กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 401 อาการซึมเศร้าก่อนคลอด

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 401 อาการซึมเศร้าก่อนคลอด

บทที่ 401 อาการซึมเศร้าก่อนคลอด

เสิ่นอี้โจวก็ตกใจเช่นกัน “ชิงหยวน?”

เซี่ยชิงหยวนรีบเช็ดน้ำตาโดยไม่ยอมหันหน้าไปมอง

ปี่เหลาซานลดเสียงลงและพูดว่า “ช่วงนี้นายไม่อยู่บ้าน แม้ว่าชิงหยวนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจของเธอก็ตั้งตารอคอยการกลับมาของนายนะ”

เขาพลันสังเกตเห็นรอยบนคอของเสิ่นอี้โจวเช่นกัน ความโกรธที่สั่งสมมาก่อนแล้วจึงระเบิดขึ้น “นายเพิ่งกลับมาก็ทะเลาะกับชิงหยวนเลยงั้นเหรอ?”

เขารีบดึงตัวเซี่ยชิงหยวนมาพร้อมมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า “เขาไม่ได้ตีเธอใช่ไหม?”

เซี่ยชิงหยวนสั่นศีรษะ “ไม่ค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับอี้โจว”

เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่จู่ ๆ อารมณ์ของเธอก็ปะทุขึ้นมา

เสิ่นอี้โจวพูดกับปี่เหลาซานว่า “อาจารย์ครับ ผมขอคุยกับชิงหยวนสักหน่อยนะครับ”

เขาดึงเซี่ยชิงหยวนไปที่ห้องรับแขกเล็กข้าง ๆ ก่อนจะช่วยพยุงเธอให้นั่งลง

ชายหนุ่มนั่งยองลงต่อหน้าหญิงสาว จับมือเธอแล้วถามว่า “ชิงหยวน คุณบอกผมได้ไหมว่าคุณเป็นอะไร?”

เซี่ยชิงหยวนทำเสียงฮึดฮัดและพยายามดึงมือของเธอกลับ แต่เขาไม่ยอมปล่อย “คุณมาถามฉันแทนงั้นเหรอ? ทำไมคุณไม่พูดมาล่ะว่ารอยข่วนที่คอของคุณมาจากผู้ช่วยหญิงอะไรนั่นน่ะ”

เสิ่นอี้โจวชะงักพลางจับไปที่คอของตน ราวกับว่ากำลังหวนนึกถึง

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร เซี่ยชิงหยวนจึงคิดว่าที่เรื่องนี้เป็นไปตามที่เธอพูด หญิงสาวพลันลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไปทันที

เสิ่นอี้โจวรีบกอดเธอไว้ ก่อนจะกดภรรยาให้นั่งบนตัก จับขาเรียวยาวของเธอและกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา

เขากล่าวว่า “รอยนี้เป็นรอยข่วนที่เกิดจากคนก็จริง แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับเด็กคนนั้นเลยนะ”

เซี่ยชิงหยวนกัดริมฝีปากอย่างนิ่งเงียบ

เมื่อเสิ่นอี้โจวเห็นว่าผู้เป็นภรรยาเต็มใจที่จะฟังคำอธิบายก็เบาใจลง “วันก่อนที่พวกเราจะกลับมา เราบังเอิญพบเด็ก ๆ กำลังโหนเชือกข้ามแม่น้ำเพื่อไปโรงเรียนน่ะ ในตอนนั้นฝนเพิ่งหยุดตก อีกทั้งเชือกก็ลื่น ทำให้เด็กสองคนสุดท้ายเกือบตกลงไปในแม่น้ำ ผมกับเสี่ยวตงจึงช่วยกันดึงเด็กกลับมา และด้วยเพราะเด็ก ๆ กำลังตื่นตกใจก็เลยข่วนเข้าที่คอของผม”

แต่ใครจะคาดคิด เธอกลับถามเขาว่า “ใครคือเสี่ยวตง?”

คิ้วของเสิ่นอี้โจวขมวดเล็กน้อย

เขาสังเกตว่าเซี่ยชิงหยวนผิดแปลกไปจากปกติอยู่นิดหน่อย

ปกติแล้วเธอไม่เคยเป็นแบบนี้

หญิงสาวอาจจะหัวเราะพร้อมหยิกจุดตายของเขาแล้วบอกว่า ‘ถ้าคุณกล้าก็ลองดู’

หรือไม่ก็อาจจะถากถางอย่างไม่แยแสว่า ‘คุณว่าคุณจะถูกล่อลวงไปได้หรือเปล่าล่ะ? ถ้าถูกชักจูงไปได้ก็บอกให้ฉันรู้ล่วงหน้าสักหน่อยแล้วกัน’

สมองของเขาพลิกดูบันทึกการตั้งครรภ์ที่ทำการบ้านไว้ก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่ภาวะซึมเศร้าก่อนตั้งครรภ์

หัวใจของเขาพลันหล่นวูบ ก่อนเอ่ยออกมาว่า “ผู้ช่วยของผมน่ะ ผู้ช่วยหญิงคนนั้นแหละ”

เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินสิ่งนี้ก็เบะปากอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ทั้งยังเหมือนจะร้องไห้ออกมา

เธอถอนหายใจออกไป แล้วหยุดลง

จากนั้นจึงพูดทั้งน้ำตาคลอว่า “ตอนนี้ฉันมีอะไรที่ผิดปกติไปใช่ไหม?”

วิตกกังวล หดหู่ โศกเศร้า ร้องไห้ได้ง่าย…

เสิ่นอี้โจวกลั้นใจและไม่ได้ตอบเธอไปโดยตรง “หลังมื้อเช้า ผมจะพาคุณไปหาคุณหมอฮวงนะ”

เซี่ยชิงหยวนเองก็ตระหนักได้ถึงบางอย่างจึงตอบตกลงกลับไป “ค่ะ”

….

ในตอนที่ทั้งสองกลับออกมาอีกครั้ง เสิ่นอี้โจวก็เช็ดน้ำตาให้เธอแล้ว

ปี่เหลาซานยังคงมองไปยังเสิ่นอี้โจวด้วยสายตาไม่พอใจ

เสิ่นอี้โจวจำต้องใช้โอกาสในตอนที่เซี่ยชิงหยวนไปห้องอาหารเพื่ออธิบายให้ชายชราฟังเล็กน้อยว่า “ชิงหยวนอาจจะมีภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์อยู่เล็กน้อยน่ะครับ เดี๋ยวผมจะพาเธอไปโรงพยาบาลทีหลังเอง”

ปี่เหลาซานไม่รู้ว่าภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์หมายถึงอะไร แต่ทันทีที่ได้ยินว่าต้องพาไปโรงพยาบาล เขาก็รับรู้ได้ว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก

ริ้วรอยบนใบหน้าชราของเขาพลันขมวดเข้าหากัน “ร้ายแรงไหม?”

เสิ่นอี้โจวเอ่ยปลอบใจ “ในตอนนี้น่าจะเป็นเพียงสัญญาณเตือนครับ แต่หากรู้ตัวเร็วก็ย่อมดีกว่า”

เมื่อนึกย้อนกลับไปในช่วงเวลานี้ บังเอิญว่าเซี่ยเจิ้งเองก็กำลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน ทำให้เขาต้องรับทำหน้าที่แทนในงานหลายอย่างชั่วคราว จึงค่อนข้างละเลยในการดูแลเซี่ยชิงหยวนไป

อีกทั้งเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตระกูลเซี่ย ก็เป็นเซี่ยชิงหยวนที่ต้องแบกรับมันไว้ด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เพียงพูดให้ตัวเองฟังเท่านั้น

ยิ่งเธอยุ่งมากเท่าไหร่ในตอนกลางวัน ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะเก็บมาครุ่นคิดในตอนกลางคืนมากขึ้นเท่านั้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อเวลาผ่านไป หญิงสาวย่อมเกิดอาการซึมเศร้าไปโดยปริยาย

เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เป็นเขาผู้เป็นสามีที่ละเลยหน้าที่ของตน

เส้นบะหมี่เป็นเส้นบะหมี่แบบดึงมือที่เสิ่นอี้โจวตื่นแต่เช้ามาทำ

ได้ยินมาว่ายิ่งเส้นบะหมี่ยาวเท่าไหร่ ก็เป็นพรสำหรับเจ้าของวันเกิดได้นานขึ้นเท่านั้น เสิ่นอี้โจวซึ่งตื่นแต่เช้ามาทำก็ล้มเหลวในการดึงเส้นบะหมี่ไปหลายครั้ง ก่อนที่ในท้ายที่สุดจะดึงเส้นบะหมี่ที่ยาวที่สุดได้

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกอายเล็กน้อยกับความเข้าใจผิดที่เธอก่อขึ้น

เธอมองไปยังเสิ่นอี้โจว “ขอบคุณที่ทำบะหมี่ให้ฉันนะ”

เสิ่นอี้โจวยิ้มอย่างอ่อนโยน “นี่คือสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”

หลินตงซิ่วยกยิ้มพลางเอ่ย “หลังจากกินบะหมี่ชามนี้ ชิงหยวนของพวกเราจะคลี่คลายทุกอย่างได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยแน่นอน”

แม้ไม่ได้เป็นถ้อยคำอวยพรที่สวยหรูงดงามนัก แต่ก็เป็นความปรารถนาอย่างจริงใจที่สุด

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ขอบคุณค่ะแม่”

อายุครรภ์ของเธอตอนนี้เกือบสามเดือนแล้ว อาการคลื่นเหียนอาเจียนนั้นนับว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เธอสามารถกินอาหารได้มากกว่าตอนที่ตั้งครรภ์แรก ๆ ไม่น้อย

ปี่ฟู่หมานได้มอบกล่องไม้แกะสลักสวยงาม มีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของผู้ชาย ซึ่งเขาเป็นคนทำขึ้นมาเองให้เซี่ยชิงหยวน

เด็กหนุ่มพยายามแสร้งทำเป็นหนักใจพร้อมบอกว่า “ผมไม่รู้จะให้อะไร นี่เป็นของที่ผมทำขึ้นเอง ขอมอบมันให้คุณแล้วกันนะ”

เซี่ยชิงหยวนเปิดกล่องไม้ออก พบว่าข้างในมีชั้นเล็ก ๆ เพื่อให้สามารถจัดวางสิ่งของไว้เป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้ ส่วนด้านนอกมีกระดุมเล็กซ่อนอยู่ และยังมีที่สำหรับสอดตัวล็อกด้านข้างอีกด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนประณีตงดงาม

เซี่ยชิงหยวนยกยิ้ม “ขอบคุณนะ ฉันชอบมันมากเลย”

นี่เป็นกล่องที่เหมาะสำหรับใส่เครื่องประดับจริงๆ

เธอวางกล่องไว้ในมือแล้วมองดูลวดลายบนนั้น พลางคิดว่ามีอะไรบางอย่างดูคุ้นเคย เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

—————————————————-

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท