บทที่ 448 สงวนท่าทีหน่อย
บทที่ 448 สงวนท่าทีหน่อย
โม่เจ๋อหยวนถึงกับชำเลืองมองเฟิงเยี่ยหาน “เราน่าจะพักผ่อนกันต่อสักหน่อย ถ้าคุณรีบก็กลับไปเมืองไห่เฉิงก่อนก็ได้”
แต่สีหน้าของเฟิงเยี่ยหานกลับดูสดใสขึ้นเล็กน้อย เขามองโม่เจ๋อหยวนด้วยแววตาเป็นประกายก่อนจะโต้กลับว่า “นายก็รู้นี่ว่าฉันอยากเจอเสี่ยวเซวี่ย จะให้ฉันกลับเมืองไห่เฉิงได้ยังไง? ในเมื่อพวกนายจะอยู่ที่นี่ต่อสักหน่อย งั้นฉันก็จะอยู่ด้วย”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินแล้วก็กล่าวอย่างขบขัน “คุณอยากเจอเสี่ยวเซวี่ยขนาดนั้นเชียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นคงต้องพยายามให้มากหน่อย เพื่อให้ลุงจิงกับคนอื่น ๆ ยอมรับ แล้วจะได้คบเสี่ยวเซวี่ยสักที”
เขาค่อนข้างสนิทกับเฟิงเยี่ยหาน จึงยินดีหากเฟิงเยี่ยหานกับถังเซวี่ยจะคบหากัน
เฟิงเยี่ยหานที่ได้ยินโม่เจ๋อหยวนพูดอย่างนั้น ก็ยกยิ้มมุมปากบาง ๆ ก่อนจะกล่าวตอบ “ขอบคุณ หวังว่าอีกไม่นานฉันคงได้เรียกนายว่าพี่เขยนะ”
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มก่อนจะจับมือกันราวกับทำข้อตกลงบางอย่าง ความสนิทสนมเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
อีกฟากหนึ่ง หลังจากเกอชิงเหม่ยชำระล้างร่างกายเสร็จแล้ว ถังซวงพาเธอลงไปทานอาหารที่ชั้นล่าง
เมื่อโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานเห็นทั้งสองคน พวกเขารีบจัดแจงอาหารอย่างเร่งรีบ “ป้าเกอ ซวงเอ๋อร์ กินอะไรก่อนเถอะครับ พวกผมกินเรียบร้อยแล้ว”
เกอชิงเหม่ยนั่งลงก่อนจะมองไปรอบ ๆ
โม่เจ๋อหยวนเข้าใจมันได้ในทันที “ป้าเกอครับ คุณซ่างกลับไปแล้ว เขาบอกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องไปสะสางให้เสร็จ แล้วเขาบอกไว้ว่า… ให้พวกเราดูแลคุณป้าให้ดี แล้วเขาจะมาหาป้าอีกครั้งครับ”
ได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของเกอชิงเหม่ยแดงเรื่อเล็กน้อย
ซ่างสยงเยี่ยเขาพูดราวกับว่าเธอตกเป็นของเขาแล้ว นี่เขาพูดแบบนี้กับเด็ก ๆ พวกนี้ได้อย่างไรกัน
เห็นท่าทางของเกอชิงเหม่ย ถังซวงเองก็สัมผัสได้ว่าหล่อนก็ห่วงใยซ่างสยงเยี่ยมาก ไม่อย่างนั้นหล่อนจะไม่แสดงท่าทีเช่นนี้แน่นอน ถังซวงจึงไม่พูดอะไร และชวนให้เกอชิงเหม่ยทานอาหาร
ระหว่างมื้ออาหาร เกอชิงเหม่ยถามไถ่ถึงเรื่องในเมืองหลวง
“ซวงเอ๋อร์ อาจารย์กับทุกคนสบายดีไหม แม่ของเธอน่าจะคลอดเร็ว ๆ นี้ ฉันบอกว่าฉันจะกลับไปก่อนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่ฉันก็ทำไม่ได้ และฉันก็หวังว่าจะกลับไปอยู่กับอาหลานในช่วงที่เธอคลอดลูกได้นะ”
ถังซวงตอบกลับว่า “ป้าเกอคะ แม่คลอดแล้วค่ะ”
“อะ… อะไรนะ…”
เกอชิงเหม่ยประหลาดใจมาก “คลอดแล้วหรือ? แล้วนี่อาหลานกับเด็ก ๆ สบายดีไหม?”
“ป้าเกอไม่ต้องห่วงนะคะ ทั้งแม่กับน้อง ๆ สบายดีค่ะ”
“ดีแล้วจ้ะ”
เกอชิงเหม่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วลูกของอาหลานเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรือ?”
“แฝดชายหญิงค่ะ”
ได้ยินถังซวงตอบกลับอย่างนั้น เกอชิงเหม่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธออุทานออกมา “จริงหรือ? มีลูกชายลูกสาวในคราวเดียว สุดยอดจริง ๆ” เธอนึกบางอย่างได้พร้อมหงุดหงิดตัวเอง “เฮ้อ… ฉันกลับไปไม่ทันส่งพวกเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วก็ยังไม่ทันอาหลานคลอดลูกอีกหรือเนี่ย”
“แต่คราวนี้กลับไปทันงานเลี้ยงครบหนึ่งเดือนนะคะ”
ถังซวงยิ้มก่อนจะชวนให้เกอชิงเหม่ยทานอาหารต่อ หลังจากทั้งสองกินข้าวเสร็จแล้วก็เช้าพอดี พวกเธอจึงแยกย้ายไปพักผ่อน
ถังซวงตื่นขึ้นอีกครั้งก็เกือบเที่ยงวัน หายากมากที่เธอจะได้นอนนาน ๆ
โม่เจ๋อหยวนที่เห็นถังซวงตื่นแล้ว เขาเดินเข้าหาเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะถามว่า “ซวงเอ๋อร์ หิวไหม? อาหารพร้อมแล้ว รีบไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเถอะ”
ถังซวงลูบเส้นผมยุ่งเหยิงของตัวเองก่อนจะถามว่า “ป้าเกออยู่ไหนหรือคะ? เธอตื่นรึยังคะ?”
“ป้าเกอก็ตื่นแล้ว วันนี้ทุกคนตื่นสายกันหมด มากินข้าวกลางวันกันเถอะแล้วค่อยไปบ้านคุณลุงหลังจากมื้ออาหารนะ”
ถังซวงพยักหน้ารับ “ค่ะ”
หลังจากทุกคนนั่งลง พวกเขาเริ่มกินอาหาร แต่ก่อนที่พวกเขาจะกิน กลับมีคนมาเคาะประตูและมาส่งอาหารจานพิเศษให้
“ขอโทษครับ คุณซ่างขอให้ผมมาส่งอาหารให้พวกคุณ หวังว่าจะทันเวลานะครับ”
คนสนิทของซ่างสยงเยี่ยมาส่งอาหาร ทั้งที่คิดว่าเขามาเร็วแล้ว แต่ไม่คิดว่าถังซวงและเกอชิงเหม่ยจะรับประทานมื้อเที่ยงเร็วขนาดนี้
เมื่อมองอาหารตรงหน้า ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“คุณซ่างอีกแล้ว แต่พวกเรากินกันจะเสร็จแล้วละค่ะ ฝากบอกเขาว่าคราวหน้าพวกเราขอไม่รบกวนดีกว่า”
คนสนิทไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงบอกว่า “ครับ คราวหน้าผมจะส่งมันให้เร็วกว่านี้”
เพราะคนพวกนี้ช่วยซ่างสยงเยี่ยให้รอดพ้นจากวิกฤติ ดังนั้นไม่ว่าจะต้องให้ลดศักดิ์ศรีลงมากแค่ไหน พวกเขาก็ยินดีจะทำ
ยิ่งกว่านั้น เกอชิงเหม่ยเองก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมฝ่าฟันในครั้งนี้ด้วย
คนสนิทของพวกเขาไม่กี่คนที่รู้ถึงความรู้สึกของซ่างสยงเยี่ยที่มีต่อเกอชิงเหม่ย และเกอชิงเหม่ยต้องเป็นคนที่ขึ้นเป็นนายหญิงของพวกเขาในอนาคต พวกเขาจึงปฏิบัติต่อเธออย่างดี
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมลดตัวเช่นนี้แล้ว ถังซวงจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
โม่เจ๋อหยวนยิ้มก่อนจะหันมาพูดกับชายคนนั้น “คุณซ่างใจดีจัง อาหารพวกนี้น่าอร่อยมาก เดี๋ยวพวกเราจะชิมนะครับ”
“งั้นผมไม่รบกวนเวลาทานอาหารของพวกคุณแล้วครับ”
ชายคนนั้นรีบออกไปทันทีหลังพูดจบ
เฟิงเยี่ยหานเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะมองที่จานอาหารตรงหน้า “ดูเหมือนคุณซ่างจะใส่ใจมากเลยนะ อาหารยังร้อนอยู่เลย หาทานได้ยากด้วย เขาคงจะสั่งทำล่วงหน้าให้เสร็จทันก่อนมื้อเที่ยง”
ถังซวงเองก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน เธอขยับตะเกียบก่อนเป็นคนแรก ลองชิมอาหารทีละจานก่อนจะพยักหน้า “อร่อย ปลอดภัย ทานได้ค่ะ”
เกอชิงเหม่ยเห็นถังซวงลองชิมอาหารแล้วก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“ซวงเอ๋อร์ จะทดสอบอาหารพวกนี้ไปทำไม? ซ่างสยงเยี่ยไม่มีทางทำร้ายพวกเราหรอกจ้ะ”
“คุณซ่างไม่ทำร้ายพวกเราแน่นอน แต่เขาไม่ได้จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ฉันเลยกลัวว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาอีก” แน่นอน ถังซวงเชื่อในตัวของซ่างสยงเยี่ย แต่ว่าผู้ชายที่มาส่งอาหารเป็นคนที่เธอไม่เคยเห็นหน้า และเธอไม่รู้ว่ารอบตัวของซ่างสยงเยี่ยยังมีอันตรายอะไรซุกซ่อนอยู่อีกไหม จึงควรจะระวังตัวไว้ก่อน
ถังซวงเชิญชวนทุกคนให้ทานอาหาร
“ลองชิมเร็วเข้าสิ อาหารพวกนี้อร่อยจริง ๆ นะ โดยเฉพาะซุปเต้าหู้เหวินซือ รสชาติดีมากเลยละ”
คนอื่น ๆ พยักหน้าก่อนจะเริ่มรับประทาน จากนั้นจึงอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “อื้ม มันอร่อยจริง ๆ ด้วย”
เฟิงเยี่ยหานและโม่เจ๋อหยวนที่กินเกือบจะอิ่มแล้ว ก็ต้องตักข้าวเพิ่มอีกชาม แม้แต่ถังซวงและเกอชิงเหม่ยเองก็ยังกินข้าวเพิ่มอีกครึ่งชาม
หลังจากรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ถังซวงหันมองเกอชิงเหม่ยก่อนจะพูดว่า “ป้าเกอคะ ไปบ้านลุงสักวันสองวันแล้วเราค่อยกลับเมืองหลวงกัน แบบนี้ดีไหมคะ?”
เกอชิงเหม่ยพยักหน้า “จ้ะ ตั้งแต่ที่ป้ามาที่ก่างเฉิง ป้ายังคิดอยู่เลยว่าจะไปเยี่ยมคุณเฮ่อกับทุกคนเหมือนกัน”
หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลเฮ่อทันที
เมื่อผู้เฒ่าเฮ่อเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ มาเยี่ยม เขามีความสุขจนยิ้มกว้างถึงใบหู “ซวงเอ๋อร์ คราวนี้อยู่พักผ่อนที่นี่สักสองสามวันนะ”