“คนที่ขับรถชนคุณแอนเมื่อวานกลางดึกชื่อหวังซาน” หัวหน้าเฉินขึ้นรถ พร้อมพูดกับลี่ถิงเซิ่ง “เมื่อวานตอนเย็นไม่รู้ว่าเขาได้รับบัญชีรายการจากใคร”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วแน่น “บัญชีรายการ?”
“ใช่ครับ น้องชายเขาบอกว่าหลังจากที่เขาได้รับบัญชีรายการจากคนอื่นแล้วจึงหลบหนีไป หลังจากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของคุณแอน” หัวหน้าเฉินพูด พร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วหันหน้าไปสั่งลูกน้องของตัวเองให้รีบไปสืบค้นแหล่งกบดานของหวังซาน รวมทั้งสืบมาด้วยว่าจริงๆแล้วเมื่อวานหวังซานขับรถอะไรชนสวี่รั่วฉิง
ลี่ถิงเซิ่งจมกับความคิด พร้อมกับค่อยๆหลับตาลง คำพูดของหัวหน้าเฉินเมื่อครู่ ทำให้เขามั่นใจว่าการคาดเดาของเขาก่อนหน้านี้นั้นถูกต้อง
มีคนต้องการจ้างวานฆ่าแอนนา
สายข่าวของลี่ซื่อกรุ๊ปนับว่าเป็นอันดับสองของเมืองหลินชวน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเป็นอันดับหนึ่ง สาเหตุเป็นเพราะตระกูลซู สายข่าวของลี่ซื่อนั้นไม่มีวิธีที่จะตรวจสอบสถานะที่แท้จริงของสวี่รั่วฉิงเจอได้เลย แต่ก็สามารถสืบค้นเรื่องราวชีวิตของเธอหลังจากมาที่เมืองหลินชวนได้อยู่บ้าง
นักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงอย่างล้นหลามคนหนึ่งในต่างประเทศ และยังมีตระกูลซูคอยสนับสนุนอยู่ หลังจากมาที่เมืองหลินชวนก็มาเข้ารับตำแหน่งงานที่ลี่ซื่อกรุ๊ป แทบจะไม่มีคนอื่นคนไหนไม่พอใจเธอ
นอกเสียจาก…
ตระกูลสวี่
ในดวงดำขลับของลี่ถิงเซิ่ง ราวกับน้ำแข็งเยือกเย็นที่ยากจะละลาย
“ประธานลี่ คุณยังมีความคิดอื่นอะไรอีกไหม? อย่างเช่นคุณแอนอยู่ที่เมืองหลินชวน…มีความแค้นอะไรกับใครหรือเปล่า?” หัวหน้าเฉินเห็นลี่ถิงเซิ่งไม่ได้พูดหรือถามอะไรนานสักพักแล้ว
ลี่ถึงเซิ่งค่อยๆได้สติกลับมา ริมฝีปากบางนั้นเม้มเบาๆ
ถ้าเกิดว่าเป็นตระกูลสวี่ทำจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือเลย ตำรวจก็ยากที่จะตรวจสอบ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลี่ถึงเซิ่งก็ยกมือขึ้นค่อยๆนวดคลึงหน้าผากของตัวให้ผ่อนคลาย
เขาไม่ได้พักผ่อนมาทั้งคืน ทั้งยังจัดการสัญญาเอกสารของบริษัทอีก เวลานี้ในดวงตาคู่นั้นก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงขึ้นเต็มตา
“หาหวังซานให้เจอก่อนค่อยว่ากันละกัน” น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งแหบแห้ง พร้อมพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “พวกแก๊งนักฆ่าใต้ดินในเมืองหลินชวน มีไม่มากนักหรอก”
คำพูดของลี่ถิงเซิ่ง ทำให้หัวหน้าเฉินตกใจตื่น
หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ถ้าคนที่ต้องการวางแผนลอบฆ่าแอนนาเป็นคนที่อยู่ในตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลเช่นเดียวกัน งั้นพวกตำรวจอย่างเขาคงจะหาทางตรวจสอบได้ยาก
มิน่าล่ะลี่ถิงเซิ่งถึงได้เตือนเขา เมื่อหัวหน้าเฉินคิดได้เช่นนี้ ก็รีบพูดอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณครับประธานลี่ที่เตือน”
ลี่ถิงเซิ่งพูด “อือ” เพียงแค่นั้น เขาพูดตัดบท พร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างๆ
ผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าเขาตอนนี้ ก็ยังไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นกัน
ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา แม้จะพูดกับเขาแบบไม่ค่อยเกรงใจ แถมยังไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ แต่ดูจากระดับที่เธอเป็นห่วงแอนนา เขาก็ไม่สามารถโต้เถียงได้เลย
“คุณซูควรจะพักผ่อนสักหน่อยนะ” ลี่ถิงเซิ่งพูดอย่างจริงจัง
หรือจะพูดได้อีกอย่างคือ มีเขาคอยเฝ้าสวี่รั่วฉิงผ่าตัดแล้ว ซูจิ่วเอ๋อร์สามารถไปพักได้แล้ว
ซูจิ่วเอ๋อร์ทำหน้ามุ่ย พร้อมปฏิเสธโดยตรง “ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะประธานลี่ แต่ฉันอยากรอให้แอนนาผ่าตัดจนเสร็จด้วยตัวเอง!”
