บทที่ 460 งานฉลองครบเดือน
บทที่ 460 งานฉลองครบเดือน
หลังจากเร่งสะสางงานแล้วมาที่เมืองหลวง เขายังต้องใช้พลังงานในการมาพบอาวุโสเช่นซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้ด้วย ซ่างสยงเยี่ยจึงเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยแล้ว เขาพยักหน้าตอบรับ “ครับ”
ตระกูลจิงตระเตรียมห้องพักสำหรับเขาเรียบร้อยแล้ว เกอชิงเหม่ยจึงพาซ่างสยงเยี่ยไปพักผ่อน
หลังจากให้ซ่างสยงเยี่ยพักผ่อนแล้ว เกอชิงเหม่ยก็กลับไปที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อช่วยห่อของขวัญต่อ
“ซวงเอ๋อร์ พวกเธอจัดการกันเร็วจัง ตอนที่ฉันออกไปยังเหลืออีกตั้งเยอะ”
เมื่อเห็นกล่องของขวัญส่วนใหญ่ถูกห่อเรียบร้อยแล้ว เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะชื่นชมออกมา
ถังซวงยิ้ม “ทำไปสักพักก็ชินค่ะ แล้วมันก็เร็วขึ้นเอง” แต่หญิงสาวยังคงสงสัย “ป้าเกอ คุณยายซูคิดยังไงกับคุณซ่างหรือคะ? เธอเห็นด้วยกับพวกคุณสองคนไหม?”
เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะเขินอาย “ทำไมเด็ก ๆ ถึงมีคำถามมากมายนักเนี่ย?”
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ อีกอย่างฉันก็หมั้นกับอาหยวนแล้วด้วย”
“จ้ะ ๆ เธอไม่ใช่เด็กแล้ว อย่างนั้นป้าจะบอกก็ได้ อาจารย์ไม่คัดค้านเรื่องของป้ากับสยงเยี่ยแล้วละ ไม่ต้องคาดเดาอะไรแล้ว”
ถังซวงยิ้มก่อนจะกล่าวแสดงความยินดี “ยินดีกับป้าเกอกับคุณซ่างด้วยนะคะ ฉันหวังว่าอนาคตจะมีโอกาสได้เรียกหาเขาว่าคุณลุงซ่างนะ”
เกอชิงเหม่ยรู้สึกเขินอายเพราะคำพูดของถังซวง เธอผลักอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “รีบห่อของขวัญกันต่อเถอะ”
ทุกคนจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็ว หลังจากบรรจุทุกอย่างลงกล่องของขวัญแล้ว พวกเขาเริ่มจัดเรียงทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง
ขณะนี้ เฮ่อหลานเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “พี่สาว ซวงเอ๋อร์ ทำไมพวกคุณรวดเร็วขนาดนี้ล่ะ”
“อาหลาน พรุ่งนี้เธอไม่ต้องกังวลแล้วนะ ตระกูลเฮ่อของเราเตรียมการไว้หมดแล้ว”
เฮ่อหลานพยักหน้ารับ “ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วละ”
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว อาหลานอย่างนั้นฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ”
“ค่า”
เฮ่อหลานพยักหน้ารับทันที
หลังจากซ่างสยงเยี่ยเข้ามาพร้อมกับครอบครัวของเฮ่อจื่อกุย เฟิงเยี่ยหานที่เพิ่งสะสางงานของตนเสร็จมาที่เมืองหลวงเช่นกัน ซึ่งถังเซวี่ยก็ไปรอรับเขาด้วย
“เฟิงเยี่ยหาน ทางนี้ค่ะ”
เฟิงเยี่ยหานเห็นถังเซวี่ยท่ามกลางลมหนาว กำลังกวักมือเรียกเขา ชายหนุ่มก็พุ่งตัวเข้าหาเธออย่างรวดเร็วก่อนจะปลดผ้าพันคอของตัวเองแล้วสวมใส่ให้เธอแทน “ทำไมคุณใส่เสื้อผ้าบาง ๆ แบบนี้ล่ะ? ไม่ต้องออกมารับผมก็ได้ ยังไงผมก็ไปหาคุณอยู่แล้วนะครับ”
ผ้าพันคอยังมีความอบอุ่นจากร่างกายของเฟิงเยี่ยหานอยู่ ซึ่งถังเซวี่ยสัมผัสถึงความอบอุ่นนั้นได้ ก่อนจะกล่าวตอบแผ่วเบา “ก็… ฉันไม่ได้หนาวสักหน่อย” จากนั้นเธอเปลี่ยนเรื่องทันที เธอดึงเฟิงเยี่ยหานให้ตามมาก่อนจะพูดว่า “ไปกันเถอะ รถรออยู่ข้างนอก”
“อื้ม”
เฟิงเยี่ยหานปล่อยให้ถังเซวี่ยจูงมือเขาขึ้นรถ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่บ้านตระกูลจิงทันที
“พี่เฟิง มาแล้วหรือครับ”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวทักทายเฟิงเยี่ยหานทันที
เฟิงเยี่ยหานก้าวไปด้านหน้าเพื่อทักทายโม่เจ๋อหยวนและคนอื่น ๆ ทีละคน แต่เพราะมีหลายคนที่อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลจิง เฟิงเยี่ยหานจึงใช้เวลาทักทายค่อนข้างนานพอสมควร
คุณนายจิงมีความสุขมากที่ได้พบเจอกับเฟิงเยี่ยหานอีกครั้ง เธอจัดห้องเตรียมไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว “เสี่ยวเซวี่ย พาเสี่ยวเยี่ยไปเก็บข้าวเก็บของก่อนแล้วกันนะจ๊ะ เดี๋ยวมากินข้าวกัน”
“ค่ะ”
ถังเซวี่ยตอบรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาเฟิงเยี่ยหานไปยังลานบ้านที่เขาเคยพักก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นทั้งสองกลับมายังห้องโถงด้านหน้า และเห็นว่าอาหารถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะแล้ว ทุกคนจึงนั่งลงเพื่อรับประทานอาหารร่วมกันในบรรยากาศชื่นมื่น
วันที่สาม หลังจากเฟิงเยี่ยหานมาที่เมืองหลวง งานเลี้ยงครบเดือนสำหรับเด็กน้อยฝาแฝดก็เริ่มต้นขึ้น
ถังซวงและถังเซวี่ยตื่นแต่เช้า ทั้งสองไปที่ลานบ้านของเฮ่อหลานด้วยกัน และพบว่าเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงตื่นแล้ว
“พ่อคะ แม่คะ รีบไปจัดการธุระตัวเองเร็วเข้า เดี๋ยวหนูกับเสี่ยวเซวี่ยจะดูแลน้อง ๆ ให้เอง”
วันนี้เฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงค่อนข้างยุ่ง จึงให้เด็กทั้งสองคนช่วยดูแลทารกฝาแฝดก่อนที่จะออกไปจัดการเรื่องวุ่นวายด้านนอก
ถังเซวี่ยมองดูฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยที่กำลังนอนหลับตาพริ้มก่อนจะหันไปหาถังซวงแล้วกล่าวกระซิบว่า “พี่คะ ฉันว่าฟักขาวน้อยสวยมากเลย ส่วนฟักทองน้อยก็หล่อ ไม่คิดเลยว่าฟักขาวน้อยจะโตไวขนาดนี้ ถ้าโตขึ้นมาน้องต้องสวยมากแน่เลยค่ะ”
ถังซวงหัวเราะพร้อมกับตอบว่า “ใช่ ส่วนฟักทองน้อยก็ต้องหล่อมากเหมือนกัน”
สองพี่น้องกำลังพูดคุยกันเรื่องหน้าตาของฝาแฝดทั้งสอง แต่เวลานี้เด็กน้อยทั้งสองกลับตื่นขึ้น โชคดีที่พี่สาวทั้งสองคนรู้วิธีการว่าต้องทำสิ่งใด ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ขณะที่สองพี่น้องกำลังเล่นกับฝาแฝด โม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานเดินเข้ามาพร้อมกัน
“ว่าแล้วว่าพวกเธอต้องอยู่ที่นี่”
โม่เจ๋อหยวนเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม หลังจากทักทายถังซวงแล้ว เขาหันไปมองฟักขาวน้อยกับฟักทองน้อยก่อนจะยิ้มกว้าง “สาวน้อยฟักขาวน้อยกับหนุ่มน้อยฟักทองน้อยกำลังจะครบเดือนแล้ว พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีและไร้ซึ่งอุปสรรคใด ๆ แน่”
เฟิงเยี่ยหานเดินเข้ามาก่อนจะทักทายถังเซวี่ยและมองเด็กน้อยทั้งสอง รอยยิ้มที่เห็นได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นชา “สวัสดีเด็ก ๆ ฉันชื่อเฟิงเยี่ยหานนะ”
เด็กน้อยทั้งสองได้ยินเสียงทักทายจากเฟิงเยี่ยหาน จึงกล่าวเจื้อยแจ้วไม่หยุด
เฟิงเยี่ยหานเห็นอย่างนั้น ก็หยอกล้อกับเด็กทั้งสองคนอย่างเอ็นดู “พวกเธอพูดอะไรหรือ ฉันไม่เข้าใจหรอก เอาไว้โตกว่านี้อีกหน่อยแล้วเรามาเล่นกันนะ”
ทุกคนเพิ่งเคยเห็นเฟิงเยี่ยหานในมุมที่อ่อนโยนซึ่งแตกต่างจากบุคลิกของเขาอย่างมาก เขากลายเป็นคนอบอุ่น ใจดี และขับให้เขาดูดีมากขึ้นไปอีก
ทุกคนกำลังหยอกล้อกับเด็กน้อยอย่างสนุกสนาน พวกเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว
เมื่อถึงเวลา เฮ่อหลานกลับมาอีกครั้ง เห็นว่าถังซวงและคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่กันหมด “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวแม่จะพาฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยไปร้านอาหารนะ”
เห็นความกังวลของเฮ่อหลาน ถังซวงเลยรีบพูดขึ้นว่า “แม่คะ เดี๋ยวเราพาน้อง ๆ ไปกับเราก็ได้ แม่จะได้ทำอะไร ๆ สะดวก”
ถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานอยู่ด้วยกัน มันทำให้เฮ่อหลานผ่อนคลายจิตใจก่อนจะตอบกลับ “จ้ะ อย่างนั้นแม่ฝากดูแลน้อง ๆ ด้วยนะ ถึงเวลาก็พาเขาไปที่ห้องอาหารได้เลย”
“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ พวกเราจะดูแลน้อง ๆ อย่างดี และไปทันเวลาแน่นอน”
เฮ่อหลานที่มีบางอย่างต้องทำ กล่าวฝากฝังอีกสองสามคำก่อนจะเดินออกไป
“พี่คะ เราไปที่โรงแรมกันตอนนี้เลยดีไหม?”
ถังซวงส่ายศีรษะก่อนจะตอบว่า “ยังหรอก เดี๋ยวเราไปจัดของให้กับน้องก่อนดีกว่า”
“จริงด้วย เราต้องไปเก็บของก่อนนี่นา”
ถังเซวี่ยลืมไปเสียสนิท แต่โชคดีที่พี่สาวยังนึกขึ้นได้
หลังจากที่นำของจำเป็นของเด็ก ๆ มาแล้ว พวกเขาก็ตรงไปที่ร้านอาหารทันที
ตอนนี้เฮ่อหลานและจิงเจ้อหรงยืนอยู่ที่ประตูคอยต้อนรับแขกที่มางานเลี้ยงครบเดือนด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ กำลังมา พวกเขาก็โบกมือให้ “ซวงเอ๋อร์ มาแล้วหรือจ๊ะ”
………………………………………………