Low Dimensional Game – เกมส์แห่งโลกมิติ – ตอนที่ 35

ลูซีหยูเดินออกจากสถานีตำรวจในเมืองเล็กที่เมืองนานหยัน จังหวัดชหวน เค้าติดต่อกับเพื่อของเค้าที่ขายตัวตนปลอมๆและจัดหารายชื่อของคนที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ เค้าต้องการชายสองสามคนที่มีอายุประมาณเค้าจากนั้นก็ไปที่เมืองที่เค้าอาศัยอยู่เพื่อขอบัตรประชาชน

วิธีการของลูซีหยูนั้นง่ายมาก สิ่งที่เค้าต้องทำคือสะกดจิตเจ้าหน้าที่ด้วยพลังจิตของเค้าเพื่อทำให้เค้าจะอนุมัติใบสมัครให้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะถ่ายภาพใหม่ของลูซีหยุและออกบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน

เค้าใช้พลังจิตของเค้าที่ส่งผลต่อเส้นประสาทของเจ้าหน้าที่จากนั้นก็ใช้สมองน้อยสร้างภาพที่เค้าต้องการให้เจ้าหน้าที่เห็นและส่งมันไปที่เส้นประสาท ดังนั้นอะไรก็ตามที่เค้าเห็นผ่านตาเค้าคือสิ่งที่ลูซีหยูอยากให้เค้าเห็น วิธีที่ลูซีหยูก็เหมือนกับการลวงตา คลิปจากกล้องวงจรปิดที่นี้เก็บไว้แค่ครึ่งปี มันคงจะยากที่ทุกคนจะมาตรวจสอบเค้าถ้าหากมีบางอย่างเกิดขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตามเพราะเค้าอยู่บนโลก เค้าไม่ได้มีพลังที่จะไปเที่ยวรอบจักรวาลได้อย่างที่ทำในthe Scroll of the World เค้าจะต้องเดินทางเหมือนคนปกติคนอื่น เค้าสร้างตัวตนใหม่ทั้งหมด4ตัวตน หลังจากนั้นเค้าก็ไปที่ธนาคารและปิดบัญชีทั้งหมดของเค้า แล้วเค้าก็สร้างบัญชีใหม่ภายใต้ตัวตนใหม่ของเค้า ตอนนี้ลูซีหยูมี4ตัวตนที่ต่างกันรวมถึงมีบัญชีธนาคารภายใต้ของแต่ละตัวตน

หลังจากเค้ามีบัญชีใหม่ เค้าเข้าไปในร้านแลกเปลี่ยนทองพร้อมกล่องลัง มีไม่กี่ที่ที่สามารถเปลี่ยนทองเป็นเงินสดได้ นักอัญมณีบางคนจะให้บริการเช่นนี้ แม้แต่ธนาคารบางแห่งก็รับซื้อทองจากลูกค้า แต่ร้านเหล่านี้มักจะมีเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของทอง ส่วนใหญ่จะรับแต่ทองคำที่บริสุทธิ์สูง ร้านหนึ่งที่ลูซีหยูไปค่อนข้างจะมีชื่อเสียงและเคร่งครัดมาก

ทองที่ลูซีหยูได้มาจากโลกของมาเรียซึ่งได้มาจากคลังที่เมืองแห่งทองคำ ในขณะที่เค้าใช้เวลา2สัปดาห์ในโลกแต่หลายร้อยปีผ่านไปในโลกของมาเรีย ราชวงศ์ทองคำสิ้นสุดลงแล้ว วังและวิหารแห่งแสงถูกลืม ลูซีหยูพบห้องใต้ดินและข้างในเป็นทองคำแท่งทั้งหมด แต่ทองคำแท่งเหล่านี้ล้วนได้รับการขัดเหลาโดยวิธีโบราณ ความบริสุทธิ์ของมันจึงไม่ได้มาตรฐานของโลก แต่ตราบใดที่ลูซีหยูควบคุมโลกของมาเรียได้มันก็ง่ายที่จะสร้างทอง

ชายวัยกลางคนจากร้านตรวจสอบสี เสียง และวัดความหนาแน่นของทองด้วยเครื่อง เค้าประเมินแท่งทองคำแต่ละชิ้นอย่างรอบคอบและพูดกับผู้จัดการเบาๆ ผู้จัดการพยักหน้าแล้วหันมาหาลูซีหยู “ทองเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานของเรา บริสุทธิ์แค่90% ฉันขอถามได้ไหมว่าไปได้ทองนี่มาจากไหน? ขอโทษสำหรับคำถามแต่ทองคำของคุณมีน้ำหนักมากกว่า50กิโลกรัม!”

“มันถูกส่งทอดผ่านครอบครัวของฉัน” ลูซีหยูตอบทันที “มันอยู่ในห้องใต้หลังคาเป็นเวลานาน” ชายคนนั้นพยักหน้า “โอ้ ไม่มีปัญหาแล้ว แต่เนื่องจากความบริสุทธิ์ของมันไม่ได้มาตรฐานของเรา เราจึงไม่สามารถจ่ายเงินให้คุณได้มากเท่าปกติ..”

ลูซีหยูกล่าวว่ามันถูกส่งทอดผ่านครอบครัวเพราะเค้ารู้ว่าจะไม่มีใครถามหรือขอใบรับรอง คนส่วนมากมักมีของล้ำค่าที่ส่งผ่านครอบครัวดังนั้นไม่แปลกที่จะไม่มีรับรอบ เค้าไม่เคยเห็นใครไม่ซื้อสิ่งเหล่านี้เพียงแค่เพราะมันไม่มีใบรับรอง ลูซีหยูได้ใช้พลังจิตของเค้าในการอ่านใจผู้จัดการเพื่อดูราคาที่เค้าจะขายให้และในที่สุดพวกเค้าก็ตกลงราคาได้ตามที่ลูซีหยูคาดหวัง หลังจากพวกเราตกลงกันแล้วลูซีหยูก็พูดขึ้นทันที “ฉันมีทองอีกในรถของฉัน ยังไงฉันก็อยู่ที่นี้แล้วทำไมฉันไม่ขายมันให้คุณละ?”

ผู้จัดการอ้าปากค้าง “คุณมีทองอีกมากเท่าไรกัน?”

ลูซีหยูตอบทันที “ไม่มาก ประมาณ100กิโลกรัม”

“ห้ะ!”

หลังจากข้อตกลงนี้ ลูซีหยูก็ไปตามเมืองต่างๆเพื่อแบ่งทองคำเกือบหนึ่งตันแล้วขายมันภายใต้ตัวตนทั้ง4ของเค้าและนำเงินไปใส่ในบัญชีหลายธนาคาร เงินในธนาคารทั้งหมดของเค้ามีจำนวนทั้งสิ้นประมาณสองร้อยสามสิบล้านหยวน

นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเห็นเงินมากขนาดนี้ มันไม่ได้รู้สึกยากที่จะได้รับความร่ำรวยเหล่านี้ หากไม่ใช่เพราะว่ากลัวที่จะเป็นจุดสังเกตเค้าสามารถผลิตทองได้มากกว่านี้อีกหลายตัน เพราะเค้าเป็นเจ้าของโลกของมาเรีย ทอง เงิน และเพชรเป็นเหมือนหญ้าที่อยู่ข้างถนน หาได้ง่าย ลูซีหยูขายทองหนึ่งตันในครั้งเดียวภายใต้ตัวตนทั้ง4 ความสนใจมากสุดที่เค้าได้รับคือจากผู้ซื้อทอง เค้าจะฝากเงินสองสามล้านในบัญชีของเค้าในครั้งเดียว มันอาจจะดูเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับคนทั่วไปแต่ในประเทศนี้ไม่มีใครสนใจหรอก!

เค้าเลือกตัวตนที่ชื่อ มู เทาและตัดสินใจว่านี่จะเป็นตัวตนที่เค้าจะใช้เป็นประจำ จากข้อมูลที่บันทึกไว้คนนี้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ เค้ายังไปเรียนที่ต่างประเทศอีกด้วย เค้าหายตัวไปในช่วงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมและไม่พบร่างของเค้า

เค้าเป็นคนสำคัญเกี่ยวกับศิลปะและไม่ค่อยมีเพื่อนมากมาย เค้าเรียนการวาดภาพสีน้ำมันในต่างประเทศ ในฐานะศิลปิน บุคลิกของเค้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป ลูซีหยูจึงตัดสินใจใช้ตัวตนนี้ในชีวิตประจำวัน ตัวตนอื่นๆจะถูกใช้เมื่อจำเป็น

เค้าใช้ชื่อมูเทาเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปที่บ้าน เค้าต้องการจบตัวตนของลูซีหยูไป ด้วยวิธีนี้จะเป็นอิสระจากลูซีหยูและไม่มีผลกระทบต่อครอบครัวและเพื่อนๆของเค้า

เค้ารู้สึกใจเต้นกับเงินสองร้อยล้าน เค้าบอกกับตัวเองว่าเค้าเป็นพระเจ้าที่สร้างโลกและสามารถจัดการกับโชคชะตาและเค้าไม่ควรใช้เงินนี้ อย่างไรก็ตามเค้ายังรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ามีเงินมากขนาดนี้ เค้ายังสร้างตัวตนใหม่4ตัวตนไว้เพื่อลบล้างอดีต เค้ารู้สึกเหมือนเค้าอยู่ในหนังฮอลีวูด ในthe Scroll of the World เค้าสามารถทำเป็นว่าเค้าเพียงแค่เล่นวิดีโอเกม แต่ที่นี่บนโลกนี้ โลกแห่งความจริง ลูซีหยูรู้สึกว่าเค้าอยู่ในระดับที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง!

บนเครื่องบินลูซีหยูรู้สึกกังวลและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าเค้าได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริงในขั้นตอนแรกในการเดินทางของชีวิตใหม่ของเค้า เมื่อเค้ากลับถึงบ้านเค้าเห็นว่ามีหลายสายจากเสียวลี เค้าไม่ได้ไปที่ร้านมาสักพักหนึ่งและเสียวลีก็ยุ่งมาก ทันทีที่เค้ารับโทรศัพท์เค้าก็ได้ยินเสียงโกรธของเสียวลี “เจ้านาย คุณไปอยู่ไหนมา?”

ลูซีหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เสียวลี มีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันอาจจะไม่สามารถไปที่ร้านตลอดได้แล้ว”

เสียวลีพูดด้วยความตกใจว่า “อะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับร้านหรอ?”

“ฉันไม่คิดว่าฉันมีเวลาให้มัน” ลูซีหยูพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ “ถ้าคุณสนใจ คุณสามารถมีร้านได้ คุณดูแลร้านได้ดี ความจริงแล้วฉันซื้อร้านนี้เพราะฉันเบื่อและอยากมีอะไรทำ คุณมีหน้าที่ดูแลร้านเป็นส่วนใหญ่ มันคงยากสำหรับคุณ!”

“ห้ะ?” เสียวลีพูดและรู้สึกช็อค “แต่ฉันไม่มี…”

“คุณไม่ต้องจ่ายเงินให้ฉันหรอก” ลูซีหยุกล่าว “มันเป็นของขวัญอย่างที่ฉันพูด ฉันไม่ได้จ่ายไปมากสำหรับร้าน ฉันไม่ต้องการอะไรในร้านและไม่มีเวลา เสียวลีตอนนี้คุณเป็นเจ้าของร้านหมาและแมวแล้วนะ ฉันเชื่อใจคุณ ฉันจะส่งหนังสือสัญญาให้ทีหลัง ฉันต้องไปแล้ว แล้วฉันจะไปหาคุณนะ!”

เสียวลีวางหูโทรศัพท์และมองไปที่ร้าน รู้สึกสับสนเกี่ยวกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น ตอนนี้ร้านเป็นของฉันแล้วงั้นหรอ?