บทที่ 521 คำอธิบาย
บทที่ 521 คำอธิบาย
หลังจากถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับมาที่ลาน ถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งจึงได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวเฟยเฟิ่งรีบสำรวจร่างกายของถังซวงก่อนจะถามว่า “ซวงเอ๋อร์ เป็นอะไรไหม? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
ถังซวงส่ายศีรษะก่อนจะพูดว่า “คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องห่วง เหวินเจ๋อหลิ่วกับคนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บต่างหากที่น่าห่วงกว่า”
หัวเฟยเฟิ่งยังไม่คลายกังวล เธอตรวจร่างกายของถังซวงก่อนจะคลำชีพจรของอีกฝ่าย เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “เห็นเธอสบายดียายก็คลายกังวลได้ หลังจากได้ยินข่าวยายก็กำลังจะไป แต่ไม่ได้คิดว่าหลานจะกลับมาก่อน”
เฮ่อหลานและจิงเจ้อหรงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหัวเฟยเฟิ่ง ทั้งสองรีบก้าวเข้ามาถาม “แม่คะ เกิดอะไรขึ้นกับซวงเอ๋อร์หรือคะ? เหวินเจ๋อหลิ่วทำอะไร?” เธอเองก็รู้ว่าเหวินเจ๋อหลิ่วคือผู้หญิงที่ติดตามถังอวี้สือ
ถังเซวี่ยหันมองถังซวงด้วยความกังวล “พี่คะ เหวินเจ๋อหลิ่วมาหาเรื่องพี่อีกแล้วหรือ?”
“แม่ เสี่ยวเซวี่ย ไม่ต้องห่วงหรอก สภาพเหวินเจ๋อหลิ่วตอนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก เธอแค่ต้องการทำให้ฉันอับอายน่ะ”
ถังคุนหาวเองก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับทักษะของถังซวง
“ซวงเอ๋อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าทักษะของเธอจะยอดเยี่ยมมาก”
หัวเฟยเฟิ่งได้ยินอย่างนี้ยิ่งไม่พอใจ
“ถังคุนหาว คุณยังมีสมองอยู่ในหัวไหม? ทำไมคุณถึงไม่คิดว่าทำไมเหวินเจ๋อหลิ่วถึงพยายามทำร้ายซวงเอ๋อร์ของฉัน? ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าครอบครัวรองไม่ใช่คนดี พวกเขาคือคนที่พรากอาหลานไปจากเรา ไม่ว่าอะไรพวกเขาก็ทำได้ทั้งนั้น แต่คุณก็ไม่เคยเชื่อฉัน แล้วตอนนี้คุณกล้าพูดไหมว่าถังคุนเฉินไม่รู้เรื่องที่เหวินเจ๋อหลิ่วมาก่อกวน?”
ถังคุนหาวได้ยินอย่างนั้นถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ความจริงแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าน้องชายของเขาทำตัวผิดปกติจริง ๆ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับว่าอาหลานคือหลานสาว และไม่ต้องการให้ลูกสาวของตนกลับสู่ตระกูลถัง ซึ่งสิ่งนี้มันแปลกมาก และยังมีเรื่องเหวินเจ๋อหลิ่วอีก เขาจึงยิ่งรู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไรไป
“ถังคุนหาว ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไรล่ะ”
ถังคุนหาวเห็นว่าภรรยากำลังเกรี้ยวกราด เขาจึงรีบปลอบประโลมเธอ “เฟยเฟิ่ง พ่อกับแม่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ คุณแค่ใจเย็นลงหน่อยเถอะนะ”
“ไม่… ฉันจะไม่รออีกแล้ว วันนี้เหวินเจ๋อหลิ่ว คนรับใช้นั่นกล้าจะสร้างปัญหาให้กับซวงเอ๋อร์ นับจากวันนี้ไปไม่ว่าหมาหรือแมวตัวไหนก็ไม่มีสิทธิ์สร้างปัญหาให้กับครอบครัวของลูกสาวของฉันอีก!”
ถังคุนหาวเห็นว่าภรรยาไม่ฟังคำของเขา จึงรีบเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง
“เฟยเฟิ่ง… คุณไม่มีหลักฐาน สิ่งที่คุณพูดออกไปมันเป็นเพียงการคาดเดา และเราไม่สามารถเอาผิดคุนเฉินกับคนอื่นได้”
เมื่อเห็นว่าสามีไม่คิดหาทางแก้ไข แต่ยังพยายามให้เธอใจเย็นลง หัวเฟยเฟิ่งยิ่งโกรธมาก “ถังคุนหาว ฉันคิดว่าเป็นคุณมากกว่าที่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้ คิดว่าถ้าหากฉันได้พบเจอกับอาหลานแล้ว เรื่องราวก่อนหน้าจะจบลงง่าย ๆ งั้นหรือ? ลืมไปได้เลย เพราะฉันจะบอกคุณว่าฉันไม่ยอม!”
ถังคุนหาวรีบแก้ตัว “เฟยเฟิ่ง ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมไม่ได้จะปล่อยมันไป”
“หึ! ฉันเบื่อจะคุยกับคุณ เอาละ ฉันจะไปหาคุณพ่อคุณแม่ตอนนี้เลย อยากจะรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาวางแผนจะหาคำตอบเรื่องนี้เมื่อไหร่” พูดจบ หัวเฟยเฟิ่งเดินออกไปทันที
“เฟยเฟิ่ง…”
ถังคุนหาวรีบไล่ตามเธอไป
ส่วนเฮ่อหลานกังวลเมื่อเห็นว่าพ่อแม่ของเธอกำลังไปหาผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถัง
“การที่พวกเรามาที่นี่เป็นการสร้างปัญหาหรือเปล่าคะ?”
จิงเจ้อหรงที่อยู่ด้านข้างกล่าวปลอบ “ไม่ต้องกังวลหรอกอาหลาน คุณแม่แข็งแกร่งมาก และทุกอย่างจะเรียบร้อยดี ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือความผิดของครอบครัวรอง พวกเขาสมควรต้องถูกกล่าวโทษแล้ว”
ถังซวงกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “ใช่ค่ะ คุณยายจะต้องไม่เป็นไร”
อีกด้าน ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังเองก็ได้รู้ข่าวว่าถังซวงถูกเหวินเจ๋อหลิ่วเข้ามาทำร้าย
“ฉันไม่คิดเลยว่าหลานสาวคนโตของคุนหาวจะมีทักษะยอดเยี่ยมขนาดนี้ ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงเห็นการเคลื่อนไหวของถังซวงแล้ว และการเคลื่อนไหวทุกกระบวนท่าล้วนอันตราย ถ้าหากไม่ระมัดระวังอาจจะถึงแก่ชีวิตได้เลย”
แม่เฒ่าถังเห็นความชื่นชมบนใบหน้าของผู้เฒ่าถัง เธอถึงกับขมวดคิ้วแน่น “แล้วถ้าเวลานั้นมีคนอยู่ใกล้มากมาย ทำไมพวกเขาจึงไม่ห้าม? โชคดีที่ถังซวงเก่ง แล้วถ้าหากว่าไม่ล่ะ? เธอคงถูกเหวินเจ๋อหลิ่วฆ่าตายไปแล้วหรือเปล่า? เหวินเจ๋อหลิ่วคนนี้กล้ามากจริง ๆ ที่คิดรังแกถังซวง”
หญิงชรากล่าวด้วยความประหลาดใจ “ตาเฒ่าเอ๋ย คุณคิดว่า… อาเฉินรู้ไหมว่าเหวินเจ๋อหลิ่วสร้างเรื่องแบบนี้”
ผู้เฒ่าถังเงียบลงเมื่อได้ยินคำถามนั้น
เห็นว่าผู้เฒ่าถังเงียบไป เธอขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “คุณคิดว่า… ที่อาหลานถูกพรากไปจากครอบครัว มันเป็นเพราะ…”
“ระวังคำพูดด้วย”
ก่อนแม่เฒ่าถังจะกล่าวจบ ผู้เฒ่าถังกล่าวขัดจังหวะทันที “เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่ารีบด่วนสรุปหรือพูดอะไรออกมา”
“ฉันก็แค่คาดเดา ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย? นอกจากนี้เราควรเตรียมตัวให้พร้อมหากผลลัพธ์ออกมาอย่างเลวร้ายที่สุด คุณเคยคิดไหมว่าจะทำยังไงถ้าลูกสาวของเจ้าใหญ่ถูกเจ้ารองทำร้ายจริง ๆ?”
