คุณนายลี่ลืมตาโต มองสวี่รั่วยีอย่างเหลือเชื่อ
“เธอพูดว่าอะไรนะ?ไหนลองพูดอีกทีซิ!”คุณนายลี่อารมณ์ตื่นเต้น
ถึงแม้เธอจะดูถูกผู้หญิงที่ท้องก่อนแต่ง แต่ถ้าสวี่รั่วยีท้องแล้วจริง ถิงเซิ่งยังไงก็ต้องแต่งงานกับเธอ!ห้ามมีข้ออ้างใดๆ!
สีหน้าของสวี่รั่วยียิ่งอยู่ยิ่งเขินอาย แทบจะเอาหัวมุดเข้าไปในใต้รักแร้ตัวเอง
“คุณป้าคะ!”เสียงเธอเขินอาย:“ขืนพูดต่อ หนูเขินแล้วนะคะ…”
คุณนายลี่ดีใจใหญ่ ดูท่าทางของสวี่รั่วยีแล้ว ทั้งคู่คงเป็นครั้งแรกก็มีเลย
คุณนายลี่ไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้ว หลังจากนี้ เธอคงยุ่งน่าดูเลย อีกสิบเดือน เธอก็จะเป็นคุณย่าแล้ว!และอีกอย่าง ต้องรีบหาฤกษ์แต่งงานของลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยีให้ได้โดยเร็ว
จะให้คลอดลูกแล้วค่อยแต่งงานก็คงไม่ใช่หรอกนะ!
และจำเป็นต้องจัดงานแต่งให้แล้วเสร็จก่อนท้องของสวี่รั่วยีโตอีกด้วย!
พอนึกถึงนี่แล้ว คุณนายลี่ก็รีบสั่งให้สวี่รั่วยีพักผ่อนดีๆ:“เรื่องหลังจากนี้ เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ!คุณป้าจะจัดการให้เธอเอง เธอมีหน้าที่พักผ่อนให้ดีก็พอ!”
คุณนายลี่พูดจบ ก็สั่งคนใช้ที่อยู่ข้างกาย:“ดูแลคุณหนูของพวกเธอให้ดีล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอละก็ ฉันจัดการกับพวกเธอแน่!”
คุณนายลี่พูดจบ แล้วออกจากห้องสวี่รั่วยี เธอมาถึงที่ห้องรับแขก แล้วเข้าไปจับมือของคุณนายสวี่อย่างตื่นเต้น:“โธ่เอ๊ย!เรื่องสำคัญแบบนี้ คุณทำไมไม่บอกฉันก่อนละคะ?ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า!รั่วยีท้อง นั่นคือทายาทของตระกูลลี่เราเลยนะ!เรื่องแบบนี้ คุณน่าจะบอกฉันให้เร็วกว่านี้!”
คุณนายสวี่เห็นคุณนายลี่ตื่นเต้นแบบนี้ รู้ว่าหล่อนหลงกลแผนของเธอแล้ว
แต่เธอจะแสดงออกมาไม่ได้
สีหน้าของคุณนายสวี่ดูกังวลสับสน สีหน้าเหมือนคนที่เป็นแม่ที่ห่วงลูกสาวคนอื่นๆที่ควรมี
เธอถอนหายใจแล้วพูด:“เฮ้อ จะว่าแล้วมันก็ใช่ แต่ว่า……ตอนนี้ ถิงเซิ่งกับรั่วยียังไม่ได้หมั้นกันเลยนะคะ เรื่องแต่งงานยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย แล้วรั่วยีก็มาท้องก่อนแต่ง ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะทำยังไงดี……”
ระหว่างที่พูด คุณนายสวี่เกือบจะร้องไห้ออกมา
เธอขอบตาแดง หยิบผ้ามาเช็ดที่หางตา
คุณนายลี่ปลอบใจพูดขึ้น:“คุณวางใจเถอะนะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ในเมื่อ รั่วยีมีเลือดเนื้อของตระกูลลี่เรา ก็ควรแต่งเข้าบ้านตระกูลเราเช่นกัน!”
ได้ยินคุณนายลี่รับประกันแบบนี้ คุณนายสวี่ก็วางใจ
หลังจากคุณนายลี่ปลอบใจเธอไปไม่กี่คำแล้วพูด:“เรื่องงานแต่งต่อจากนี้ ฉันจะมาปรึกษากับคุณเอง ให้รั่วยีพักผ่อนดีๆเถอะนะ”
หลังจากคุณนายลี่คุยกับคุณนายสวี่สักพัก ก็ออกจากคฤหาสน์เซียวซาน คุณนายสวี่หัวเราะได้ใจออกมา เธอมาถึงที่ห้องของสวี่รั่วยี นั่งที่ข้างเตียงของเธอ:“เรื่องหลังจากนี้ ก็ต้องพึ่งแต่คุณนายลี่แล้ว ช่วงนี้ ลูกก็แกล้งทำเหมือนคนท้องไม่สบายนอนอยู่บนเตียงซะนะ รอตอนที่ใกล้จะปิดต่อไปไม่ไหว ถึงตอนนั้น แล้วค่อยแกล้งล้มทำเป็นแท้งลูก ภายในช่วงนี้ ต้องรีบจัดการเรื่องงานแต่งให้เรียบร้อย”
สวี่รั่วยีพยักหน้า
ที่แท้ แค่ลูกคนเดียวก็สามารถได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
รู้แบบนี้ เธอน่าจะขึ้นเตียงของลี่ถิงเซิ่งตั้งนานแล้ว
“แม่คะ แล้วถ้าถิงเซิ่งไม่ยอมล่ะคะ?”สวี่รั่วยีถือว่ารู้นิสัยของลี่ถิงเซิ่งดี เรื่องที่เขาไม่อยากทำ ถึงคุณนายลี่บังคับก็ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้
“เรื่องนี้ ลูกไม่ต้องห่วงหรอกนะ ถึงคุณนายลี่จะทำไม่สำเร็จ ยังมีคุณนายใหญ่ตระกูลลี่อยู่อีกคน”คุณนายสวี่ยิ้ม เธอตบที่มือของสวี่รั่วยีแล้วปลอบใจ:“เชื่อแม่ ไม่ผิดหรอกนะ”
หลังปลอบใจสวี่รั่วยีเสร็จ คุณนายสวี่ก็ออกจากห้องแล้วกลับไปที่ห้องตัวเอง แววตากลายเป็นบ้าคลั่งและโลภ
เธอส่งข้อความให้กับพ่อแท้ๆของสวี่รั่วยี
“รีบไปสืบความสัมพันธ์แอนนากับตระกูลซูให้แน่ชัดซะ ถ้าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลซู ฉันก็จะหาวิธีกำจัดเธอให้หายจากโลกนี้ไปอย่างถาวร!”
……
หลังจากคุณนายลี่ออกจากคฤหาสน์เซียวซาน ก็สั่งให้คนขับไปส่งเธอที่คฤหาสน์เฉินซาน
เธอน้อยมากที่จะมาที่คฤหาสน์เฉินซาน
แม่บ้านก็นึกไม่ถึงว่าคุณนายลี่จู่ๆจะมาที่นี่ได้:“คุณนายคะ ท่านมาได้ยังไงคะ?”
คุณนายลี่หัวเราะอย่างเย็นชา:“แม้แต่บ้านของลูกชายฉัน ฉันก็มาไม่ได้งั้นหรอ?”
คุณนายลี่นั่งลงที่โซฟาอย่างไม่เกรงใจ แม่บ้านจนปัญญา เลยได้แต่สั่งให้คนเตรียมไปรายงานให้ลี่ถิงเซิ่งทราบว่าคุณนายลี่มา
“เธอกล้าไปรายงานเขาก็ลองดู”คุณนายลี่พูดชัดทีละถ้อยคำ:“บ้านของลูกชายฉัน ฉันอยากมาเมื่อไหร่ก็มา อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ไป!ไปรายงานทำไม หรือเขายังต้องคอยระวังฉันอะไรงั้นหรอ!”
คุณนายลี่พูดแบบนี้แล้ว แม่บ้านก็ไม่กล้าไปรายงานอีก เลย เธอไปชงชาแล้วยกไปให้คุณนายลี่เอง
“ถิงเซิ่งจะกลับมาเมื่อไหร่?”คุณนายลี่ไม่ได้ดื่มชา แต่ถามเธอโดยตรง
แม่บ้านพูดตามความจริง:“พูดยากค่ะ ดิฉันไม่มีสิทธิ์ไปถามตารางงานของคุณชายหรอกนะคะ”
คุณนายลี่ถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย:“นั้นฉันก็รอที่นี่แล้วกัน”
ลี่ถิงเซิ่งประชุมเสร็จ นั่งรถกลับมาถึงคฤหาสน์เฉินซาน
ในคฤหาสน์ ไฟเปิดสว่างจ้า
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว เขาถอดเสื้อสูทออกยื่นให้กับแม่บ้านที่อยู่ข้างๆ
แม่บ้านรับเสื้อมา แววตาดูกระวนกระวาย ทำท่าจะพูดแล้วหยุดไป
เสียงของลี่ถิงเซิ่งเย็นชา:“มีอะไรก็พูดมา”
แม่บ้านทำหน้าลำบากใจ ระหว่างที่เธอกำลังจะบอกกับลี่ถิงเซิ่ง ว่าคุณนายลี่มานั้น แต่คุณนายลี่ก็ได้เดินมาที่ประตูแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งรู้เหตุผลที่แม่บ้านทำหน้าลำบากใจทันที
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มบางๆ ดึงเนกไทออกแล้วยื่นให้แม่บ้านไปด้วยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“แม่ครับ มาได้ยังไงครับ”
คุณนายลี่ยิ้มอย่างฝืนใจ:“ฉันไม่มา ก็คงไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองย้ายมาอยู่นี่แล้ว”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ใส่ใจคำพูดเธอ เขาเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขก
ขาเรียวยาวนั่งไขว่ห้าง มือข้างเดียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออก แล้วเงยหน้าดื่มกาแฟเย็นคำนึง:“ที่นี่บรรยากาศดี ไม่มีใครมารบกวนดีครับ”
คุณนายลี่ก็ไม่สนใจกับคำพูดประชดประชันของเขาเหมือนกัน:“เรื่องที่ลูกนอนกับรั่วยี ทำไมไม่บอกแม่?”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว แก้วถูกเขาวางลงที่โต๊ะ:“เธอบอกแม่หรอครับ?”
คุณนายลี่หัวเราะเยาะ:“ทำไม แกไปนอนกับเธอ คนอื่นยังมาฟ้องแม่ไม่ได้หรือไง?”
สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งเย็นชามาก:“เรื่องของหนุ่มสาว แม่ก็จะยุ่งงั้นหรอ?”
คุณนายลี่โกรธจนตบโต๊ะ:“เหลวไหล!คนอื่นท้องแล้ว !แกยังบอกว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวงั้นหรอ!ตอนนี้ ลูกในท้องของสวี่รั่วยีเป็นลูกของแก!แกว่า ฉันควรจะยุ่งมั้ย!”
ผู้ชายหรี่ตา
พริบตาเดียว อุณหภูมิในห้องรับแขกติดลบทันที
แม้แต่คนใช้ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายที่เผยออกจากร่างกายของลี่ถิงเซิ่ง ทำให้คนกดดันจนหายใจไม่ออก
“ลูก?”ลี่ถิงเซิ่งถามอย่างเย็นเยือก
คุณนายลี่พูด:“ใช่ ลูก ตอนนี้ สวี่รั่วยีเธอท้องแล้ว เป็นลูกของแก ฉันไม่สนว่าแกจะชอบแอนนาหรือว่ายังไง ตอนนี้ แกมีแค่ทางเลือกเดียวก็คือ ก่อนท้องของสวี่รั่วยีโตขึ้นมา แต่งงานกับเธอซะ!จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื่อสายของตระกูลลี่เราตกอับข้างนอกไม่ได้เด็ดขาด!”
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆเงยหน้า น้ำเสียงฟังดูเย็นเยือกอย่างกับพายุหิมะในเดือนมกราคม:“ใครๆก็อาจอยากจะแต่งงานกับสวี่รั่วยี แต่ผมไม่”