บทที่ 443 เนื้อความในโทรเลข
บทที่ 443 เนื้อความในโทรเลข
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ป้าเกอออกจากหมู่บ้านเถาฮวาไปเมืองก่างเฉิงคนเดียวงั้นหรือ? แล้วทำไมต้องไปเมืองก่างเฉิงด้วยล่ะ? แล้วใครล่ะที่เป็นคนสกัดกั้นโทรเลขที่เธอส่งถึงคุณย่าซู?”
หลังพูดถึงโทรเลข เฟิงเยี่ยหานเองก็รู้เหมือนกันว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“มีข่าวเกี่ยวกับโทรเลขของป้าเกอก่อนหน้านี้ แต่เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนสกัดมัน เราขอให้คนสืบเนื้อความของโทรเลขให้แล้ว น่าจะมีข่าวอะไรที่พอเป็นเบาะแสได้”
ถังซวงหันมองเฟิงเยี่ยหานอย่างประหลาดใจก่อนจะพูดว่า “คุณรอบคอบมาก ถ้ารู้เนื้อหาในโทรเลขเมื่อไหร่ เราอาจจะหาตัวป้าเกอพบ”
โม่เจ๋อหยวนพูดบางอย่างขึ้นมาจากด้านข้าง
“ซวงเอ๋อร์ เธอว่า… เรื่องนี้จะเกี่ยวกับคุณชายซ่างไหม? คนเดียวในเมืองก่างเฉิงที่คุ้นเคยกับป้าเกอดีก็คือซ่างสยงเยี่ยนะ”
แม้เกอชิงเหม่ยจะเคยพบลุงเฮ่อและคนอื่น ๆ แล้ว แต่ในแง่ของความสนิทสนม เธอคุ้นเคยกับซ่างสยงเยี่ยมากกว่า
หลังได้ยินการคาดเดาของโม่เจ๋อหยวน เฟิงเยี่ยหานกลับไม่ค่อยเห็นด้วย
“ถ้าป้าเกอไปหาซ่างสยงเยี่ย เธอก็ควรจะติดต่อหรือไปหาใครสักคน อีกอย่างทำไมถึงต้องสกัดโทรเลขของป้าเกอ? ผมว่าเธอไม่น่าจะไปหาซ่างสยงเยี่ยอะไรนั่นหรอก”
ถังซวงครุ่นคิดก่อนจะพูดต่อว่า “ซ่างสยงเยี่ยไม่มีทางปิดบังที่อยู่ของป้าเกอแน่ ฉันคิดว่าน่าจะมีเหตุผลบางอย่าง”
เวลานี้โม่เจ๋อหยวนเริ่มวิเคราะห์เช่นกัน
“ฉันว่าซ่างสยงเยี่ยกับป้าเกอค่อนข้างสนิทกัน ส่วนป้าเกอจะไปพบเขาไหมอันนี้ก็ไม่แน่ใจ” ถ้าหากป้าเกอจะออกจากหมู่บ้านเถาฮวาและไปที่เมืองก่างเฉิง เหตุผลเดียวในหัวเขาคือซ่างสยงเยี่ย เพียงแต่เรื่องนี้มันไม่มีอะไรมายืนยันง่ายดายขนาดนั้น
ขณะที่หลายคนกำลังคาดเดา คนที่เฟิงเยี่ยหานส่งให้ไปสืบเรื่องโทรเลขกลับมา
“นายท่าน ผมรู้แล้วครับว่าคุณเกอชิงเหมยส่งโทรเลขไปที่เมืองหลวงว่าอะไรบ้าง นี่ครับ”
เฟิงเยี่ยหานรีบหันกลับไปทันทีหลังได้ยินคำรายงาน จากนั้นเขาเดินไปหยุดยืนด้านข้างของถังซวงและโม่เจ๋อหยวน ทั้งสามคนอ่านมันด้วยกัน
ในโทรเลขเขียนเอาไว้ว่า ‘อาจารย์ ฉันต้องไปเมืองก่างเฉิงเพื่อพบกับสหายซ่าง และฉันจะรีบกลับหลังจากประชุมเสร็จ’
หลังจากอ่านเนื้อความในโทรเลขแล้ว เฟิงเยี่ยหานกับถังซวงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองโม่เจ๋อหยวน “พี่เดาถูก ป้าเกอไปหาซ่างสยงเยี่ยที่เมืองก่างเฉิงจริง ๆ แต่… แค่ไปหาซ่างสยงเยี่ย ทำไมถึงขาดการติดต่อได้ล่ะ”
เฟิงเยี่ยหานพยักหน้ารับ “ใช่ แค่การไปพบเจอกับซ่างสยงเยี่ย ป้าเกอคงไม่ติดต่อไม่ได้จนน่าสงสัยขนาดนี้ อีกอย่างซ่างสยงเยี่ยก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดบังที่อยู่ของป้าเกอด้วย”
พวกเขาค้นหาอยู่นานกว่าจะรู้ว่าเกอชิงเหม่ยไปเมืองก่างเฉิง และเมื่อทราบว่าเกอชิงเหม่ยอยู่ในเมืองก่างเฉิงก็ส่งคนออกไปสืบหาเบาะแสแต่ก็ยังไม่พบข่าวคราวของเกอชิงเหม่ยแม้แต่น้อย
โม่เจ๋อหยวนหันมองถังซวง “ซวงเอ๋อร์ มีข่าวจากคุณเฟ่ยกับลุงของเธอบ้างไหม? ลองให้เขาติดต่อกับซ่างสยงเยี่ยได้ไหม”
“ค่ะ ฉันจะติดต่อกับเฟ่ยไห่ชางกับลุงเฮ่อ”
ขณะพูด ถังซวงหันมองคนที่วิ่งมารายงานเรื่องข้อความ “ถ้าทราบเนื้อความในโทรเลขแล้ว คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนสกัดมัน?”
ชายคนนั้นก้มศีรษะลงต่ำอย่างรู้สึกผิด “ไม่ทราบครับ”
“อย่างนั้นก็ตรวจสอบดูว่าเป็นฝั่งซ่างสยงเยี่ยสกัดหรือเป็นฝั่งเมืองหลวงที่สกัดโทรเลขนี้เอาไว้”
ชายคนนั้นยังไม่ตอบรับคำสั่งทันที แต่หันมองเฟิงเยี่ยหาน
เฟิงเยี่ยหานหันมองชายคนนั้นด้วยแววตาเย็นชา “คุณถังซวงสั่งการแล้ว ก็รีบไปทำเร็วเข้า”
“ครับ”
ผู้ชายคนนั้นถอยหลังกลับออกไปทันที
หลังจากถังซวงรู้ข่าวทั้งหมดนี้แล้ว เธอรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก และคิดจะออกเดินทางไปเมืองก่างเฉิงในตอนนี้เสียให้ได้
แต่เป็นโม่เจ๋อหยวนที่ยืนขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวเราออกเดินทางหลังจากมื้อเย็นแล้วกัน”
“ได้ค่ะ”
ส่วนเฟิงเยี่ยหานครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ผมจะไปด้วย มีคนเยอะไว้ย่อมดีกว่านะครับ”
ถังซวงหันมองเฟิงเยี่ยหานพร้อมเลิกคิ้วสูง “คุณเฟิงเยี่ยหาน ตอนนี้แตกต่างจากครั้งก่อน คุณคือผู้นำตระกูลเฟิงและมีเรื่องราวมากมายต้องดูแล มีเวลาไปเมืองก่างเฉิงด้วยหรือคะ?”
“สำหรับเรื่องสำคัญ ผมมีเวลาให้เสมอ หลังกลับจากเมืองก่างเฉิงผมค่อยจัดการที่คั่งค้างไว้ก็ยังไม่สาย ต่อให้ไม่ได้นอนก็คุ้มค่าครับ” ในตอนท้าย เฟิงเยี่ยหานพึมพำ “เสี่ยวเซวี่ยเองก็คงจะเป็นห่วงเธอมาก ผมต้องรีบตามหาป้าเกอให้เร็วที่สุด”
แม้เฟิงเยี่ยหานเพียงพึมพำกับตัวเอง ทว่าถังซวงและโม่เจ๋อหยวนได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างชัดเจน ทั้งสองเข้าใจดีว่าเฟิงเยี่ยหานอยากทำให้ดีที่สุดเพราะห่วงใยเสี่ยวเซวี่ย
“เฟ… พี่เฟิง งั้นพี่ก็ไปกับเราแล้วกัน ถ้าได้เจอกับป้าเกอแล้ว พวกเราจะไปส่งเธอกลับเมืองหลวงด้วยกัน”
เฟิงเยี่ยหานที่ไม่ได้คิดอะไรมากในคราวแรก หลังได้ยินที่โม่เจ๋อหยวนพูด ตาของเขาพลันเปล่งประกาย ก่อนจะพยักหน้ารับทันที “ครับ เราจะไปส่งป้าเกอกลับเมืองหลวง”
ถังซวงชำเลืองมองโม่เจ๋อหยวนเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะยังไงการมีคนช่วยเหลือมันย่อมดีกว่า “อย่างนั้นหลังจากทานมื้อเย็นเราจะออกเดินทางกันทันที แต่ถ้า… คนของคุณได้ข่าวเรื่องคนสกัดโทรเลขล่ะ?”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พวกผมติดต่อกันได้ตลอดเวลาครับ”
ถังซวงได้ยินอย่างนั้นก็ผ่อนคลายลง
หลังจากทั้งสามคนทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเขากำลังจะออกเดินทางไปเมืองก่างเฉิง
ถังซวงไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะหยุดโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานเอาไว้ “เราควรจะปลอมตัว”
เพราะมีคนลอบสกัดโทรเลขของป้าเกอ หมายความว่าคนพวกนั้นไม่ต้องการให้พวกเขารู้ว่าป้าเกอไปเมืองก่างเฉิง อีกอย่างคนเหล่านั้นไม่ได้ต้องการให้พวกเขารับรู้เรื่องของป้าเกอด้วยซ้ำ จึงเป็นไปได้มากว่าตอนนี้ทั้งหมดกำลังถูกกีดกันให้ออกห่างจากป้าเกอ
โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานไม่คัดค้านหลังจากถังซวงพูดออกมาอย่างนั้น
ถังซวงลงมือปลอมตัวให้ทั้งสองคนด้วยตัวเอง
เฟิงเยี่ยหานมองดูใบหน้าธรรมดาของตัวเองในกระจก ก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าสหายถังซวงจะมีทักษะแบบนี้ด้วย” ความจริงแล้วแม้แต่คนคุ้นเคยก็อาจจะจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ส่วนโม่เจ๋อหยวนและถังซวงเองก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ใครจำได้
“ซวงเอ๋อร์ คราวนี้เราจะเล่นเป็นสามีภรรยากันอีกไหม?”
ทันทีที่ได้ปลอมตัวอีกครั้ง โม่เจ๋อหยวนนึกถึงคราวก่อนที่เขากับถังซวงปลอมตัวเป็นคู่รักจากชนบท
ถังซวงไม่ได้กล่าวคัดค้านอะไร
นั่นทำให้โม่เจ๋อหยวนยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
เฟิงเยี่ยหานมองรอยยิ้มของโม่เจ๋อหยวนก่อนจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ปัญญาอ่อนชะมัด แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาอีกฝ่าย “อย่างนั้นผมเป็นเพื่อนของสหายโม่”
“ตกลง”
โม่เจ๋อหยวนกอดคอของเฟิงเยี่ยหานอย่างอารมณ์ดีก่อนจะพูดว่า “สหายเฟิง ไหน ๆ เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว นายก็เรียกหาฉันด้วยชื่อได้เลยนะ ส่วนฉันก็จะเรียกนายด้วยชื่อเหมือนกัน” แต่สักครู่โม่เจ๋อหยวนนึกบางอย่างขึ้นได้ “อ้อ เราเรียกชื่อจริงกันไม่ได้นี่ งั้นฉันเรียกนายว่าหานหานเป็นไง?”
เฟิงเยี่ยหานปฏิเสธทันที “นายเรียกฉันว่าเสี่ยวเยี่ยก็พอ”
“อื้ม งั้นเรียกฉันว่าเสี่ยวเจ๋อปาแล้วกัน”
เมื่อทั้งสองตกลงกันอย่างนั้นแล้ว ถังซวงเองก็ตั้งชื่อให้ตัวเองด้วย “งั้นเรียกฉันว่าเสี่ยวฮวาแล้วกัน ป่ะ เราออกเดินทางกันเถอะ”
ทั้งสามออกเดินทางสู่ทิศใต้ มุ่งหน้าสู่เมืองก่างเฉิงทันที