ฉินซวี่มองสวี่รั่วฉิงอย่างลึกซึ้ง ปากบางนั้นเผยอเปิดขึ้นเล็กน้อย
เขาพูด “พวกเราต่างตั้งตารอดู”
สวี่รั่วฉิงละสายตากลับมา สายตานั้นหยุดลงที่แล็บท๊อปของตัวเอง นิ้วเรียวเล็กนั้นกดเคาะลงที่คีย์บอร์ด ในใจนั้นกำลังคิดถึงคำพูดของฉินซวี่เมื่อครู่นี้
หรือว่าเขายังมีความสามารถอะไรที่สามารถทำให้เธอต้องออกจากลี่ซื่อกรุ๊ปเหรอ?
ล้อเล่นอะไรกัน
สวี่รั่วฉิงเป็นคนแบบนี้มาตลอด ยกเว้นแต่จะมีคนทำให้เธอชอบได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถฝ่าฝืนกำแพงในใจเธอได้อย่างแน่นอน
หลังจากสวี่รั่วฉิงจัดการเอกสารฉบับต่างๆเสร็จเรียบร้อย ก็มองโทรศัพท์มือถือตัวเอง
คุณครูประจำชั้นยังคงยืนต้องรับผู้ปกครองอยู่หน้าห้องเรียน ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเริ่มประชุมผู้ปกครอง
สวี่รั่วฉิงปิดแล็บท๊อปตนเอง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เข้าเล่นเวยป๋อสักพัก หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นฉินซวี่อย่างไม่ตั้งใจ
เวลาบ่ายสองโมง แสงอาทิตย์ยังคงเจิดจ้า
แสงแวววาวของดวงอาทิตย์นั้นสาดส่องมาที่ตัวของฉินซวี่ ทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูเด่นชัดขึ้นมา
บนผิวขาวสะอาดนั้น มองเห็นเส้นเลือดอ่อนๆ เขาเหลือบตาลงมองโทรศัพท์ของตัวเอง จากนั้นก็วางไว้ข้างๆตัว พร้อมหันตัวมาข้างๆ นัยน์ตาดำขลับนั้นก็สบตาเข้ากับสวี่รั่วฉิงพอดี
เขาถามอย่างขำๆ “คุณมองผมทำไมเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงชะงักไปพักหนึ่ง เม้มปากไม่พูดอะไร
สวี่รั่วฉิงรู้สึกว่าเธอนั้นเริ่มคันหน้า แล้วก็พบว่าเป็นเพราะเส้นผมนั้นตกลงมาจึงใช้มือจัดการให้เรียบร้อย
สวี่รั่วฉิงรู้สึกคล้ายกับว่ามีบางอย่างไม่ค่อยเหมาะสม พร้อมมองฉินซวี่ที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อร้ายนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครเป็นผู้หญิงคนไหนก็ต้องรู้สึกว่านี่เป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่ง
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป ประชุมผู้ปกครองก็เริ่มต้นขึ้น
ครูประจำชั้นเริ่มจากอธิบายคะแนนของชั้นปีการศึกษานี้ และเอ่ยชื่อชื่นชมสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝานเป็นพิเศษ
สวี่รั่วฉิงฟังอย่างเงียบๆ ถึงอย่างไรก็คงไม่มีใครที่ไม่ชอบที่ลูกตนเองโดนชื่นชม
ฉินซวี่ใจลอยจ้องมองที่สวี่รั่วฉิงอย่างละเอียด
สวี่รั่วฉิงบอกว่าเธอนั้นเป็นเพียงผู้ปกครองของเด็กสองคนนี้ แต่ดูจากตอนนี้แล้ว สีหน้าท่าทางของเธอนั้นดูอารมณ์ดีเหลือเกิน คงจะไม่ใช่แค่ผู้ปกครองเฉยๆแล้วล่ะมั้ง
บางทีอาจจะมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมมากกว่านั้นแน่
เช่นว่าเธอนั้นเป็นแม่ของเด็กสองคนนี้
ฉินซวี่ตกใจไปหลายวินาที ปากบางนั้นเม้มเข้าเบาๆ
ความอบอุ่นในสายตาของเขา ปรากฏความซ่อนเร้นขึ้นมาแวบหนึ่ง จนถึงขนาดที่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจอีกต่อไปว่าครูประจำชั้นกำลังอธิบายอะไรอยู่
หรือว่าสวี่รั่วฉิงมีลูกกับลี่ถิงเซิ่งแล้ว?
ฉินซวี่คิดได้แบบนี้ เขาก็รีบปฏิเสธความคิดนี้ของตัวเองทันที
ถ้าสวี่รั่วฉิงมีลูกกับลี่ถิงเซิ่งแล้วจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่ความสามารถของฉินซื่อกรุ๊ปจะตรวจสอบไม่เจอ
ยิ่งไปกว่านั้นในแวดวงตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล การท้องก่อนแต่งคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ลูกน้องของฉินซวี่สืบมาหมดแล้ว แม่ของลี่ถิงเซิ่งนั้นไม่ค่อยปลื้มสวี่รั่วฉิง ถึงขนาดที่เคยไปบอกสวี่รั่วฉิงถึงบ้านด้วยตนเอง
ดูจากตอนนี้แล้ว ถ้าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของสวี่รั่วฉิงจริงๆ งั้นพ่อของพวกเขาก็เป็นไปได้ว่าคงจะไม่ใช่ลี่ถิงเซิ่ง
ฉินซวี่จมอยู่กับความคิด
ครูประจำชั้นนั้นยืนอยู่แท่นเวที มองมาที่สวี่รั้วฉิงหลังจากนั้นก็ยิ้มพร้อมกับพูด
“นอกจากสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หาน ห้องเรายังคงมีนักเรียนอีกคนหนึ่ง ที่การเรียนในปีการศึกษานี้ทำคะแนนออกมาได้ดีเลิศ!”
ชื่อของนักเรียนที่ครูประจำชั้นพูดถึงนั้นคือหลานชายของฉินซวี่
ครูประจำชั้นยังคงพูดต่อไป “ปีการศึกษานี้ นักเรียนสามคนที่เอ่ยชื่อไปนั้นได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น เป็นความภาคภูมิใจของห้องเรียนเรา”
สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้ว จากนั้นเธอก็ได้รับเสียงปรบมือตามมาจากผู้ปกครองท่านอื่น พร้อมพูดกับเธอและฉินซวี่ “ยินดีด้วยนะ”
ใบหน้าหล่อเหลาของฉินซวี่ ค่อยๆหันข้างมา
สวี่รั่วฉิงมองเห็นได้ชัดเจน ใบหน้านั้นหล่อเหลานั้นดูดียิ่งกว่านายแบบบนหน้านิตยสารหรือป้ายประกาศโฆษณาเสียอีก แต่มีเพียงแค่สายตาของเขาที่ไม่เหมือนกับลี่ถิงเซิ่ง นั่นก็คือความอบอุ่นและอ่อนโยน
ฉินซวี่ปล่อยให้สวี่รั่วฉิงจ้องเขาอย่างละเอียด มุมปากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์
เขาพูด “มองจนหลงใหลแล้วเหรอ?”
สวี่รั่วฉิง “…”
เธอพูดไม่ออก ปกติจะเตรียมคำพูดเชยชมตามมารยาทไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับคิดว่าเธอมองจนใจลอยหลงใหลเขาไปแล้ว…
เธอไม่ใช่คนที่ไม่เคยพบเจอหนุ่มหล่อมาก่อนนะ!
เพียงแค่สวี่รั่วฉิงคิดถึงคำพูดของสวี่อี้หานที่เคยพูดไว้ ที่แท้คนที่เคยพูดถึงก็คือหลานชายของฉินซวี่นี่เอง เขาเป็นเด็กชายคนหนึ่งที่ฉลาดมากสุดๆเลย
ทันใดนั้นสวี่รั่วฉิงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ถ้าเขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่ฉลาดก็คงจะจบแค่นั้น แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาของฉินซวี่ หลานของเขาก็คงจะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
แต่ลูกสาวของเธอกับเธอนั้นเหมือนกัน เป็นคนที่ชอบคนที่รูปร่างหน้าตา ก็คือชอบคนหล่อ
ทุกวันต้องคลั่งไคล้ดาราหนุ่มหล่อในโทรทัศน์ ไม่ต่ำกว่าวันละสิบรอบ
อยู่บ้านนั้นสวี่รั่วฉิงได้ยินสวี่อี้หานพูดออกมานับครั้งไม่ถ้วน ว่าเพื่อนร่วมโต๊ะของเธอนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักมาก ถึงขนาดที่ว่าหล่อน่ารักกว่าพี่ชายของเธอสวี่อี้ฝานเยอะ!
