ห่างจากสวี่รั่วฉิงไปไม่ไกล มีชายใส่หน้ากากคนหนึ่งทำลับๆล่อๆอยู่
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแอบถ่ายตามหลังสวี่รั่วฉิง จากนั้นก็ส่งไปให้สวี่รั่วยี
“นี่ใช่ผู้หญิงคนที่คุณต้องการให้ผมขับรถชนใช่ไหม?”
เพียงแค่สวี่รั่วยีเห็นก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงในรูปนั้นคือสวี่รั่วฉิง
“ใช่ เธอนี่แหละ! ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอก็ต้องหายไปจากโลกใบนี้! ฉันไม่อยากเห็นเธอในเมืองหลินชวนอีกต่อไป!”
“ไม่มีปัญหา คุณวางใจเถอะ”
หลังจากชายคนนั้นตอบกลับมา ก็รีบตามสวี่รั่วฉิงจนมาถึงลานจอดรถ
จิตใจหยาบโลนของเขานั้นเต้นรัว
หญิงสาวคนนี้เติบโตมาหน้าตาสวยงามเสียจริง รูปร่างก็ดีแถมขายังเรียวยาว ใบหน้าก็สวยไม่เบา
มิน่าล่ะสวี่รั่วยีถึงทนไม่ไหวจนต้องจ่ายเงินเยอะขนาดนั้นเพื่อจ้างให้เขามาฆ่าเธอซะ
น่าเสียดายจริงๆ ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ก่อนตายทำไมไม่เคยมาให้เขาได้พบได้เจอเลยสักครั้ง
เขาคิด พร้อมกับมองสวี่รั่วฉิงที่กำลังขึ้นรถซูเปอร์สปอร์ตสีแดง
ไอ้ควาย ขนาดผู้หญิงกากๆพวกนี้ยังซื้อรถแบบนี้ได้เหรอ ไม่มีหัวนอนปลายเท้าหรือใครสนับสนุนหลังจริงๆเหรอ?
เขาคิดพร้อมกับถามสวี่รั่วยีอีกครั้ง “คุณบอกผมก่อน ผู้หญิงคนนี้ไม่มีคนสนับสนุนหลังจริงๆใช่ไหม! ดูแล้วรถของเธอไม่ใช่ถูกๆ!”
สวี่รั่วยีหัวเราะเยาะเย็นๆ “แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ขายร่างกายตัวเอง แน่นอนว่าต้องซื้อรถดีๆได้อยู่แล้ว! และไม่ดูหน่อยล่ะว่าเธอขายมานานแค่ไหนแล้ว!”
เขาคิด ก็ใช่นะ! ในแวดวงของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วนที่จะมีความรักแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใครจะมองว่าพวกเธอเหล่านี้เป็นคนบ้างล่ะ มันก็เพียงแค่มองเธอเป็นของเล่นไว้คลายเหงาก็แค่นั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ขึ้นรถไป พร้อมขับตามหลังรถซูเปอร์สปอร์ตสีแดงของสวี่รั่วฉิงไป
สวี่รั่วฉิงก็ทำเหมือนปกติ เธอขับรถอย่างเร็ว ตอนที่เจอไฟแดง เธอก็หยุดรถพร้อมมองผ่านกระจกหลัง เธอมองเห็นรถสีดำที่กำลังตามหลังเธอมา แล้วเธอก็ขมวดคิ้วแน่น
รถคันนั้นเหมือนกับว่าตามเธอมานานสักพักแล้ว หรือว่าแค่ผ่านทางเดียวกัน?
