บทที่ 448 สำนึกเสียใจ
บทที่ 448 สำนึกเสียใจ
ใต้เท้าหลี่เผยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ทว่าในใจกำลังสบถก่นด่า แน่นอนว่าไม่ใช่ก่นด่าอู๋ฝาน แต่เป็นชายวัยกลางคน
‘ตัวบัดซบนี่ไม่ทราบว่าความตายเป็นอย่างไร ไฉนมาลากข้าลงน้ำตายตามไปด้วย! นับว่าโชคดีที่สายตาข้ายังดีพอจึงเห็นจี้หยกนั่น ไม่เช่นนั้นแล้วคงถูกฆ่าตายตามไปด้วย’ ใต้เท้าหลี่สบถก่นด่าอยู่ในใจ
“ใต้เท้านี่ เรื่องนี้…” ชายวัยกลางคนสงสัย เนื่องจากไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“เพี้ยะ!” ก่อนชายวัยกลางคนจะได้เอ่ยคำถามใดออกมา ใบหน้ากลับต้องรู้สึกชาวาบเพราะถูกตบ
“จ้าวต้าอวี่ ไอ้คนไร้ดวงตา! กล้าดีอย่างไรตั้งคำถามตัวตนของใต้เท้าอู๋ รีบจัดการเรื่องให้ใต้เท้าอู๋เดี๋ยวนี้!” ใต้เท้าหลี่ระบายโทสะตบหน้าชายวัยกลางคนพร้อมเอ่ยคำสั่ง
จ้าวต้าอวี่ยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะอึกอักเอ่ยพูด “แต่ว่าใต้เท้า เมื่อครู่ท่าน…”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายกำลังจะลากตนลงน้ำอีกครั้ง ใต้เท้าหลี่จึงไม่คิดเสียเวลา เขาตบหน้าอีกฉาดหนึ่งพร้อมสำทับด้วยความแค้นเคือง “จะพูดวาจาไร้สาระอันใดอีก! ข้าบอกให้ทำก็จงทำ หากใต้เท้าอู๋เสียเวลามากไปกว่านี้ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น!”
จ้าวต้าอวี่ถูกตบหน้าทั้งสองข้าง มันรุนแรงขนาดฝากรอยประทับฝ่ามือเอาไว้เหมือนกันทั้งซ้ายขวา เป็นการบอกว่าขณะใต้เท้าหลี่ลงมือนั้นไม่ได้ออมแรงแม้แต่น้อย
ชายวัยกลางคนถูกตบจนสับสนมึนงง เนื่องจากไม่อาจทราบได้ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร เหตุใดใต้เท้าหลี่จึงเปลี่ยนแปลงท่าทีอย่างกะทันหันถึงขนาดนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทราบกระจ่าง นั่นคือการที่หากเขายังไม่ลงทะเบียนให้อู๋ฝาน ไม่ช้าคงถูกตบหน้าอีกฉาดหนึ่งเป็นแน่
เมื่อคิดได้ดังนั้น จ้าวต้าอวี่จึงฝืนยิ้มออกมา “ใต้เท้าอู๋ ขอเชิญท่านมาลงทะเบียนด้านนี้”
“เดี๋ยวก่อน!” แต่อู๋ฝานไม่ปล่อยผ่าน กระทั่งมองใต้เท้าหลี่พร้อมตั้งคำถาม “ใต้เท้าไม่สงสัยว่าตัวตนของข้ามีปัญหาแล้วงั้นหรือ?”
“ไม่! ไม่มีทางขอรับ!” ใต้เท้าหลี่รีบตอบกลับ กระทั่งหันไปบอกเจ้าหน้าที่ทางการที่ขณะนี้ยืนนิ่ง “มายืนว่างทำอะไรกันที่นี่ รีบกลับออกไปได้แล้ว อย่าขวางทางใต้เท้าอู๋!”
บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างถอยกลับไปท่ามกลางความสับสน ขณะที่ใต้เท้าหลี่ยังคงเอาแต่ยิ้มให้อู๋ฝาน
“ใต้เท้าอู๋ เข้าใจผิดกันทั้งนั้นขอรับ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเข้าใจผิด” ใต้เท้าหลี่ตอบกลับ
“แต่ข้าเป็นเพียงแค่หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์คนหนึ่ง เป็นจื่อเจวี๋ยก็ไม่เป็นไรงั้นหรือ?” อู๋ฝานถามกลับอย่างหยอกเย้า
“หามิได้ ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นขอรับ!” ใต้เท้าหลี่ตบหน้าอกตนเอง “ใต้เท้าอู๋จะเป็นปั๋วเจวี๋ยก็ยังได้ ไม่มีปัญหาใดทั้งสิ้นขอรับ”
“ใต้เท้าหลี่ เหมือนเมื่อครู่จะไม่ได้พูดเช่นนี้กระมัง” อู๋ฝานยังคงถาม
ใต้เท้าหลี่เผยสีหน้าอับอายตอบคำกลับมา “เนื่องจากเมื่อครู่ข้าสับสนไม่รู้ความ เป็นเพราะอากาศช่วงนี้ร้อนจนทำให้ความคิดข้าทำงานผิดพลาดไป ขอใต้เท้าอู๋อย่าได้ถือสาเก็บไปใส่ใจเลยขอรับ”
ใต้เท้าหลี่เผยท่าทีประหนึ่งผู้น้อยออกมา เนื่องจากทราบดีว่าอู๋ฝานกำลังข่มขู่คาดโทษ แต่เขาไม่กล้าแสดงโทสะตอบโต้ หากจะโกรธก็ต้องเป็นจ้าวต้าอวี่ ไม่ใช่ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแน่นอน
ไม่เพียงใต้เท้าหลี่ไม่กล้านึกโกรธอู๋ฝาน แต่ยังกังวลว่าอีกฝ่ายจะโกรธเคืองตนเอง
“แล้วเขาล่ะ?” อู๋ฝานชี้ไปทางจ้าวต้าอวี่ เนื่องจากไม่คิดญาติดีกับตัวการที่เกือบจะทำให้เขาถูกจับตัวส่งเข้าคุก
หลังได้ยินคำถามของอู๋ฝาน ใต้เท้าหลี่จึงหันไปมองทางจ้าวต้าอวี่ผู้ยังคงใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “เจ้าจะไปไหนก็ไป! สวนด้านหลังใบไม้ร่วงเยอะไม่ใช่น้อย นับจากวันนี้ไปทำความสะอาดที่นั่นแทนเสีย”
“ขอใต้เท้าหลี่เมตตาด้วยขอรับ!” จ้าวต้าอวี่ยังไม่เข้าใจเรื่องราว ทว่ายามนี้เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จึงรับรู้ได้ว่าฟ้ากำลังจะถล่มลงใส่ตนเอง
หลังจากอยู่ในแวดวงขุนนางมานานหลายสิบปี ชายวัยกลางคนก็เพิ่งจะมีตำแหน่ง ทว่าตอนนี้กลับกำลังจะถูกย้ายไปที่สวนด้านหลัง แม้จะไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางขั้น แต่สถานะและการดูแลที่ได้รับจะต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อใดถูกย้ายไปที่หลังสวน อาจจะหมายถึงไปแล้วไปลับ ตลอดชั่วชีวิตไร้ความหวังได้เลื่อนขั้นอีก จะเป็นได้เพียงแต่ขุนนางพลเรือนขั้นแปดไปตลอดกาล
มันคือสายฟ้าประกาศิตต่อจ้าวต้าอวี่ ผู้ซึ่งกำลังปีนป่ายบันไดขึ้นไปสู่เบื้องบน
“ทำไมยังไม่ไปอีก? หากยังไม่ไป ข้าจะส่งเจ้าไปล้างห้องน้ำเพิ่มด้วย!” ใต้เท้าหลี่เผยสีหน้าคร่ำเคร่งเป็นการบอกว่าไม่ลังเลหากจะต้องลงโทษเพิ่มเติม
คำพูดของใต้เท้าหลี่ทำให้ใจของจ้าวต้าอวี่เต้นรัวแทบตาย เขาเข้าใจแล้วว่าแม้จะพูดกล่าวอีกเพียงใด อีกฝ่ายจะไม่มีทางเปลี่ยนความคิด กระทั่งว่าหากพูดเพิ่มเติม จะเป็นการยั่วยุให้รุนแรงมากขึ้นจนนำพาไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายลง
จ้าวต้าอวี่เดินจากไปด้วยสภาพราวกับไร้วิญญาณ แต่ก่อนจะจากไป เขายังหันไปมองอู๋ฝานอย่างจงใจ ตอนนี้ราวกับเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรใต้เท้าหลี่จึงทำเช่นนี้กับตนเอง ทั้งหมดเป็นเพราะอีกฝ่าย ทั้งที่เป็นเพียงจื่อเจวี๋ยตัวจ้อยคนหนึ่งจากบ้านนอก ทั้งที่พวกเขามักจะได้ติดต่อกับปั๋วเจวี๋ยหรือว่าโหวเจวี๋ยด้วยซ้ำไป ไฉนเลยจื่อเจวี๋ยตัวจ้อยกลับทำใต้เท้าหลี่หวาดเกรงถึงขนาดนี้ได้?
