บทที่ 363 รูปแบบใหม่
ช่วงไม่กี่วันมานี้ สถาบันวิจัยกำลังทำการวิจัยและทดลองสูตรยาแผนจีนโบราณอยู่
เมื่อเทียบกับการทดลองอื่นๆ ในมนุษย์แล้ว ยากันยุงคือผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกที่ให้ผลลัพธ์แน่นอน แต่ก็ยังคงต้องมีการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยด้วย
ส่วนตำรับยาอื่นๆ ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณนั้น ไป๋เยี่ยจะเป็นผู้ตรวจสอบประสิทธิภาพโดยการนำไปใช้จริงก่อน เพราะว่ายาจีนเหล่านี้หากใช้ในปริมาณปกติจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือปัญหามากนัก โดยหลักแล้วก็เป็นเพียงการทดลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการรักษา
โมลโดเป็นคนจำแนกผู้ป่วยในวอร์ดออกเป็นกลุ่ม โดยอิงตามกลุ่มตัวอย่างสำหรับการทดลอง
เพื่อความเป็นระเบียบและประสิทธิภาพของการทดลองและการวิจัย
การคัดเลือกนักวิชาการฉางเจียงกำลังเข้มข้น กรรมการคือเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีการเชิญนักวิชาการชั้นนำในสาขาต่างๆ และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธีหลี่เจียเฉิงจากฮ่องกงมาร่วมประเมินด้วย
เพราะว่าเดิมทีแล้วโครงการนักวิชาการฉางเจียงเป็นโครงการมอบรางวัลสำหรับบุคลากรระดับสูงที่มาจากความร่วมมือของรัฐบาลและมูลนิธิหลี่เจียเฉิง
ดังนั้นการคัดเลือกครั้งนี้จึงค่อนข้างยุติธรรมพอสมควร
ระหว่างที่กระบวนการคัดเลือกดำเนินไปอย่างเข้มข้นนั้น ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ เพราะว่าอาคามอสเพิ่งจะเตรียมการให้กับสถาบันเวชศาสตร์ฉุกเฉินเสร็จสิ้น ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การแบ่งทีมวิจัยเป็นหลัก
นี่คือสิ่งที่ไป๋เยี่ยให้ความสำคัญมากที่สุด อย่างไรเสียการแพทย์ฉุกเฉินก็แตกต่างจากการศัลยกรรมกระดูก นี่เป็นสาขาวิชาใหม่ที่มีทิศทางและศักยภาพในการพัฒนาที่ดี ทั้งยังมีคุณค่าต่อสังคมสูงด้วย
วิชาแบบนี้ไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาแนวคิดเท่านั้น แต่ยังมีทั้งนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย
ไป๋เยี่ยวางแผนไว้ยิ่งใหญ่มาก ขอบเขตก็กว้างมากเช่นกัน
สิ่งที่ไป๋เยี่ยต้องการสร้างนั้นไม่ใช่แขนงวิชา แต่เป็นอนาคตของสาขาดังกล่าว ช่วงนี้เขาจึงให้อาคามอสเก็บตัวทำหลายๆ อย่าง
ตอนนี้อาคารหลายหลังในที่ดินเก่าของโรงพยาบาลกำลังได้รับการปรับปรุงทีละนิด ส่วนอาคารใหม่ก็กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมการ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทางที่ดี
ส่วนเฉินเจิ้นปั่งที่รับปากว่าจะช่วยจัดตั้งทีมกู้ภัยสำหรับเขตกองทัพปักกิ่งก็เริ่มคัดเลือกสมาชิกแล้ว ซึ่งสมาชิกทีมกู้ภัยชุดแรกที่จะมาอบรมนั้นมีทั้งหมดสองร้อยคน!
เฉินเจิ้นปั่งใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อหนุนให้ไป๋เยี่ยได้ครอบครองสถาบันวิจัยแห่งนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไป๋เยี่ยก็ไม่คิดจะทรยศต่อน้ำใจของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋เยี่ยเองก็ไม่คัดค้านที่จะช่วยปลูกฝังบุคลากรเพื่อชาติ
โดยเขามีกำหนดการเริ่มฝึกฝนในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า
อันที่จริง ไป๋เยี่ยก็ยังคงมีความกังวลเรื่องโรงการนักวิชาการฉางเจียงอยู่บ้าง อย่างไรเสียของรางวัลจากระบบฉายากิตติมศักดิ์ก็คุ้มค่ามาก ฉายานักวิชาการฉางเจียงจะมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างนะ
เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเกาเย่ว์หยางจากวิทยาลัยแพทย์ยูเนียนแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาก็ได้นำทีมตรวจสอบมาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่สถาบันวิจัยของไป๋เยี่ย ซึ่งในทีมก็มีอาจารย์และผู้บริหารหลายคนจากยูเนียน
เมื่อมาถึงที่นี่ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เหมาะกับการพัฒนาการแพทย์และทำงานวิจัย
นี่เป็นสถาบันวิจัยที่มีวัตถุประสงค์หลักคือการทำวิจัยและบูรณาการวิธีการต่างๆ เข้ากับการทดลอง
แต่ละแผนกล้วนมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์สถิติการทดลอง แม้แต่พยาบาลเองก็ต้องเริ่มทำการทดสอบมาตรฐานการดูแลของตนเองด้วย
คุณเคยเห็นพยาบาลที่มีหน้าที่บันทึกข้อมูลหลังจากที่ดูแล พร้อมกับขอให้ผู้ป่วยกรอกข้อเสนอแนะหลังการดูแลหรือไม่
แม้แต่ผู้ป่วยเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในการให้ข้อมูลด้วย
แน่นอน!
