“ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมจะไปอิตาลี คาดว่าไม่กี่วันนี้คงจะได้เรื่องอะไรบ้าง” ซูจิ่วเอ๋อร์พูดกับสวี่รั่วฉิงเสียงดัง
สนามบินปารีสลมแรงมาก เสียงของซูจิ่วเอ๋อร์นั้นปะปนกับเสียงลมจนสวี่รั่วฉิงฟังเสียงได้อย่างลำบาก
“คุณซู เตรียมขึ้นเครื่องได้แล้ว” เลขาในชุดสูทสีดำเดินมาข้างๆซูจิ่วเอ๋อร์ พร้อมพูดอย่างสุภาพ
ซูจิ่วเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ พร้อมพูด “ฉันรู้แล้ว” แล้วก็กลับไปพูดกับสวี่รั่วฉิง “เธอได้ยินหมดแล้ว งั้นฉันเตรียมขึ้นเครื่องก่อนนะ ถ้ามีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับป้าหวัง ฉันจะรีบกลับไปที่เมืองหลินชวน หรือไม่เธอก็ลาหยุดประจำปีแล้วมาอิตาลีจะดีที่สุด เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันวางสายก่อนนะ บ๊ายบาย!”
ในสวี่รั่วฉิงนั้นยากที่จะสงบนิ่งได้อีกต่อไป เธอพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ลมหายใจจึงค่อยๆกลับมาเป็นปกติ
ขนตางอนยาวนั้นสั่นระริกเล็กน้อย มือที่จับโทรศัพท์อยู่นั้นก็สั่นด้วยเช่นกัน
สวี่รั่วฉิงมองโทรศัพท์ แล้วนิ่งเงียบไปสักพัก พร้อมกับเอาผมที่หล่นปรกหน้านั้นทัดไว้หลังหู แล้วสั่งอาหารที่สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานชอบทานให้มาส่ง จากนั้นจึงค่อยๆเดินไปทางห้องของลูกๆทั้งสองเพื่อเรียกให้พวกเขาออกมาทานข้าว
…
แดดในยามบ่ายช่างร้อนแรง หลังจากสวี่รั่วฉิงกำชับเด็กสองคนให้อยู่บ้านกันดีๆ ก็สวมแว่นกันแดดอันใหญ่ออกไปจากคอนโด
สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานกำลังเรียนอยู่ชั้นประถม เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองหลินชวน นอกจากจะอาศัยอยู่ที่แล้วยังต้องมีเงินคอยสนับสนุนจำนวนมากถึงจะมีคุณสมบัติสามารถเข้าเรียนที่นี่ได้
เมื่อมีคุณสมบัติแล้ว ยังจำเป็นต้องเข้าร่วมสอบข้อสอบระดับอยากมากอีกด้วย
ถ้าหากสอบแล้วคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ไม่สามารถเข้าเรียนได้
สวี่อี้หานและสวี่อี้ฝานนั้นได้สร้างเรื่องอัศจรรย์ขึ้นมา คะแนนของพวกเขาสองคนนั้นเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของการสอบคัดเลือก
ในโรงเรียนนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการหรือคุณครูแต่ละวิชา ก็รักเด็กชายสองคนนี้เป็นอย่างมาก
ครูประจำชั้นก็เช่นกัน ตอนที่มองเห็นสวี่รั่วฉิงใบหน้านั้นก็ยิ้มแย้มแจ่มใส “ที่แท้ก็เป็นผู้ปกครองของสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝานนี่เอง เด็กสองคนนี้ในอนาคตต้องเป็นเด็กที่มีอนาคตไกลแน่ๆเลย!”
ในเอกสารของสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝาน ช่องของบิดามารดานั้นถูกว่างเอาไว้ ในช่องของผู้ปกครองนั้นเป็นชื่อของสวี่รั่วฉิง
นี่ก็เป็นความต้องการของคุณผู้ชายซูและคุณผู้หญิงซูเช่นกัน รากฐานของตระกูลซูนั้นไม่ได้อยู่ที่เมืองหลินชวน ถ้าคนตระกูลสวี่นั้นต้องการทำให้สวี่รั่วฉิงเป็นอันตราย เพียงแค่ตรวจสอบก็สามารถสืบเจอความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝาน
ดังนั้นเขียนว่าเป็นผู้ปกครอง จะปลอดภัยที่สุด
สวี่รั่วฉิงถอดแว่นกันแดดออก พร้อมยิ้มเล็กๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่หรอกค่ะ เป็นเพราะคุณครูสอนได้ดีต่างหาก”
เมื่อครูประจำชั้นได้ยินผู้ปกครองของนักเรียนที่ตนเองชื่นชอบที่สุดชมตนเองเช่นนี้ ใบหน้านั้นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ทั้งยังคุยกับสวี่รั่วฉิงอีกนิดหน่อย “งั้นฉันขอตัวไปต้อนรับผู้ปกครองท่านอื่นๆก่อนนะคะ เชิญคุณเข้าไปก่อนเลย”
สวี่รั่วฉิงยิ้มหวานอ่อนๆ พร้อมหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปในห้องเรียน
สายตาเธอนั้นมองเห็นฉินซวี่
วันนี้เขาไม่ได้ใส่ชุดสูท แต่กลับใส่เป็นชุดสีขาวธรรมดาๆ
ที่นั่งข้างเขานั้นคือที่นั่งสำหรับสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงเบิกตากว้างเล็กน้อย เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
หรือว่าเขามีลูกแล้วเหรอ? สวี่รั่วฉิงนึกถึงคำพูดที่ฉินซวี่พูดเมื่อวาน สีหน้าท่าทางนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเล็กน้อย
มีลูกแล้วยังจะมาตามจีบผู้หญิง นี่ก็เลวเกินไปแล้ว! สวี่รั่วฉิงเดินไปข้างๆฉินซวี่ด้วยอารมณ์เดือดดาล นั่งเว้นห่างจากเขาไปหนึ่งที่
ฉินซวี่เงยหน้าขึ้น สายตานุ่มนวลนั้นเปล่งประกายระยิบระยับครู่หนึ่ง
เขาเลิกคิ้ว “คุณแอนก็มาประชุมผู้ปกครองด้วยเหรอครับ?”
คางเล็กๆของเธอที่ถูกหลังมือเท้าคางอยู่นั้น ค่อยๆหน้าเงยขึ้น “ฉันกับคุณฉินไม่เหมือนกัน ฉันเป็นผู้ปกครอง แต่ส่วนคุณนั้นคงจะเป็น…พ่อของเด็กนักเรียนล่ะสิ?”
ฉินซวี่ “…”
ใบหน้าหล่อร้ายนั้นปรากฏความรู้สึกหน้าแตกออกมาให้เห็น
เขาดูเหมือนคุณพ่อของเด็กน้อยมากงั้นเหรอ?
ฉินซวี่ปากแข็งทื่อไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปทางสวี่รั่วฉิงนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน
เขาเหลือบตาลง มองนาฬิกาบนข้อมือ กว่าจะถึงเวลาประชุมผู้ปกครองก็ยังพอมีเวลาอีกหน่อย เขาจึงอดทนต่ออีกหน่อย พร้อมพูดกับสวี่รั่วฉิง “ถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะ?”
สวี่รั่วฉิงกลอกตานิดหน่อย ปากที่ทาลิปสติกแดงนั้นเปล่งพูดทีละคำ “งั้นคุณฉินก็คงเป็นผู้ชายที่เลวงั้นสิ? มีลูกแล้วยังตามจีบผู้หญิงอยู่ ฉันคงไม่คุ้นชินกับการเป็นแม่เลี้ยง”
เธอพูดจบ ก็เบนสายตากลับมาหลับแล็บท๊อปออกมาจากในกระเป๋า เชื่อมต่อคีย์บอร์ด เปิดอีเมลพร้อมกับเริ่มจัดการกับอีเมลงานลูกค้าของลี่ซื่อกรุ๊ป
นัยน์ตาดำขลับของฉินซวี่จ้องมองไปที่นิ้วเรียวขาวสะอาดที่กำลังเคาะพิมพ์ไปบนคีย์บอร์ดแล็บท๊อปของเธออย่างตามอำเภอใจ
