สวี่รั่วฉิง:???
สวี่รั่วฉิงแอบด่าอยู่ในใจคำนึง“เย็ดแม่ง”!ฉินซวี่ทำอะไรเนี่ย!นี่ไม่ใช่รอให้ลี่ถิงเซิ่งโกรธเหรอ?เธอไม่ได้บอกเขานะว่าโอเคหรือไม่โอเค!
สวี่รั่วฉิงกำลังเตรียมจะโต้แย้ง ได้ถูกลี่ถิงเซิ่งกดไหล่ไว้เบาๆ
เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นแววตาที่ปกติสงบนิ่งของลี่ถิงเซิ่ง เหมือนมีเปลวไฟเล็กๆลุกไหม้ขึ้นมา
สวี่รั่วฉิงแทบจะสามารถรู้สึกได้ว่าอุณภูมิของฝ่ามือเขาได้เปลี่ยนมาค่อนข้างร้อน
ไม่ใช่มั้ง ไม่นึกเลยว่าเขาจะไปหลงกลกับวิธียั่วยุที่เห็นได้ชัดขนาดนี้?
สวี่รั่วฉิงดึงชายเสื้อของลี่ถิงเซิ่งเบาๆทีนึง เพื่ออยากเตือนเขาว่านี่คือวิธียั่วยุของฉินซวี่เฉยๆ
แต่ท่าทางเล็กๆนี้อยู่ในสายตาของลี่ถิงเซิ่งได้เปลี่ยนเป็นความหมายอย่างอื่น
เขานึกว่าสวี่รั่วฉิงจะพูดแทนฉินซวี่ ความไม่พอใจได้เพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
เมื่อกี๊ออกมาจากห้องอ่านหนังสือของคุณหลิน สิ่งแรกของลี่ถิงเซิ่งทำก็คือกลับมาในงานมาตามหาสวี่รั่วฉิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังพูดคุยกับชายอื่นอยู่ รอยยิ้มตรงมุมปากยากที่จะปกปิด ไม่รู้ว่าได้ฉินซวี่พูดอะไรไปบ้าง เธอได้ก้มหน้าไว้ เหมือนกำลังเก้อเขินอยู่
หลายวันก่อนเพิ่งจะบอกว่าชอบเขา ตอนนี้ก็ส่งสายตาหวานให้ชายอื่นแล้ว?
มือที่ลี่ถิงเซิ่งกดอยู่บนไหล่สวี่รั่วฉิงใช้แรงเล็กน้อย แต่กลัวว่าเธอจะเจ็บ ก็ไม่กล้าใช้แรงมากอีก
“ประธานฉินมั่นใจเกินไปหรือเปล่า” น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งเย็นชา
องศามุมปากของฉินซวี่มียิ่งอยู่ยิ่งลึกขึ้น
เขากับลี่ถิงเซิ่งเคยคบหาสมาคมอยู่ในวงการธุรกิจมาหลายครั้ง รู้ดีว่าคนๆนี้มีเล่ห์เหลี่ยมมาก น้อยมากที่คนทั่วไปจะสามารถเดาออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
น้อยมากที่จะมีคนสามารถยุให้เขาเกิดอารมณ์ แต่ที่ทำให้คนคิดไม่ถึงคือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ จะสามารถยั่วยุอารมณ์ของเขาได้
สนุกจริงๆ
ดูท่าข้อมูลที่ลูกน้องรวบรวมมาล้วนเป็นความจริง ในข่าวลือประธานของลี่ซื่อกรุ๊ปให้ความสำคัญกับนักปรุงน้ำหอมที่ชื่อแอนนามาก
ฉินซวี่พูดอย่างเรียบเฉย:“เหรอครับ?ผมว่า ประธานลี่ไม่มีสิทธิ์พูดคำนี้ให้มั่นใจขนาดนี้มั้งครับ?เพราะดูเหมือนคุณจะไม่เคยยอมรับแอนนาในที่สาธารณะมาก่อนเลย คนในแวดวงก็ไม่เคยเห็นว่าเธอเป็นอะไรของคุณ ถ้าให้ความสำคัญกับแอนนาจริงๆ สู้ตอนนี้อยู่ในที่สาธารณะให้ฐานะกับเธอ?ตอนนี้จะแฟนก็ไม่ใช่ จะผู้ช่วยก็ไม่ใช่ แบบนี้มันไม่ค่อยเหมาะสมมั้งครับ?”
ฉินซวี่พูดจบก็ได้มองไปที่ไกลๆแว๊บนึง จากนั้นได้พูดเบาๆอีก:“วันนี้คุณนายลี่ก็อยู่เหมือนกัน ดูท่าเป็นโอกาสที่ดีในการเปิดตัวเลย ไม่ใช่เหรอครับ?”
แววตาลุ่มลึกของลี่ถิงเซิ่งมีความโมโหแฝงอยู่
ฉินซวี่กำลังยั่วโมโหเขา
เขาคงตรวจสอบเรื่องของสวี่รั่วฉิงชัดเจนหมดตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้นในงานวันนี้ถึงได้มาขวางเขาไว้และพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา
โทนเสียงของลี่ถิงเซิ่งต่ำกว่าเมื่อกี๊หลายระดับ:“ประธานฉิน ดูเหมือนคุณจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ ผมกับผู้หญิงของผมจะเกิดอะไรขึ้น คุณก็ไม่มีเหตุผลใดๆมาเค้นถาม”
“เหรอครับ?งั้นถ้าผมจะจีบเธอล่ะ?”ฉินซวี่ถามด้วยสีหน้ายิ้มแฉ่ง:“ในเมื่อแอนนาอยู่กับคุณไม่มีฐานะ และไม่ใช่แฟนของคุณด้วย งั้นผมย่อมสามารถจีบเธอได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอครับ?”
ฉินซวี่ไม่รีบร้อนและไม่โวยวาย แววตาลึกๆของเขาสงบนิ่งดั่งสายน้ำ:“สามารถเจอแอนนาที่เมืองหลินชวนอีกครั้ง เป็นโอกาสของผม ผมจะไม่พลาดโอกาสนี้แน่นอน”
ฉินซวี่มองสวี่รั่วฉิงอย่างลึกซึ้งทีนึง หลังจากที่ทำท่าทางสุภาพกับเธอแล้ว เตรียมอยากจะหันหลังจากไป
“คุณฉิน” สวี่รั่วฉิงได้เรียกกะทันหัน
เธอรู้สึกได้ว่ามือที่ผู้ชายกอดไหล่เธอไว้ได้กอดแน่นขึ้นอีกที
สวี่รั่วฉิงรู้สึกตลก เธอเงยหน้าขึ้นมามองลี่ถิงเซิ่ง
ดวงตาสีดำคอยกระพริบปริบๆ เหมือนกำลังพูดว่า:คุณวางใจ
อาศัยตอนที่ลี่ถิงเซิ่งตะลึงงันเล็กน้อย สวี่รั่วฉิงยกริมฝีปากแดงขึ้น ใส่รองเท้าส้นสูงค่อยๆเดินมาที่ตรงหน้าของฉินซวี่
“คุณฉิน ใครก็เปลี่ยนใจฉันไม่ได้ค่ะ เรื่องที่ฉันอยากทำ มีแค่ฉันเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ ถ้าระหว่าง ประธานลี่กับฉันมีปัญหาอะไร ฉันจะคิดหาวิธีแก้ไขเอง แต่ไม่ใช่พึ่งคนอื่นหรือว่าพลังภายนอกมาช่วยฉันแก้ไขค่ะ” สวี่รั่วฉิงพูดอย่างสงบ
เธอคิดแบบนี้มานานมากแล้ว
ถ้าเธอชอบคนๆนึง นั่นก็คือชอบคนๆนึงเฉยๆ
“เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหนฉันไปจากลี่ถิงเซิ่ง มีแค่ความเป็นไปได้อย่างเดียว นั่นก็คือฉันไม่ชอบเขาแล้ว นอกจากนี้ ไม่มีสาเหตุอย่างอื่นค่ะ สิ่งที่ฉันอยากได้ หรือว่าคนที่ฉันอยากได้ ฉันจะพยายามสุดความสามารถไปเอามาให้ได้ค่ะ”
แววตาลึกๆของสวี่รั่วฉิงมีแสงของความมั่นใจระยิบระยับอยู่
ฉินซวี่มองผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ที่ส่องแสงประกายไปทั่วอย่างอึ้ง
ทั้งๆที่พวกเขาสามคนอยู่ที่มุมของจุดนัดพบ แต่เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็สามารถดึงดูดสายตาของเขาไปหมด
น่าสนใจจริงๆ บนโลกใบนี้ยังมีผู้หญิงที่ทุ่มเททุกอย่างออกไปเพื่อความรักจริงๆด้วย
ลี่ถิงเซิ่งฟังคำพูดเหล่านั้นของสวี่รั่วฉิงเข้าไปในหูหมด
ถึงแม้รู้ตั้งนานแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น แต่จู่ๆได้ยินคำพูดที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้ ลี่ถิงเซิ่งก็ยังรู้สึกตะลึงงันไปหลายวิอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
จากนั้นเขาได้ยิ้มอย่างจนปัญญา พร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เธอไม่ต้องพึ่งรูปลักษณ์ภายนอกก็สามารถสยบคนได้
ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยงดงาม แต่ดันยังไม่ยอมพึ่งหน้าตาทำมาหากิน
ดื้อรั้นจะตายอยู่แล้ว
“ประธานฉิน ได้ยินหรือยังครับ?” ลี่ถิงเซิ่งเดินมาที่ตรงหน้าของทั้งสองอย่างช้าๆ ก้มหน้ามองผู้หญิงและพูดอย่างเรียบเฉย:“เธอพูดได้ชัดเจนมากแล้ว เธอไม่ใช่สินค้าชิ้นนึง แต่คือคนๆนึง”
ฉินซวี่เก็บรอยยิ้มและความอ่อนโยนของดวงตาไว้
เขาหลุบตามองผู้หญิงที่แหงนหน้ามองตัวเองไว้
คราวที่อยู่ปารีสครั้งนั้นก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ตอนแรกดื้อด้านจะแย่ เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่น จนกระทั่งหลังจากที่เขาได้อธิบายทุกอย่างชัดเจน ในที่สุดถึงยอมรับความหวังดีของเขา
แม้กระทั่งตอนที่เธอไปคืนชุดราตรี ยังได้มอบน้ำหอมที่เธอปรุงเองให้เขาด้วย
ตอนแรกฉินซวี่ไม่ได้สนใจเรื่องน้ำหอมอะไรเลย แค่เห็นมันเป็นสิ่งของธรรมดาชิ้นนึงแล้วใช้เท่านั้นเอง
เพราะยังไงซะก็เกิดมาในตระกูลไฮโซ ย่อมจำเป็นต้องใช้น้ำหอมผู้ชายอยู่แล้ว
แต่ก่อนที่จะได้ดมกลิ่นน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงปรุง เขาไม่เคยรู้สึกช็อกขนาดนี้มาก่อนเลย
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแค่น้ำหอมคอลเลคชั่นนึง ไม่คิดเลยว่าจะสามารถทำให้คนรู้สึกได้ถึงโลกใบที่ไม่เหมือนกัน
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นไป ฉินซวี่ก็อยากเจอผู้หญิงที่ชื่อแอนนาคนนี้อีกครั้ง
อยากรู้ว่าเธอไปเอาความคิดมหัศจรรย์มากมายพวกนี้มาจากไหน
อยากลองถามดูว่าเธอที่ไม่เคยมีความรัก ปรุงน้ำหอมที่มีกลิ่นไอของความรักขนาดนั้นออกมาได้ยังไง
มาเมืองหลินชวนในครั้งนี้ เขาไม่เพียงได้เจอผู้หญิงที่เขาอยากเจอมาโดยตลอด ยังได้เห็นอีกมุมนึงของเธอด้วย
“ผมได้ยินแล้วครับ” ริมฝีปากสีอ่อนของฉินซวี่ค่อยๆเปิดและปิด
เขาจะพูดกับลี่ถิงเซิ่ง
แต่ในแววตาเขามีแค่สวี่รั่วฉิงเท่านั้น
ร่างเงาของคนอื่น เสียงของคนอื่น เขาล้วนไม่แคร์และไม่สนใจทั้งสิ้น
“เพราะฉะนั้น ผมถึงได้ชื่นชอบคุณไงครับ”
ฉินซวี่พูดได้สงบนิ่งมากๆ
แต่คำพูดของเขา เหมือนหินก้อนนึง
ที่โยนเข้าไปในทะเลสาบที่สงบนิ่ง
เขามองหน้าสวี่รั่วฉิง แววตาจริงจัง:“คำพูดที่คุณพูดเมื่อกี๊ผมได้ยินหมดแล้ว เพราะฉะนั้นผมถึงได้ชื่นชอบคุณไงครับ ตอนนี้คุณกับ ประธานลี่มีความสัมพันธ์กันยังไง มันไม่เกี่ยวกับผม ผมจีบคุณเป็นเรื่องของผม ก็ไม่เกี่ยวกับคุณเหมือนกัน”
ฉินซวี่พูดจบก็ได้มองลี่ถิงเซิ่งแว๊บนึง:“เล่นให้สนุกนะครับ”