ลี่ถิงเซิ่งเงียบไปสักพัก ไม่บังคับเธออีก
เขาไม่ได้ใส่ใจเธอ และขี้เกียจจะสนใจ
“ประธานลี่ งั้นคุณก็พักผ่อนก่อนสักหน่อยเถอะนะ” หลี่อานเห็นสีหน้าลี่ถิงเซิ่งดูไม่ค่อยดีนัก ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
การผ่าตัดของแอนนาก็ไม่รู้จะสิ้นสุดตอนไหน ลี่ถิงเซิ่งไม่พักผ่อนเลยนี่ก็ไม่ใช่เรื่องนะ
หลี่อานพูด “เรื่องงานของบริษัทยกให้รองประธานจัดการแล้ว เรื่องสัญญาเอกสารสำคัญอื่นๆก็เช่นกัน คุณเองก็ดูมาผ่านๆตาแล้ว ดังนั้นตอนนี้ก็พักผ่อนก่อนจะดีกว่า รอการผ่าตัดของแอนนาสิ้นสุด ฉันจะรีบบอกคุณเอง”
ลี่ถึงเซิ่งเงยหน้าขึ้น มือนั้นหยิบบุหรี่ขึ้นมา เตรียมกำลังจะสูบ
เขาไม่ได้กินข้าวมาเลยทั้งวัน มีเพียงกาแฟเท่านั้นที่ทำให้เขาตื่น
ตอนนี้ลำคอก็รู้สึกกระหายนิดหน่อย เสียงที่พูดก็แหบแห้งเล็กน้อย เขาเพิ่งเปิดปากพูดไปหนึ่งคำ ก็ได้ยินเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคยดังเอะอะโวยวายขึ้นมา “พี่ลี่ ผมมาหาพี่กับพี่สะใภ้แล้ว!”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “…”
หลี่อานนิ่งเงียบ “…”
ซูจิ่วเอ๋อร์เหลือบตามองบน : คนพวกนี้มันเป็นอะไรกันนะ? ในโรงพยาบาลไม่สามารถเสียงดังโวยวายได้ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือไง?
ข้างหลังเสิ่นเชียนยังมีเพื่อนของลี่ถิงเซิ่งอีกสองสามคน พวกเขาล้วนเป็นคนที่ถูกเสิ่นเชียนเรียกให้มาเยี่ยมเยือนสวี่รั่วฉิงผ่านทางกลุ่มในวีแชท
วันนั้น พวกเขาแข่งรถกับลี่ถิงเซิ่ง ทุกคนล้วนเคยพบเห็นและรู้จักผู้หญิงที่ชื่อแอนนาคนนั้นว่าสำคัญกับลี่ถิงเซิ่งขนาดไหน
พวกเขารู้จักกับลี่ถิงเซิ่งมานานหลายปี ล้วนเป็นหนุ่มเจ้าสำราญของแวดวงตระกูลคนที่มีทั้งเงินและอิทธิพลในเมืองหลินชวน ปกติจะชวนให้ลี่ถิงเซิ่งไปไนต์คลับด้วยกันแต่ก็ไม่เคยจะชวนได้สำเร็จ
ถึงขนาดที่พวกเขายังเริ่มสงสัยว่าลี่ถิงเซิ่งนั้นยังสนใจในผู้หญิงอยู่หรือไม่
จนแอนนาปรากฏตัว
จุ๊จุ๊ ที่แท้เพื่อนสนิทของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่สนใจในผู้หญิงนี่นา ทีแรกพวกเขาก็ไม่ค่อยไว้ใจการกระทำของสวี่รั่วฉิง แต่เมื่อได้พบว่าแอนนาเป็นผู้หญิงประเภทที่ขับรถได้เก่ง
แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องอยู่ข้างแอนนาใช่ไหม!
เสิ่นเชียนมองเห็นว่าไฟห้องผ่าตัดยังคงเป็นสีแดงอยู่ ดูแล้วคงกำลังอยู่ในขั้นตอนการผ่าตัด
นี่ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว สิบกว่าชั่วโมงแล้วนี่? ยังอยู่ในขั้นตอนการผ่าตัดอยู่เหรอ?