จ้าวต้าอวี่ไม่อาจทราบ แต่ในใจเกิดสำนึกเสียใจขึ้นมา หากทราบตั้งแต่แรกมีหรือเขาจะกล้าหาเรื่องอู๋ฝาน? เพียงแค่ลงทะเบียนให้อีกฝ่าย ตอนนี้ก็คงยังอยู่สุขสบายไปแล้ว แต่เพราะความริษยาในใจชั่วขณะกลับทำอนาคตทั้งชีวิตเปลี่ยนแปลงไป
ถ้ามีใครขายยาวิเศษนามว่ายากลับใจ จ้าวต้าอวี่คงขอซื้อเป็นคนแรก แต่น่าเสียดายที่ไม่มียาเช่นนั้นอยู่
“ใต้เท้าอู๋ ข้าจะลงทะเบียนให้เองขอรับ” หลังจ้าวต้าอวี่ออกไปแล้ว ใต้เท้าหลี่จึงบอกกับอู๋ฝานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอบอุ่น
“ขอรับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ
อู๋ฝานไม่คิดเผยความปรานีต่อความทุกข์ยากของจ้าวต้าอวี่ มันคือความผิดพลาดที่อีกฝ่ายก่อขึ้นมาเอง หากมอบบทลงโทษรุนแรงกว่านี้ได้ก็คงทำไปแล้วซะด้วยซ้ำ แต่เพราะเป็นผู้มาใหม่ เพิ่งมาเยือนเมืองหลวง ความสามารถมีอย่างจำกัด บรรดาศักดิ์จื่อเจวี๋ยอาจใช้งานได้ที่เทศมณฑลชิงหยวน แต่เมื่อมาถึงเมืองหลวงก็ไม่นับว่าเป็นอะไรทั้งสิ้น
ภายใต้การบริการของใต้เท้าหลี่ อู๋ฝานได้รับการลงทะเบียนข้อมูลอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือเพียงไปยังศาลาพักม้า*[1]เพื่อรอให้จักรพรรดิเรียกตัวเข้าเฝ้า
“ใต้เท้าอู๋ ให้ข้าไปส่งท่านเดินทางกลับก็แล้วกันนะขอรับ” หลังลงทะเบียนข้อมูลเรียบร้อย ใต้เท้าหลี่ก็ยังกล่าวด้วยความสุภาพ
“ขอบคุณใต้เท้าหลี่ขอรับ” แม้ก่อนหน้านี้ทั้งสองจะเข้าใจผิดกัน แต่ท่าทียอมรับความผิดที่ใต้เท้าหลี่แสดงออกมานั้นชัดเจนและดีเยี่ยม ดังนั้นอู๋ฝานจึงไม่ติดใจเอาความอะไร
แน่นอนว่าต่อให้อู๋ฝานติดใจเอาความก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวเขาเป็นเพียงแค่หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ผู้มีบรรดาศักดิ์จื่อเจวี๋ย แต่อีกฝ่ายเป็นถึงหัวหน้าของหนึ่งในสี่สำนักใหญ่ใต้กรมพลเรือน เป็นข้าราชการพลเรือนขั้นที่สี่ เรียกได้ว่าเหนือกว่าเขา
ใต้เท้าหลี่เดินไปส่งอู๋ฝานถึงประตูหน้าด้วยท่าทีนอบน้อมและอบอุ่น กระทั่งทำให้เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงขั้นหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้ที่ก่อนหน้านี้อวดดีใส่ชายหนุ่ม ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทีของหัวหน้าจึงรู้สึกหวาดกลัว ถึงขั้นตัวสั่นขึ้นมา และเกรงว่าอีกฝ่ายจะสืบหาความผิดจากเรื่องราวก่อนหน้านี้ซะด้วยซ้ำ
แต่อู๋ฝานไม่คิดเก็บมาใส่ใจ หลังออกจากหน่วยงานพลเรือน เขาก็โดยสารรถลากเดินทางออกไปภายใต้สายตามองส่งของใต้เท้าหลี่ ตลอดทางจนกระทั่งรถลากเลือนหายไปจากสายตา เขาก็ได้เห็นใต้เท้าหลี่ยืนมองอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน เป็นการยืนยันว่ามาส่งตามที่บอกจากใจจริง
แม้ก่อนหน้านี้จะเกิดเรื่องขึ้น แต่ท่าทีของอีกฝ่ายในตอนนี้ก็ทำให้อู๋ฝานวางใจ
[1] ศาลาพักม้า เป็นชื่อสถานที่สำหรับใช้ส่งสารของทางการ มีความยิ่งใหญ่ โอ่อ่า และหรูหรากว่าชื่อที่เป็นเพียงศาลา