บทที่ 380 กำไร
บทที่ 380 กำไร
เซี่ยชิงหยวนรีบดึงเท้าออกจากอ่างน้ำร้อน หยิบผ้ามาเช็ดเท้าแล้วกลิ้งตัวไปนอนบนเตียงทันที “เฮ้อ ทำไมจู่ ๆ ฉันถึงรู้สึกง่วงจังเลยล่ะ?”
พอพูดแบบนั้นเธอก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายตัวเองอย่างรวดเร็ว
ร่างทั้งร่างถูกห่อหุ้มเรียบร้อย “นอน นอน”
การกระทำหลายอย่างเสร็จสิ้นในคราวเดียว
เสิ่นอี้โจวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยความขบขัน
เขาขึ้นมานั่งข้างเตียงแล้วตบไหล่เซี่ยชิงหยวนเบา ๆ “คุณอยากจ้างคนอื่นมาช่วยดูร้านเพิ่มไหม ตอนนี้คุณกำลังท้อง งานในร้านมันจะเหนื่อยเกินไปนะ”
การทำร้านขายเสื้อผ้า ตราบใดที่มีลูกค้าเข้าร้าน คนขายก็ต้องไปยืนเคียงข้างลูกค้าเกือบตลอดเวลา เขากังวลว่าร่างกายของเซี่ยชิงหยวนจะทนไม่ไหวถ้าต้องทำแบบนั้นทั้งวัน
เขายังคงจำคำที่ไม่ควรแพร่ออกไปก่อนอายุครรภ์สามเดือนได้ดี
เซี่ยชิงหยวนโผล่หัวจากใต้ผ้าห่ม “ฉันก็ไม่รู้ว่าจะหาจากไหนเหมือนกัน เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะลองดูนะ ถ้าฉันยุ่งเกินไปก็จะลองขอให้ป้าอู๋ช่วยแนะนำให้แล้วกัน”
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนมีแผนของเธอเองแล้ว เขาก็พยักหน้า “เอาละ อย่าฝืนตัวเองมากเกินไปล่ะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เสิ่นอี้โจวก็ไปเทน้ำล้างเท้าในห้องน้ำแล้วอาบน้ำ
เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง เซี่ยชิงหยวนก็หลับไปแล้ว
บางทีเธออาจจะพันผ้าห่มแน่นเกินไป จึงมีหยดเหงื่อปรากฏบนปลายจมูก
เสิ่นอี้โจวรีบเปิดผ้าห่มให้ จากนั้นเอื้อมมือไปแตะหลังเธอ และพบว่าบริเวณนั้นไม่มีเหงื่อแล้วนอกจากคอของภรรยา
จากนั้นเขาก็หยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อจากคอและจมูกให้อย่างแผ่วเบา
ในระหว่างขั้นตอนการทำเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
เมื่อนึกถึงว่าเธอมักจะเป็นคนระมัดระวังตัวเสมอ แต่ตอนนี้กลับหลับลึกมาก ความเอ็นดูก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นในใจของเขา
เขาทัดผมบางเส้นที่ปิดใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง แล้วนอนลงข้าง ๆ ขณะต่อต้านความในใจที่อยากจะโอบหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนและหลับตาลง
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยชิงหยวนพาอาเซียงไปที่ร้านเสื้อผ้าเพื่อตรวจนับสินค้าคงคลัง
เฉิงสี่จวี๋ก็มาเร็วเช่นกัน เมื่อวางข้าวของตัวเองเสร็จ เธอก็มาช่วยด้วย
เพื่อความสะดวกในการจำแนกและการจัดวาง อาจารย์ค่งช่วยสร้างชั้นเก็บของขนาดใหญ่ในห้องเก็บของไว้ให้ ซึ่งเสื้อผ้าแต่ละสไตล์ถูกจัดวางแยกหมวดหมู่ มันสะดวกมากไม่ว่าจะหยิบหรือนับสินค้าคงคลัง
หลังจากที่นับสินค้าคงคลังเสร็จ เซี่ยชิงหยวนก็ทำการคำนวณบัญชีขณะที่อาเซียงและเฉิงสี่จวี๋รวมตัวกันเพื่อรอให้หญิงสาวคำนวณด้วยดวงตาที่สดใส
เซี่ยชิงหยวนคำนวณยอดขายเสื้อผ้าแต่ละรายการ และในที่สุดก็แทบไม่เชื่อสายตาของเธอ
“พี่เซี่ย?” อาเซียงยังเด็กและอดไม่ได้ที่จะถาม
เซี่ยชิงหยวนยิ้มให้พวกเธอทั้งสองแล้วพูดว่า “รายได้ของเราเมื่อวานนี้อยู่ที่ห้าพันหกร้อยเจ็ดสิบห้าหยวน!”
อาเซียงอุทานด้วยความประหลาดใจ “ให้ตายสิ!”
เฉิงสี่จวี๋ก็มีความสุขมากเช่นกัน “น่าทึ่งมากเลยค่ะ!”
เมื่อวานพวกเธอทำงานหนักทั้งวัน และในที่สุดมันก็ไม่สูญเปล่า
เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “เมื่อวานเป็นวันแรกของการเปิดร้าน จึงมีเหล่าคนรู้จักและเพื่อน ๆ มากมายมาช่วยอุดหนุน เป็นเรื่องปกติที่จำนวนการซื้อขายจะสูง แต่คาดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมันจะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับปกติ นอกจากนี้เรายังจะต้องหักต้นทุนต่าง ๆ ด้วย เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำและค่าไฟฟ้า อื่นๆ อีก”
เธอตบไหล่ทั้งสองคน “แต่ถึงอย่างนั้นผลลัพธ์นี้ก็ดีมากอยู่ดี มาทำงานหนักด้วยกันเถอะ!”
สินค้าที่ร้านยามต้องมนต์ขายเป็นหลักคือสินค้าระดับกลางถึงระดับสูง เสื้อโค้ตกันหนาวราคาเริ่มต้นที่เจ็ดสิบหยวน ทั้งยังไม่ต้องพูดถึงเสื้อหนังสัตว์ที่มีราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยหยวนแล้ว
ในจะกางเกงขนสัตว์หนาและเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์เหล่านั้นก็มีราคาสูงกว่าสี่สิบหยวนเช่นกัน
สำหรับภรรยาข้าราชการผู้มั่งคั่ง เงินจำนวนนี้ใช้ซื้อของได้ไม่กี่อย่าง คนชนชั้นแรงงานธรรมดา ๆ ก็ซื้อได้โดยมีเงินเดือนต่อเดือนด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชิงหยวนมีความสุขกับการขายเสื้อผ้าระดับกลางถึงสูงและมีอัตรากำไรมหาศาล
อาเซียงและเฉิงสี่จวี๋ตอบรับอย่างมีความสุข “เราจะตั้งใจทำงานให้หนักค่ะ!”
ในยุคนี้ผู้คนมีความปรารถนาที่จะหาเงินมากขึ้นเพื่อกลับบ้านอย่างมั่งคั่ง ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเธอต้องทำงานหนักอย่างสุดกำลัง
แล้วก็เป็นดั่งที่เซี่ยชิงหยวนเคยพูด เมื่อไม่มีการอุดหนุนจากบรรดาคนรู้จักหรือเพื่อน กระแสลูกค้าที่เข้าร้านน้อยกว่าวันแรกของการเปิดร้านจริง ๆ
แต่ในทางกลับกัน ลูกสะใภ้ที่มาจากครอบครัวร่ำรวยจำนวนมากก็มากับเพื่อน ๆ และครอบครัวที่มีรายได้สองทาง บางครอบครัวที่มีเงินออมอยู่บ้างก็แวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วย
เมื่อซื้อกระโปรงก็สวมถุงน่องแบบกางเกงแล้วยืนอยู่หน้ากระจก บางคนอดไม่ได้ที่จะยกกระโปรงขึ้นหลายครั้งแล้วร้องว่า “ฉันเคยเห็นสิ่งนี้ในทีวีและในนิตยสาร แต่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะใส่สบายและดูดีได้ขนาดนี้เลย”
ถุงน่องแนบชิดกับเนื้อ และหากคุณมีรอยตำหนิบนร่างกายก็จะดูออกได้ง่าย
เซี่ยชิงหยวนมีสายตาที่เฉียบคม ร่วมกับเหล่าไต้แล้วทั้งสองได้เลือกถุงน่องแบบกางเกงอันที่ทำให้หน้าท้องกระชับและยกบั้นท้าย ซึ่งทันทีที่สวมใส่ ไม่ต้องพูดถึงข้อบกพร่องเลย แม้แต่รูปร่างก็ดูดีขึ้นมาก
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสไตล์จากต่างประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยมในจีนมากนัก รูปแบบที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพดีเยี่ยมค่ะ พวกมันสามารถเปลี่ยนรูปร่างของคุณได้ และพวกมันจะไม่สร้างความเสียหายให้แก่ร่างกายแม้จะใส่ไปนาน ๆ ก็ตามค่ะ”
เหล่าภรรยาถอนหายใจ “อันนี้ดีมากจริง ๆ ก่อนหน้านี้สามีของฉันไปเมืองหลวงเพื่อทำธุระแล้วก็ซื้อกลับมาให้สองตัว ไม่ต้องพูดถึงเลย ราคาพวกมันแพงกว่านี้แถมยังใส่แล้วหลวมอีกด้วย เดิน ๆ ไปสักพักขอบของมันก็หล่นไปอยู่ตรงเป้าแล้วฉันก็ต้องพยายามดึงขึ้นอีก มันน่าอายมากจริงๆ”
พอพูดแบบนี้ทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่
แม้แต่คนที่ไม่ได้ซื้อชุดยังเอาเลย “ซื้อไว้ก่อนดีกว่า เตรียมไว้จะได้ไม่พลาดทีหลัง”
เซี่ยชิงหยวนหัวเราะอยู่ด้านข้าง “ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้วถ้าของหมด ครั้งต่อไปที่ฉันไปซื้อสินค้าเกรงว่าจะต้องรอถึงปีหน้าเลย แต่แน่นอนว่าถ้าลูกค้ามีความต้องการเยอะจริง ๆ ฉันอาจจะลองหาทางให้โรงงานส่งของมาให้ได้บ้างก็ได้ค่ะ”
ความนิยมของถุงน่องแบบกางเกงและกระโปรงนั้นเกินความคาดหมายของเซี่ยชิงหยวนมากจริงๆ
นอกจากนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สามารถต้านทานกระโปรงพลิ้วไหวในทุกฤดูกาลได้
จริง ๆ แล้วการขอให้เหล่าไต้ช่วยส่งนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าหาของมาให้ได้ง่ายเกินไปก็ดูไม่มีค่า
พวกผู้หญิงหัวเราะด้วยกันและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาดูอีกครั้ง
โชคดีที่มีห้องลองชุดอยู่สี่ห้อง ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถลองชุดพร้อมกันได้เร็วกว่าพวกร้านที่ทั้งร้านมีห้องลองชุดแค่ห้องเดียวมาก
เซี่ยชิงหยวนยังสร้างโซฟารูปวงแหวนเล็ก ๆ สองตัวไว้ตรงกลางร้าน โดยมีโต๊ะกาแฟเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง ซึ่งวางขนมสวยงามที่ขายส่งจากเมืองกว่างโจวไว้
เมื่อสาว ๆ ชอปปิงเสื้อผ้าและเบื่อกับการรอคอยเพื่อน ๆ ก็สามารถนั่งพักผ่อนพูดคุยในบรรยากาศสบาย ๆ ได่
ขณะที่เฉิงสี่จวี๋กำลังทักทายลูกค้า เธอก็มองไปยังเซี่ยชิงหยวนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กกำลังพูดคุยกับลูกค้าและรู้สึกประหลาดใจ
จากเมื่อวานถึงตอนนี้ เธอพบว่าเซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะเข้าใจหัวข้อการสนทนาของใครก็ได้ มีประสบการณ์ทางสังคมและความรู้มากมาย
เธออดไม่ได้ที่จะเข้าใจว่าทำไมดวงตาของหลิงหลินถึงเปล่งประกายขึ้นเมื่อพูดถึงเซี่ยชิงหยวน
ผู้หญิงแบบนี้แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง เธอก็อดไม่ได้ที่จะต้องชอบ
สำหรับอาเซียงที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้นั้นไม่ได้แปลกใจอะไร เด็กสาวแค่กังวลว่าเซี่ยชิงหยวนจะเหนื่อยเกินไปเท่านั้น
เมื่อเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเซี่ยชิงหยวน อาเซียงก็ก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าแทนที่เซี่ยชิงหยวนและเข้าร่วมในการสนทนาของพวกเขา
บางครั้งการเข้าร่วมกลุ่มคุณไม่จำเป็นต้องพูดให้เยอะ
ยิ้มเข้าไว้ ตั้งใจฟัง และสนทนากลับสั้น ๆ ให้ตรงเวลา แค่นี้คนอื่นก็ไม่สามารถตำหนิอะไรได้เลย และคุณสามารถค่อย ๆ สร้างตัวตนในกลุ่มได้ด้วยวิธีนี้
อาเซียงค่อย ๆ ซึมซับแนวคิดนี้ภายใต้คำแนะนำของเซี่ยชิงหยวน
เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าเป้าหมายของเซี่ยชิงหยวนนั้นมีมากกว่าการเปิดร้านขายเสื้อผ้ามาก ร้านนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและเซี่ยชิงหยวนก็มีสิ่งที่สำคัญมากกว่าที่ต้องทำ
ดังนั้นเธอจะต้องพัฒนาให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของเซี่ยชิงหยวน
เธอมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็ตัวแข็งทื่อและเบิกตากว้าง