ลี่ถิงเซิ่งปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ทำให้คุณนายลี่คาดไม่ถึง
ที่ผ่านมา ถึงแม้ลี่ถิงเซิ่งจะปฏิเสธเรื่องงานหมั้นมาหลายครั้ง แต่ก็ยังยอมถอย
ยังไงซะ คุณนายลี่ก็เป็นแม่ของเขา และเป็นนายหญิงของตระกูลลี่ในนาม ลี่ถิงเซิ่งต้องให้เกียรติเธอบ้าง
“แกบ้าไปแล้วหรอ?”คุณนายลี่วางแก้วชาลงอย่างแรง:“ตอนนี้ สวี่รั่วยีท้องนะ ลูกเป็นของแกแน่นอน หรือว่าแกอยากจะให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลลี่ตกอับอยู่ข้างนอกนั่นหรอ?”
คุณนายลี่ยิ่งพูดยิ่งโมโห น้ำเสียงดังขึ้นอย่างอดไม่ได้
คนใช้ที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ กลัวว่าวินาทีต่อจากนี้ ลี่ถิงเซิ่งจะพูดคำพูดยั่วโมโหอะไรออกมาอีก แล้วทำให้คุณนายลี่หัวใจวาย
ลี่ถิงเซิ่งก้มหน้าจีบชาคำนึงอย่างใจเย็น แล้วพูดอย่างเรียบเฉย:“ทำการตรวจDNAหรือยัง?”
“แก!”คุณนายลี่โมโหจนมือสั่น:“เรื่องที่แกได้ทำหรือไม่ได้ทำ แกยังไม่รู้หรอ?ตอนนี้ เธอท้องอยู่ ไปตรวจDNAยังไง!เรื่องนี้ ทำตามที่ฉันบอก เตรียมงานหมั้นโดยเร็ว ก่อนท้องของสวี่รั่วยียังไม่ออก รีบๆแต่งงานซะ แกก็ควรจะเก็บตัวเก็บใจให้เพลาๆลงซะ ตระกูลลี่เราไม่ใช่ว่าใครหน้าไหนจะแต่งเข้าได้ง่ายๆนะ!”
ลี่ถิงเซิ่งถอนหายใจเย็นชา:“ถ้าแม่ยังมีลูกชายอีกคน ก็เรียกเขาไปแต่งกับสวี่รั่วยีเถอะครับ”
ลี่ถิงเซิ่งพูดจบแล้วลุกขึ้นโดยตรง ฝากกับคนใช้ที่ยื่นอยู่ข้างๆ ไว้คำนึง“ส่งแขก”แล้วเดินขึ้นห้องโดยตรง
คุณนายลี่ที่อยู่ด้านหลัง ปัดแก้วที่อยู่บนโต๊ะทิ้งโดยตรง แก้วที่ตกหล่นบนพื้นดังเพล้งงง
คุณนายลี่ก็เดินออกไปอย่างโมโห
คนใช้สีหน้ากระวนกระวาย รีบเก็บกวาดเศษแก้วให้เรียบร้อย
“จื่อๆ คุณนายลี่คนนี้น่ากลัวมากเลย ทั้งๆที่คุณชายเป็นลูกแท้ๆของธอเอง ปกติไม่ก็เคยเห็นเธอมา พอมา ก็มาเร่งรัดเรื่องงานแต่ง……”
……
คุณนายลี่เริ่มลงมือจัดเตรียมงานหมั้นของลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยี
หลังจากคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ข่าว ก็มาที่คฤหาสน์ตระกูลลี่ด้วยตัวเอง
“ฉันได้ยินว่า เธอจะให้ถิงเซิ่งหมั้นกับรั่วยีแล้วงั้นหรอ?”คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ถาม
ที่ผ่านมา ที่คุณนายใหญ่ตระกูลลี่เห็นด้วยกับงานหมั้นของถิงเซิ่งกับรั่วยี ก็เป็นเพราะความหอมในมือของสวี่รั่วยี่สามารถบรรเทาอาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่งได้
ตอนนี้ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ยินว่าอาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่งดีขึ้นมากแล้ว เลยให้ความสำคัญกับท่าทีของลี่ถิงเซิ่งมากกว่า
คุณนายลี่พูดด้วยรอยยิ้ม:“แม่คะ ท่านเป็นห่วงอะไรคะ ตอนนี้ รั่วยีก็ท้องแล้วนะคะ ถ้าเด็กสองคนไม่รักกันจริง จะท้องได้ยังไงคะ?”
“ท้องหรอ?”คุณนายใหญ่ตะกูลลี่ตกใจมาก
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว แน่นอนว่าเธอต้องดีใจ ถ้ามีเหลนให้อุ้มก่อน
คุณนายลี่พูด:“ใช่ซิคะ รั่วยีย้ายออกจากที่พักถิงเซิ่งไปอยู่คฤหาสน์เซียวซานแล้ว ยังไงซะ ตั้งท้องมีคนที่บ้านตัวเองคอยดูแลอาจจะดีกว่า แต่ว่าในเมื่อท้องแล้ว เรื่องงานแต่งก็ต้องรีบจัดโดยเร็ว จะปล่อยให้ถิงเซิ่งเล่นเถลไถลไปวันๆไม่ได้แล้วนะคะ”
และอีกอย่าง ถ้ามีข่าวงานหมั้นของลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยีแพร่หลายออกไป เธอไม่เชื่อหรอกนะ ว่าแอนนายังจะยอมทนอยู่ในฐานะเมียน้อยต่ออีก
หลังจากที่คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ออกจากที่คุณนายลี่แล้ว คิดๆแล้ว เธอก็โทรหาลี่ถิงเซิ่ง
ลี่ถิงเซิ่งกำลังทำงาน ได้ยินมือถือดัง เขาก็ไม่สนใจ จนเซ็นชื่อและตัวอักษรสุดท้ายเสร็จถึงวางปากกาลงอย่างช้าๆ
คุณย่าโทรมาได้ไง?ลี่ถิงเซิ่งเห็นสายที่โทรเข้าแล้วขมวดคิ้ว
“คุณย่าครับ?”
คุณนายตระกูลลี่ได้ยินเสียงของลี่ถิงเซิ่งแล้วหัวเราะอย่างรักและเอ็นดูขึ้น
เธอถามเข้าประเด็นโดยตรง:“ถิงเซิ่ง ย่าได้ยินว่าสวี่รั่วยีเธอท้องแล้วงั้นหรอ?แม่ของหลานบอกว่า พวกหลานจะจัดงานหมั้นในเร็วๆนี้ ?คุณย่าไม่ได้มาเร่งหลานหรอกนะ แต่ในเมื่อมีลูกแล้วก็ควร เก็บใจบ้างได้แล้ว ยังไงซะ ตระกูลลี่ก็ต้องการคุณผู้หญิงที่เหมาะสมมาเป็น……”
สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งเย็นชาขึ้นอีก
แม่ยังเอาข่าวที่สวี่รั่วยีท้องไปเล่าให้ย่าฟังอีกงั้นหรอ?
ลี่ถิงเซิ่งโมโหในใจ เรื่องที่สวี่รั่วยีท้องจริงหรือเป่ลายังไม่พูดถึง คืนนั้น เดิมทีก็แปลกๆยังก็ชอบกล เขาจำอะไรไม่ได้เลย พอเขาได้สติอีกที ตัวเองก็นอนอยู่กับสวี่รั่วยีแล้ว
สวี่รั่วยีกับเขาต่างก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เสื้อผ้าของทั้งคู่ทิ้งเรี่ยราดอยู่บนพื้น แม้แต่ผ้าปูก็ยังมีคราบเลือดที่เห็นได้อย่างชัดเจน
เหมือนบ่งชี้ว่าทั้งคู่มีอะไรกัน
ถึงจะเป็นเพราะแอลกอฮอล์ เขาก็ไม่น่าถึงขั้นว่าจะจำอะไรไม่ได้เลยหนิ
สัญชาตญาณแรกของลี่ถิงเซิ่งก็คือ ไวน์แดงแก้วนั้นที่สวี่รั่วยีให้เขามีปัญหา
แต่ว่าไวน์แดงแก้วนั้นถูกทำลายไปตั้งนานแล้ว ไม่สามารถหาหลักฐานอะไรได้
ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาคมเข้ม นิ้วมือเรียวยาวเคาะที่โต๊ะเป็นจังหวะ
ถูกสวี่รั่วยีเล่นงานไปครั้งหนึ่ง
เขาประมาทเกินไป
“ถิงเซิ่ง?ทำไมไม่พูดล่ะหลาน?”น้ำเสียงของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ฟังดูสงสัย
“ต้องขอโทษนะครับ คุณย่าครับ เมื่อกี้ ผมกำลังคิดเรื่องงานอยู่ครับ”น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งอ่อนโยน เขาฟังออกว่าคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ เหมือนจะพอใจเรื่องที่สวี่รั่วยีตั้งท้อง
“ย่าไม่ควรมารบกวนตอนเวลาทำงานของหลานเลยนะ”คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ยิน แล้วพูดด้วยเสียงหัวเราะ:“ย่าเพิ่งกลับมาจากที่แม่ของหลาน เลยอยากถามดู ย่าไม่มีอะไรหรอกนะ ที่สำคัญคือความคิดของหลาน”
ลี่ถิงเซิ่งครับคำนึง แล้วคุยกับคุณนายตระกูลลี่ต่อ
หลังจากวางสาย เขารีบเรียกให้หลี่อานเข้ามา “การดำเนินกิจการของบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงบ้าง?หุ้นในช่วงนี้เป็นยังไง?”