สวี่รั่วฉิงคิด พร้อมกับตัดสินใจเลี้ยวรถเพื่อจะสลัดชายคันข้างหลังทิ้งไป แต่เธอก็ค้นพบว่า ไม่ว่าเธอนั้นจะขับไปที่เลนไหน รถสีดำคันนี้ก็ตามหลังเธอมาติดๆ
ในใจสวี่รั่วฉิงเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว สัมผัสที่หกกำลังบอกเธอว่าคนที่ตามมานั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
เธอจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว มือขวานั้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที จากนั้นก็กดเบอร์อย่างรวดเร็วถึงขนาดที่ว่าไม่ได้สนใจว่าเบอร์ที่กดโทรหานั้นคือใคร
“มีคนสะกดรอยตามฉัน ถ้า…”
ประโยคนี้ที่เธอเพิ่งพูดจบไป สวี่รั่วฉิงก็รู้สึกถึงแรงกระแทกมหาศาลที่พุ่งเข้าชนเธอ จากนั้นเธอก็หมดสติไปทันที
ลี่ถิงเซิ่งมองโทรศัพท์ที่ตัดสายไปกะทันหัน คิ้วก็ขมวดแน่น
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงบอกว่ามีคนสะกดรอยตามเธอ ลี่ถิงเซิ่งก็ได้ยินเสียงพุ่งชนเข้าอย่างแรง จากนั้นก็มีเสียงไฟฟ้าช๊อตดังขึ้น จากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรตามมาอีกเลย
เหตุการณ์กะทันหันนี้ ทำให้หนังหัวชาขึ้นมาทันที
ลี่ถิงเซิ่งที่อยู่บนถนนทางกลับคฤหาสน์เฉินซาน ก็รีบบอกให้คนขับรถวนรถกลับทันที
คนขับรถงงงวย “ประธานลี่ กลับรถตอนนี้จะให้กลับไปที่ไหนครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งยังไม่ทันได้คิด “ไปที่คอนโดแอนนาทันที ด่วน!”
คนขับรถไม่รอช้า รีบวนรถกลับไปทางคอนโดของแอนนาทันที
ลี่ถิงเซิ่งคิดหนัก ถ้ามีคนสะกดรอยตามเธอ เธอจะเลือกใช้เส้นทางไหนกัน? จากลักษณะนิสัยของเธอ ยังไงเธอก็ต้องลองพยายามสลัดคนที่สะกดรอยตามเธออย่างแน่นอน
ลี่ถิงเซิ่งคิด จากนั้นก็รีบสั่งให้หลี่อานติดตามตำแหน่งgpsของสวี่รั่วฉิงทันที
อย่างรวดเร็ว หลี่อานก็ใช้ระบบค้นหาตำแหน่งทั่วโลก เพื่อหาตำแหน่งที่อยู่ของสวี่รั่วฉิง
ขอบคุณฟ้าดินที่โทรศัพท์สวี่รั่วฉิงนั้นยังไม่ได้พังไปซะทีเดียว ยังสามารถค้นหาตำแหน่งผ่านโทรศัพท์ได้อยู่
หลี่อานเหงื่อออกเต็มหน้าผาก “ประธานลี่ ตอนนี้แอนนาน่าจะอยู่ในตรอกซอยเล็กๆตรอกหนึ่ง”
ลี่ถิงเซิ่งนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงในใจ นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด!
เขาสั่งกำชับคนขับรถด้วยเสียงเย็น “รีบๆไปอย่างด่วน”
คนขับรถเหยียบคันเร่งแบบแทบจะไม่คิดชีวิต พุ่งตรงไปสถานที่นั้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ลี่ถิงเซิ่งก็มาถึงที่เกิดเหตุ เขากุมโทรศัพท์ไว้ในมือพร้อมลงจากรถไปทันที เขาไม่ทันได้คิดอะไร พุ่งตรงไปที่รถซูเปอร์สปอร์ตสีแดงที่ถูกชนจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมของรถ และพยายามเปิดประตูรถออก
แต่ประตูรถนั้นถูกชนจนพังยับ จนแทบจะไม่สามารถใช้แรงคนเปิดได้โดยตรง
หลี่อานและคนขับรถนั้นมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง
นี่มันดูเหมือนกับเหตุการณ์วางแผนลอบฆ่า
รถซูเปอร์สปอร์ตถูกชนจนยับเยิน สวี่รั่วฉิงอยู่ในรถคงไม่มีทางรอดชีวิตแน่
ลี่ถึงเซิ่งน้ำเสียงแหบเครือ เขาพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีกดอารมณ์ที่กำลังจะบ้าคลั่งเอาไว้ บังคับให้ตัวเองใจเย็นแล้วพูดกับหลี่อาน “รีบแจ้งความกับตำรวจ แล้วเรียกรถพยาบาลมา!”
หลี่อานที่สติหลุดลอยนั้นก็เพิ่งจะได้สติ เธอรีบกดโทรศัพท์ต่อสาย
ลี่ถิงเซิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นขึ้นมา “ถ้าเธอเป็นอะไรไป ทั้งตำรวจและโรงพยาบาลจะไม่มีใครหนีไปไหนได้ทั้งนั้น!”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็กำหมัดแล้วทุบกระจกหน้าต่างรถจน ทุบตีอย่างแรงอยู่สักพัก ถึงขนาดที่กำปั้นนั้นโดนเศษเหล็กกระจกบาดจนเริ่มเลือดไหล
แต่เนื่องจากว่ากระจกหน้าต่างรถนั้นเป็นกระจกแบบกันกระสุน จึงอยากที่จะทุบตีให้แตกได้ง่ายๆ
“ประธานลี่ คุณลองใช้อันนี้” หลังจากหลี่อานแจ้งความเสร็จ ก็รีบหยิบกล่องเครื่องมือออกมาจากท้ายรถ แล้วหยิบค้อนสำหรับทุบกระจกรถกันกระสุนออกมา
ลี่ถิงเซิ่งรับมา ทุกไปที่กระจกฝั่งคนขับอย่างไม่คิด “แอนนา?”
สวี่รั่วฉิงไม่ตอบสนองอะไร และมีถุงลมนิรภัยที่พองตัวรองหัวเธอไว้เพื่อไม่ให้พุ่งชนกับกระจกหน้ารถโดยตรง
หัวของสวี่รั่วฉิงมีเลือดไหลออกมาเยอะมาก แทบจะเปียกชุ่มเต็มทั้งถุงลมนิรภัย
หัวใจของลี่ถิงเซิ่งแทบจะหยุดเต้น
ตอนนี้เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเธอนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
ปากของเธอนั้นซีดลงเรื่อยๆ ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองนั้นแทบจะหยุดเต้นลงแล้ว
เส้นเลือดข้างขมับนั้นปูดโปน
ใคร แท้จริงแล้วมันเป็นใคร! ใครกันที่มันทำเรื่องแบบนี้!
เสียงไซเรนนั้นดังมาไม่ไกลจากตรงนั้น ตำรวจได้รับแจ้งความจากหลี่อาน ก็รีบระดมกำลังตำรวจใกล้ๆมายังพื้นที่เกิดเหตุทันที
“ประธานลี่ ขอสอบถามเกี่ยวกับรถที่เกิดเหตุ…”
“รถคันนี้ รีบไปช่วยคนก่อน!” ลี่ถิงเซิ่งพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
น้ำเสียงเขาเยือกเย็นถึงขีดสุด “พูดไร้สาระอะไรกันอยู่ ถ้าเธอเป็นอะไรไป พวกแกก็เตรียมโดนฝังไปพร้อมกันได้เลย!”
ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงไซเรนของรถพยาบาลก็ดังขึ้น ตำรวจนั้นไม่ได้สนใจมาก รีบหยิบอุปกรณ์ในกระเป๋าเครื่องมือ แล้วงัดเปิดประตู
พวกเขาไม่เคยเห็นรถสปอร์ตถูกชนจนยับขนาดนี้มาก่อน พวกเขาใช้พลังอย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดตำรวจก็สามารถเปิดประตูรถได้
“ยังหายใจอยู่ครับ ประธานลี่” ตำรวจพูดอย่างใจเย็น
บุคลากรทางการแพทย์นั้นมองเห็นลี่ถิงเซิ่งก็ก้มหัวให้เล็กน้อยแสดงความเคารพ พร้อมกับรีบลงมือนำผู้หญิงที่อยู่ในรถย้ายขึ้นเปลหาม และระมัดระวังอย่างมากในการส่งตัวเธอขึ้นรถพยาบาล
บุคลากรทางการแพทย์ต่างก็ไม่เคยเจออุบัติเหตุรถยนต์ที่หนักสาหัสขนาดนี้มาก่อน ถึงขนาดที่เปรียบเป็นฉากฆาตกรรมเลยก็ว่าได้
ตอนนี้ยังสามารถหายใจได้อยู่ ช่างเป็นปาฏิหาริย์แท้ๆ!
พวกเขารีบช่วยสวี่รั่วฉิงโดยการห้ามเลือด จากนั้นก็ใส่เครื่องช่วยหายใจเริ่มให้ออกซิเจน!
ชีวิตของสวี่รั่วฉิงนั้นแขวนอยู่บนความเป็นความตาย