บทที่ 447 พุ่งไปราวกับลูกศร
บทที่ 447 พุ่งไปราวกับลูกศร
ถังซวงไม่ยั้งมือใด ๆ เมื่อต้องลงมือกับชายคนนี้ เวลานี้จมูกและใบหน้าของซ่างสยงซานฟกช้ำบวมเป่ง เขาเจ็บมากจนไม่สามารถพูดอะไรได้
เกอชิงเหม่ยที่ตื่นตระหนกในคราวแรก เริ่มเข้าใจสถานการณ์ เธอประหลาดใจมากจึงอุทานออกมา “ซวงเอ๋อร์ ทำไมถึงมาที่ก่างเฉิงได้? แล้วเธอมาที่นี่ได้ยังไง?”
ซ่างสยงเยี่ยที่ถูกมัดอยู่ด้านข้างเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
“คุณถังซวง คุณพบเจอที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณมาที่นี่เพื่อตามหาพวกเราหรือครับ?”
ถังซวงเตะซ่างสยงซานซ้ำอีกครั้งก่อนจะหันมองเกอชิงเหม่ย “ป้าเกอ ในที่สุดก็เจอป้าสักที รู้ไหมคะว่าที่ป้าหายตัวไป พวกเราเป็นห่วงกันมากขนาดไหน”
ได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของเกอชิงเหม่ยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ซวงเอ๋อร์ ป้าขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ป้าคิดว่าเป็นสหายซ่างที่บอกให้ป้ามาที่เมืองก่างเฉิงเพื่อพูดคุยเรื่องงาน ป้าเองก็มีเรื่องจะบอกเขาด้วยเหมือนกัน เลยมาที่นี่โดยไม่ได้บอกกล่าว แต่ป้าไม่คิดมาก่อนว่าไม่ใช่ซ่างสยงเยี่ยที่ติดต่อไป แต่เป็นซ่างซยงซานพี่ชายของเขาต่างหาก”
เห็นเกอชิงเหม่ยโทษตัวเองอย่างนั้น ถังซวงรีบพูดปลอบใจ “ป้าเกอคะ ไม่ใช่ความผิดของป้าหรอกค่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของซ่างสยงซานต่างหาก”
เธอชำเลืองมองซ่างสยงเยี่ยอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะซ่างสยงเยี่ย ป้าเกอคงจะไม่มาเจอเรื่องแบบนี้แน่ แต่… เธอจะทำอะไรได้ เพราะเธอไม่รู้ว่าซ่างสยงเยี่ยกับป้าเกอจะมีความสัมพันธ์อื่นนอกจากคู่ค้าทางธุรกิจนี่
อีกอย่างตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะพูดคุยเรื่องอื่น ถังซวงหันมองเกอชิงเหม่ยก่อนจะพูดว่า “ป้าเกอคะ เราออกจากที่นี่กันก่อนดีกว่าค่ะ”
“จ้ะ ๆ”
เกอชิงเหม่ยพยักหน้ารับอย่างรีบร้อนก่อนจะลุกตามถังซวงไป
ส่วนซ่างสยงเยี่ยที่ยังถูกมัดเอาไว้ โม่เจ๋อหยวนก้าวไปด้านหน้าเพื่อปลดเชือกออกและเตรียมตัวพาเขาออกไป
“อ้ะ…”
ซ่างสยงเยี่ยหยุดฝีเท้า เดินไปหาซ่างสยงซานก่อนจะย่อตัวลงดึงตราประทับตระกูลกลับคืนมาแล้วพูดว่า “พี่ชาย นิสัยของแกยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ชอบเก็บของมีค่าไว้กับตัว รู้ไหมว่าคนอื่นเขาเย้ยหยันแกขนาดไหน คุณพ่อเองก็ปวดหัวกับนิสัยนี้ของแกมากด้วย”
“หุบปาก อย่าพูดถึงไอ้แก่ที่ตายไปแล้วให้ฉันได้ยินอีก”
ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากถูกทุบตีอย่างหนัก ซ่างสยงซานยังมีแรงพูดอยู่
“ฉันคือลูกชายคนโตของตระกูลแท้ ๆ แต่ไอ้แก่นั่นกลับให้แกเป็นผู้นำตระกูลของเรา เขาไม่เห็นหัวฉันที่เป็นลูกชายคนโตด้วยซ้ำ ต่อให้ตายเขาก็ยังคิดถึงแกตลอด คงมีแต่แกที่เป็นลูกสุดที่รักของไอ้แก่นั่น”
ได้ยินคำพูดของซ่างสยงซาน ซ่างสยงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะกล่าวถากถาง “แกเห็นแค่ว่าพ่อให้ความสำคัญกับฉัน แต่คงไม่เห็นสินะว่าเขาเข้มงวดกับฉันแค่ไหน? ถ้ามองให้ดี แกน่าจะเห็นว่าพ่อปฏิบัติกับแกอย่างดีเสมอตั้งแต่เด็กจนโต เขารักแกมากกว่าอะไร ปล่อยให้แกทำตามใจชอบ เป็นอิสระ ส่วนกับฉันเขาเข้มงวดทุกระเบียบนิ้ว ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ฉันอิจฉาแกที่สุดตั้งแต่เด็กจนโต เพราะฉันอยากให้พ่อปฏิบัติกับฉันอย่างนั้นบ้าง”
“เหอะ… ซ่างสยงเยี่ย แกไม่รู้จริง ๆ หรือว่าสิ่งที่แกได้รับมันพิเศษ ทุกคนอิจฉาที่พ่อให้ความสนใจแก แต่แกกลับบอกว่าอิจฉาฉันงั้นหรือ? นี่แกกำลังปลอบใจฉันหรือไง”
ตอนนี้ซ่างสยงเยี่ยได้รับตราประทับกลับคืนแล้ว และเขาไม่มีอะไรจะพูดคุยกับซ่างสยงซานอีก
“คุยไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันอดทนกับแกมามากพอแล้ว แต่แกไม่ควรเอาความขุ่นเคืองระหว่างเราไปลงกับชิงเหม่ย แกไม่เห็นคุณค่าสิ่งที่ตระกูลซ่างมอบให้งั้นหรือ? งั้นฉันจะเอาคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่แกถลุงไปคืนมาให้หมด และแกจะไม่เหลืออะไรติดตัวสักอย่างเดียว”
จากนั้นซ่างสยงเยี่ยเดินตามเกอชิงเหม่ยออกไปด้านนอก
“ชิงเหม่ย คุณต้องเจ็บตัวเพราะผม”
ซ่างสยงเยี่ยรู้สึกผิดต่อเกอชิงเหม่ยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เกอชิงเหม่ยจะไม่ถูกหลอกมาที่ก่างเฉิงและถูกจับตัวมาอย่างนี้
เกอชิงเหม่ยเพียงยิ้ม “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
ถังซวงเหลือบมองเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย เวลานี้เธอเห็นแล้วว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา แต่ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงไม่เคยเห็นมันมาก่อนนะ ถ้าหากเธอรู้เรื่องนี้เธออาจจะคาดเดาสถานการณ์ได้เร็วกว่านี้ก็ได้
เมื่อทั้งหมดเดินออกมาด้านนอก ซ่างสยงเยี่ยเห็นว่ามันเงียบสงบไม่มีใครมาขวาง เขาก็หันไปมองถังซวงก่อนจะถามอย่างอดไม่ได้ “คุณถังซวง คุณจัดการคนของซ่างสยงซานที่อยู่ด้านนอกหมดแล้วหรือครับ?” เขาจำได้ว่าซ่างสยงซานใช้คนจำนวนมากคุ้มกันสถานที่แห่งนี้ และตอนที่เขาเข้ามาที่นี่ทุกอย่างได้รับการคุ้มกันอย่างเข้มงวด แต่ตอนนี้กลับไม่พบเจอใครเลย
“ค่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะเข้าไปช่วยคุณได้ยังไงล่ะคะ”
ซ่างสยงเยี่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณคุณถังซวงมากนะครับ ผมจะจำความช่วยเหลือครั้งนี้ไว้ขึ้นใจ และในอนาคตผมจะตอบแทนอย่างแน่นอน”
“คุณซ่างคะ เรามาที่นี่เพื่อช่วยป้าเกอ คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก คุณแค่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบุญคุณหรือตอบแทนอะไรด้วย”
ซ่างสยงเยี่ยแทบสำลักเมื่อได้ยินอย่างนั้น จนเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ส่วนเกอชิงเหม่ยหันมองถังซวงอย่างขบขัน เธอรู้ว่าซวงเอ๋อร์กำลังตำหนิซ่างสยงเยี่ยที่เสียท่าถูกจับตัวมา แต่แน่นอนว่าเธอจะไม่พูดแย้ง เพราะซวงเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ถึงกับมาที่เมืองก่างเฉิงเพื่อช่วยเธอ อีกฝ่ายต้องใช้ความพยายามอย่างหนักแน่นอน มัวโต้เถียงกันตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อพวกเขากลับมาถึงที่พัก ถังซวงพาเกอชิงเหม่ยไปอาบน้ำ
“ป้าเกอ อาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวเราจะได้ไปหาอะไรทาน แล้วจะได้เข้านอนกัน”
“จ้ะ ๆ”
เกอชิงเหม่ยยกยิ้มก่อนจะเดินไปอาบน้ำ
อีกด้านหนึ่งโม่เจ๋อหยวนพาซ่างสยงเยี่ยไปทานอาหาร เขาหันมองซ่างสยงเยี่ยก่อนจะพูดว่า “คุณซ่างครับ คืนนี้คุณจะพักผ่อนที่นี่หรือว่าจะกลับบ้าน? ถ้ายังไง ผมจะได้จัดห้องไว้ให้”
หลังจากมีอะไรตกถึงท้อง ซ่างสยงเยี่ยพอมีแรงขึ้นมาบ้าง เขาพูดกับโม่เจ๋อหยวนว่า “ผมจะกลับไปก่อน ตอนนี้คงมีกองขยะรอผมกลับไปเก็บกวาดท่วมหัวแล้วแหละ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ซ่างสยงซานจะกลับมาทำอะไรคุณอีกหรือเปล่า?”
โม่เจ๋อหยวนกังวลว่าซ่างสยงเยี่ยจะถูกจับตัวไปอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาอาจจะต้องพบเจอกับเรื่องวุ่นวายไม่รู้จบ
ซ่างสยงเยี่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสหายโม่ที่เป็นห่วง แต่ไม่ต้องกังวลหรอกครับ คราวที่แล้วเป็นเพราะผมประมาทเกินไปเลยถูกซ่างสยงซานจับตัวได้ แต่คราวนี้จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแน่นอน ผมจะจัดการเขาทบต้นทบดอกเลยละครับ”
เมื่อเห็นซ่างสยงเยี่ยกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ โม่เจ๋อหยวนจึงไม่พูดอะไรต่อ
“งั้นผมจะให้คนของผมไปส่งนะครับ”
เฟิงเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างยืนขึ้นพร้อมกับไปส่งซ่างสยงเยี่ย
เมื่อเดินออกมาถึงประตู ซ่างสยงเยี่ยหันมองไปที่ชั้นสองก่อนจะหันมองโม่เจ๋อหยวน “สหายโม่ รบกวนคุณดูแลชิงเหม่ยด้วยนะครับ หลังจากผมสะสางเรื่องครอบครัวเสร็จ ผมจะไปหาเธอด้วยตัวเอง”
โม่เจ๋อหยวนเลิกคิ้วก่อนจะพูดว่า “ป้าเกอคือป้าของพวกเรา ต่อให้คุณซ่างไม่บอก ผมจะดูแลเธออย่างดีแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ครับ ผมเชื่อว่าคุณจะดูแลชิงเหม่ยอย่างดี” ซ่างสยงเยี่ยขอบคุณโม่เจ๋อหยวนจากใจจริงก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป
เฟิงเยี่ยหานมองแผ่นหลังของซ่างสยงเยี่ยแล้วหันกลับมามองโม่เจ๋อหยวน “เราเจอตัวป้าเกอแล้ว เราจะกลับเมื่อไหร่?”
ใจของเฟิงเยี่ยหานไม่ต่างอะไรกับลูกศร สิ่งที่เขาต้องการเวลานี้คือพาเกอชิงเหม่ยกลับไปที่เมืองหลวง เพื่อที่เขาจะได้เจอกับถังเซวี่ยเร็ว ๆ
………………………………………………