ดวงตาสดใสของสวี่รั่วฉินกะพริบทีนึง ริมฝีปากแดงยกขึ้นนิดๆ เผยรอยยิ้มสวยงามออกมา
นิ้วขาวเนียนของเธอจิ้มที่โต๊ะทำงานเบาๆทีนึง
เมื่อกี้ ตอนที่จางเฉิงขวางเธอไว้คุยเรื่องโฆษณา เธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
นั้นก็คือลี่ถิงเซิ่งได้ช่วยเธอปฏิเสธคำขอของจางเฉิง
สวี่รั่วฉินนึกถึงนี้ มุมปากก็ยิ่งสูงขึ้นอย่างอดไม่ได้:“ประธานลี่ คุณช่วยฉันปฏิเสธงานโฆษณาหรอคะ?เพราะอะไรคะ?เพราะหึงงั้นหรอคะ?”
เธอมองหน้าลี่ถิงเซิ่งอย่างจริงจัง นัยน์ตามีเงาสะท้อนของผู้ชาย
เธอไม่อยากให้ตัวเองพลาดทุกรายละเอียดใดๆ บนใบหน้าของลี่ถิงเซิ่ง
ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่อยากปกปิด ทิ้งตัวไปข้างหลังแล้วพิงอยู่ที่โซฟา:“คุณเดาไม่ผิด”
แววตาของผู้ชายเผยให้เห็นความเร่าร้อน
แม้กระทั่งความสัมพันธ์พวกเขายังไม่ได้ยืนยันใดๆ ต่างคนต่างพยายามลองใจอีกฝ่าย ว่าตัวเองสำคัญกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน
สวี่รั่วฉินได้ยินลี่ถิงเซิ่งตอบทันทีโดยที่ไม่ลังเล แล้วตาสว่างทันที
“ประธานลี่คะ ครั้งนี้ คุณตอบได้เร็วมากเลยนะคะ แต่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะคะ ว่าคุณจะหึงหวง แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้ขนาดนี้ แค่ไปถ่ายโฆษณาชิ้นเดียว ไม่ได้ไปถ่ายละครสักหน่อย คุณยังกลัวฉันจะถูกคนอื่นเห็นอะไรหรือไง?”
ลี่ถิงเซิ่งมองสวี่รั่วฉินจากหัวจรดเท้ารอบนึง แล้วยื่นเอกสารในมือให้เธอ:“สุดสัปดาห์นี้ มีงานเลี้ยงงานนึง คุณไปออกงานกับผม ตอนนี้ แทนที่มีเวลามาลองใจผม สู้ไปทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อนจะดีกว่ามั้ย”
ปากทำเป็นพูดอย่างจริงจัง แต่มุมปากบางของลี่ถิงเซิ่งกลับโค้งขึ้น
แน่นอนว่าสวี่รั่วฉินก็ไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นรอยยิ้มนั้นของเขา
หึ ปากบอกไม่อยาก แต่ร่างกายโกหกไม่เป็นหรอกนะ
ที่จริงก็คือไม่อยากให้คนอื่นเห็นหน้าตาเธอตอนถ่ายโฆษณามากกว่า?
สวี่รั่วฉินรับเอกสารที่ลี่ถิงเซิ่งยื่นมาดู
คืองานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยประธานดังอีกคนในเมืองหลินชวน รายชื่อในรายการเชิญ มีคนดังมากมายของเมืองหลินชวน ในนั้นย่อมมีชื่อของคุณนายสวี่กับคุณสวี่ ยังมี……แม่ของลี่ถิงเซิ่ง คุณนายลี่
แต่ว่าน่าแปลกมาก ที่ไม่มีชื่อสวี่รั่วยีอยู่ด้วย
สวี่รั่วฉินยกคิ้ว น้ำเสียงฟังดูจริงจังกว่าเมื่อกี้
เวลาที่เธอตั้งใจทำงาน ก็จะจริงจังมาก
“ประธานลี่คะ ในการด์เชิญมีสองสามีภรรยาของตระกูลสวี่และยังมีแม่ของคุณ……ถ้าฉันไปด้วยละก็ มันไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่าคะ?อีกอย่าง นักข่าวคงต้องทำข่าวที่คุณพาฉันออกงานด้วยแน่เลยนะคะ”
จนถึงตอนนี้ สื่อของเมืองหลินชวนก็ไม่ลืมที่จะเอาเรื่องของเขากับสวี่รั่วยีมาทำข่าว
ถ้าเกิดผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างมาร่วมงานด้วย ถ้าลี่ถิงเซิ่งพาเธอไปด้วย นั่นมันเอาจุดอ่อนไปมอบให้กับสื่อชัดๆ
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเบาๆทีนึง
เสียงของเขาฟังดูทุ้มต่ำและน่าฟัง ทำให้ใจของเธอละลายโดยไม่มีเหตุผล
เขาหัวเราะอะไร?มีอะไรน่าหัวเราะงั้นหรอ?
สวี่รั่วฉินรู้สึกมึนงง เธอทำแก้มป่องแล้วมองหน้าผู้ชาย
ลี่ถิงเซิ่งมองเธอด้วยหางตา รอยยิ้มที่มุมปากดูอ่อนโยนและรู้สึกจนปัญญา เหมือนเขากำลังคุยอยู่กับเด็กอย่างไรอย่างนั้น:“ทำไม ตอนก่อนหน้านี้ที่บอกรักผม ไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้เลยงั้นหรอ?”
สวี่รั่วฉิน:“……”
ลี่ถิงเซิ่งเห็นเธอเงียบ เลยอยากแกล้งเธอเล่น
สวี่รั่วฉินที่ปกติปากจัด คนอื่นพูดมาคำนึง เธอสามารถสวนกลับเป็นสิบคำ
ได้เห็นเธอหงอยเป็นเรื่องที่หาเจอได้ยากมาก
“กล้าบอกว่ารักผม พอตอนนี้ กลับไม่กล้าเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้แล้วหรอ?ฮื๊ม?”
“ใครว่าฉันไม่กล้า ก็แค่งานเลี้ยงงานนึง?ในเมื่อ ชื่อเสียงฉันในเมืองหลินชวนก็ไม่ได้ดีไปไหนอยู่แล้ว ถ้าจะเสียชื่อจริง คนที่เสียก็เป็นประธานลี่คุณเองต่างหาก!”สวี่รั่วฉินประชดกลับ
พอดีเลย ได้ยินว่าวันนี้มีแบรนด์ดังแบรนด์นึงสามารถสั่งจองชุดราตรีที่สั่งตัดพิเศษได้ หวังว่าจะยังทันนะ
ลี่ถิงเซิ่งแอบยิ้มทีนึง
ถูกยั่วยุไม่ได้เลยจริงๆ
แค่พอมีคนยั่วยุเข้าหน่อย สมองก็โง่ทันที
จนเลิกงาน สวี่รั่วฉินเพิ่งจะนึกได้ว่าเธอหลงกลแผนยั่วยุของลี่ถิงเซิ่งเข้าแล้ว?
สวี่รั่วฉินคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ ก็หยิบมือถือออกมาแล้วส่งข้อความเสียง:“ลี่ถิงเซิ่ง คุณตั้งใจใช่มั้ย……คุณรู้ทั้งรู้ว่าฉันทนต่อการยั่วยุคนอื่นไม่ได้ที่สุด”
หลี่อานกำลังรายงานอยู่ ก็เห็นลี่ถิงเซิ่งหยิบมือถือออกมา แล้วกดฟังข้อความเสียงต่อหน้าเขา
หลังจากนั้น หลี่อานก็ได้ยินเสียงอ้อนของสวี่รั่วฉินดังมาจากมือถือของลี่ถิงเซิ่ง
หลี่อาน:“……”
แม่ง นี่ผู้ช่วยแอนอ้อนประธานลี่งั้นหรอ?และอีกอย่าง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะเรียกชื่อเต็มของประธานลี่?หลี่อานอึ้งไปทั้งคน สับสนไปหมด
แถมเขายังเห็นลี่ถิงเซิ่งมองมือถือแล้วยิ้มด้วย
ลี่ถิงเซิ่งตอบกลับเป็นตัวหนังสือ:“อืม”
ครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อเต็มของเขา ไม่นึกว่าจะเป็นสถานการณ์แบบนี้ ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกขำและจนปัญญากับเธอเลย แล้ววางมือถือไปข้างๆ
“รายงานต่อ”ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตา มองหลี่อานที่กำลังเหม่อลอยอย่างไม่พอใจ
หลี่อานดึงสติกลับมา แต่ก็ยังมึนงงทั้งคน:“ประธานลี่ครับ คุณกับแอนนาคงไม่ได้เป็น……”
“อื๊ม?”ลี่ถิงเซิ่งพูดอย่างหน้าเข้ม
หลี่อานกลืนน้ำลายทีนึง:“คุณกับแอนนาคงไม่ใช่คบกันแล้วมั้งครับ?”
คงไม่น่าใช่มั้ง?หลี่อานคิดในใจ ถึงประธานลี่จะบ้าคลั่งขนาดไหน ก็ไม่น่าจะลืมเรื่องงานหมั้นที่มีอยู่กับตระกูลสวี่ได้หนิ!นี่ถ้าขืนสวี่รั่วยีอาละวาดขึ้นมาอีก ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีก!
ลี่ถิงเซิ่งมองหลี่อานด้วยหางทีนึง:“นายมีความเห็นงั้นหรอ?”
หลี่อานรีบส่ายหัวเหมือนปกติเช่นเคย:“เปล่าไม่มีความเห็น ไม่มีครับ—*เดี๋ยวนะครับ!นั้นก็หมายความว่า ประธานลี่ คุณกับแอนนา……จริงหรอครับ?”
หลี่อานพูดถึงครึ่งนึง แล้วลืมตาจนโต
ลี่ถิงเซิ่งมองเขาทีนึง ริมฝีปากบางขยับเบาๆ:“รายงานต่อ”
หลี่อาน:“……”
แม่ง ประธานลี่ไม่ตอบตรงๆ ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง
ถึงว่าล่ะผู้กำกับจางอุตส่าห์เอาใจกลับถูกเมินใส่!
ตามนิสัยของประธานลี่ จะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองไปถ่ายโฆษณาอะไรนั่นได้ยังไง!
แต่ว่า ประธานลี่กับแอนนาไปคบหากันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ……
ทำไม เขาถึงไม่รู้อะไรเลย?
……
สวี่รั่วฉินส่งข้อความให้สวี่อี้ฝาน:“ลูกรัก วันนี้หม่ามี๊จะไปห้างแล้วไปซูเปอร์มาร์เก็ตต่อ อยากกินอะไรบอกหม่ามี๊มา ตอนหม่ามี๊กลับจะซื้อกลับมาด้วย”
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเลิกเรียนตั้งนานแล้ว ตอนนี้กลับมาถึงบ้านแล้ว
สวี่อี้ฝานได้รับข้อความจากสวี่รั่วฉินแล้ว ก็ถามน้องสาวที่กำลังทำการบ้านอยู่ข้างๆ:“เดี๋ยวกลางคืน เธออยากกินอะไร?หม่ามี๊จะไปซูเปอร์มาร์เก็ต”
สวี่อี้หานคิดๆ:“หนูอยากกินพุดดิ้ง!และก็อาราเระโมจิ!ยังมีแครกเกอร์กุ้งด้วย—”
สวี่อี้ฝาน:“ถามว่าข้าวเย็นอยากกินอะไร ไม่ได้ถามว่าอยากกินขนมอะไร”
สวี่อี้หานออคำนึงอย่างเศร้า:“นั้นก็กินพิซซ่ากับแผ่นมันฝรั่งทอดเหมือนเดิมแล้วกันค่ะ!จากนั้นเอาครีมอัฟอีกชุดนึงค่ะ!”
สวี่อี้ฝานจนปัญญากับเธอเลย นี่มันต่างอะไรกับขนมละเนี่ย แต่ก็บอกสิ่งที่สวี่อี้หานอยากกินให้กับสวี่รั่วฉินไป
สวี่รั่วฉินจดเอาไว้ แล้วโยนมือถือเข้าในกระเป๋า เริ่มเดินช้อปปิ้งในห้าง
ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเดินพลุกพล่าน แต่ในห้างขายแต่สินค้าแบรนด์เนม คนเลยไม่ถือว่าเยอะ
สวี่รั่วฉินเดินดูโซนรองเท้าผู้หญิงสักพัก สุดท้าย เห็นรองเท้าส้นเข็มที่เป็นกากเพชรสีเงิน
สูงประมาณสิบเซนติเมตรได้ เข้ากับชุดราตรีพอดี
สวี่รั่วฉินเพิ่งจะเอื้อมมือไปหยิบรองเท้าคู่นั้น จู่ๆก็มีมือเรียวยาวคู่นึงยื่นออกมาพร้อมเธอ และหยิบรองเท้าคู่นั้นไว้ด้วย
สวี่รั่วฉินอึ้งไปวินาทีนึง แล้วเงยหน้าขึ้นมา
เป็นชายหน้าตาหล่อคนนึง