บทที่ 388 เธอตัวเหม็น
บทที่ 388 เธอตัวเหม็น
ฉีจิ่นจือหันมองไป ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนน้ำตาคลอ
จู่ ๆ เธอเป็นอะไรไป?
ทำไมถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ล่ะ
เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “คะ คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
เซี่ยชิงหยวนทำเสียงฮึดฮัดและหันหน้าหนี แม้แต่เกี๊ยวซ่าในมือของเธอก็ไม่หอมน่ากินอีกต่อไป
เธอตัวเหม็น…
ตอนนี้เธอยังคงอยู่ห่างกับเขาราวครึ่งเมตร คงไม่ใกล้พอให้เขาได้กลิ่น
เหม็นขนาดไหนกันนะ?
ผ่านมาตั้งครึ่งวันแล้ว แต่ทำไมถึงไม่มีใครบอกเธอเลย?
เธอคว้าปอยผมมาตรงหน้าแล้วจรดจมูกเพื่อดมมัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีกลิ่นอะไรเลย
หรือเพราะว่าท้อง เธอจึงสูญเสียการรับรู้กลิ่นไปแล้วงั้นเหรอ?
ไม่น่าใช่
เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บ้านของเลขาธิการจางทำปลากุ้ยเหม็น เธอได้กลิ่นของมันมาแต่ไกล กลิ่นนั้นแย่ยิ่งกว่ากลิ่นเท้าเหม็น ๆ ของผู้ชายบนรถไฟในฤดูร้อนเสียอีก เธอรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนทันที
เซี่ยชิงหยวน ผู้สงสัยในตัวเองพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่ได้เป็นอะไร ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไร ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ฉีจิ่นจือรีบตอบอย่างรวดเร็วแบบไม่คิด “ผมไปส่ง”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินสิ่งนี้ เธอก็มองเขาอย่างขุ่นเคือง
ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เขายังรังเกียจผมเหม็น ๆ ของเธอเสียจนต้องหลบเลี่ยงไปไกลหรอกรึไง?
ตอนนี้กลับบอกว่าจะไปส่ง ไม่กลัวกลิ่นเหม็นแล้วเหรอหะ?
หลังตั้งครรภ์ จิตใจของเธออ่อนไหวอย่างยิ่ง ราวกับว่าไม่อาจทนต่อความคับข้องใจได้แม้เพียงนิด
เธอปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ขอบคุณ”
ถึงอย่างไร ที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เธอสามารถเรียกรถสามล้อกลับไปได้
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ คิ้วของฉีจิ่นจือก็ขมวดเน้นเป็นเหมือนตัวอักษรชวน (川) อย่างไรอย่างนั้น
ไม่เป็นอะไร แต่ทำไมถึงโกรธมากมายแบบนั้น?
หรือเพราะเขาพูดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า จึงทำให้เซี่ยชิงหยวนมีโทสะขึ้นมา?
เมื่อนึกถึงเซี่ยจื่ออี้และเผ่ยเยว่ที่ตนเพิ่งพบเห็น ใบหน้าของเขาพลันเย็นชาลง
เขาทำได้เพียงกัดฟัน ทำหน้าตายแล้วเอ่ยถามถึงประเด็นหลัก “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากถามคุณ เซี่ยจื่ออี้และผู้หญิงอีกคนที่มาด้วยกัน พวกเธอได้มาหาเรื่องคุณรึเปล่า?”
“ฮะ?” เซี่ยชิงหยวนงุนงง “คุณรู้ได้ยังไง?”
ฉีจิ่นจือขมวดคิ้วอีกครั้ง “พวกเธอทำให้คุณตกที่นั่งลำบากจริง ๆ สินะ?”
เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เซี่ยชิงหยวยก็รีบโบกมือของเธอ “ไม่ ไม่ พวกเธอไม่ได้ทำให้ฉันตกที่นั่งลำบากอะไร”
เธอเงียบลงครู่หนึ่ง “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกสักทีเดียว เซี่ยจื่ออี้จงใจมาหาเรื่องทะเลาะน่ะ”
จะให้เธอเก็บงำเรื่องนี้ไว้เพื่อเซี่ยจื่ออี้งั้นเหรอ? แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
ด้วยคำพูดเหล่านั้น ในที่สุดสีหน้าของฉีจิ่นจือก็ดูดีขึ้น แต่ยังคงมีความตึงเครียดปะปนอยู่
เซี่ยจื่ออี้คนนี้เป็นเหมือนแมลงร้อยขาเสียจริง ตายแต่ตัวกลับไม่แข็ง
ช่างน่าหงุดหงิด
เซี่ยชิงหยวนไม่รู้ว่าทำไมชายหนุ่มดูโกรธมาก เธอจึงพูดขึ้นว่า “สาวน้อยคนนั้นที่มากับเธอเป็นคนดีไม่น้อย อย่าไปถือสาพวกเธอเลย”
เซี่ยชิงหยวนเป็นคนแบ่งแยกความรักและความเกลียดไว้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าเซี่ยจื่ออี้จะต้องการอะไรจากเผ่ยเยว่ แต่คนที่มีเจตนาไม่ดีก็คือเซี่ยจื่ออี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเผ่ยเยว่เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของฉีจิ่นจือกับฉีหยวนซานและเผ่ยเยว่ในตอนนี้ยังไม่ดีนัก คงจะไม่เป็นการดีหากเขาเกิดความขัดแย้งกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้อีก
ฉีจิ่นจือพยักหน้า “ผมรู้”
เขายกมือขึ้นดูนาฬิกา “คุณพักผ่อนเถอะ ผมขอตัวก่อน”
หลังจากนั้นเขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อเขากลับมามีสติรู้ตัวอีกที เขาก็เดินไปยังที่ที่เห็นเซี่ยจื่ออี้แล้ว
เพียงแต่พวกเธอไม่ได้นั่งอยู่ที่ตรงนั้นอีกแล้ว
เกี๊ยวซ่าในมือของเขามีความอุ่นอยู่เพียงเล็กน้อย กลิ่นเปรี้ยวของหัวไชเท้าดองตีขึ้นมาคละคลุ้งอยู่เรื่อย เขาก้มศีรษะแล้วกินมันเข้าไป
จากคำที่หนึ่ง เป็นคำที่สอง คำที่สาม…
รสเปรี้ยวที่เขาเกลียดที่สุด เปรี้ยวยิ่งกว่าขาหมูตุ๋นครั้งก่อนเสียอีก แต่เขาก็ทำใจทิ้งมันไปไม่ได้
เพราะมันเป็นของโปรดของเซี่ยชิงหยวน เธอมอบมันให้เขาด้วยมือของเธอเอง
….
วันนี้เสิ่นอี้โจวจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จเร็ว จึงไปรับเซี่ยชิงหยวนที่ร้านยามต้องมนต์ แต่อาเซียงบอกว่าหญิงสาวกลับไปนานแล้ว
เสิ่นอี้โจวจึงบอกให้คนขับขับรถกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน แพทย์โภชนาการกำลังทำงานร่วมกับป้าอู๋เพื่อจัดสรรมื้อเย็นสำหรับเซี่ยชิงหยวนอยู่พอดี
พวกเขาเห็นเสิ่นอี้โจวจึงร้องเรียก “คุณผู้ชาย”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้ารับ “คุณนายล่ะ?”
ป้าอู๋บอกว่า “คุณนายอยู่ข้างบนค่ะ”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็กล่าวเสริมว่า “วันนี้ตอนที่คุณนายกลับมาดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยค่ะ”
พอได้ยินแบบนั้น หัวใจของเสิ่นอี้โจวพลันรัดแน่นขึ้นมาทันที
เขากล่าวว่า “ขอบคุณครับป้าอู๋”
แล้วจึงเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเปิดประตูห้องก็พบว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังนั่งเช็ดผมอยู่บนโซฟา
เธอก้มศีรษะลงเป็นครั้งคราว มีรอยยิ้มจาง ๆ ประดับอยู่มุมปากในยามที่มองไปยังหน้าท้องของตัวเอง การตั้งครรภ์ได้เพิ่มความเปล่งปลั่งแห่งความเป็นแม่ให้กับร่างกายของเธอ
เมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ประตู เซี่ยชิงหยวนจึงเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะยกยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเสิ่นอี้โจว “ทำไมวันนี้คุณถึงกลับเร็วล่ะ?”
เสิ่นอี้โจวเดินเข้ามาพลางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก แล้วนั่งลงข้างเซี่ยชิงหยวน “หลังจากที่จัดการเรื่องต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ผมไปรับคุณที่ร้านเสื้อผ้า แต่อาเซียงบอกว่าคุณกลับบ้านมาก่อนแล้วน่ะ”
เขาใช้ประโยชน์จากช่วงพักกลางวันในการจัดการงานราชการให้เสร็จล่วงหน้า เพื่อจะได้กลับบ้านเร็วขึ้นและมาดูแลเซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “อ้อ วันนี้ฉันกลับบ้านมาเร็วเพื่อสระผมค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยชิงหยวนนึกถึงเรื่องที่ฉีจิ่นจือได้กลิ่นแปลก ๆ จากผมของเธอจึงพลันโกรธขึ้นมาเล็กน้อยอีกครั้ง
เธอผลักเสิ่นอี้โจวพร้อมขมวดคิ้วแน่น “เมื่อเช้านี้ คุณเป็นคนที่บอกว่าผมของฉันไม่เหม็นนี่?”
เสิ่นอี้โจว “หืม?”