หลังจากนั้นไม่กี่วิเขาก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ปรากฏรอยยิ้มราวกับว่าเจอเรื่องน่าขำ “งั้นคงน่าเสียดาย วันนี้ผมมาก็เพราะช่วยมางานประชุมผู้ปกครองให้หลาน”
นิ้วเรียวอ่อนนุ่มของสวี่รั่วฉิงที่กำลังเคาะพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่นั้นหยุดชะงักไป ใบหน้าของเธอดูไม่ออกว่าเก้อเขิน แต่ในใจนั้นกลับเก้อเขินอยู่เล็กน้อย
เธอหันหน้ากลับไปทางฉินซวี่พร้อมกับปรากฏรอยยิ้มพิมพ์ใจ “เหรอคะ? งั้นคุณฉินก็คงเป็นลุงที่ดีจริงๆ ดูแล้วฉันคงจะเข้าใจคุณฉินผิดไป”
พูดจบ สวี่รั่วฉิงก็ไม่เสียเวลาอีก รีบจัดการกับงานของตัวเองต่อ
ไม่นาน เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาข้างๆตัวเธอ “คุณแอนนี่ช่างใจกว้างจริงๆใช่ไหม? คุณเป็นคนของลี่ซื่อ จัดการงานของบริษัทต่อหน้าผม ไม่กลัวผมแอบขโมยความลับของบริษัทเหรอ? ถ้าลี่ถิงเซิ่งรู้เข้าล่ะก็ เกรงว่าคุณคงจะถูกไล่ออกแน่เลย”
สวี่รั่วฉิงโดยตอกหน้าหงายไปสักพัก
ขนาดลี่ถิงเซิ่งยังไม่เคยตอกหน้าเธอได้ขนาดนี้ แต่ฉินซวี่คนนี้ ทำไมเพียงไม่กี่คำก็สามารถตอกหน้าเธอจนพูดไม่ออกได้
สวี่รั่วฉิงทำปากพอง เงยหน้าขึ้น มองไปที่ชายที่นั่งยิ้มอย่างเบิกบานใจอยู่ข้างเธอ
เพิ่งจะผ่านตอนเที่ยงไปได้ไม่นาน ทิวทัศน์ที่โดนแสงอาทิตย์สาดนอกหน้าต่างนั้นช่างสวยงาม
แสงแวววาวของดวงอาทิตย์นั้นสาดส่องมาบนใบหน้าของฉินซวี่ นั่นยิ่งขับให้คิ้วและดวงตาที่มีราศีนั้นยิ่งเด่นมากขึ้น
สวี่รั่วฉิงก็คิดขึ้นมาได้ทันที ตอนนั้นที่เธอเจอฉินซวี่ที่ปารีส ก็เป็นช่วงเวลาที่แดดช่วงบ่ายสาดส่องเช่นกัน
อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น? สวี่รั่วฉิงมองไปที่ฉินซวี่ พร้อมคิดเงียบๆ
“คุณฉินคงไม่ใช่คนที่จะใช้วิธีสกปรกเล็กๆแบบนี้หรอกใช่ไหมคะ” สวี่รั่วฉิงกับฉินซวี่นั้นเหมือนกัน ที่พยายามยิ้มตีสองหน้า
ฉินซวี่ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นไม่มีความละมุนในแววตานั้นแล้ว แต่กลับเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง
เขามองสวี่รั่วฉิงอย่างสงบนิ่ง แต่อารมณ์ในใจนั้นแปรปรวน
งานเลี้ยงราตรีเมื่อคืนวานนั้น เขาเจอสวี่รั่วฉิงที่มาพร้อมกับความสวยน่ารักและมีเสน่ห์น่าหลงใหล
ถึงแม้ว่าความสวยน่ารักและมีเสน่ห์นั้นจะไม่ได้เป็นของเขาก็ตาม
“คุณแอนอาจจะยังไม่รู้จักผมดีพอ” น้ำเสียงของฉินซวี่เขานั้นไม่นุ่มนวลเหมือนก่อนหน้านี้ คำพูดนั้นกลับทำให้สวี่รั่วฉิงที่นั่งอยู่ในห้องแอร์นั้นเหงื่อออกเย็นไปทั้งตัว
เขามองตรงมาที่สวี่รั่วฉิงพร้อมกับพูด “ถ้าผมอยากได้อะไร ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนให้ได้มาผมก็จะทำ ต่อให้เป็นคนของประธานลี่ ขอเพียงแค่ผมชอบ ผมก็จะเอามาให้ได้”
สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้วตึงอย่างไม่รู้ตัว
“โอ้ งั้นเหรอ? งั้นฉันก็อยากจะดูว่าคุณฉินจะใช้วิธีอะไรเพื่อที่จะได้ในสิ่งที่พูดไว้เมื่อวานนี้” สวี่รั่วฉิงเม้มปากสักพัก แล้วตอบกลับนิ่งๆ