เพราะว่าหลังจากที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล พวกเขาจะลงนามในสัญญาให้ความร่วมมือในการทำวิจัย ในทำนองเดียวกัน โรงพยาบาลก็จะคืนเงินค่ารักษา ค่าวินิจฉัยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ ซึ่งนอกจากเบิกค่าประกันสุขภาพแล้ว ผู้ป่วยก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่มากนัก
นี่คือการทดลองบูรณาการการปฏิบัติงานในวอร์ดเข้ากับการวิจัย
เคสชายชราข้อเท้าหักที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียงสามร้อยหยวนเท่านั้น!
ถ้าเป็นที่โรงพยาบาลอื่น เงินสามหมื่นหยวนก็อาจจะไม่พอด้วยซ้ำ แต่ที่นี่คิดแค่สามร้อยหยวนจริงๆ
เพราะนอกเหนือจากการเบิกค่าประกันสุขภาพผู้สูงอายุเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ค่าใช้จ่ายที่เหลือโรงพยาบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ผู้สูงอายุก็ต้องให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาลและส่งข้อมูลกลับมาให้ด้วย
ซึ่งไป๋เยี่ยก็ได้นำรูปแบบการรักษาเช่นนี้มาจากต่างประเทศนั่นเอง
เตียงของโรงพยาบาลมีจำนวนจำกัด ทว่าไป๋เยี่ยไม่ได้วางแผนจะสร้างมันให้เป็นสถาบันที่ทำเงินได้ตั้งแต่แรก เพราะถึงแม้เขาจะลงทุนเต็มจำนวนเพื่อกำไรแต่ก็มีรายได้ไม่มากนัก กลับกัน เขาต้องการสร้างโรงพยาบาลเพื่อการวิจัยให้เป็นแหล่งกำเนิดงานวิจัย นำสิ่งใหม่ๆ มาสรุปผลและสร้างโรงพยาบาลกระดูกและข้อระดับนานาชาติขึ้นมา
ด้วยวิธีนี้ โรงพยาบาลก็จะมีหนทางพัฒนาที่ยาวไกลและเทคโนโลยีหลักมากมาย
ถ้าอยากรุ่งเรืองก็ต้องสร้างถนนเสียก่อน!
สิ่งที่ไป๋เยี่ยต้องทำคือการปูทางให้อนาคตของเขา
ที่สหรัฐอเมริกา ประชาชนจำนวนมากไม่ได้ใช้เงินเป็นจำนวนมากในการไปพบแพทย์ แน่นอนว่านี่เป็นเงื่อนไขอย่างหนึ่ง เพราะว่าผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแบบฟรีๆ ได้ในฐานะอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองทางการแพทย์
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การทดลองที่มีความเสี่ยงสูง กลับกัน การทดลองทางการแพทย์เหล่านี้ล้วนเป็นการทดลองภาคปฏิบัติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ
หากกล่าวตามตรงก็คือ ตัวยาเหล่านี้ปลอดภัยกว่าตัวยาที่มีขายทั่วไปจำนวนมาก!
ดังนั้น ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมการแพทย์เท่านั้น แต่ยังช่วยผู้ป่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลได้อีกด้วย
อันที่จริงในประเทศจีนเองก็มีการทดลองแบบนี้เหมือนกัน
เช่น กลุ่มทดลองเอในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูง จะเข้าร่วมกลุ่มทดลองยาลดความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ได้
เมื่อถึงตอนนั้น โรงพยาบาลจะให้ยาและเครื่องวัดความดันโลหิตกับคุณฟรีๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือวัดความดันโลหิตให้ตรงเวลาทุกวันแล้วรายงานให้แพทย์ทราบ
และโดยทั่วไป ยาที่ถูกพัฒนามาจากขั้นตอนดังกล่าวก็ไม่มีความเสี่ยงใดๆ
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมไป๋เยี่ยถึงกู้เงิน!
ศักราชใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ณ โรงพยาบาลแห่งนี้โดยการนำของโมนิกา
ทั้งชื่อเสียงและผลงานวิจัยใดๆ ของโรงพยาบาลสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินรางวัลได้ทั้งนั้น
ตัวอย่างเช่น หากมีพยาบาลพบว่าวิธีการดูแลผู้ป่วยของตนเองมีประสิทธิภาพกว่าวิธีดั้งเดิม และมีข้อมูลมากพอที่จะพิสูจน์ได้ เธอก็จะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่สามหมื่นถึงสามแสนหยวน
ซึ่งเงินรางวัลจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์
ด้วยวิธีนี้ รายได้ของพยาบาลและแพทย์จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ป่วย แต่จะขึ้นอยู่กับมาตรฐานในการรักษาพยาบาล