“พี่ลี่ การผ่าตัดของพี่สะใภ้ยังไม่เสร็จ…อาการสาหัสมากไหมนะ?” เสิ่นเชียนถามอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าสวี่รั่วฉิงสำคัญกับลี่ถิงเซิ่งขนาดไหน และยิ่งเกรงว่าตอนนี้จะโชคไม่ค่อยดี
หน้าผากลี่ถิงเซิ่งค่อยๆขมวดปม เขานั้นคิดไม่ถึงจริงๆว่าเสิ่นเชียนจะพาคนมาโรงพยาบาลด้วย
อีกทั้งยังเรียกแทนสวี่รั่วฉิงว่าพี่สะใภ้…
ที่มานั้นก็ล้วนเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่รู้จักลักษณะนิสัยของลี่ถิงเซิ่งเป็นอย่างดี พวกนั้นเห็นเขาขมวดคิ้ว ในใจก็คาดเดาได้ว่าคุณชายลี่นั้นไม่ค่อยสบายใจ
หนึ่งในนั้นก็รีบถลึงตาบอกเสิ่นเชียน บอกให้เขาหลบไปข้างหลัง จากนั้นเขาก็พูดกับลี่ถิงเซิ่งด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ถิงเซิ่ง อย่าไปโกรธเสิ่นเซียนมันเลย เขาก็เป็นห่วงนายเหมือนกัน พอเช้าตรู่ก็รีบเรียกพวกฉันให้ตื่นขึ้นแล้วรีบมาเลย”
หลังจากที่หนุ่มเจ้าสำราญคนนี้พูดจบ ก็พิจารณาเจตนาของคนพูดอย่างละเอียด เห็นลี่ถิงเซิ่งค่อยๆผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้ว ก็รีบถามเพิ่มเติม “สถานการณ์การผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง?”
“เดี๋ยวเดี๋ยว เดี๋ยวก่อน พวกเขาเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาก็เรียกแอนนาว่าพี่สะใภ้?” ความรู้สึกง่วงนอนของซูจิ่วเอ๋อร์ก็โดนเสิ่นเชียนทำลายจนหมดสิ้น
เมื่อครู่เธอกำลังง่วง อีกนิดก็เกือบจะทนไม่ไหว เตรียมกำลังจะไปซื้อกาแฟไม่รู้แก้วที่เท่าไหร่ แต่ก็โดนคำว่า”พี่สะใภ้”คำนั้นของเสิ่นเชียนเรียกให้เธอตื่นเสียก่อน
พี่สะใภ้? สวี่รั่วฉิงเป็นพี่สะใภ้ของพวกเขา?
ล้อเล่นอะไรกัน สวี่รั่วฉิงกับลี่ถิงเซิ่งนั้นไม่มีท่าทีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยนี่!
ถึงแม้ว่าสวี่รั่วฉิงจะชอบลี่ถิงเซิ่งจริงๆ แต่จากเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้นนี้ เธอก็ไม่คิดจะเห็นด้วยกับเรื่องแต่งงานนี้หรอกนะ!
และยิ่งไปกว่านั้น เรื่องพวกนั้นที่ลี่ถิงเซิ่งทำเมื่อหกปีก่อน! หลังนอนกับสวี่รั่วฉิงเสร็จ ก็ไม่มาติดตามอีกเลย! และไม่คาดคิดว่าจะไม่ส่งคนมาตามหาสวี่รั่วฉิงด้วย!
ถ้าเกิดเขาส่งคนมาตามหาสวี่รั่วฉิงสักนิดล่ะก็ สวี่รั่วฉิงทั้งต้องอ่านหนังสือไปด้วยทั้งต้องทำงานไปด้วยและยังต้องเลี้ยงลูกอีกตั้งสองคนนะ!
พวกเขาเหล่านี้ยังจะมีหน้าอะไรมาเรียกสวี่รั่วฉิงว่า”พี่สะใภ้”
ซูจิ่วเอ๋อร์ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยตามมาตรฐาน แม้ตอนนี้จะไม่ได้แต่งหน้า อีกทั้งยังบวกกับสภาพที่ไม่ได้พักผ่อน รอบดวงตานั้นลึกโบ๋ แต่ก็ยากที่จะบดบังความสวยของเธอได้
และเสิ่นเชียนก็เป็นผู้ชายประเภทที่เจอผู้หญิงสวยก็อดที่จะชวนคุยไม่ได้
ต่อให้เข้าจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้เขาไม่ควรชวนคุยต่อหน้าพี่ลี่ของเขา แต่ก็ยังอดที่จะถามออกไปไม่ได้ “น้องสาว มีแฟนหรือยังครับ?”