สวี่รั่วฉิงอดที่จะปิดหน้าของตัวเองไม่ได้ ลูกสาวของเธอนั้นได้รับถ่ายทอดจากเธอไม่ดีตรงไหน เพียงแค่ได้รับยีนคลั่งผู้ชายไปก็เท่านั้น
ฉินซวี่มองสวี่รั่วฉิงอย่างขบขัน พร้อมถามเสียงทุ้ม “คุณคิดถึงอะไรอยู่เหรอ?”
สวี่รั่วฉิงมองลึกเข้าไปในตาเขา ข่มคำตำหนิไว้ในใจ
รอหลังจากงานประชุมผู้ปกครองจบ ครูประจำชั้นก็บอกให้สวี่รั่วฉิงและฉินซวี่ออกมา
เมื่อสองคนมาหยุดตรงหน้าครูประจำชั้น ครูประจำชั้นก็บอกพวกเขา “ครั้งนี้โรงเรียนของพวกเรา ต้องการเลือกผู้ปกครองของเด็กสองคนที่เรียนดีที่สุดในห้อง เพื่อให้มาเป็นหัวหน้าผู้ปกครองให้ปีการศึกหน้า และทั้งสองท่านก็เป็นผู้ปกครองที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นหัวหน้าผู้ปกครอง! แต่ก็ดูว่าทั้งสองท่านยินดียอมรับหรือไม่!”
ฉินซวี่กลับตอบตกลงอย่างง่ายๆ “ไม่มีปัญหาครับ”
อาจารย์ประจำชั้นรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
ภูมิหลังครอบครัวของนักเรียนทุกคน คนที่เป็นครูของพวกเขานั้นรู้ดีทุกอย่าง
และครอบครัวของฉินซวี่ คนทุกคนในเมืองหลินชวนล้วนรู้จัก นั่นคงเพราะว่าสามารถทัดเทียมตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลอย่างครอบครัวของลี่ถิงเซิ่งได้
ครูประจำชั้นยิ้มออกมา “ประธานฉิน ถ้าหากคุณนั้นไม่มีเวลาก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจนะคะ แต่ถ้าหากสามารถเข้าร่วมได้ ก็คงจะดีที่สุดเลย”
ฉินซวี่พูดพลางยิ้ม “ถ้าเกิดว่าเธอก็ยินดีตกลงเช่นกัน ผมก็ยินดี”
ฉินซวี่ดวงตาละมุนราวกับสายน้ำนั้นมองมาที่สวี่รั่วฉิง ท่าทางเมื่อครู่ของสวี่รั่วฉิงเป็นการบอกเขา เธอนั้นเรียกได้ว่าชื่นชมสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานมากๆ
เพราะฉะนั้นเพื่อเด็กสองคนนี้ เธอต้องตอบรับคำขอของครูประจำชั้นแน่
ครูประจำชั้นเห็นว่าฉินซวี่ตอบรับแล้ว ก็หันหน้าไปทางสวี่รั่วฉิง “แล้วคุณแอนล่ะคะ? แน่นอนว่า ถ้างานยุ่งล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องฝืนใจนะคะ ทางเราสามารถเปลี่ยนเป็นผู้ปกครองคนอื่นได้”
ครูประจำชั้นพูดมาถึงขนาดนี้ สวี่รั่วฉิงก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธได้
เธอพูดอย่างลังเล “งานฉันค่อนข้างยุ่งน่ะค่ะ ดังนั้นจึงอยากรู้ว่ามีหน้าที่อะไรที่ฉันต้องรับผิดชอบบ้างคะ ฉันจะได้จัดการเวลาทำงานของฉัน”
ครูประจำชั้นยิ้มแล้วพูด “งานไม่เยอะหรอกค่ะ ที่สำคัญมีหน้าที่หลักในงานประชุมผู้ปกครอง ถือว่าเป็นตัวแทนแสดงความคิดเห็นแทนผู้ปกครอง แน่นอนว่า บางครั้งอาจจะขอความร่วมมือทั้งสองท่านร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ก็ต้องดูว่าทั้งสองท่านสะดวกหรือไม่”
ความหมายที่ครูประจำชั้นพูด ที่สำคัญคือเพราะว่าฉินซวี่ยังไม่มีภรรยา ถ้าเกิดใกล้ชิดกับคุณผู้หญิง ต้องมีข่าวซุบซิบนินทาแน่ๆ
ครูประจำชั้นกังวลว่าสวี่รั่วฉิงนั้นจะเป็นกังวล!