ดาบพิโรธสวรรค์ – ตอนที่ 114

ตอนที่ 114

ตอนที่ 114 ผลึกอสูร

ทันทีที่หลินเซวียนเข้าไป มันราวกับมีแสงวูบวาบพาเขาทะลุไปในห้วงมิติ

วูบ!

หลังจากมาถึง รอบด้านคือสถานที่ที่ดูไม่คุ้นเคย มันล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ สายน้ำที่ไหลเบา ๆ และเสียงร้องของหมู่สรรพสัตว์

” พลังวิญญาณหนาแน่นนัก!” หลินเซวียนสูดหายใจลึก เขารู้สึกถึงร่างกายที่กําลังตื่นเต้นกับพลังวิญญาณรอบด้าน

“ไม่สงสัยเลยว่าทําไมผู้คนถึงต้องการเข้ามา แค่พลังวิญญาณสําหรับบ่มเพาะพลังในนี้ก็มหาศาลกว่าด้านนอกแล้ว มันเป็นที่ที่ดีจริง ๆ “ หลินเซวียนเดินพลังในร่างและใช้จิตค้นหาสมบัติบริเวณโดยรอบ

“อ๊ะ! หญ้าฝ่ามือทอง!” หลินเซวียนรู้สึกประหลาดใจก่อนจะหายไปจากจุดที่ยืนอยู่

ใกล้ ๆ ที่เขาอยู่บริเวณสามจิ้งมีสมุนไพรขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ มันส่องแสงสีทองเป็นประกายงดงาม

“นี่คือสมุนไพรวิญญาณระดับสาม เราไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่” หลินเซวียนเก็บไว้ในแหวนเก็บของทันที

สมุนไพรวิญญาณนั้นก็มีระดับเหมือนกัน ระดับที่สูงขึ้นก็สามารถกลั่นโอสถระดับสูงได้แตกต่างกัน สมุนไพรวิญญาณระดับสามนั้นนับว่าเป็นสมุนไพรระดับสูงในเขตอวิ๋นโจว ในโลกด้านนอกสําหรับสมุนไพรระดับนี้ มันจะหาได้แค่ในส่วนลึกของภูเขาไท่หังเท่านั้น

“ดูเหมือนอีกไม่นานข้าคงจะได้ทําสุราเพิ่มอีกแล้วล่ะ” เสียงของเซียนสุราดังขึ้นในใจหลินเวียน

” ตามข้อมูล นี่เป็นแค่รอบนอกเท่านั้น ข้าไม่ทราบว่าจะมีอะไรอีกในราชวังโลหิต” หลินเซวียนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เซียนสุรารู้สึกถึงจิตวิญญาณที่เร่าร้อนก่อนจะกล่าว “เจ้าควรจะบรรลุขั้นพลังก่อนจะเข้าไปในส่วนกลาง

”วางใจเถอะลุงขี้เมา ด้วยของวิเศษที่นี่ มันคงไม่ยากที่จะบรรลุขั้นพลัง” หลินเซวียนกลายเป็นสายฟ้าขณะพุ่งเข้าไปในปา ด้วยการใช้วิชานัยน์ตาสีม่วงและพลังจิตในการค้นหา มันทําให้เขาได้สมุนไพรวิญญาณมามากมาย

ฟู่!

เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง หลินเซวียนได้มาอยู่ใกล้กับแม่น้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของบุปผาวารี

หลินเซวียนวิ่งไปยังแม่น้ำก่อนจะเอนตัวลง

ทันใดนั้นได้มีเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวขึ้นด้านหลัง

” หยุดอยู่ตรงนั้น!”

” ออกไปจากที่นี่ซะ!”

“วางสมุนไพรไว้ถ้าไม่อยากตาย!”

หลินเซวียนรู้สึกได้ว่ามีหลายคนกําลังมุ่งหน้ามาทางเขา แต่ในสถานที่แบบนี้ใครเร็วใครได้ เขาจะปล่อยมือเฉย ๆ ได้ยังไงกับคําขู่แค่นี้

หลินเซวียนค่อย ๆ เก็บบุปผาวารีใส่กล่องหยกในมือโดนไม่สนใจเสียงเหล่านั้น

“ไอ้หนู เจ้าอยากตายสินะ!” พวกเขายังคงเห็นหลินเซวียนเก็บสมุนไพรอย่างช้า ๆ โดยไม่สนใจ

“มันอยู่แค่ขั้นเปิดชีพจรระดับแปด พลังแค่นี้ยังกล้ามาพื้นที่ทดสอบโลหิตอีก ช่างรนหาที่ตายนัก!”

“ดูจากที่เก็บของของมันเมื่อกี้ ข้าว่ามันจะต้องมีของดีมากมายแน่นอน” กลุ่มคนที่พุ่งมาเริ่มเย้ยหยัน

โอกาสเสียชีวิตในพื้นที่ทดสอบโลหิตนั้นสูงอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถสังหารกันได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไร ไม่มีใครโดนจับ หรือใครสามารถกล่าวหาอะไรได้

แน่นอนว่าหากผู้อาวุโสด้านนอกรู้ มันก็คนละเรื่อง

เมื่อคนเหล่านี้เห็นหลินเซวียนอยู่คนเดียว อีกทั้งขั้นพลังยังต่ำ มันจึงทําให้พวกเขารู้สึกลาภลอย หนึ่งในกลุ่มคนนั้นมีตัวอักษร “หลิง” สลักอยู่ตรงหน้าเสื้อกลางหน้าอก เขามองหลินเซวียนอย่างเย็นเยือกทันทีที่เห็น

“เอาเลย อย่าเปิดโอกาสให้มันล่ะ” ศิษย์ตระกูลหลิงทราบว่าคนตรงหน้าคือหลินเซวียน ผู้ที่มีเจตนารมณ์แห่งดาบ ดังนั้นเขาจึงบอกให้พรรคพวกลงมืออย่างรวดเร็ว

สามคนที่อยู่ขั้นเปิดชีพจรระดับเก้าได้โคจรพพลังวิญญาณและพุ่งเข้าโจมตีหลินเซวียนทันที

หลังจากวิเคราะห์ด้วยนัยน์ตาสีม่วง คนเหล่านี้เต็มไปด้วยจุดอ่อน หลินเซวียนขยับนิ้วเป็นรูปดาบพร้อมสายฟ้าสีทอง

หลังจากประกายแสงวูบวาบกลางอากาศ เงาดาบได้พวยพุ่งออกมาแทงคนทั้งสามทันที

ฟุบ!

หลินเซวียนดึงแหวนเก็บของจากคนทั้งสาม จากนั้นได้เตะพวกเขาลงแม่น้ำ

“การสังหารสามารถทําที่นี่ได้อย่างง่ายดาย แต่หากมีคนรู้เรื่องเข้า เราเกรงว่าจะต้องมีเรื่องตามมาแน่หากออกไป

ศพทั้งสามได้ตกลงไปในแม่น้ำจนน้ำสาดกระเด็น

ตู้ม! ตู้ม!

ทันใดนั้น สัตว์อสูรที่ดูเกรี้ยวกราดได้ปรากฏตัวขึ้นจากในแม่น้ำ พวกมันเปิดปากเพื่อกินศพพวกเขาจนเลือดท่วมนองอย่างน่าสยดสยอง

สัตว์ประหลาดเหล่านี้ราวกับกิ้งก่าผสมกับจระเข้ ขนาดตัวนั้นยาวหนึ่งจั้ง ผิวหนังเป็นเกล็ดสีน้ำตาลปนเทา ฟันที่แหลมคนดูเหมือนคมมีดที่พร้อมจะบดขยีอาหารตลอดเวลา

“นี่คือจระเข้กลายพันธุ์ ลองดูสิว่าพวกมันมีแก่นแท้อสูรหรือเปล่า?” เซียนสุราเอ่ยขึ้น

หลินเซวียนไม่ลังเลที่จะสะบัดมือ จากนั้นคลื่นพลังสีทองได้พุ่งออกไป

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

จระเข้กลายพันธุ์ถูกกระแทกออกไปบนพื้น หลังจากกลิ้งเกลือกอยู่ไม่นาน เกล็ดของพวกมันก็ได้เปลี่ยนเป็นสีดําสนิท

โฮกกก!

สัตว์อสูรโกรธจนคํารามออกมา ดวงตาพวกมันแดงก่ำจากโทสะ

หลินเซวียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผิวหนังของอสูรจะหนาถึงเพียงนี้

“แม้แต่ยอดฝีมือขั้นเปิดชีพจรระดับเก้ายังไม่สามารถต้านการโจมตีนี้ได้ แต่จระเข้น้ำกลับแค่กระเด็นเท่านั้น”

“น่าสนใจมาก!” หลินเซวียนรวมพลังดาบไว้ในมือ จากนั้นมันได้ก่อตัวเป็นประกายสายฟ้าขึ้นกลางอากาศ

ฟุบ!

ดาบเงาสายฟ้าได้พุ่งออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้ได้เกิดรูขึ้นบนตัวจระเข้กลายพันธุ์จนเลือดพวกมันพวยพุ่ง

เมื่อโดนการโจมตีดังกล่าว พวกจระเข้ก็ไม่สามารถทนได้และขาดใจตายคาที่

หลินเซวียนรีบชําแหละพวกมันอย่างรวดเร็วก่อนจะพบผลึกสีแดงเข้มอยู่ภายใน

“นี่คือผลึกอสูรงั้นหรือ?” หลินเซวียนกลิ้งเล่นไปมาในมือ

ถึงแม้ผลึกอสูรจะเล็ก แต่มันก็เต็มไปด้วยพลังงาน ไม่เพียงเท่านั้น มันยังถูกปกคลุมไปด้วยไหมวิญญาณอสูร ซึ่งดูแปลกประหลาดอย่างมาก

“ลองหาให้ถึงสิบลูก หากทําได้ ข้าจะลองกลั่นสุราผลึกอสูรให้เจ้าหนึ่งขวด เจ้าจะสามารถบรรลุขั้นพลังได้หลังจากดื่มมัน” เซียนสุรากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“จริงหรือ?” หลินเซวียนรู้สึกดีใจ เขาเก็บผลึกอสูรทั้งสามก่อนจะเตะร่างของจระเข้ลงน้ำอีกครั้ง แน่นอนว่ากลิ่นเลือดสามารถดึงดูดพวกอสูรได้อีก

พวกสัตว์อสูรที่อยู่รอบด้านได้เข้าโจมตีหลินเซวียนทันที

แน่นอนว่าหลินเซวียนก็ขยับนิ้วโจมตีเหล่าจระเข้ที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

” ชายคนนี้เป็นใคร? ฝีมือเขาไม่เลว”

“ถึงแม้ขั้นพลังจะต่ำ แต่ทักษะล้ำลึกมาก!”

ใกล้ ๆ กับจุดที่หลินเซวียนอยู่ มีสายตาหลายคู่กําลังจับจ้องมาทางเขา พวกเขายังไม่เผยตัวและซ่อนอยู่ตรงพุ่มไม้อย่างลับ ๆ

“ดูเหมือนเขาจะรวบรวมผลึกอสูรอยู่ เขาต้องการจะกินผลึกอสูรมั้นหรือ?”

“เป็นไปไม่ได้ ผลึกอสูรเหล่านั้นต้องใช้วิชาลับในการกลั่นมันก่อน คนธรรมดาไม่มีทางกินมันได้อย่างแน่นอน!” พวกเขาต่างพากันสงสัย

“บางทีชายคนนี้อาจจะมีวิชาลับอยู่ในมือ พวกเราควรทํายังไงดี?”

“เมื่อดูดี ๆ พลังดาบของเขาช่างล้ำลึกอย่างแท้จริง”

ขณะที่พวกเขากําลังลังเล ลมหายใจอันแข็งแกร่งก็ได้พุ่งผ่านอากาศมาอย่างคลุ้มคลั่ง

“ไม่นะ ยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณมา รีบถอย!” ใบหน้าของผู้ที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดเปลี่ยนไปทันทีก่อนจะหันหลังหนี

พวกเขาล้วนอยู่ขั้นเปิดชีพจรระดับเก้า และไม่มีทางสู้กับขั้นสมุทรวิญญาณได้แน่นอน

เมื่อบรรลุขั้นสมุทรวิญญาณแล้ว ความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จิตวิญญาณของพวกเขาจะได้รับการปรุงแต่งอย่างดี มันไม่สามารถนําผู้ที่อยู่ขั้นเปิดชีพจรมาเทียบได้เลย

จากนั้นไม่นาน ยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณก็ได้มาถึงแม่น้ำ และมองไปยังหลินเซวียนอย่างเย็นเยือก

ดาบพิโรธสวรรค์

ดาบพิโรธสวรรค์

Status: Ongoing

ลินเซวียนถูกผนึกจุดชีพจรจากพลังลึกลับ ทำให้เขาไม่สามารถเปิดพลังวิญญาณเข้าสู่การบ่มเพาะพลังได้

ชีวิตที่ต้องทนลำบากจากการถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน เหยียดหยาม

ด้วยความมุ่งมั่นพยายาม มันทำให้ชีวิตของเขาได้พบจุดเปลี่ยน!

หนึ่งดาบทะลวงดารา!

หนึ่งดาบสะเทือนฟ้าดิน!

หนึ่งดาบพิโรธสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท