บทที่ 459 ยอมรับ
บทที่ 459 ยอมรับ
ถังซวงมองตามหลังเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ยที่เดินออกไป อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วบ่นพึมพำ “ดูเหมือนว่าป้าเกอจะหลงรักซ่างสยงเยี่ยจริง ๆ แล้วละ อีกอย่างยังพาเขาไปพบคุณยายซูด้วย แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นการพบปะผู้อาวุโสหรือเปล่านะ”
โม่เจ๋อหยวนที่ได้ยินก็ยกยิ้ม “ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ตอนที่ป้าเกอพบกับหลิวก่วงซิ่วเธอยังเด็กมาก จึงยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการแต่งงานหรือความรัก ตอนนี้ได้พบกับซ่างสยงเยี่ย เธอมีความรักและคิดได้ด้วยตัวเอง ถ้าทั้งสองคนแต่งงานกัน ป้าเกอจะได้มีคนดูแลไงล่ะ”
ถังซวงพยักหน้า “ค่ะ ป้าเกออยู่คนเดียวมาตลอด ในที่สุดก็ได้ลงเอยกับซ่างสยงเยี่ย ฉันจะสนับสนุนพวกเขาแน่นอน”
ถังชุนหยานที่อยู่ด้านข้างก็นึกอวยพรให้กับเกอชิงเหม่ยด้วยเหมือนกัน แต่จู่ ๆ เธอก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“แต่… คุณชายซ่างมาจากเมืองก่างเฉิง แล้วในอนาคตป้าเกอจะไปอยู่ที่เมืองก่างเฉิงไหมคะ?”
ถังซวงส่ายศีรษะ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องให้ป้าเกอตัดสินใจแล้วละ”
อีกด้านหนึ่ง เกอชิงเหม่ยพาซ่างสยงเยี่ยมาพบกับซูเหนียนอวิ๋น
“ชิงเหม่ย ถ้าผมไปหาอาจารย์ของคุณในชุดนี้จะเป็นอะไรไหมครับ? หรือผมควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดี?” เมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง จู่ ๆ ซ่างสยงเยี่ยก็ถามขึ้นมาอย่างประหม่า
ส่วนเกอชิงเหม่ยที่เห็นความกังวลของซ่างสยงเยี่ย เพียงยกยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณดูดีมากแล้ว เราไปกันเถอะ”
ยิ่งใกล้มากเท่าไหร่ ซ่างสยงเยี่ยยิ่งประหม่า
“ผม… ซื้อของขวัญมาพอหรือเปล่า หรือผมควรจะไปซื้อเพิ่มดี?”
เกอชิงเหม่ยมองของมากมายในมือเขาก่อนจะพูดว่า “พอแล้วละค่ะ แต่ถ้าคุณกังวลจริง ๆ คุณค่อยไปพบอาจารย์วันอื่นก็ได้นะ”
“ไม่ล่ะครับ วันนี้แหละ”
เขาอยากพบเจออาจารย์โดยเร็วที่สุด ซ่างสยงเยี่ยสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าท่าทาง และเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกอชิงเหม่ย
ซูเหนียนอวิ๋นเห็นว่าเกอชิงเหม่ยกลับมาเร็วเกินไป อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“ชิงเหม่ย เธอไม่ได้ไปช่วยอาหลานเตรียมงานหรือ? ทำไมกลับมาเร็วจัง? หรือว่าทำงานเสร็จหมดแล้ว?” ทว่าซูเหนียนอวิ๋นเห็นว่าซ่างสยงเยี่ยเดินตามหลังมาพร้อมรอยยิ้ม จึงหันไปมองเกอชิงเหม่ยอีกครั้งก่อนจะชวนซ่างสยงเยี่ยเข้ามานั่งด้านใน “คุณซ่าง เข้ามาข้างในก่อนค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยเองสุภาพกับซูเหนียนอวิ๋นเสมอมา และตอนนี้เขากับเกอชิงเหม่ยพัฒนาความสัมพันธ์กันแล้ว เขายิ่งเคารพเธอมากขึ้นกว่าเดิม
“อาจารย์ วันนี้ผมมาที่นี่ในฐานะคนรักของชิงเหม่ย อย่างนั้นเรียกผมว่าเสี่ยวซ่างก็พอครับ” ขณะพูด ซ่างสยงเยี่ยมอบของขวัญในมืออย่างสุภาพ
ซูเหนียนอวิ๋นได้ยินอย่างนั้น ก็ยกยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ฉันรู้แล้วละ ชิงเหม่ยเคยบอกเรื่องนี้กับฉันก่อนแล้ว อย่างนั้นฉันจะเรียกคุณว่าสยงเยี่ยแล้วกัน”
“ครับ”
ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้ารับ “แล้วลุงหลี่ไม่อยู่บ้านหรือครับ?” เขาเองรู้เรื่องของซูเหนียนอวิ๋นกับหลี่จงอี้แล้ว ดังนั้นในอนาคตหลี่จงอี้ก็จะเป็นพี่เขยของเขา
ทันทีที่พูดจบ หลี่จงอี้เดินเข้ามา ชายชราเผยความประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นซ่างสยงเยี่ยอยู่ที่นี่
“สหายซ่าง คุณก็มาเมืองหลวงด้วยหรือ” แม้ซูเหนียนอวิ๋นจะเคยบอกเรื่องของเกอชิงเหม่ยกับซ่างสยงเยี่ย แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้พบกับซ่างสยงเยี่ยในเร็ววัน
ซ่างสยงเยี่ยรีบก้าวไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวอย่างสุภาพ “สวัสดีครับลุงหลี่ ผมมาเยี่ยมคุณครับ”
หลี่จงอี้พยักหน้ารับ และยอมรับความจริงใจของอีกฝ่าย
“งั้นเข้ามานั่งก่อนสิ”
หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นเดินนำเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ยเข้าไปที่ห้องโถงรับแขก
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว เกอชิงเหม่ยเริ่มชงชา
เวลานี้หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นลอบมองซ่างสยงเยี่ยตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก่อนจะลอบพยักหน้าในใจ
ไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากมาย รูปร่างหน้าตาของซ่างสยงเยี่ยนับว่าดูดี แม้จะอายุสามสิบแล้ว แต่รูปร่างยังดี สูง ไม่อ้วน เมื่อยืนเคียงข้างกับเกอชิงเหม่ยนับว่าเหมาะสมกันมาก
ส่วนซ่างสยงเยี่ยรู้ดีว่าเวลานี้ซูเหนียนอวิ๋นกับหลี่จงอี้กำลังพิจารณาเขากับเกอชิงเหม่ย เขาจึงพยายามนั่งนิ่ง ๆ ปล่อยให้ทั้งสองสำรวจตามใจชอบ
หลังจากหลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นละสายตาไป ซ่างสยงเยี่ยจึงพูดขึ้นว่า “อาจารย์ คุณลุงหลี่ คราวนี้ผมมาเยี่ยมพวกคุณในฐานะคนรักของชิงเหม่ย และหวังว่าพวกคุณจะไว้วางใจให้กับผมและชิงเหม่ยคบหากัน ผมจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอย่างแน่นอนครับ”
หลี่จงอี้โบกมือก่อนจะพูดต่อว่า “เรื่องคำพูด ไม่ว่าใครก็พูดได้ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกัน”
ซูเหนียนอวิ๋นพยักหน้า “ใช่ คุณไม่จำเป็นต้องสัญญาอะไรกับเรา ตราบใดที่คุณปฏิบัติต่อชิงเหม่ยอย่างดี เวลาจะบอกพวกเราเอง”
แต่ความจริงแล้ว เธอเองก็ลอบยินดีที่ศิษย์คนโตได้พบคู่ครองที่ดี อีกทั้งตัวเธอก็คุ้นเคยกับซ่างสยงเยี่ย เขาเป็นคนดีจริง ๆ หากว่าทั้งสองชอบพอกันและลงเอยกันในอนาคต มันคงยอดเยี่ยมมาก
“สยงเยี่ย ฉันจะไม่พูดอะไรมาก และไม่คิดคัดค้านคุณกับชิงเหม่ย ตราบใดที่พวกคุณสองคนรักกัน เราก็ยินดี แต่ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่าถ้าหากวันใดคุณปฏิบัติต่อชิงเหม่ยของเราอย่างเลวร้าย เราก็จะไม่เกรงใจคุณเหมือนกัน”
“อาจารย์ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลชิงเหม่ยอย่างดีแน่นอน”
เดิมทีซ่างสยงเยี่ยคิดว่าตนคงต้องโดนทดสอบ แต่เขาไม่คิดว่าซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้จะเป็นคนมีเหตุผลและไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้เขาเลยอย่างนี้
เมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นและความจริงใจของซ่างสยงเยี่ย ซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้ก็ทำได้เพียงยอมรับ
ส่วนเกอชิงเหม่ยที่ได้ยินคำยืนยันของซ่างสยงเยี่ย แววตาของเธอเปล่งประกายความสุข
เธอยังจำเรื่องราวที่เกิดในเมืองก่างเฉิงได้เป็นอย่างดี ซ่างสยงเยี่ยยอมมอบตราประจำตระกูลเพื่อช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เวลานั้นเขาเห็นเธอสำคัญกว่าตราประจำตระกูลเสียอีก เพราะเหตุผลนี้เธอจึงยอมคบหากับเขา และเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเข้ากันได้ดี
อย่างไรก็ตาม หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นนึกขึ้นได้ว่าซ่างสยงเยี่ยมาจากเมืองก่างเฉิง จึงหันไปถามเกอชิงเหม่ยอย่างอดไม่ได้ “ชิงเหม่ย แล้วเธอจะไปเมืองก่างเฉิงกับซ่างสยงเยี่ยหรือเปล่า?”
เกอชิงเหม่ยเองก็หนักใจเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เธอส่ายศีรษะ “อาจารย์ คุณลุงหลี่ ฉันยังไม่ออกจากเมืองหลวงในเร็ว ๆ นี้หรอกค่ะ ทั้งสองคนไม่ต้องกังวล”
ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้ารับเช่นกัน “ครับ อาจารย์ ลุงหลี่ ชิงเหม่ยจะอยู่ในเมืองหลวงกับพวกคุณต่อไปอีกสักพัก”
ได้ยินอย่างนั้นซูเหนียนอวิ๋นจึงพยักหน้ารับด้วยความพอใจ “อืม อย่างนั้นก็ดีแล้วละ”
แม้แต่หลี่จงอี้ยังรู้สึกพอใจ จึงกล่าวเชิญชวน “สยงเยี่ย งั้นเรามาพูดคุยกันต่อเถอะนะ”
“ครับ”
ซ่างสยงเยี่ยกล่าวตอบรับพร้อมยิ้มกว้าง
ที่ซ่างสยงเยี่ยยอมเดินทางไกลเช่นนี้ มันทำให้ซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้พึงพอใจในตัวเขามาก
เกอชิงเหม่ยมองดูซ่างสยงเยี่ยพูดคุยกับอาจารย์และลุงหลี่อย่างมีความสุข แต่เธอก็ยังไม่ลืมเฮ่อหลาน หลังจากพูดคุยกับซูเหนียนอวิ๋นเสร็จแล้ว เธอพาซ่างสยงเยี่ยกลับมาที่บ้านตระกูลจิงอีกครั้ง
“ชิงเหม่ย อาจารย์ของคุณกับลุงหลี่เป็นคนดีมากเลยครับ”
ได้ยินอย่างนั้น เกอชิงเหม่ยยิ้มก่อนจะตอบว่า “อาจารย์กับลุงหลี่เป็นคนดีจริง ๆ ค่ะ แต่ว่าคุณเพิ่งจะมาเมืองหลวงวันนี้ ควรพักผ่อนสักหน่อยนะคะ”
………………………………………………