัน และพอดีตะกละบาร์บีคิวด้วย ถ้างั้นก็ใช้โอกาสนี้ผ่อนคลายสักหน่อย
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่หญิงสาววางสายไป และขมวดคิ้วสูงขึ้นกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย
บาร์บีคิว? ระแวกๆนี้มีร้านบาร์บีคิวชื่อดังด้วย ทำไมเขาไม่รู้?
ในเมืองหลินชวนยังมีร้านอาหารมิชลินที่ไหนที่เขาไม่รู้จักด้วยเหรอ?
สวี่รั่วฉิงนอกจากที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว ก็ไม่ต่างจากชุดที่ใส่อยู่บ้าน
ผมถูกมัดไว้ด้านหลังศีรษะแบบสบายๆ เสื้อสายเดี่ยวเย็นสบายในฤดูร้อน และเหยียบรองเท้าแตะคู่หนึ่ง
เธอเดินมาถึงที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท สายตาก็มองเห็นชายที่ยืนพิงอยู่หน้าประตูรถ
เนคไทคลายนานแล้ว และกระดุมสูทที่เคยติดกระดุม ก็ถูกปลดออกด้วย
มือข้างหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูท และอีกมือหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์อยู่ ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไร
สวี่รั่วฉิงพึมพำในใจสองครั้ง มองไปที่ขายาวๆ เกรงว่าขานายแบบก็คงจะไม่ยาวเท่าขาของเขา
เธอเร่งฝีเท้า เดินไปถึงข้างหน้าลี่ถิงเซิ่ง ค่อยๆไปข้างหน้า โดยสองมือถือโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง “ประธานลี่กำลังดูอะไรอยู่ จริงจังขนาดนี้?”
ลี่ถิงเซิ่งกำลังอ่านงานที่หลี่อานส่งมาในอีเมล แม้กระทั่งไม่ได้สังเกตเห็นว่าสวี่รั่วฉิงมาถึงแล้ว
มีเสียงเยาะเย้ยของผู้หญิง ซึ่งแตกต่างจากตอนเที่ยงที่เธอทำเสียงออดอ้อนอย่างสิ้นเชิง
ลี่ถิงเซิ่งเก็บโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าขึ้น
โฟกัสอยู่ที่เสื้อผ้าบางๆของสวี่รั่วฉิง
จ้องมองลึกลงไปอย่างช้าๆ ขาคู่หนึ่งที่ขาวเนียนกระจ่างใส เหยียบรองเท้าแฟชั่นที่กระทัดรัด ส้นราบ ดังนั้นจึงไม่เหมือนปกติที่มีออร่าเฉียบคม
ยาทาเล็บสีแดงสดทาอยู่บนนิ้วเท้า ซึ่งทำให้ผิวหนังสีชมพูและสีขาวของเท้าดูนุ่มนวลขึ้น
แสงในดวงตาของลี่ถิงเซิ่งลึกซึ้งครู่หนึ่ง เขาค่อยๆพูดขึ้นว่า “ปกติคุณอยู่บ้านแต่งตัวแบบนี้?”
สวี่รั่วฉิง “ประธานลี่ คุณไม่เคยมีหญิงร่วมห้องมาก่อนจริงๆใช่ไหม? ผู้หญิงอยู่ในบ้านไม่แบบนี้ แล้วจะแบบไหน? แน่นอนสบายยังไงก็มาแบบนั้น ตอนนี้ฤดูร้อน ยังจะให้ปิดมิดชิด นั่นมันยุคโบราณแล้วเข้าใจไหม”
สวี่รั่วฉิงพูดจบ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยี ดูเหมือนว่าจะอยู่ด้วยกัน
จากสิ่งที่เธอเข้าใจสวี่รั่วยี ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในบ้านไม่แน่คงแต่งตัวตามที่คุณนายสวี่บอก ทั้งไร้เดียงสาทั้งน่าทะนุถนอม
ฤดูร้อนก็ต้องใส่ชุดผ้าฝ้ายสีขาวอยู่บ้าน ทำไมคุณฟ่านมาได้ไง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ริมฝีปากของสวี่รั่วฉิงค่อยๆกระตุก
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะไม่มีเสียง
ยังไงก็ถูกเธอพูดถูก มีบางคนอาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศของเขา แต่ปิดไว้มิดชิด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยสี่คำนี้กุลสตรี
พฤติกรรมกลับห่างไกลที่จะคู่ควรกับสี่คำนี้
มือข้างหนึ่งของเขาที่อยู่ในกระเป๋า กดปุ่มกุญแจรถ และหลังจากล็อครถแล้ว ถามอย่างใจเย็นว่า “จะไปกินอาหารมื้อดึกที่ไหน?”
สวี่รั่วฉิงได้ยิน ลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อาหารมื้อดึก? ที่แท้คุณกินข้าวเย็นมาแล้ว?”
เธอคิดว่าผู้ชายอย่างลี่ถิงเซิ่งนี้จะไม่มีวันแตะต้องอาหารมื้อดึก
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองสวี่รั่วฉิงอย่างแปลกใจ ปรากฏหนึ่งคำถามขึ้น
เขากินข้าวเย็นมาแล้วน่าแปลกมาก?
สวี่รั่วฉิงเบะปาก “ฉันคิดว่าคุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็น ดังนั้นถึงได้วางแผนจะชวนคุณกินบาร์บีคิว ช่างเถอะ ยังไงก็มาแล้ว ตามฉันมา!”
สวี่รั่วฉิงเดินไปข้างหน้าลี่ถิงเซิ่ง ขาที่เรียวยาวอยู่ภายใต้แสงจันทร์ทำเอาใจอยู่ไม่เป็นสุข
ลี่ถิงเซิ่งเพียงแค่เหลือบมองดู และยิ่งคิดในใจ จากนี้จะต้องไม่ให้เธอออกมาในเวลากลางคืนและสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นอย่างนี้
เขาไม่อยากให้คนอื่นมองเห็นเธอในด้านนี้
สวี่รั่วฉิงฮัมเพลง เพลิดเพลินกับสายลมเย็นๆในคืนฤดูร้อน
เธอพาลี่ถิงเซิ่งเดินผ่านเข้าไปในซอยเล็กๆ แล้วเลี้ยวอีกสองสามรอบ สุดท้ายก็หยุดที่หน้าแผงขายอาหาร
ลี่ถิงเซิ่ง “……”
หลังจากความเงียบ เขาเงยขึ้นมอง มองไปที่สวี่รั่วฉิงซึ่งกำลังสั่งอาหารกับเถ้าแก่ “นี่คือที่ที่คุณพาผมมาทานมื้อดึก?”
สวี่รั่วฉิงกะพริบตา “คุณไม่เคยมาสถานที่นี้ใช่ไหม? มันไม่ง่ายเลยนะที่ยังมีร้านบาร์บีคิวในย่านการเงิน ฉันก็ออกมาเดินเล่นถึงได้เจอ”
ลี่ถิงเซิ่งจ้องมองอาจารย์ย่างบาร์บีคิวที่อยู่ตรงหน้า คิ้วก็ขมวดขึ้นมา
เขารับประทานอาหารความสะอาดนั้นสำคัญมาก ของมากมายไม่กินไม่พูด ถ้าฝีมือของเชฟไม่ดี เขาก็จะไม่กิน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสุขอนามัยหรือไม่ถูกสุขอนามัยของที่นี่ สวี่รั่วฉิงอุ้มเมนูอาหารทำให้คิ้วของเขายิ่งขมวดมากขึ้น
สวี่รั่วฉิง “หัวใจไก่20ไม้ ลิ้นไก่ 10 ไม้!”