หลี่อานอึ้งไปครู่นึง ไม่นึกว่าจู่ๆ ลี่ถิงเซิ่งจะถามเรื่องบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปขึ้นมา การที่เป็นผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่ง หลี่อานรู้ว่าการดำเนินกิจการของบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปถือว่าเฉยๆพอไปได้ แต่ไม่นึกว่าจะแย่ขนาดนี้
หลี่อานพูด:“ประธานลี่ครับ ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ท่านรอสักครู่นะครับ”
หลังจากสิบนาที หลี่อานยกเอกสารมากองนึง:“ประธานลี่ครับ กิจการการดำเนินงานของบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปแย่เหมือนเมื่อก่อนเช่นเคยครับ ประธานสวี่ติดหนี้มากมาย ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้อง……ล้มละลายแน่ครับ”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอย่างเยาะเย้ย ถึงว่าล่ะ จู่ๆ สวี่รั่วยีถึงได้สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
หลี่อานถาม:“ประธานลี่ ยังมีอะไรจะสั่งมั้ยครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งวางเอกสารลง ดวงตาที่เย็นชาเผยให้เห็นความดุร้าย
“จับตามองเส้นทางการเงินของบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปไว้ และช่วงนี้ สวี่รั่วยีติดต่อกับใครบ้าง รวมถึงเธอซื่ออะไรและจากที่ไหนด้วย”ลี่ถิงเซิ่งเม้มปากสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ถ้าหากสวี่รั่วยีใช้ยาอะไรละก็ ทั้งหมดนี้ก็สมเหตุสมผล
ตลาดซื้อขายใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินชวน บริษัทลี่ซื่อไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ธุรกิจสีขาวกับธุรกิจสีเทาแบ่งแยกอย่างชัดเจน ถ้าเป็นคนในธุรกิจสีขาวไปพัวพันกับธุรกิจเทา ถูกโดนสื่อรู้เรื่องละก็ ก็จะกลายเป็นจุดด่างพร้อยของบริษัทไปเป็นตลอดกาล
ลี่ถิงเซิ่งพูดเพิ่มเติมอย่างร้ายๆ:“โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดมืด ไม่เพียงแค่สวี่รั่วยีคนเดียว ถึงจะเป็นคนอื่นๆในบริษัทสวี่ซื่อกรุ๊ปคนไหนก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดมืด ต้องสืบให้ได้ว่าพวกเขาซื้ออะไรกันแน่”
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก
ใบหน้าของจางเฉิงยิ้มอย่างร่าเริง
บรรยากาศในห้องทำงานดูแปลกมาก เขายืนอยู่ที่ประตูแล้วถาม:“ประธานลี่ครับ ผมมาผิดเวลาหรือเปล่าครับ?”
หลี่อานตกใจ:“ผู้กำกับจาง ผมได้ปฏิเสธคุณไปก่อนหน้านี้ไปแล้วไม่ใช่หรอครับ?ประธานลี่บอกแล้ว ให้ใครไปถ่ายโฆษณาก็ได้ แต่แอนนาไม่ได้……”
“ผมก็มาเพื่อนเรื่องนี้แหละครับ”จางเฉิงพูด