บทที่ 482 ไร้ยางอายที่สุด
แต่พวกเขากลับลืมไปว่า ลึกลงไปในจิตใจของมนุษย์ก็มีขีดจำกัดอยู่
ยิ่งถูกกดขี่มากเท่าใด ก็ยิ่งจะสะท้อนกลับไปแรงเท่านั้น!
ครั้งนี้สือฟางยอมฟังคำแนะนำของคนอื่น ก่อนที่เขาจะขึ้นไปบนกำแพงเมือง และเอาตัวเซี่ยเซวียนขึ้นมาด้วย
องค์ชายสามที่เคยสูงส่ง บัดนี้กลับถูกมัดมือไพล่หลัง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ราวกับสุนัขที่ไร้เจ้าของ และก่นด่าผู้คนไปตลอดทาง!
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนด่าจากนอกเมือง เซี่ยเซวียนก็เริ่มตื่นตระหนกและดิ้นรนไม่หยุด
“พวกเจ้าจะทำอะไร! ข้าเป็นฮ่องเต้ ข้าจะประหารพวกเจ้าเก้าชั่วโคตร! อัครมหาเสนาบดีหานเล่า! อัครมหาเสนาบดีหานช่วยข้าด้วย!!”
น่าเสียดายที่ไม่ว่าเซี่ยเซวียนจะกรีดร้องมากเท่าไร สุดท้ายก็ถูกจับมัดและลากขึ้นไปบนกำแพงเมืองอยู่ดี
เผยยวนยกมือขึ้น เผยเสี่ยวเตาจึงได้หยุดตะโกนแล้วพักหายใจ ก่อนจะดื่มน้ำเพื่อให้ชุ่มคอ~
เผยยวนมองไปทางสือฟาง นี่นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้พบหน้ากัน
สือฟางลากตัวเซี่ยเซวียนมา
เซี่ยเซวียนเห็นกองทัพทหารเกราะเหล็กมากมายเพียงนั้นตรงด้านล่างกำแพงเมือง ก็กลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น “ท่านพ่อตา ท่าน…ท่านอย่าส่งข้าลงไปนะขอรับ ข้าเป็นสามีของซุ่ยซุ่ยนะขอรับ”
“เจ้ายังกล้าบอกว่าตัวเองเป็นสามีของซุ่ยซุ่ยอีกอย่างนั้นหรือ หากไม่ใช่เพื่อที่จะเอาตัวเจ้ามาใช้เจรจาในวันนี้! เมื่อวานข้าคงฆ่าเจ้าด้วยฝ่ามือเดียวไปแล้ว!”
สือฟางเอ่ยด้วยความเคียดแค้น
เซี่ยเซวียนตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลออกมา “ท่านพ่อตา อย่านะขอรับ ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่าซุ่ยซุ่ยจริง ๆ เผยยวนเป็นคนทำนะขอรับ ท่านดูสิขอรับ วันนี้เขาก็ทนไม่ไหวจนต้องยกทัพมาที่นี่”
“ใช่ ในเมื่อวันนี้เขาก็มาแล้ว เหตุใดเมื่อวานยังต้องทำเรื่องที่เกินความจำเป็นอีกเล่า ต่อให้เจ้ากับข้าไม่แตกคอกัน คิดว่าเขาจะทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นหรือ เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว!”
เดิมสือฟางก็สิ้นเปลืองทรัพยากรของตัวเองเพื่อช่วยเซี่ยเซวียนไปไม่น้อย หากไม่ใช่เพราะสือซุ่ยซุ่ยยืนกรานที่จะแต่งงานกับเขา สือฟางไหนเลยจะสนับสนุนคนโง่เช่นนี้เป็นฮ่องเต้กัน?
แต่เขาอยากให้ซุ่ยซุ่ยสมปรารถนาได้ขึ้นเป็นฮองเฮา ถึงเวลาหากเซี่ยเซวียนไม่เชื่อฟัง เขาก็สามารถหนุนหลังหลานชายของตัวเอง อาศัยสายเลือดตระกูลเซี่ยเพียงเล็กน้อยของเขา เช่นนี้ก็จะมีความชอบธรรมแล้ว
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าสารเลวผู้นี้จะกล้าสังหารซุ่ยซุ่ยของเขา!
เซี่ยเซวียนพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา “เผยยวนต้องการจะทำให้ท่านสับสนนะขอรับ!”
“เหอะ”
เซี่ยเซวียนไม่เคยนำกองทัพออกศึกมาก่อน ในเวลาสำคัญเช่นนี้การที่เผยยวนสังหารคนที่สำคัญที่สุดของเขา นอกจากทำให้เขาโกรธแค้นจนอยากจะต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างสุดกำลังแล้ว เผยยวนจะได้ประโยชน์อันใดอีกเล่า?
เผยยวนไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นแน่ แม้แต่สือฟางก็รู้เหตุผลนี้ดี
“เนี่ยเจิ้งอ๋อง” สือฟางเอ่ยเสียงดัง “ข้าถูกเจ้าเด็กคนนี้หลอกใช้ ดังนั้นข้าจะขอทำข้อตกลงกับท่าน กองกำลังสือฟางของข้ากับกองทัพทหารเกราะเหล็กของท่านพักรบกันเพียงเท่านี้เป็นอย่างไร?”
เซี่ยเซวียนเห็นสือฟางตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะส่งตัวเขาให้เผยยวน ก็ก่นด่าเสียงดังออกมาทันที “เจ้าเฒ่าสือฟาง เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”
สือฟางจึงให้คนลากตัวเซี่ยเซวียนลงไป และเผชิญหน้ากับเผยยวน
เขาสืบรู้มานานแล้วว่าเผยยวนมีกองปืนไฟ อีกทั้งยังได้ยินมาอีกว่าทั้งแข็งแกร่งและห้าวหาญ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจยืนหลบอยู่ในมุม เมื่อพูดจบก็มองไม่เห็นสือฟางแล้ว
จะลงมือก็ทำได้ยาก
ตอนนี้สือฟางกำลังรอคำตอบของเผยยวนอยู่ ขอเพียงเขาตกลง สือฟางก็จะนำตัวเซี่ยเซวียนส่งให้เผยยวนทันที
ทว่าเผยยวนเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ หนึ่งที จากนั้นก็เอ่ยอย่างสบาย ๆ “สำหรับข้าแล้วเซี่ยเซวียนไม่มีค่าให้พูดถึง และไม่มีค่าพอให้ข้าถอยทัพ”
สีหน้าของสือฟางเปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็ได้ยินเผยยวนเอ่ยขึ้นอีก “กองทัพทหารเกราะเหล็กมาที่นี่เพื่อกอบกู้แผ่นดินไม่ใช่เพื่อเซี่ยเซวียน พวกเจ้าเห็นเขาเป็นฮ่องเต้ แต่ราษฎรต้าจิ้นหาได้ยอมรับไม่”
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่มีใครสนใจว่าเซี่ยเซวียนจะเป็นหรือตาย คิดจะเอาคนเช่นนี้มาเป็นเครื่องต่อรองอย่างนั้นหรือ?
คนอย่างเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้เองสินะ
บัดนี้สือฟางสูญเสียแม่ทัพสองคนที่มีความสามารถมากที่สุดไปแล้ว เผยยวนก็ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย สือฟางจึงเอ่ยขึ้นมา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กองกำลังสือฟางเตรียมรับการโจมตีของข้าศึก!”
เสียงเป่าแตรสัญญาณดังขึ้น ทหารม้าถอยลงไป เครื่องยิงหินถูกเข็นขึ้นมา แต่เครื่องยิงหินเหล่านี้หน้าตากลับดูแตกต่างจากที่กองกำลังสือฟางเคยเห็นมา
ทหารที่ปกป้องเมืองเปลี่ยนเป็นพลธนูแล้ว พร้อมเล็งไปที่กองทัพทหารเกราะเหล็กที่อยู่ด้านล่างโดยพร้อมเพรียง
ทว่าทั้งสองด้านของเครื่องยิงหิน ก็มีพลโล่ขยับขึ้นมาอีกสามสี่แถว บังทัพใหญ่เอาไว้
“พลธนูเตรียมพร้อม ยิงได้!” ทางด้านกองกำลังสือฟางก็ออกคำสั่งทันที ลูกธนูที่ราวกับห่าฝนก็กระหน่ำเข้าใส่กองทัพทหารเกราะเหล็ก!
และกองทัพทหารเกราะเหล็กก็อาศัยตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันรู้ตัว ใช้เครื่องยิงหินยิงเข้าไปจนเกิดเสียงดัง ‘ตูม ๆ ๆ ๆ’ ติดต่อกันสี่ครั้ง!
ทันใดนั้นกำแพงเมืองก็สั่นสะเทือน! กองกำลังสือฟางหลายคนร่วงลงมาจากด้านบน
นี่ใช่เครื่องยิงหินที่ใดกัน! เพราะนี่คือปืนใหญ่ที่มีพลานุภาพทำลายล้างสูงสุดต่างหากเล่า
“ฆ่าพวกมัน! ยึดเพี่ยวโจวคืนมา! ปลดปล่อยเมืองอวิ๋นจง!”
ทหารม้าคอยเปิดทาง ทหารโล่คอยปกป้อง กองทัพทหารเกราะเหล็กทำงานเป็นหนึ่งเดียว บุกโจมตีกองกำลังสือฟาง!
“เร็วเข้า! พลธนู!”
ด้านบนเกิดความโกลาหลขึ้นมา และมีการยิงธนูลงมาเป็นระยะ เสียงที่สั่งการว่า ‘ยิงใหม่!’ ก็ตะโกนจนคอแทบแตกอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเวลานี้ที่เหล่ากองทัพทหารเกราะเหล็กเข้ามาใกล้!
ระยะห่างใกล้กันเช่นนี้ การยิงให้โดนไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
แต่กลับมีเรื่องแปลกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อลูกธนูเหล่านั้นพุ่งไปตกยังด้านข้างของโล่อย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนจะร่วงลงไปบนพื้นดิน แม้แต่โล่ของพวกเขาก็ยังยิงไม่โดนเลยแม้แต่น้อย
“ยิงอีก!!!”
ยังเป็นการโจมตีแบบเดิม ยิงจนกระทั่งกระบอกใส่ลูกธนูที่อยู่ทางด้านหลังของเหล่าพลธนูแทบจะว่างเปล่า สือฟางจึงได้เตะพลธนูคนหนึ่งออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทันใดนั้นรองแม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ ก็เหมือนจะสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง จึงโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเขาแล้วเอ่ยขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ นั่นใช่แม่เหล็กหรือไม่ขอรับ?”
ต้าจิ้นมีแร่น้อยมาก ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องแม่เหล็ก! ต่อให้มีอยู่จริงก็เป็นของที่หาได้ยาก ไหนเลยจะสามารถนำมาสร้างเป็นโล่ที่ใหญ่เพียงนี้ได้?
แต่หากเป็นแม่เหล็กจริง ๆ เล่า!?
นี่ไม่เท่ากับว่าถูกกองทัพทหารเกราะเหล็กยึดลูกธนูไปหมดหรอกหรือ!
ดังนั้นเมื่อกองกำลังสือฟางคิดจะเคลื่อนพลทั้งหมดออกก็สายเกินไปเสียแล้ว เหล่าทหารเกราะเหล็กเริ่มโจมตีเมืองกลับตามที่ได้รับการฝึกฝนมาทันที!
ยังคงมีการยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง เมืองอวิ๋นจงจึงสั่นสะเทือนไปหมด
สือฟางคำรามด้วยความโมโห “ไป! ไปเอาตัวพวกชาวบ้านขึ้นมา!”
ไม่นาน ชาวบ้านธรรมดาที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนก็ถูกจับตัวขึ้นมาบนกำแพงเมือง!
“เผยยวน หากเจ้ายังไม่หยุดอีกล่ะก็ ข้าจะสั่งฆ่าล้างเมืองซะ!”
เอ่ยจบ สือฟางก็ให้คนลากชาวบ้านขึ้นมา เพื่อให้ทหารเกราะเหล็กดู
“อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้านะ!”
“เผยยวน! เจ้าบอกว่าจะมาปลดปล่อยเมืองอวิ๋นจง ทวงดินแดนที่หายไปคืนไม่ใช่หรือ! เช่นนั้นชาวบ้านเหล่านี้จะทำอย่างไรเล่า เจ้าไม่สนใจแล้วอย่างนั้นหรือ! เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นกองทัพที่มีความเที่ยงธรรมอีกหรือ! เผยยวน เจ้าเป็นคนจอมปลอมอย่างนั้นหรือ?!”
“บัดซบ!” เผยเสี่ยวเตาสบถออกมา “เหตุใดถึงยังมีคนชั่วที่ไร้ยางอายเช่นนี้อยู่อีก!”
หากวันนี้กองทัพทหารเกราะเหล็กไม่สนใจและดึงดันบุกเข้าไป คนทั้งใต้หล้ายังจะเชื่อถือกองทัพทหารเกราะเหล็กอีกอย่างนั้นหรือ!
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทำร้ายชาวบ้านที่บริสุทธิ์ได้!
“อย่าฆ่าข้า!” เด็กคนหนึ่งถูกหิ้วตัวไปนอกกำแพงเมือง หากเผยยวนไม่ถอยทัพ พวกเขาก็จะฆ่าคนเหล่านี้
เผยยวนจึงตัดสินใจทันที “ถอยทัพ!”
โจมตีเมืองจะทำเมื่อใดก็ได้ แต่ไม่สามารถปล่อยให้ชาวบ้านล้มตายได้
เหล่ารองแม่ทัพไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ
“พวกเราจะถอยทัพ อย่าทำร้ายชาวบ้านผู้บริสุทธิ์”
เผยยวนบอกว่าจะถอยทัพก็ถอยทันที โดยไม่รอให้สือฟางเอ่ยเตือน เพราะเขาได้นำกองทัพทหารเกราะเหล็กถอยไปด้านหลังแล้ว
เผยเสี่ยวเตารู้สึกคับข้องใจ และเกลียดเจ้าโจรสุนัขสือฟางที่ไร้ยางอายนั่นเป็นอย่างยิ่ง
กองปืนไฟเองก็หมดคำจะพูด “เจ้าสุนัขนั่นยืนอยู่สูงเพียงนั้น อยากจะยิงก็ยิงไม่ได้ มิหนำซ้ำตอนนี้พวกเขายังขู่จะทำร้ายชาวบ้านอีก และการที่เขาจับคนทั้งเมืองเอาไว้เป็นตัวประกันเช่นนี้ นับว่าบีบพวกเราสำเร็จแล้ว!”
.