ชีวิตนี้สวี่รั่วฉิงเพิ่งเคยเห็นคนที่เอาแต่ใจกว่าเธอเป็นครั้งแรก
แต่ดูเหมือนเธอไม่มีสิทธิ์ใดๆที่จะสามารถกล่าวโทษฉินซวี่เลย
ก็เหมือนที่ฉินซวี่พูด เขาจะชอบใครเป็นสิทธิ์ของเขา เขาจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขาเหมือนกัน
ไม่มีใครมีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้นที่จะสามารถขัดขวางเรื่องใดๆที่เขาอยากทำ
สวี่รั่วฉิงมองดูร่างเงาที่ฉินซวี่จากไป หลังจากครุ่นคิดอยู่เงียบๆครู่นึง เธอได้หันไปถามด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย:“ประธานลี่ คุณคงไม่ใช่หึงคำพูดที่ฉินซวี่พูดเมื่อกี๊มั้งคะ?”
ลี่ถิงเซิ่งหลุบตาลง:“อ๋อ?ถึงขั้นเรียกชื่อของเขาเลยเหรอ?”
สวี่รั่วฉิง:“……งั้นฉันเรียกเขาประธานฉิน?”
ลี่ถิงเซิ่งฮื้ออย่างเย็นชาทีนึง และพูดอย่างเรียบเฉย:“แล้วแต่คุณ”
ยังบอกไม่ได้หึงอีก เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาไม่หึง
สวี่รั่วฉิงฉวยโอกาสตอนที่ลี่ถิงเซิ่งไม่สังเกตเห็น ได้ทำหน้าผีทีนึง
ลี่ถิงเซิ่งจูงมือของสวี่รั่วฉิงเบาๆ:“ไปเจอคุณนายหลินหน่อย เดี๋ยวถ้ารู้สึกเบื่อ ก็ไปพักที่โซนพักผ่อนสักพัก อย่าดื่มเหล้าเยอะ”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า
เธอควรจะบอกเรื่องที่เมื่อครู่ตัวเองดื่มไวน์แดงไปแก้วนึงให้ลี่ถิงเซิ่งฟังหรือเปล่า?
คุณนายหลินอายุเกินเลขสี่แล้ว แต่กลับดูแลตัวเองได้ดีมาก
เธอเห็นลี่ถิงเซิ่ง ใบหน้าได้เผยรอยยิ้มออกมาทันที:“ถิงเซิ่งวันนี้มาแล้วเหรอ?เมื่อกี๊น้ายังเห็นแม่นายด้วย เราได้พูดคุยกันสักพัก……”ระหว่างที่คุณนายหลินพูด สายตาได้หยุดอยู่ที่บนตัวของสวี่รั่วฉิงแล้วหยุดชะงักเล็กน้อย:“คนนี้คือ?”
หญิงสาวที่ควงแขนลี่ถิงเซิ่งไว้ไม่ใช่สวี่รั่วยีแน่นอน
คุณนายหลินเคยเจอสวี่รั่วยีอยู่นะ
ถึงแม้ลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยียังไม่ได้จัดพิธีงานหมั้น แต่คนที่ไปมาหาสู่กับตระกูลลี่และตระกูลสวี่เป็นประจำต่างก็พอรู้ข่าววงในอยู่บ้าง รู้ท่าทีของผู้ปกครองทั้งสองครอบครัว
คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าลี่ถิงเซิ่งเด็กคนนี้จะพาหญิงอื่นมาร่วมงานเลี้ยงของคืนนี้
คุณนายหลินเริ่มมองสำรวจสวี่รั่วฉิงอย่างละเอียด
ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าหน้าตาสวยเป๊ะ ดวงตาทั้งคู่กลมโตแวววาวเหมือนอำพันที่อ่อนโยน และแฝงด้วยความปราดเปรื่องเสี้ยวนึง
ลี่ถิงเซิ่งตอบคล้อยตาม:“เป็นหัวหน้านักปรุงน้ำหอมของบริษัทผมครับ”
คุณนายหลินมองเขาอย่างลึกซึ้งแว๊บนึง
เขาแค่ไม่ได้พูดคำพูดครึ่งท่อนหลังออกมาเฉยๆ
สวี่รั่วฉิงก็ไม่ได้แคร์อะไร แค่รักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้
ก่อนที่เธอจะรับปากจะมาออกงานราตรีนี้ก็รู้แล้วว่าจะมีใครมาในวันนี้
แต่ในใจเธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่ดี
“เมื่อกี๊น้าได้คุยกับแม่ของนายไปพักนึง วันนี้คนของตระกูลสวี่ก็มาด้วย” คุณนายหลินพูดอ้อมค้อม เพื่อส่งสัญญาณให้ลี่ถิงเซิ่งว่าเดี๋ยวอย่าทำเรื่องอะไรที่เลยเถิดออกมา
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอ่อนๆ:“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วครับ”
ยังไงซะคุณนายหลินก็ไม่ใช่ญาติของลี่ถิงเซิ่ง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสวี่รั่วฉิงเธอจะพูดอะไรมากก็ไม่ดี
เพียงแต่จู่ๆนึกถึงหัวหน้านักปรุงน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ปก็คือนักปรุงน้ำหอมที่ปรุงเมลิโลตัสออกมา ก็เกิดความสนใจขึ้นมา
“ฉันจำได้ว่าคุณเป็นคนปรุงเมลิโลตัส?”คุณนายหลินถาม
สวี่รั่วฉิงยิ้มอ่อนๆ:“ใช่ค่ะ”
“งั้นช่วยปรุงน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมเฉพาะให้ฉันได้มั้ย?”คุณนายหลินยิ้มอย่างเมตตาอ่อนโยน:“วางใจได้ ค่าตอบแทนของคุณจะไม่น้อยแน่”
สวี่รั่วฉิงมองลี่ถิงเซิ่งด้วยจิตใต้สำนึกแว๊บนึง เขาพูดอย่างเรียบเฉย:“คุณชอบก็พอ”
เขารู้จักสวี่รั่วฉิงดีมาก ถ้าเป็นคนที่เธอไม่ชอบ ถึงจะให้เงินเธอมากแค่ไหน เธอก็ขี้เกียจช่วยคนๆนั้นปรุงคอลเลคชั่นน้ำหอมออกมา
นี่ก็คงจะคือถูกชะตาที่โบราณกล่าวไว้สินะ
มีคำมั่นสัญญาของลี่ถิงเซิ่ง สวี่รั่วฉิงก็วางใจแล้ว
“คุณนายหลิน ฉันไม่ได้แคร์ค่าตอบแทนอะไรนั่นหรอกค่ะ ฉันรู้สึกคนที่ฉันมีความสนใจ ถึงแม้ไม่ให้ตังค์สักแดงเดียว ฉันก็ยอมปรุงน้ำหอมให้เธอ คนที่ฉันรู้สึกไม่มีความสนใจ ถึงเอากองเงินกองทองมาแลก ก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ”
คุณนายหลินยักคิ้วสวยเล็กน้อย
แหม ยัยหนูคนนี้พูดจาคุยโวโอ้อวดไม่เบาเลย
คุณนายหลินมองลี่ถิงเซิ่งแว๊บนึง ในใจพอจะรู้คร่าวๆแล้ว
นิสัยของสาวน้อยคนนี้สอดคล้องกับความชอบของเธออยู่ ไม่แปลกเลยที่ลี่ถิงเซิ่งจะชอบเธอ
สวี่รั่วฉิงยิ้มตาหยี:“ประธานลี่ งั้นฉันขอคุยกับคุณนายหลินสักครู่นะคะ ถ้าคุณมีธุระอย่างอื่นก็ไปทำก่อนเลยค่ะ”
ลี่ถิงเซิ่ง:“……” เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอ?
คุณนายหลินยิ้มละมุน สาวน้อยคนนี้ช่างกล้าพูดจริงๆ
ถ้าสาวน้อยคนนี้เป็นแฟนของลี่ถิงเซิ่งจริงๆ ไล่แฟนตัวเองไปต่อหน้าต่อตาเธอ สาวน้อยคนนี้กล้าทำจริงๆด้วย
“เอาล่ะถิงเซิ่ง น้าไม่รังแกสาวน้อยคนนี้หรอก”คุณนายหลินพูดด้วยรอยยิ้ม
ลี่ถิงเซิ่งมองสวี่รั่วฉิงอย่างลึกซึ้งแว๊บนึง แววตาส่งสัญญาณให้เธอว่าอย่าทำเรื่องอะไรที่เลยเถิด
พอลี่ถิงเซิ่งจากไป คุณนายหลินค่อนข้างแปลกใจ:“ทำไมคุณถึงให้ถิงเซิ่งไป?หรือมีคำพูดอะไรที่ไม่อยากให้เขาได้ยิน?”
คุณนายหลินมองสวี่รั่วฉิงอย่างมีความหมายลึกซึ้งพร้อมกระตุ้นให้เกิดสนใจ
ยังไงเธอก็ถือว่าดูลี่ถิงเซิ่งโตมาตั้งแต่เด็ก ถ้าสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าคนนี้พูดคำพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมา เธอที่เป็นผู้อาวุโสกว่าก็จะจำเป็นต้องเตือนลี่ถิงเซิ่งอยู่
ใครจะไปรู้ว่าสวี่รั่วฉิงจะพูดอย่างเป็นธรรมชาติ:“ถ้าเขาอยู่ คงจะมีคำพูดมากมายที่คุณนายหลินไม่พูด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาสอบถามน้ำหอมล้วนชอบความเงียบสงบ มีแค่ตอนที่อยู่ตามลำพัง พวกเขาถึงจะพูดสิ่งที่ในใจคาดหวังที่สุดกับฉัน ฉันถึงจะสามารถปรุงน้ำหอมที่พวกเขาชอบที่สุดให้กับพวกเขาค่ะ”
คุณนายหลินอึ้งไปครู่นึง
เดิมทีเธอนึกว่าที่สวี่รั่วฉิงให้ลี่ถิงเซิ่งไป เพราะจะทำความรู้จักกับแวดวงไฮโซให้มากขึ้นอีกขั้นเสียอีก
ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าสวี่รั่วฉิงแค่เพื่องานเฉยๆ
ที่จริงไม่นับว่าเป็นเรื่องงานเลยด้วยซ้ำ บางทีแค่พายเรือตามน้ำหวังสามารถสร้างความประทับใจให้กับลี่ถิงเซิ่ง?
คุณนายหลินคิดถึงตรงนี้ก็ถามอย่างห้ามใจไม่ได้:“ทำไมคุณถึงยอมช่วยฉันปรุงน้ำหอม?เมื่อกี๊คุณเพิ่งจะบอกว่าถ้าคุณไม่สนใจ ถึงเอากองเงินกองทองมาก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่เหรอคะ?”
สวี่รั่วฉิงหยิบมือถือออกมา ได้ยินคำพูดของคุณนายหลินแล้ว เธอยิ้มอ่อนๆพร้อมพูดว่า:“เป็นเพราะว่าหนูสนใจกลิ่นหอมบนตัวของคุณนายหลินมากค่ะ น่าจะมาจากฝีมือของอาจารย์Martinaจากสเปนสินะคะ”
แววตาของคุณนายหลินมีความตะลึงงันแว๊บผ่าน
แต่ถ้าเป็นนักปรุงน้ำหอม สามารถดมออกว่ากลิ่นหอมบนตัวเธอมาจากไหน มันก็พอที่จะให้อภัยได้
“ที่แท้คุณสนใจอันนี้เหรอ”
“แน่นอนค่ะ และฉันก็สนใจในตัวคุณหญิงมากค่ะ ฉันชอบผู้หญิงที่มีความสุขห้อมล้อมอยู่ทั้งตัว และชอบดูรอยยิ้มของพวกเธอค่ะ” ระหว่างที่สวี่รั่วฉิงพูด ได้หาแบบฟอร์มที่เซฟอยู่ในมือถือตัวเอง จากนั้นได้เอามือถือวางไว้บนโต๊ะ:“คุณนายหลิน คุณกรอกข้อควรระวังตามแบบฟอร์มให้เรียบร้อยก็พอแล้วค่ะ หลังจากนี้ถ้ามีอย่างอื่นเสริม สามารถติดต่อกับฉันเป็นการส่วนตัวได้ค่ะ แน่นอน วันนี้ฉันมาเป็นเพื่อนประธานลี่ ไม่ได้เอานามบัตรมาด้วย ดังนั้นคุณโทรหา ประธานลี่ก็ได้เหมือนกันค่ะ”
มือที่คุณนายหลินกำลังกรอกแบบฟอร์มอยู่ได้หยุดชะงักไปครู่นึง
ได้ยินคำพูดของสวี่รั่วฉิง เธอเกือบจะทนไม่ไหว เสียมารยาทและส่งเสียงหัวเราะออกมา
“คุณแอน ถ้าคุณเจอลูกค้าผู้หญิงคนอื่นที่ยังสาวอยู่ ก็จะให้พวกเธอติดต่อกับ
ถิงเซิ่งเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงกระพริบตาปริบๆ:“จะให้ได้ยังไงล่ะคะ?ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย ถึงฉันมีความมั่นใจมากแค่ไหน ก็ไม่ให้คนอื่นมาหมายปองคนที่ฉันชอบหรอกค่ะ”
คุณนายหลินรู้สึกขำ เธอเพิ่งจะเคยเห็นผู้หญิงที่แสดงตัวว่าตัวเอง“ริษยา”อย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้เป็นครั้งแรก