เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 480 เจ้าอยู่ฝ่ายไหนกันแน่

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 480 เจ้าอยู่ฝ่ายไหนกันแน่

หานฉีเพียงแค่ยืนจ้องเขานิ่ง ๆ

หานเหล่ยจึงเอ่ยด้วยความร้อนรนออกมา “เจ้ามัวทำอะไรอยู่ ข้าพูดกับเจ้าอยู่เจ้าได้ยินหรือไม่?”

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นับตั้งแต่ที่หานฉีตามเขาออกจากเมืองหลวงก็ดูแปลกไป ไม่เคยตอบโต้ใด ๆ พูดก็น้อยลง หากไม่ใช่เพราะพอใจในฝีมือฆ่าคนของเขา…

สายตาแข็ง ๆ ของหานฉีกลอกไปมา จากนั้นก็เดินตามหลังหานเหล่ยไปอย่างแข็งทื่อ

หานเหล่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยังดี แม้คนจะโง่เขลาไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็ยังเชื่อฟังอยู่

หลังจากเก็บเงินและข้าวของสำคัญเสร็จเรียบร้อยแล้ว หานเหล่ยก็แปลงโฉมและอาศัยตอนที่สือฟางยังไม่ได้ออกคำสั่งให้มาจับตัวเขา ออกจากเมืองอวิ๋นจงไปกับหานฉีสองคน

“พวกเราจะไปขอพึ่งซือถูรุ่ยที่พั่นโจว!” หานเหล่ยนั่งอยู่บนเกวียนวัว พลางเอ่ยกับหานฉี “หลังจากที่งานสำเร็จ เจ้าวางใจ ติดตามข้า ข้าไม่เอาเปรียบอย่างแน่นอน”

หานฉีไม่ได้ตอบอะไร

หานเหล่ยเอ่ยต่ออีก “เหตุใดสองวันมานี้เจ้าถึงมองไปทางจินโจวอยู่ตลอดเล่า?”

ทันทีที่ได้ยินดังนั้น หานฉีก็พึมพำกับตัวเอง “จินโจว”

“ใช่แล้ว” หานเหล่ยหรี่ตาลง พริบตาต่อมาหานเหล่ยก็ดวงตาเบิกโพลง เพราะหานฉีกระโดดลงจากเกวียนวัว ทั้งยังลากหานเหล่ยลงไปด้วย

หานเหล่ยจับห่อผ้าในมือเอาไว้ แล้วเอ่ยด้วยความตกตะลึง “เจ้าจะทำอะไร?!”

หานฉีจึงเอ่ยขึ้นมา “ไปจินโจว หาเจ้านาย”

เลือดลมที่พลุ่งพล่านในร่างของเขายากที่จะระงับได้แล้ว

หานเหล่ยเป็นปัญญาชนคนหนึ่ง ไหนเลยจะสู้หานฉีได้ หานฉีกระโดดทีเดียวก็เหาะไปทางจินโจวแล้ว

ไม่ว่าหานเหล่ยจะดิ้นรนและก่นด่าอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์

เกรงว่าทั้งชีวิตนี้หานเหล่ยก็คงจะไม่มีวันเข้าใจ ว่าเหตุใดจู่ ๆ หานฉีถึงได้แปรพักตร์

แต่จู่ ๆ คนขับเกวียนวัวก็ตะโกนขึ้นมา “พวกเจ้าจะนั่งต่อหรือไม่ ถ้าไม่นั่งเงินนี้ข้าไม่คืนให้นะ!”

น่าเสียดายที่เขามองไม่เห็นร่างของสองคนนั้นอีกแล้ว คนขับเกวียนจึงด่าพวกเขาว่า ‘ประสาท’ ออกมาเบา ๆ แล้วจึงได้ออกเดินทางต่อไป

ส่วนเซี่ยเซวียนที่เวลานี้หาหานเหล่ยไม่เจอ ก็กระวนกระวายใจอย่างมาก

สือฟางเอาแต่จ้องไปที่ศพของสือซุ่ยซุ่ยมาเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว

เซี่ยเซวียนก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

“เด็ก ๆ”

“ขอรับท่านแม่ทัพ”

“พาตัวเซี่ยเซวียนออกไป”

เซี่ยเซวียนชะงักไปเล็กน้อย “ท่านแม่ทัพสือ ข้าปกป้องซุ่ยซุ่ยเอาไว้ไม่ได้ เป็นลูกน้องของเผยยวนที่ทำร้ายนาง และข้าก็เป็นผู้บริสุทธิ์นะ”

สือฟางไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อย “เอาตัวออกมา หากยังโวยวายไม่เลิกอีกก็ถอนฟันของเขาซะ อย่ามารบกวนความสงบของซุ่ยซุ่ยของข้า”

เอ่ยไปมือของสือฟางก็สั่นไป หากไม่ใช่เพราะเขาโลภมาก อยากให้ซุ่ยซุ่ยได้เป็นฮองเฮา อยากให้นางเป็นสตรีที่สูงส่งที่สุดในใต้หล้า จะปล่อยให้นางร่วมเรียงเคียงหมอนกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ได้อย่างไรกัน!

ทำให้นางต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อย!

บัดนี้เขาสูญเสียพี่น้องร่วมสาบานไปถึงสองคน และยังเสียลูกสาวแท้ ๆ ไปอีก

ก็เพราะเซี่ยเซวียนคนนี้คนเดียว!

สือฟางได้ตัดสินใจแล้ว หากเผยยวนต้องการตีเพี่ยวโจว เขาก็ทำได้แค่สู้จนตัวตาย แต่หากเผยยวนต้องการเพียงเซี่ยเซวียน เขาก็จะส่งตัวเซี่ยเซวียนให้เผยยวนไป

การกระทำเช่นนี้ของเซี่ยเซวียน เป็นการพาตัวเองไปสู่เส้นทางของความตายล่วงหน้าจริง ๆ

ส่วนทางฝั่งจินโจวนั้น

เหล่ากองทัพทหารเกราะเหล็กกำลังเตรียมของเพื่อออกเดินทางกันอยู่ พรุ่งนี้พวกเขาจะออกเดินไปปราบกองกำลังสือฟาง

พวกเด็ก ๆ ย่อมถูกสั่งให้อยู่ที่นี่ ช่วยงานในร้านขายยา อาอินแม้ว่าจะอยากไปสนามรบด้วย แต่นางยังเด็กเกินไป จึงถูกสั่งให้อยู่ที่ร้านขายยาแต่โดยดี

เดิมคิดว่าเซียวเซวียนจิ่นคงจะขออยู่ดูแลฝาแฝดที่นี่ แต่ใครจะคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายขอตามเผยยวนออกไปรบด้วย

เผยยวนไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนที่เขาอายุเท่าเซียวเซวียนจิ่นก็เข้าร่วมกองทัพแล้ว

เมื่ออาอินรู้เรื่องนี้ก็บ่นด้วยความไม่พอใจทันที “เหตุใดพี่เซวียนจิ่นถึงตามไปด้วยได้ล่ะเจ้าคะ?”

เซียวเซวียนจิ่นลูบหัวของนาง “เช่นนั้นอาอินก็รีบ ๆ โต แล้วเราค่อยไปออกรบด้วยกัน”

อาอินมุ่ยปาก “ในจดหมายของพี่ใหญ่ก็ถามข้าด้วยว่าสนามรบเป็นอย่างไร ข้ายังไม่เคยเห็นเลย แล้วจะบอกเขาได้อย่างไรกัน”

เซียวเซวียนจิ่นเลิกคิ้วขึ้น “เช่นนั้นพี่ไปแล้วจะวาดภาพให้เจ้าหนึ่งภาพ เจ้าค่อยส่งไปให้พี่ใหญ่ของเจ้าดีหรือไม่?”

อาอินตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”

นางถือพัดเอาไว้ คอยควบคุมไฟที่ใช้ต้มยาอยู่

เห็นเซียวเซวียนจิ่นนั่งอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ ก้นเล็ก ๆ ก็ขยับเข้าไปใกล้ “เช่นนั้นพี่ชายไปสนามรบต้องระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ”

เซียวเซวียนจิ่นพยักหน้ารับคำพร้อมรอยยิ้ม “วางใจเถอะ พี่ชายรู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

“ท่านไม่กลัวหรือ อาจจะบาดเจ็บได้นะ”

“พี่ชายบาดเจ็บ ก็มีอาอินน้อยช่วยรักษาให้พี่ชายไม่ใช่หรือ?”

“ก็จริง ถุย ๆ ๆ ท่านไม่บาดเจ็บหรอก ห้ามพูดจาส่งเดชนะ”

“พี่ชายจะเชื่อฟังอาอิน”

เซียวเซวียนจิ่นช่วยนางต้มยา

อาชิงวิ่งจู๊ดผ่านด้านข้างไป เพราะวิ่งมาอย่างเร็วจึงเกือบจะล้มลง

“เจ้าจะรีบวิ่งไปที่ใดกัน?” อาอินถาม

อาชิงตอบกลับด้วยความเขินอาย “ข้าปวดชิ้งฉ่อง”

“รีบไป”

“ข้าพาเขาไปเองดีกว่า” เซียวเซวียนจิ่นลุกขึ้น จูงอาชิงไปห้องน้ำ

ห้องน้ำในร้านขายยาต้องต่อแถว มิน่าเล่าถึงทำให้น้องภรรยาของเขาผู้นี้อั้นฉี่จนทนไม่ไหว

เซียวเซวียนจิ่นจูงอาชิงไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางอาชิงก็รู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงบิดก้นไปมาพลางย่ำเท้าแล้วเอ่ยออกมา “ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว อาชิงจะฉี่ราดแล้ว!”

เซียวเซวียนจิ่นเองก็ตกใจเช่นกัน รีบอุ้มเขาไปที่ทางเข้าตรอก “ข้าจะบังให้เจ้าเอง ฉี่ตรงนี้ก็แล้วกัน”

อาชิงถอดกางเกงลง แล้วเอ่ยด้วยความเขินอาย “เช่นนั้น…เช่นนั้นท่านห้ามดูของข้านะ”

เซียวเซวียนจิ่นหัวคิ้วกระตุก “ได้ ไม่ดู เพราะพี่ชายก็มี”

อาชิงจึงยืดพุงน้อย ๆ ขึ้น หลังจากฉี่เสร็จก็บิดตัวไปมา

“อ้า สบายจังเลย!”

เซียวเซวียนจิ่นรู้สึกขบขัน “ไปเถอะ พี่ชายจะพาเจ้าไปส่ง”

อาชิงลูบหน้าอกไปมา “พวกเราไปดูที่กำแพงเมืองกันดีกว่าขอรับ”

เซียวเซวียนจิ่น “???”

“ทำไมหรือ?”

อาชิงเอียงคอ “ข้าเองก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่าอีกฝั่งเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังรอข้าอยู่ขอรับ”

เซียวเซวียนจิ่นรู้สึกสงสัย “ต้องไปให้ได้อย่างนั้นหรือ?”

“อืม! อาชิงอยากมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ยิ่งเข้าใกล้ที่นี่ความรู้สึกเช่นนั้นก็ยิ่งชัดขึ้น”

“เช่นนั้นก็ได้”

เซียวเซวียนจิ่นเห็นอาชิงเป็นเหมือนน้องชายตัวเอง ย่อมทำตามคำขอทุกอย่างของเขาอยู่แล้ว

ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินมาถึงประตูเมือง กองทัพทหารเกราะเหล็กที่รวมตัวกันก็ยังคงฝึกซ้อมอยู่ที่นี่

ชาวบ้านจำนวนมากต่างก็มาดูพวกเขาฝึกซ้อม และมีพวกผู้หญิงที่อยากจะมอบถุงผ้าให้พวกเขาอย่างเขินอายอยู่ข้าง ๆ ด้วย

เรื่องนี้เผยยวนไม่ได้ห้าม ขอเพียงมีคนที่เข้าตาก็สามารถหาคู่ได้ ส่วนเรื่องสินสอดเนี่ยเจิ้งอ๋องผู้นี้ออกให้เอง!

อาชิงเบียดตัวเข้าไปในฝูงชน ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เผยยวน ทำท่าจะปีนขึ้นขากางเกงของเซียวเซวียนจิ่นอย่างตื่นเต้น “พี่ชายอุ้ม ๆ”

เซียวเซวียนจิ่นจึงอุ้มเขาขึ้นมา ในตอนนั้นเองเมื่อเผยยวนมองออกไป ก็เห็นร่างร่างหนึ่งเหาะมาทางนี้อย่างรวดเร็ว ความเร็วเช่นนี้ต้องเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน!

เผยยวนจึงเดินเข้าไป “อพยพชาวบ้านกลับเข้าเมือง!”

ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นที่ประตูเมือง ชาวบ้านบางคนที่เชื่อฟังหน่อยก็รีบกลับไปเองทันที ส่วนเซียวเซวียนจิ่นและอาชิงก็ต้องเดินไหลตามฝูงชนเข้าไปด้านในด้วย

แต่จู่ ๆ อาชิงก็ตบบ่าของเซียวเซวียนจิ่น “โอ๊ะ เป็นเชลยเฒ่าของข้านั่นเอง!!”

เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นว่าหานฉีกำลังเผชิญหน้ากับเผยยวนอยู่ ก่อนที่เขาจะโยนหานเหล่ยลงที่พื้น ส่วนเขาก็จ้องมองไปทางอาชิงอย่างไม่ละสายตา

เผยยวนเห็นว่าเขาไม่มีเจตนาฆ่า จึงมองไปยังหานเหล่ยที่อยู่บนพื้น ก็รู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หานฉีเห็นเผยยวนไม่รับจึงเตะหานเหล่ยไปอีกหนึ่งที เตะจนหานเหล่ยกลิ้งไปอยู่ข้างเท้าของเผยยวน บอกเป็นนัย ๆ ให้เขารีบเอาตัวคนผู้นี้ไปซะ

หานเหล่ย “!!!”

เผยยวน “???”

เจ้าอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?

.

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท