กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 393 ช่างคล้ายจริง ๆ

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 393 ช่างคล้ายจริง ๆ

บทที่ 393 ช่างคล้ายจริง ๆ

ก่อนที่ฉีจิ่นจือจะทันได้พูดอะไร ปี่เหลาซานก็ตบหัวของศิษย์ชายคนเล็กของเขาแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กเหลือขอนี่ พูดอะไรไร้สาระได้ทั้งวัน!”

ไม่เห็นสามีของศิษย์พี่หญิงตัวเองนั่งหัวโด่อยู่ด้วยเหรอ? หยุดพูดไร้สาระได้ไหม?

หากทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีไว้ เวลานายต้องการให้เซี่ยชิงหยวนสนับสนุนในอนาคต มันจะไม่ลำบากรึไง?

ปี่ฟู่หมานเจ็บจนกุมหัวตัวเอง “ตาเฒ่า ผมบอกแล้วไงว่าอย่าตีหัวผม ถ้าทุบตีผมจนโง่ไปแล้วผมจะหาเมียได้ยังไง!”

ปี่เหลาซานไม่รู้จะเอาหน้าแก่ ๆ ของตัวเองไปไว้ที่ไหนแล้ว เขาหัวเราะอย่างหงุดหงิดและสาปแช่ง “เส้นขนของแกยังไม่ยาวเลยด้วยซ้ำ แต่กลับอยากหาเมียแล้วงั้นเหรอ? กำลังฝันกลางวันอยู่รึไง?”

ปี่ฟู่หมานไม่พอใจ “รู้ได้ยังไงว่าเส้นขนของผมตรงไหนยังไม่ยาว?”

เซี่ยชิงหยวนมองไปยังปี่ฟู่หมาน ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยพลัง แล้วสายตาของเธอก็มองไปอยู่ยังนิ้วที่ขาดหายไปของเขา และรู้สึกมีความสุข

ดูเหมือนว่าเขาได้ก้าวออกมาจากเงาของเรื่องที่นิ้วขาดแล้ว และกลับกลายมาเป็นชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเหมือนอดีต

เธอพูดกับฉีจิ่นจือ “นี่เป็นนิสัยศิษย์น้องของฉันเองน่ะ ฉันขอโทษคุณแทนเขาด้วยนะคะ ได้โปรดอย่ารังเกียจเขาเลยนะ”

ปี่ฟู่หมานโผล่หัวออกมาจากช่องว่างที่ปี่เหลาซานกำลังดุเขา “ผมไม่ใช่ศิษย์น้องสักหน่อย เธอนั่นแหละเป็นศิษย์น้องหญิงของผม…อ๊ะ!”

ปี่เหลาซานทุบหัวเขาอีกครั้ง

ฉีจิ่นจือส่ายหัวด้วยดวงตาอันอ่อนโยนที่หายาก “ไม่เป็นไรหรอก น้องชายคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมาและน่าสนใจดี และเขาก็น่ารักมากด้วย”

เด็กน้ำมูกไหลที่เคยขอขนมหวาน ตอนนี้เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มแล้ว เขามีความสุขมากที่เด็กชายตอนนั้นกำลังจะสูงเท่าเขา

เป็นเพียงนิ้วที่ขาดไปของปี่ฟู่หมานเท่านั้นที่ทิ่มแทงใจของเขาอยู่ในตอนนี้

ปี่ฟู่หมานเคยมีมือที่เรียวสวยคู่หนึ่ง เขาสามารถเล่นขลุ่ยได้ตั้งแต่ตอนที่ยังเด็กมาก

นอกจากเล่นขลุ่ยได้แล้ว ยังเล่นเครื่องดนตรีอื่น ๆ ได้อีกด้วย แม้แต่เปียโนราคาแพงที่วางอยู่ข้างหน้าต่างเขาก็พอเล่นได้

แต่ตอนนี้…

ดวงตาของฉีจิ่นจือมืดลง ขนตาหนาและยาวของเขาทิ้งเงาไว้ที่ใต้ดวงตา

ปี่เหลาซานหันกลับมาและยิ้มให้ฉีจิ่นจือ “ฉันไม่ได้เข้มงวดกับศิษย์คนเล็กของฉันมากนักตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก วันนี้ทำให้คุณต้องหัวเราะแล้ว”

หัวใจของฉีจิ่นจือสั่น เขามองที่ปี่เหลาซานอย่างเก็บอารมณ์

ชายหนุ่มยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสสุภาพเกินไปแล้วครับ”

คำว่า ‘ผู้อาวุโส’ ทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบในใจอย่างแปลก ๆ จริง ๆ

ปี่เหลาซานอดไม่ได้ที่จะมองฉีจิ่นจือแล้วพูดว่า “คุณชายฉีช่างเหมือนคนรู้จักเก่าของฉันจริง ๆ”

ฉีจิ่นจือกระชับนิ้วของเขาบนแก้วและพยายามทำหน้าสงบ “จริงเหรอครับ?”

ปี่เหลาซานลูบเคราของเขาก่อนจะพยักหน้าแล้วค่อยส่ายหัว “เพียงดูเหมือนเท่านั้นน่ะ”

หัวใจของเซี่ยชิงหยวนเริ่มเต้นผิดจังหวะ

ปี่เหลาซานเคยเจอกับฉีจิ่นจือในเมืองกว่างโจวรึเปล่า?

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ปี่เหลาซานพูดว่า ‘คนรู้จักเก่า’ แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อล่ะ?

ฉีจิ่นจือเก็บมือซ้ายที่มีรอยแผลเป็นไว้ใต้โต๊ะอย่างแนบเนียนแล้วพูดว่า “โลกใบนี้ใหญ่มาก ย่อมมีคนที่คล้ายกันมากมายครับ”

แต่การเคลื่อนไหวอันเล็กน้อยของเขากลับถูกสังเกตเห็นอย่างเงียบ ๆ โดยเสิ่นอี้โจว ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม และเขาก็คีบอาหารให้กับเซี่ยชิงหยวนโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ปี่เหลาซานก็ถอนหายใจ และดวงตาของเขาเหมือนมีน้ำตาคลอ “ใช่ ฉันแก่แล้ว สมองจึงสับสนไปบ้าง”

เขายกแก้วเหล้าขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันขอดื่มเพื่อขออภัยก็แล้วกัน”

หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและกระดกทีเดียวหมดแก้ว

ฉีจิ่นจือไม่มีเวลาพูดอะไรเพื่อหยุดชายชรา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยกแก้วและดื่มจนหมดในอึกเดียวเช่นกัน

การหวนอดีตจำต้องใช้ความกล้าที่มาก หากพลาดโอกาสไปแล้วก็ยากที่จะรวบรวมความกล้านั้นได้อีก

เป็นเวลา 12 ปีแล้วนับตั้งแต่เขาออกมาจากปี่เหลาซาน เขาได้ทำสิ่งที่ผิดมากมายและมือเปื้อนเลือดมากมาย ปี่เหลาซานจะผิดหวังแค่ไหนกันถ้าได้รู้เข้า?

ดังนั้นเขาจึงทำไม่ได้และไม่กล้า

เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ บรรยากาศก็เริ่มเศร้า เซี่ยชิงหยวนจึงยิ้มและชวนทุกคนกินอาหาร จากนั้นถามปี่เหลาซานว่าเขาจะทำอะไรต่ออีกในช่วงนี้

ฉีจิ่นจือฟังอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่กินอาหาร พยายามทำความเข้าใจทุกคำพูด

ดูเหมือนว่าด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถชดเชยเวลากว่าสิบปีที่หายไประหว่างพวกเขาได้

เมื่อพูดถึงหยก เซี่ยชิงหยวนพูดอย่างภาคภูมิใจกับปี่เหลาซาน “อาจารย์คะ ครั้งที่แล้วในเมืองเตียนเฉิงคุณยังจำได้ไหมที่บอกว่าให้ฉันหาเงินให้ได้ถึงสามหมื่นหยวนก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้?”

ปี่เหลาซานจิบเหล้าอีกครั้งก่อนจะถามกลับ “เธอหาได้แล้วเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนไม่อายที่จะพูด แม้จะมีฉีจิ่นจือนั่งฟังอยู่ด้วย เธอชูสี่นิ้ว “เกือบจะได้ขนาดนี้แล้ว”

“เกือบสี่หมื่นหยวนเป็นรายได้ที่เข้ามา แต่ถ้าหักต้นทุนไปราวเกือบสองหมื่นหยวน มันก็จะเท่ากับได้กำไรของเดือนที่แล้วมาประมาณสองหมื่นหยวนค่ะ”

ในยุคนี้ การทำกำไรได้ขนาดนี้ถือว่าดีมากแล้ว

ปี่เหลาซานยิ้ม “เธอมีความสามารถมากทีเดียวนะ”

เซี่ยชิงหยวนดูเหมือนกำลังร้องขอคำชมก็ไม่ปาน “ใช่เลยค่ะ”

เธอมองปี่เหลาซานด้วยสายตาอ้อนวอน “อาจารย์ คราวนี้คุณมาลงหลักปักฐานที่นี่เลยได้ไหมคะ? ให้ฉันเช่าร้านให้คุณเลย ตกลงรึเปล่า?”

ฉีจิ่นจือหยุดเคี้ยวและมองไปที่ปี่เหลาซาน

ปี่เหลาซานผลักเธอออกไปด้วยมือของเขา “ไว้มาหารือเรื่องนี้กันหลังปีใหม่กันเถอะ”

เซี่ยชิงหยวนไม่พอใจ “อาจารย์ไม่รักษาคำพูดของตัวเองนี่นา”

ปี่เหลาซานหน้าแดง “ก็ฉันคุ้นเคยกับการเตร่ไปมาข้างนอก ฉันกลัวว่าฉันจะเจ็บก้นถ้านั่งนาน ๆ”

เซี่ยชิงหยวน “…”

เมื่อชาติที่แล้วแม้ว่าปี่เหลาซานจะมีเงินอยู่ในกระเป๋ามากมาย แต่เขาก็ยังพาเธอตระเวนไปรอบ ๆ ดูเหมือนนิสัยนี้คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วนัก

เธอยอมถอยให้หนึ่งก้าว “เอาเป็นว่าอาจารย์กับฟู่หมานอาศัยอยู่ที่นี่สักพักจะได้ไหมคะ?”

เธอพูดเสริม “ระหว่างนี้ฉันจะพาอาจารย์ไปเดินเล่นบ้าง หรือไม่ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านขณะที่ไม่มีอะไรทำ ต่อให้อาจารย์จะไม่เหนื่อย แต่อาจารย์คิดบ้างไหมว่าฟู่หมานก็เหนื่อยเป็น อาจารย์ดูฟู่หมานตอนนี้สิ เขาต้องตระเวนไปทั่วกับอาจารย์อยู่ตลอด ตอนนี้เขาทั้งดำและผอมมากเลยนะ”

ชาติก่อนนี้เธอตามปี่เหลาซานไปทั่ว โชคดีที่เธอเป็นสาวน้อย ดังนั้นปี่เหลาซานจึงต้องดูแลเธอบ้าง

แต่บางครั้งเธอก็ต้องคร่ำครวญ เพราะเขามักจะลืมกินข้าวเมื่อยุ่งๆ

ถึงคราวที่ปี่ฟู่หมานไม่พอใจบ้างแล้ว “นี่เขาเรียกว่าความเป็นลูกผู้ชายต่างหาก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปี่เหลาซานก็เอื้อมมือจะตีศิษย์ตัวเองอีกครั้ง

เสิ่นอี้โจวยังช่วยโน้มน้าว “เมื่ออาจารย์และศิษย์น้องไม่อยู่ที่นี่ ชิงหยวนมักจะพูดถึงอาจารย์เสมอเลยนะครับ อาจารย์น่าจะอยู่ในช่วงเวลาดี ๆ ที่เธอกำลังท้อง การมีทั้งอาจารย์และฟู่หมานอยู่ด้วยที่บ้านย่อมทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นและกินได้มากกว่าเดิมแน่นอน”

อาเซียงยังช่วยพูดอย่างกล้าหาญอีกด้วย “ใช่แล้วค่ะ ช่วงนี้พี่สาวเซี่ยอาเจียนออกมาหลังจากกินบ่อยมาก พี่สาวน่าสงสารมากเลยค่ะ”

ในทันทีปี่เหลาซานมองเซี่ยชิงหยวนด้วยสองคิ้วที่ขมวดย่น “น่าสงสารขนาดนั้นเลย?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

ปี่เหลาซานลูบเคราของเขาและมองที่เสิ่นอี้โจวอย่างไม่พอใจ “มันคงจะดีถ้าฝ่ายชายเป็นคนที่สามารถท้องแทนได้”

เสิ่นอี้โจว “… ”

เซี่ยชิงหยวน “…”

อาเซียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพที่เสิ่นอี้โจวท้องโตจริงๆ

แต่โดยไม่คาดคิด เสิ่นอี้โจวก็พูดขึ้นว่า “ทุกครั้งที่ผมเห็นชิงหยวนทรมาน ผมก็คิดเช่นกันว่ามันคงจะดีมากถ้าผมสามารถทรมานแทนเธอได้”

เมื่อเขาพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเขากระจ่างชัดมาก หน้าของเขาอ่อนโยนและจิตใจเต็มไปด้วยความจริงใจ

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกสะเทือนใจและอุทานออกมา “อี้โจว”

เมื่อเห็นทั้งสองคนแสดงท่าทีเช่นนี้ ปี่เหลาซานก็รู้สึกว่าเซี่ยชิงหยวนเชื่อสามีง่ายมากเกินไป

แต่คำพูดเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะพูดในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงอดทนและวางแผนที่จะให้คำแนะนำแก่เธอในวันอื่น

ผู้หญิงคนนี้กำลังตั้งครรภ์ และเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ชายที่จะแอบออกไปกินนอกบ้าน

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ปี่เหลาซานก็รู้สึกไม่สบายใจ

ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ และลูกศิษย์ของเขาถูกหลอกได้ง่ายมากขนาดนี้ แล้วถ้าเธอถูกหลอกจริง ๆ ล่ะ?

จากนั้นเขาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะอยู่ที่นี่สักพักก็แล้วกัน”

ปี่ฟู่หมานเหลือบมองปี่เหลาซานและไม่ได้ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจปุบปับแบบนี้

ก่อนมา ปี่เหลาซานบอกเขาว่าจะไปทิเบตเพื่อตามหาลามะเฒ่าหลังจากที่มาพบกับศิษย์พี่สาวคนโตของเขา

แต่ตัดสินใจแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อย ๆ เขาก็จะได้กินอยู่อย่างสบาย ไม่ต้องนอนในที่โล่งอย่างอดอยากและหนาวจนจะกลายเป็นน้ำแข็ง

เซี่ยชิงหยวนมีความสุขมากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “ฉันรู้ว่าอาจารย์ปฏิบัติต่อฉันอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว!”

ปี่เหลาซานยิ้ม “ถูกต้อง ก็ใครใช้ให้ฉันมีศิษย์หญิงคนเดียวกันล่ะ”

เมื่อเขาพูดสิ่งนี้ ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ มีร่องรอยของความโศกเศร้าในดวงตา แต่จากนั้นเขาก็หัวเราะและปกปิดมันไว้

เมื่อฉีจิ่นจือได้ยินปี่เหลาซานพูดว่าต้องการอยู่ที่นี่สักพัก ก็มีร่องรอยแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว

เป็นเรื่องดีแล้วที่เขาสามารถเฝ้าดูอาจารย์และศิษย์น้องได้อย่างเงียบ ๆ สักพัก

หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว เสิ่นอี้โจวก็ส่งฉีจิ่นจือ และเซี่ยชิงหยวนกับปี่เหลาซานก็ออกไปส่งที่ประตูด้วยเช่นกัน

ปี่เหลาซานมองไปยังแผ่นหลังที่เรียวยาวและตั้งตรงของฉีจิ่นจือแล้วพึมพำ “ช่างคล้ายกันจริง ๆ”

เซี่ยชิงหยวนจับคำพูดของเขา “อาจารย์หมายถึงอะไรที่บอกว่าคล้ายเหรอคะ?”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท