กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 415 ไม่จ่ายก็ติดคุก

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 415 ไม่จ่ายก็ติดคุก

บทที่ 415 ไม่จ่ายก็ติดคุก

ร่างกายของจางต้าหู่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ และจิตใจของเขาเต็มไปด้วยคำว่า ‘ฉ้อฉลสมรสและผิดกฎหมาย’

จางอวี้เอ๋อเองก็เพิ่งถูกจำคุกไป ดังนั้นเขาจึงหวาดผวากับตำรวจและการถูกจำคุกไปโดยสัญชาตญาณ

เขาไม่อยากติดคุก!

สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง!

เพื่อให้ตัวเองพ้นภัย เธอสาปแช่งทันที “ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่านังนั่นไม่ใช่คนรักนวลสงวนตัว และเธอก็เคยมีอะไรกับคนอื่นแล้วด้วยซ้ำ!”

“หุบปาก!” จางต้าหู่ตบบ้องหูเมียตัวเองทันที “ความจริงเป็นยังไงยังไม่รู้ด้วยซ้ำอย่าก่อปัญหาที่นี่!”

สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางถูกตบจนหูอื้อและใช้เวลานานกว่าจะตอบสนองได้

ถ้าอยู่ที่บ้าน เธอคงกระโจนเข้าใส่จางต้าหู่ไปแล้ว

แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้านตระกูลเซี่ย ทั้งยังต่อหน้าเสิ่นอี้โจวและผู้ใหญ่บ้านทั้งสอง เธอจึงไม่กล้าพูดพล่ามอะไรอีก และได้แต่ก้มหน้าลงด้วย

ความคิดที่สับสนหมุนวนอยู่ในสมองของจางต้าหู่ และทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ระเบิดออกมาราวกับมีแสงสว่าง เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้ารายงานการทดสอบจากมือของผู้ใหญ่บ้านจาง เห็นอย่างรวดเร็วกับบรรทัดที่เขียนคำว่า ‘ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด’ และใช้มือใหญ่ของเขาฉีกรายงานขาดเป็นชิ้น ๆ

เขามองไปยังเสิ่นอี้โจวอย่างภาคภูมิใจและพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “มีรายงานการทดสอบแบบไหนจากทางการอีกล่ะหะ? ฉันเป็นคนชนบทและไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย! ฉันคิดว่าทั้งหมดนี่เป็นกลโกงก็เพื่อขโมยหลานของฉันไปจากครอบครัวฉันมากกว่า!”

เมื่อเห็นจางต้าหู่ฉีกรายงานเป็นชิ้น ๆ เซี่ยจิ่งเฉินและคนอื่น ๆ ก็มองไปที่เสิ่นอี้โจวอย่างกังวลใจ

แต่พวกเขาเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นอี้โจว “สำหรับคนที่มีความรู้กระจ้อยร่อย เพียงเพราะไม่เคยได้ยินอะไรหลาย ๆ สิ่ง มันก็ไม่ได้หมายความว่าบางสิ่งไม่มีอยู่จริง รายงานการทดสอบนี้ออกโดยสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ มันจะปลอมขึ้นมาได้ยังไง?”

จากนั้นเสิ่นอี้โจวก็หยิบรายงานที่เหมือนกันอีกฉบับออกมาจากข้างตัว “ถ้านายฉีกสำเนาอีกหนึ่ง ฉันก็จะเอาออกมาอีกหนึ่ง หรือต่อให้นายจะทำลายสำเนารายงานทุกฉบับที่ฉันเอามา ข้อมูลก็ยังอยู่เพราะพวกมันทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้ในสำนักงานความมั่นคงสาธารณะหมดแล้ว”

เขาโน้มตัวไปข้างหน้า ขณะมองดูจางต้าหู่ด้วยสีหน้าที่เหมือนมองคนโง่ “ขอฉันดูหน่อยเถอะว่านายจะทำลายมันได้มากแค่ไหน”

จางต้าหู่รู้ว่าเขากำลังขี่เสืออยู่และไม่สามารถลงได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่สู้จนตายและปฏิเสธที่จะยอมรับมัน

เขาพูดว่า “แม้ว่ารายงานจะเป็นความจริง แต่เป็นน้องสาวของฉันที่ทำเรื่องนี้ มันไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย!”

เสิ่นอี้โจวไม่รีบร้อน เขานั่งตัวตรงก่อนจะพูดว่า “จางต้าหู่ นายพาพี่น้อง…ราวยี่สิบหรือสามสิบคนจากหมู่บ้านของนายมารวมตัวกันที่นี่ และปิดล้อมตระกูลเซี่ย”

เขาหรี่ตาลงราวกับกำลังนึกถึงเหตุการณ์นั้น “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นนายพูดว่า ‘ถ้าไม่แต่งงานกับจางอวี้เจียว นายจะทำให้เรื่องใหญ่ขึ้น ให้ทุกคนเห็นว่าเซี่ยจิ่งเฉินเป็นเดรัจฉานที่โหดเหี้ยมขนาดไหน’ ”

“นายกับจางอวี้เจียวเป็นครอบครัวเดียวกัน และได้รับผลประโยชน์จากตระกูลเซี่ยมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ถ้านายบอกฉันว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง นายคิดว่าฉันจะเชื่อไหม? และตำรวจจะเชื่อไหม?”

ตอนนั้นเสิ่นอี้โจวไม่ได้อยู่ด้วย เขาจึงไม่รู้เรื่องนี้อย่างละเอียดเท่าไหร่นัก

แต่เขาถามคนในตระกูลเซี่ยเป็นการส่วนตัวแล้ว รวมถึงชาวบ้านหลายคนที่เคยเฝ้าดูอยู่ในเวลานั้นจนสามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้ทั้งหมด

เมื่อเขาพูดคำเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จางต้าหู่และผู้ใหญ่บ้านจางเท่านั้นที่รู้สึกว่าใบหน้าของพวกเขาหมองคล้ำ แม้กระทั่งเซี่ยจิ่งเฉินก็ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้

แต่เสิ่นอี้โจวพูดสิ่งนี้อย่างจงใจ

ไม่ว่าหวังผิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าเซี่ยจิ่งเฉินสามารถยืนหยัดได้ ทั้งครอบครัวคงไม่มีปัญหามาจนถึงป่านนี้

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกหดหู่ใจมาระยะหนึ่งแล้วเพราะเธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายของพี่รอง และความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างเธอกับหวังผิง!

นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกของเซี่ยชิงหยวนที่มีต่อเซี่ยซือถง ตั้งแต่ตอนที่เซี่ยซือถงเกิดมาเซี่ยชิงหยวนช่วยเลี้ยงดูเด็กน้อยและเสียสละอะไรไปหลายอย่าง

เธอลงไปทั้งแรงและใจไปมากกว่าจางอวี้เจียว ดังนั้นจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใจได้ยังไง?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เซี่ยชิงหยวนรีบเร่งกลับมาทั้ง ๆ ที่ยังท้องอยู่ แล้วตอนนี้เธอได้อะไร?

ในฐานะสามี ไม่ว่าเซี่ยชิงหยวนต้องการทำอะไร เขาจะสนับสนุนเธออย่างไม่มีเงื่อนไข

แต่ถ้าใครทำให้เธอต้องทนทุกข์ เขาจะไม่ยอมทนอย่างแน่นอนแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นญาติของเธอก็ตาม

ใบหน้าของจางต้าหู่เปลี่ยนเป็นสีแดงดำ ซึ่งเขาพูดอะไรไม่ออกไปสักพัก

ในเรื่องนี้เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดจริง ๆ

ในตอนแรกแม่ของเขาควบคุมทุกอย่างในครอบครัว และเธอก็จัดการเรื่องของน้องสาวทั้งสองคน เขาแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น

จนกระทั่งเหตุการณ์ของจางอวี้เอ๋อเกิดขึ้น และแม่ของเขาก็เริ่มมีสุขภาพไม่ดี เธอจึงค่อย ๆ มอบเรื่องของครอบครัวให้เขาจัดการแทน

เขายอมรับว่าตัวเองรู้ความจริงตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองหย่าร้างกัน และสิ่งเดียวที่เขาคิดได้คือจะหาเงินจากตระกูลเซี่ยได้อย่างไรให้มากที่สุด

ผู้ใหญ่บ้านหยวนที่นิ่งเงียบอยู่กระแอมแล้วพูดกับผู้ใหญ่บ้านจาง “พี่จาง ถ้าพวกเราหมู่บ้านซิ่งฮวาไม่ได้รับคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้อย่างดี ผมในฐานะผู้ใหญ่บ้านคงไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองในอนาคตได้แล้วล่ะ”

ผู้ใหญ่บ้านจางเข้าใจความจริงข้อนี้

เขามองไปที่เสิ่นอี้โจวโดยไม่รู้ตัว พลางสงสัยว่าเสินอี้โจวต้องการชำระบัญชีในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

เสิ่นอี้โจวไม่ทำให้ตระกูลจางผิดหวังเลย เขาหยิบกระดาษอีกกองหนึ่งออกมามอบให้ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนแล้วพูดว่า “นี่คือบัญชีที่จดไว้ มันมีทั้งเงินสินสอดที่มอบให้จางอวี้เจียว และรายการสิ่งของทั้งหมดที่ส่งไปยังตระกูลจาง และด้านล่างยังเป็นรายการสิ่งของที่ตระกูลจางยืมไปแล้วหลายปีด้วย”

“เงินและสิ่งของทุกอย่างที่ถูกพรากไปจากตระกูลเซี่ย ภายใต้การกระทำหรือวิธีต่าง ๆ”

“ผมได้แปลงค่าพวกมันทั้งหมดเป็นเงินแล้ว ยอดรวมไม่มากรวม ๆ แค่แปดร้อยสามสิบเจ็ดหยวนหนึ่งเหมาเท่านั้น”

“หากตระกูลจางคืนเงินทั้งหมดให้กับตระกูลเซี่ย และพาซือถงมาให้ตระกูลเซี่ยเลี้ยงดู ตระกูลเซี่ยก็ยินดีตกลงที่จะไม่ฟ้องเรื่องฉ้อฉลสมรสของตระกูลจาง”

หลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นอี้โจว ทั้งห้องก็เงียบลง

จางต้าหู่เหมือนกับได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องในหูของเขา ในขณะที่สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้

รวมกว่าแปดร้อยหยวน!

เซี่ยชิงหยวนฟังอยู่ในห้องอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

สิ่งต่าง ๆ ในรายการส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องจริง แต่มันนานเกินไปแล้ว และตระกูลจางก็ได้ใช้พวกมันไปหลายสิ่งหลายอย่างจนค่อย ๆ ลืมมันไป

ตอนที่เซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวกำลังร่างรายการนี้ขึ้นมา เสิ่นอี้โจวพูดว่า “แค่จดสิ่งที่คุณจำได้ก็พอ หากคุณจำไม่ได้ก็ไว้เพิ่มไปในตอนท้ายคร่าว ๆ ก็ได้”

ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองมองหน้ากันและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

เลขาธิการเสิ่นคนนี้… เอาเรื่องทีเดียว!

เมื่อเห็นว่าจางต้าหู่เงียบไป สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางก็เปิดปากและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง “โอ้สวรรค์ ตระกูลเซี่ยช่างโหดร้ายเหลือเกิน นี่มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าพวกเราชัด ๆ พวกเราจะเอาเงินมาจากไหนตั้งมากกว่าแปดร้อยหยวน”

“ฉันเคยทำบาปอะไรไว้กันถึงลงเอยเป็นสะใภ้ของบ้านนี้นะ โอ้สวรรค์ โปรดให้ฉันตายเถอะ!”

นี่เป็นหายนะที่คาดไม่ถึงสำหรับสะใภ้ใหญ่ตระกูลจาง และเธอก็ร้องไห้อย่างแท้จริง

ระหว่างทางมาที่นี่วันนี้ เธอยังคิดว่าจะหาเงินจากตระกูลเซี่ยอยังไงอยู่เลย เพื่อจะเอามาทำเสื้อผ้าให้ตัวเองและซื้อของเล่นให้ลูกชายลูกสาวที่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่จะไม่ได้อะไรเลย แต่เธอกลับยังต้องชดใช้เงินให้ตระกูลเซี่ยอย่างไม่สามารถหาทางออกได้อีก

หากรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ วันนี้เธอจะไม่มาแน่นอนต่อให้เธอจะต้องตายก็ตาม!

สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางร้องไห้อยู่ข้าง ๆ ในขณะที่เสิ่นอี้โจวและคนอื่นมองดูอย่างเย็นชา ในท้ายที่สุดผู้ใหญ่บ้านจางก็ทนไม่ไหวและขัดจังหวะเธอ

ผู้ใหญ่บ้านจางตบโต๊ะ ซึ่งทำให้สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางตกอยู่ในความเงียบทันที

ผู้ใหญ่บ้านจางมองไปที่จางต้าหู่แล้วพูดว่า “แกได้ยินสิ่งที่เสิ่นอี้โจวพูดเมื่อกี้นี้แล้วนะ ถ้าไม่จ่ายเงินและมอบเด็ก ไม่งั้นทั้งครอบครัวก็ต้องติดคุกไปซะ!”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท