บทที่ 521 ผู้หญิงของลูกพี่
บทที่ 521 ผู้หญิงของลูกพี่
อาเซียงตกใจมากเมื่อเธอได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยชิงหยวนที่โทรมาบอกเกี่ยวกับเสิ่นอี้โจว
เซี่ยชิงหยวนไม่ได้พูดลงรายละเอียดอะไรมากผ่านโทรศัพท์ เพียงขอให้อาเซียงกลับมาทันทีที่งานเสร็จเท่านั้น
อาเซียงไม่กล้ารอช้า ทันทีที่เธออธิบายเรื่องนี้ให้เหล่าไต้ฟัง หญิงสาวก็พร้อมที่จะออกเดินทางกลับมณฑลอวิ๋น
ในที่สุดเธอและเฮ่ออวี้เฟิงก็มีความคืบหน้า แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องแยกจากกันอีกครั้งแล้ว เป็นปกติที่หญิงสาวจะรู้สึกลังเล
ทว่าท้ายที่สุด อาเซียงก็แยกออกระหว่างเรื่องงานและความสัมพันธ์ส่วนตัว
เหล่าไต้พาเธอไปที่สถานีรถไฟเพื่อซื้อตั๋ว จากนั้นก็กลับไปเก็บข้าวของและพูดคำอำลากับคุณแม่เฮ่อ ส่วนทางด้านของเฮ่ออวี้เฟิงนั้นยังไม่กลับมาบ้าน
จากนั้นเธอก็พูดว่า “ป้าเฮ่อคะ ฉันจะไปที่ร้านของพี่เฮ่อเพื่อบอกเขาก่อนนะคะ”
คุณแม่เฮ่อพยักหน้าไปในทิศทางที่อาเซียงพูด “อื้ม เดินทางกลับดี ๆ นะ คราวหน้ามาที่นี่ก็พาชิงหยวนมาด้วยนะ”
อาเซียงพลันรู้สึกหดหู่ขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เซี่ยชิงหยวนกับเสิ่นอี้โจวกำลังจะจากไปยังที่กันดาร ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เมื่อไหร่
เธอกลั้นน้ำตาและพยักหน้า “ตกลงค่ะ คราวหน้าฉันจะพาพี่ชิงหยวนมาด้วยนะคะ”
หญิงสาวเดินออกจากประตู เรียกมอเตอร์ไซค์แล้วไปที่ร้านซ่อมรถยนต์ของเฮ่ออวี้เฟิง
ทันทีที่ลงจากรถ เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันอ่อนหวานของผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอมองเข้าไปข้างในและเห็นว่าเป็นแม่ม่ายที่เธอเห็นครั้งล่าสุดมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง
วันนี้อีกฝ่ายสวมชุดชีฟองและรองเท้าส้นสูง พลางยืนอยู่ข้าง ๆ เฮ่ออวี้เฟิงยิ้มอย่างสดใส
เฮ่ออวี้เฟิงนั่งยอง ๆ อยู่กับพื้นและกำลังบำรุงซ่อมรถอย่างจริงจังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
อาเซียงพูดกับคนขับมอเตอร์ไซค์และขอให้เขารอเธอสักพัก
เธอสงบอารมณ์ที่มีมากมายในใจ ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวโดยไม่ลังเลและตะโกนออกมา “พี่เฮ่อ”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เฮ่ออวี้เฟิงก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองที่อาเซียงทันที
ผู้หญิงคนนั้นก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเฮ่ออวี้เฟิง และมองไปที่อาเซียงเช่นกัน
เมื่อสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของคนทั้งสอง อาเซียงจึงยืดตัวตรงขึ้น
เธอยืดหน้าอกของตัวเองแล้วพูดว่า “พี่เฮ่อพอมีเวลาไหมคะ? ฉันมีเรื่องจะบอกน่ะ”
เฮ่ออวี้เฟิงพยักหน้า คว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ด้านข้างพลางเช็ดมือของเขา แล้วเดินเข้าหาอีกฝ่าย
ผู้หญิงคนนั้นเดินตามเฮ่ออวี้เฟิงไปสองก้าว มองที่อาเซียงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่เฮ่อคะ สาวสวยคนนี้คือใครเหรอ?”
เฮ่ออวี้เฟิงตอบกลับสั้น ๆ “เพื่อน”
อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือความสัมพันธ์ของเขากับอาเซียงนั้นควรบอกว่า เธอเป็นน้องสาวของภรรยาเพื่อน และเขาถูกมอบหมายให้ดูแลเธอชั่วคราว
เพียงแต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าถ้าพูดแบบนั้นไปต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ มันจะทำให้อาเซียงเสียใจน่ะสิ
ดังนั้นเขาจึงบอกว่าเป็นเพื่อนกันแทน
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าของอาเซียงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
แม่ม่ายมองเฮ่ออวี้เฟิงด้วยสีหน้าตกตะลึงและลังเลที่จะพูดต่อ
มีอะไรที่ผู้หญิงซึ่งเคยแต่งงานแล้วอย่างเธอจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกของอาเซียงที่มีต่อเฮ่ออวี้เฟิงกัน?
เมื่อเธอเห็นอาเซียงในร้านเป็นครั้งแรก เธอไม่ได้สนใจหญิงสาวคนนี้มากนัก
สาเหตุหลักมาจากอาเซียงดูเป็นแค่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสา และเฮ่ออวี้เฟิงก็ดูไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษเกี่ยวกับเด็กสาวคนนี้ เธอจึงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกค้าในร้านธรรมดา ๆ เท่านั้นจึงไม่สนใจ
พอเห็นตอนนี้แล้วเธอคิดว่าตัวเองประมาทเกินไปจริง ๆ
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและพูดว่า “เถ้าแก่เฮ่อ เธอดูเด็กมากเลยนะคะ”
อาเซียงพูดอย่างไม่ยินยอม “ฉันไม่ใช่เด็ก ฉันอายุสิบเก้าแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้น “สิบเก้าเหรอ? นั่นเด็กมากกว่าเถ้าแก่เฮ่อสิบปีเลยนะ”
อาเซียงสำลักคำพูดของผู้หญิงคนนั้น และไม่รู้ว่าจะตอบยังไงขึ้นมา
ทำไมทุกคนถึงต้องใช้ความต่างของอายุในการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ด้วย?
แต่ทันใดนั้นเฮ่ออวี้เฟิงก็พูดว่า “ดีแล้วที่ยังเป็นเด็ก”
ผู้หญิงคนนั้นเงียบไปทันที “…”
อาเซียงซึ่งเหี่ยวเฉาไปเมื่อวินาทีที่แล้ว ก็ฟื้นคืนชีพด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม
เธอมองเฮ่ออวี้เฟิงด้วยดวงตาที่สดใสและเรียกอย่างมีความสุข “พี่เฮ่อ”
เฮ่ออวี้เฟิงทนสายตาที่กระตือรือร้นมากเกินไปของเธอไม่ได้ เขาไอเบา ๆ แล้วพูดว่า “เธอไม่ได้บอกว่าอยากคุยกับฉันรึไง? พูดมาสิว่าเธอมีเรื่องอะไร?”
จากนั้นอาเซียงก็จำได้ว่าต้องการบอกลาเฮ่ออวี้เฟิง
เธอดึงเฮ่ออวี้เฟิงออกไปเหมือนเด็ก ๆ แล้วพูดว่า “พี่เฮ่อคะ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับสามีของพี่สาวเซี่ย พวกเขาต้องเดินทางไปอยู่ในภูเขาลึก ฉันต้องกลับไปโดยเร็วค่ะ พี่สาวเซี่ยมีเรื่องธุรกิจบางอย่างที่ต้องคุยกับฉันน่ะ”
เมื่อเฮ่ออวี้เฟิงได้ยินสิ่งนี้เขาก็ขมวดคิ้วทันที “เกิดอะไรขึ้น? ร้ายแรงไหม? มีอะไรที่ฉันช่วยได้รึเปล่า?”
อาเซียงส่ายศีรษะ “ฉันต้องกลับไปถามพี่สาวเซี่ยเพื่อทราบรายละเอียดก่อน แต่ถ้าเราต้องการความช่วยเหลือจากพี่ พี่เขยจะโทรหาพี่แน่นอน แค่รอก่อนนะ”
เธอหยุดชั่วคราวและรู้สึกเศร้า “คราวนี้ที่ฉันต้องกลับไป ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาอีกครั้งเมื่อไหร่…”
ธุรกิจที่มณฑลอวิ๋นต้องการให้เธอกลับไปดูแล เกรงว่าหลังจากนี้เธอคงจะยุ่งเป็นเวลานานแน่
ในขณะนี้ เฮ่ออวี้เฟิงมีโอกาสที่หาได้ยากในการอ่านสิ่งที่เรียกว่าการพรากจากกันในดวงตาของหญิงสาวตรงหน้า
เขายิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้น
ชายหนุ่มยื่นมือออกไปลูบผมของเธอ ยิ้มและก้มลงมอง “ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ฉันก็จะรอเธออยู่ที่นี่นะ”
อาเซียงปิดปากของเธอราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินทันที
น้ำตาเต็มดวงตาของเธออย่างรวดเร็ว และสีหน้าดูคล้ายกับกำลังจะทนไม่ไหว
เธอพยักหน้าอย่างแรง “อย่าโกหกฉันนะ”
เฮ่ออวี้เฟิงขมวดคิ้ว “ฉันไม่โกหกอยู่แล้ว”
อารมณ์ของการจากลากำลังก่อตัวขึ้นในอกของเธอ อาเซียงรวบรวมความกล้าหาญยืนเขย่งปลายเท้าแล้ว ‘จุ๊บ’ บนแก้มของเฮ่ออวี้เฟิงอย่างแรง
เสียงจุ๊บดังขึ้นและทุกคนในร้านก็หันมามองเป็นตาเดียว
อาเซียงรู้สึกเขินอายมากจนไม่กล้ามองเฮ่ออวี้เฟิงอีกต่อไป จากนั้นเธอจึงหันหลังกลับและวิ่งออกไปทันที
คนขับมอเตอร์ไซค์ที่รอเธออยู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นอาเซียงวิ่งมาหา เขายกนิ้วให้เธอ “สาวน้อย สุดยอดมาก!”
อาเซียงปิดใบหน้าที่ร้อนฉ่าของเธอแล้วพูดว่า “เรารีบไปกันเถอะ!”
เมื่อคนขับเห็นเฮ่ออวี้เฟิงกำลังเดินมาทางนี้ เขาก็บิดคันเร่งแล้วพูดว่า “ได้เลย!”
เฮ่ออวี้เฟิงมองดูมอเตอร์ไซค์ที่บึ่งออกไปท่ามกลางฝุ่น เขาสัมผัสแก้มตัวเองที่อาเซียงเพิ่งจูบ พลันรู้สึกสูญเสียจิตวิญญาณไปครู่หนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นโกรธมากจนถามลูกจ้างที่อยู่ข้าง ๆ “นี่! ผู้หญิงคนนั้นคือใคร!?”
ลูกจ้างไม่ชอบท่าทางหยิ่งผยองของผู้หญิงคนนั้น และตอบไป “เธอเป็นผู้หญิงของลูกพี่เรา!”
ผู้หญิงคนนั้น “!”