กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 499 ทำหน้าที่แม่สื่อแม่ชัก

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 499 ทำหน้าที่แม่สื่อแม่ชัก

บทที่ 499 ทำหน้าที่แม่สื่อแม่ชัก

เสียงเดินเข้ามาของอาเซียงทำให้ผู้ที่กำลังเอ่ยพูดอยู่ข้างในตกใจ จึงเงียบไปในตอนแรก ก่อนที่เสียงหัวเราะของคุณแม่เฮ่อจะดังขึ้น “อาเซียงกลับมาแล้วใช่รึเปล่า?”

อาเซียงรีบเก็บสีหน้าตกตะลึงตัวเองทันที แล้วยกมุมปากยกขึ้นยิ้มในขณะที่เดินเข้าไปในบ้าน “คุณป้า ฉันเองค่ะ”

เธอเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นและพบว่าคุณแม่เฮ่อนั่งอยู่กับหญิงวัยกลางคน ตะกร้าใบเล็กซึ่งคลุมด้วยผ้าสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่

หญิงวัยกลางคนพินิจพิจารณาอาเซียงเล็ก ๆ จากนั้นจึงมองไปยังคุณแม่เฮ่อ “คุณพี่เฮ่อ นี่ใครหรือคะ?”

คุณแม่เฮ่อกวักมือเรียกอาเซียงเพื่อบอกให้เธอเข้ามา พร้อมพูดว่า “นี่คืออาเซียง น้องสาวของภรรยาเพื่อนสนิทลูกชายฉันค่ะ พวกเธอมีธุรกิจอยู่ที่นี่ อาเซียงจึงแวะมาตรวจดูร้านเป็นระยะ ๆ”

เมื่อได้ยินถ้อยคำของคุณแม่เฮ่อ การแสดงออกของหญิงวัยกลางคนจึงอ่อนลงเล็กน้อย เธอส่งเสียง “โอ้” ออกมา ก่อนจะเอ่ยชมอาเซียง “สาวน้อยคนนี้ดูดีจริง ๆ”

อาเซียงยกยิ้มเป็นการตอบรับ

เธอเดินไปจับมือคุณแม่เฮ่อแล้วนั่งลงข้าง ๆ หญิงชรา

ผู้หญิงคนนั้นถอนสายตาไปจากอาเซียง และพูดกับคุณแม่เฮ่อว่า “คุณพี่เฮ่อ เรื่องที่เราพูดคุยกันไปถือเป็นอันตกลงนะคะ?”

คุณแม่เฮ่อพยักหน้า “ตกลง ๆ เดี๋ยวฉันจะคุยกับลูกชายของฉันเอง จากนั้นค่อยนัดแนะให้ทั้งสองได้พบหน้ากันก็ได้”

หญิงวัยกลางคนแสดงท่าทางพึงพอใจอย่างยิ่ง เธอหยิบตะกร้าพร้อมกล่าวลาแล้วเดินออกไป

อาเซียงถอนสายตาจากเธอพลางเอ่ยถามว่า “คุณป้าเฮ่อกำลังนัดดูตัวให้พี่เฮ่อเหรอคะ?”

รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของคุณแม่เฮ่อ หญิงชรากล่าวว่า “ใช่จ้ะ ป้าเห็นว่าอวี้เฟิงอายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว หลังจากโอ้เอ้มาหลายปีจึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องคิดเรื่องนี้แล้วน่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อาเซียงพลันยิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อย “แล้ว… พี่เฮ่อเห็นด้วยไหมคะ?”

เมื่อพูดถึงเฮ่ออวี้เฟิง คุณแม่เฮ่อก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก

หญิงชราพลันเอ่ยขึ้นว่า “ป้าเองเคยคุยกับเขาเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่เขาบอกว่าเขายังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้น่ะสิ อีกไม่นานเขาก็จะอายุสามสิบแล้วนะ จะยืดเวลาออกไปอีกได้ยังไงกัน? ยังไงป้าก็ตกลงกับทางนั้นไว้แล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ให้พวกเขาได้พบกันแล้วค่อยว่ากันอีกที ไม่แน่ว่า… เขาได้เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้วอาจจะตกหลุมรักก็ได้”

คราวนี้อาเซียงไม่อาจยกมุมปากขึ้นได้อีก

เฮ่ออวี้เฟิงกตัญญูมาก เขาย่อมไม่ปฏิเสธคุณแม่เฮ่ออย่างแน่นอน

หลังจากนี้ หากคุณแม่เฮ่อยืนกรานจะให้เขาแต่งงาน แล้วเธอควรทำยังไง?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความกล้าหาญของอาเซียงที่เพิ่งจะรวบรวมขึ้นมาได้ก็มลายหายไปเสียเกือบสิ้น หญิงสาวกลับเข้าห้องไปแบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เมื่อเฮ่ออวี้เฟิงกลับมา เขาก็ไม่เห็นอาเซียงจึงถามว่า “แม่ครับ อาเซียงยังไม่กลับมาเหรอครับ?”

คุณแม่เฮ่อซึ่งกำลังซักเสื้อผ้าอยู่ เดินออกมาแล้วบอกว่า “กลับมาแล้ว เธอบอกว่าวันนี้ไม่ค่อยสบายเลยขอตัวไปนอนก่อนน่ะ”

หญิงชราชี้ไปที่ห้องด้านใน “ไม่อย่างนั้นลูกก็ลองไปดูเธอสักหน่อยสิ ระวังอย่าให้ป่วยไปนะ”

เฮ่ออวี้เฟิงสงสัยไม่น้อย เขาตอบว่า “อย่างนั้นผมไปดูเธอหน่อยนะ”

จากนั้นเขาก็เดินที่ประตูห้องของอาเซียง ก่อนเคาะประตูพร้อมเอ่ยว่า “อาเซียง หลับหรือยัง?”

ถ้อยคำเมื่อครู่ที่สองแม่ลูกคุยกันข้างนอกนั้น อาเซียงซึ่งนอนอยู่บนเตียงได้ยินอย่างชัดเจน

หัวใจของเธอรอคอยให้เฮ่ออวี้เฟิงมาพบตน ทว่าในขณะเดียวกันเธอก็ไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายที่คุณแม่เฮ่อทำหน้าที่แม่สื่อจับคู่ดูตัวให้ชายหนุ่ม ความโกรธก็พลันพลุ่งพล่านขึ้นมาจนทำให้ไม่อยากจะสนใจเขาเสียอย่างนั้น

หญิงสาวจึงหันหน้าเข้ากับกำแพงโดยไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไป

เฮ่ออวี้เฟิงที่ยืนอยู่หน้าห้องเคาะประตูอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเรียกที่ดังขึ้น “อาเซียง?”

อาเซียงลังเลว่าควรเปิดประตูหรือไม่

คุณแม่เฮ่อซึ่งอยู่ข้าง ๆ เมื่อไม่ได้ยินเสียงของอาเซียงจึงเริ่มกังวล “เธอเป็นลมรึเปล่า? ตอนที่แม่คุยกับเธอวันนี้ น้ำเสียงของเธอเหมือนจะไม่ค่อยดีนักด้วยสิ”

ครอบครัวของพวกเขากินข้าวเย็นค่อนข้างเร็ว ในตอนนี้พวกเขาอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงหนึ่งทุ่มเสียด้วยซ้ำ

เมืองกว่างโจวมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย ไหนเลยจะเข้านอนแต่หัวค่ำเช่นนี้?

และเท่าที่พวกเขาจำได้ อาเซียงนั้นมีสุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอด ทั้งยังไม่เคยเผยให้เห็นความอ่อนแอเลยสักครั้ง

เมื่อเฮ่ออวี้เฟิงได้ยินสิ่งนี้ เขาจะรอช้าอยู่ได้ยังไงกัน?

ชายหนุ่มคว้ากุญแจที่วางอยู่บนขอบหน้าต่าง แล้วไขเปิดประตูเสียงดัง “แกรก” ทันที

โดยปกติแล้วในบ้านนี้มีคนอยู่เพียงสองคนคือเฮ่ออวี้เฟิงและคุณแม่เฮ่อ ประตูห้องถูกปลดล็อกไว้เสมอ พวกเขาจึงร้อยเชือกกับกุญแจแล้ววางไว้บนขอบหน้าต่างในห้องนั่งเล่น

แม้ว่าหลังจากอาเซียงจะมาพักอาศัยด้วยแล้วก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

ในสายตาของคุณแม่เฮ่อ ดูเหมือนว่าเฮ่ออวี้เฟิงจะไม่ได้มองผู้หญิงคนใดเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สำหรับชายหนุ่มแล้วแม้แต่ยุงตัวเมียก็เกรงว่าจะไม่ได้แตกต่างอะไร

ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่เคยคิดจะให้กุญแจไว้กับอาเซียงเพียงลำพัง เผื่อว่าเฮ่ออวี้เฟิงจะต้องใช้ทำอะไร

เฮ่ออวี้เฟิงนั้นแข็งแรงมาก ทำให้เมื่อประตูถูกถีบให้เปิดออก ประตูจึงไปชนกับผนังด้านหลังจนส่งเสียงดังปัง

อาเซียงพลันมีปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมาชั่วครู่ด้วยความตกใจจากประตูที่ถูกกระแทก

เธอตัวสั่นเมื่อเห็นเงาดำขนาดใหญ่วิ่งเข้ามาจากด้านหลัง จึงพยายามกอดตัวเองเอาไว้

อาเซียงพลิกตัวกลับโดยสัญชาตญาณและเห็นเฮ่ออวี้เฟิงยืนอยู่ข้างเตียง

เขาหอบหายใจเล็กน้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นโดยพลัน เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นตะลึงที่อาเซียงไม่ได้เป็นลมแต่อย่างใด

อาเซียง “…”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท