ต่างจากทุกๆการจูบในเมื่อก่อน
เธอตอบรับจูบนี้อย่างเร่าร้อน ถึงจะไม่มีเทคนิค สองมือของเธอก็ฉุดเสื้อของผู้ชายไว้แน่น ถึงขั้นขุดจนเกิดรอยที่น่ากลัวขึ้น
ไม่รู้จูบไปนานเท่าไหร่ รอทั้งคู่แยกจากกัน สวี่รั่วฉิงรู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปทั้งคน โดยเฉพาะแขนขา
เธอสูดหายใจลึกๆหลายทีโดยที่หน้าแดง มืออ่อนแรงวางอยู่ที่หน้าอกของลี่ถิงเซิ่ง
โคตรเลย สมกับเป็นลี่ถิงเซิ่งจริงๆ แม้แต่จูบก็ยังทำให้เธอยอมยกธงขาวให้เลย สวี่รั่วฉิงแอบคิดในใจ
เสียงทุ้มต่ำของลี่ถิงเซิ่งดังขึ้นบนหัวของเธอ:“ตอนนี้เป็นหรือยัง?”
สวี่รั่วฉิงส่ายหัว:“ไม่เป็น”
ลี่ถิงเซิ่ง:“……”
“เพราะฉะนั้น ต่อจากนี้ คุณต้องสอนฉันอีกหลายๆรอบ”น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงยังมีอารมณ์ที่เพิ่งจูบเสร็จ
ลี่ถิงเซิ่งปล่อยให้เธอซุกอยู่ในอกของเขาอย่างเงียบๆ
หลังจากผ่านไปหลายนาที เขาถามขึ้นอย่างเรียบง่าย:“ใช้ไม้นี้กับคนมาเท่าไหร่แล้ว?”
สวี่รั่วฉิงเงยหน้าขึ้นโดยตรง แล้วกัดที่ลูกกระเดือกของเขาแรงๆทีนึง:“ใช้กับคุณแค่คนเดียว”
ลี่ถิงเซิ่งเงียบ
สวี่รั่วฉิงก็เหมือนแมวน้อยที่ยังไม่หย่านมอยากจะจู่โจมคน แต่จนปัญญาที่ไม่มีประสบการณ์ เวลาจู่โจมไม่ได้ทำให้คู่กรณีรู้สึกเจ็บ แต่กลับปลุกอารมณ์ได้ไม่น้อย
ระหว่างที่จูบเมื่อกี้ ผมหางม้าของสวี่รั่วฉิงได้คลายออก และมีหลายช่อได้ตกลงมาเกะกะอยู่ที่ข้างหู
เธอเลยดึงหนังยางมัดผมออกโดยตรง แล้วปล่อยผมดำสลวยลง
นิ้วมือของลี่ถิงเซิ่งเสยผมของเธอไว้ ลูบจับอย่างช้าๆ เหมือนกำลังลูบจับแมวที่ซนไม่เชื่อฟังอย่างไรอย่างนั้น
เขาค่อยๆก้มหน้าลง ปล่อยไปตามความรู้สึกของตัวเองแล้วจูบลงที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง
เป็นจูบที่ร้อนแรงทำให้คนยากที่จะต่อต้านได้ สมองของสวี่รั่วฉิงว่างเปล่า หลังจากจูบสิ้นสุดลง เธอเม้มปากจนแน่น
ดูท่าลิปสติกบนริมฝีปากของเธอ คงถูกลี่ถิงเซิ่งกินจนหมด
“ประธานลี่คะ……”เสียงของสวี่รั่วฉิงเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัว
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว มองผู้หญิงหน้าแดงที่อยู่ในอกของตัวเอง เสียงแหบทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูของเธอ:“ยังเรียกประธานลี่อีก?”
สวี่รั่วฉิง:“……”
เธอรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนสรรพนามการเรียกเขาเร็วไป มันดูแปลกๆยังไงไม่รู้
เดิมที ที่เธอมาใกล้ชิดลี่ถิงเซิ่งก็เพื่อแก้แค้นสวี่รั่วยี
ใครจะไปรู้ว่าเวลาผ่านไปอย่างช้าๆก็……
รอเธอตระหนักได้ ก็สายเกินไปแล้ว
สวี่รั่วฉิงรออยู่ครู่หนึ่ง รอสมองไม่ว่างเปล่าแล้ว ริมฝีปากที่บวมแดงของเธอค่อยๆขยับ:“ลี่ถิงเซิ่ง เปลี่ยนคุณมาขับรถแทนนะ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันไม่สามารถขับต่อได้แล้ว……ฉันขับไม่ไหว ไม่อย่างนั้นคงต้องเกิดอุบัติเหตุแน่”
ลี่ถิงเซิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจความหมายของผู้หญิงทันที
เขายิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก เหมือนหัวเราะเยาะเธออย่างไรอย่างนั้น:“ทำไม ขาอ่อนแล้วหรอ?”
สวี่รั่วฉิงจ้องเขาด้วยสายตาดุทีนึง
ตาจ้องเขาไม่ขยับ นึกว่าตัวเองหน้าดุมาก ที่จริงแล้ว อย่างกับแมวเหมียวอารมณ์โมโห ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
ตอนที่ทั้งสองคนกลับไปนั้น พวกคุณชายคนอื่นๆเห็นเปลี่ยนคนขับแล้วต่างก็อึ้ง
จากนั้นก็เห็นลิปสติกบนริมฝีปากของสวี่รั่วฉิงแทบจะไม่มีเหลืออยู่ ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
แม่ง!ทุกคนแอบด่าคำนี้ในใจโดยไม่ได้นัดหมายกัน!
ลี่ถิงเซิ่งเหมือนจะไม่เห็นสายตาสอดแนมของพวกเพื่อนๆ หลังจากหันมามองพวกเขาอย่างเย็นชาทีนึง ทุกคนก็รีบหันหน้าหลบพร้อมกันหมด
“คุณกลับไปเองไหวมั้ย?”ลี่ถิงเซิ่งถาม
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า ระหว่างทางที่กลับมา สงบสติอารมณ์ได้แล้ว
ขับรถกลับไม่มีปัญหาแน่นอน
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว:“ได้แน่นะ?”
“ไม่งั้น นั้นคุณก็ส่งฉันกลับแล้วกัน?”บนหน้าของสวี่รั่วฉิงไม่ได้มีสีหน้าพักผ่อนเหมือนเมื่อกี้อีก เธอนั่งอยู่ที่เบาะนั่งอย่างเกียจคร้าน ตาคู่นั้นที่ใสสะอาดมองลี่ถิงเซิ่งอย่างไม่ปกปิด ชี้นิ้วไปที่พวกรกลุ่มเพื่อนเขาที่อยู่ตรงกันข้ามอย่างล้อเล่น:“พวกเพื่อนๆของคุณกำลังรอดูเราสองคนอยู่เลยนะ”
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆหันไป
พวกคนข้างหลังของเขาก็รีบหันหลบ
ลี่ถิงเซิ่ง:“……”
ขมับของผู้ชายกระตุกเบาๆทีนึง:“แล้วมองไปทางพวกเขา”
ระหว่างที่พูด เขาก็หยิบมือถือออกมาโทร เรียกคนมาขับรถกลับไป แล้วสั่งให้คนอีกเดี๋ยวมารับเขาต่อ
“พี่ลี่ จะกลับไปกับพี่สะใภ้จริงหรอ?”ผู้ชายก่อนหน้าที่จีบเธอถาม
ครั้งนี่กลายเป็นสวี่รั่วฉิงเงียบ เพื่อนของลี่ถิงเซิ่งทำไมคนนึงยิ่งใจกล้ากว่าคนนึงนะ?
ลี่ถิงเซิ่งมองเขาทีนึง ไม่พูดอะไร แต่สายตาเหมือนกำลังถาม“นายใจกล้ามากเลยนะ?”
“เปล่าๆ ผมก็แค่ถาม นั้นไม่รบกวนพวกพี่แล้วนะ byebyeครับพี่สะใภ้!”
คนนั้นเห็นสาวตาของลี่ถิงเซิ่งก็รีบเผ่นโดยตรง
รอเขากลับไปถึง พวกคุณชายพวกนั้นล้อมรอบเขากันหมด
“ไง ได้คำตอบอะไรมาหรือเปล่า?”
“ถิงเซิ่งว่ายังไง?”
ทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน ผู้ชายร้อง “อ้า”ทีนึงอย่างจนปัญญา:“พวกนายอยากรู้ขนาดนั้น ทำไมไม่ไปถามพี่ลี่เขาเองล่ะ!”
“พวกเรากลัวจะถูกถิงเซิ่งด่ากลับมาสิ ให้นายไปปลอดภัยสุดแล้ว”
ผู้ชาย:“……”
เขาทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้ ไม่เพียงจะพนันแพ้ ยังถูกเพื่อนทรยศอีก!
……
วันรุ่งขึ้น ในออฟฟิศ
ตอนที่หลี่อานรายงานงานอยู่นั้น สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของลี่ถิงเซิ่งดีขึ้นเยอะเลย
หลี่อานแอบกลุ้มใจ นี่มันไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์เลยนะ ทำไมประธานลี่ใช้เวลาแค่คืนเดียว อารมณ์ก็กลายเป็นดีเลย?
แม้แต่นักออกแบบโครงการใหม่เกิดปัญหาขึ้น ประธานลี่ก็ไม่โกรธ?
ถ้าเป็นปกติ นักออกแบบคนนั้นต้องโดนลงโทษแน่ๆ วันนี้ ประธานลี่กลับพูดแค่คำเดียว“ส่งคืนกลับไปทำใหม่”
แม่ง ประธานลี่เคยอ่อนโยนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เหมือนจะรู้สึกถึง สายตาสอดส่องของหลี่อาน ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว:“ไม่ตั้งใจรายงาน?นายเอาแต่คิดอะไรอยู่”
หลี่อานรีบตัดความคิดในหัวทิ้ง จากนั้นก็เปิดเอกสารหน้าต่อไปแล้วเริ่มรายงาน:“โปรเจคน้ำหอมรุ่นจำนวนจำกัดของฤดูใบไม้ร่วงเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ ฟ่านเซียวเซียวเป็นผู้รับผิดชอบน้ำหอมตัวเอกของฤดูนี้ แต่……”
หลี่อานหยุดไปครู่นึง ในเมื่อวันนี้ อารมณ์ของประธานลี่ไม่เลว คงจะไม่คัดค้านมั้ง?
เขามองเนื้อหาในเอกสารแล้วพูด:“ผู้กำกับบอกว่า หวังว่านางเอกโฆษณายังคงเป็นแอนนาแสดงนำ เพราะโฆษณาก่อนหน้าที่แอนนาถ่ายกับนายแบบยอดเข้าชมทะลุสองร้อยล้านไปแล้ว แม้แต่การออกอากาศในต่างประเทศก็ยังได้รับคำชื่นชมมากมาย เพราะฉะนั้น……”
หลี่อานยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียงของลี่ถิงเซิ่งปฏิเสธออกมาโดยตรง:“ไม่ได้”
หลี่อาน:?
เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ ประธานลี่ยังอารมณ์ดีอยู่เลย ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนไป?
หลี่อานเงยหน้าขึ้นจากหลังแฟ้มเอกสาร เห็นสีหน้าของลี่ถิงเซิ่งที่เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ กลายเป็นน่ากลัวขึ้นมาทันที
เขาถึงขั้นรู้สึกอุณหภูมิรอบตัวเย็นลงไปหลายองศา
“ประธานลี่ครับ นั้นจะตอบผู้กำกับยังไงครับ?”หลี่อานถามอย่างระมัดระวัง
ไม่รู้ว่าประธานลี่คิดอะไรอยู่จริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เรื่องอะไรที่สามารถทำให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุด ประธานลี่ต้องทำแน่!
ลี่ถิงเซิ่งพูดอย่างเย็นชา:“ปฏิเสธโดยตรง บอกเขาว่าอย่าแม้แต่จะคิด”