ผู้เฒ่าถังเงียบไป
แน่นอนว่าเขาเองก็คิดถึงเรื่องนี้
แต่ในฐานะผู้นำตระกูลถัง เขาจะต้องคิดให้ดี เจ้าใหญ่กับภรรยาตกเป็นเหยื่อก็จริง แต่ตระกูลก็ต้องการทายาทที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ตอนนี้ถังอวี้สือสามารถจัดการธุรกิจของตระกูลได้ หากสุดท้ายแล้วถังคุนเฉินทำร้ายลูกสาวถังคุนหาว เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อถังอวี้สือแน่นอน
นอกจากนี้ อาหลานยังเติบโตนอกตระกูล และลูกสาวทั้งสองคนของเธอไม่รู้ทักษะหรือสิ่งใดของตระกูลถังเลย ทั้งสองคนไม่สามารถเทียบกับอวี้สือได้ สุดท้ายแล้วหากต้องเลือก เขายังชอบถังอวี้สือมากกว่า
ขณะนี้ หัวเฟยเฟิ่งมาถึงลานบ้านของอาวุโสทั้งสองแล้ว โดยมีถังคุนหาวติดตามมาด้านหลัง
“คุณพ่อ คุณแม่ พวกคุณคงได้ยินเรื่องที่เหวินเจ๋อหลิ่วและคนของหล่อนมารังแกถังซวงแล้วใช่ไหมคะ แม้ถังซวงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เราไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ เหวินเจ๋อหลิ่วสมควรถูกลงโทษ ไม่อย่างนั้นภายภาคหน้าไม่ว่าใครอยากรังแกซวงเอ๋อร์ ก็คงจะทำได้ทันที!”
ทันทีที่ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังเห็นว่าหัวเฟยเฟิ่งและถังคุนหาวมาถึงที่นี่ พวกเขาพูดขึ้นว่า “เจ้าใหญ่ พวกลูกยังไม่นอนอีกหรือ ดึกมากแล้วนะ”
หัวเฟยเฟิ่งพูดในสิ่งที่เธอเพิ่งกล่าวไปอีกครั้ง “คุณพ่อคุณแม่คะ แล้วพวกคุณจะสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นยังไงหรือคะ? การหายตัวไปของอาหลานอาจจะเกี่ยวข้องกับถังคุนเฉินจริง ๆ ก็ได้”
เห็นท่าทางเกรี้ยวกราดของหัวเฟยเฟิ่งอย่างนั้น ผู้เฒ่าถังถึงกับขมวดคิ้วมุ่น
“เฟยเฟิ่ง เรายังไม่รู้เรื่องนี้ชัดเจนเลย ทำไมมั่นใจนักว่าอาเฉินอยู่เบื้องหลัง?”
ได้ยินผู้เฒ่าถังพูดอย่างนั้น หัวเฟยเฟิ่งก็เห็นความลำเอียงของอีกฝ่ายได้ในทันที เธอจ้องมองเขาอย่างไม่สั่นไหวก่อนจะพูดว่า “ฉันแน่ใจว่าเป็นถังคุนเฉิน แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พวกคุณช่วยกำหนดเวลาได้ไหมว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะได้ทราบผล”
“หัวเฟยเฟิ่ง เธอกำลังหมายความว่ายังไง? คิดว่าพวกเราจะปล่อยผ่านเรื่องนี้งั้นหรือ?”
“พ่อคะ แม่คะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
เมื่อเห็นว่าชายชราเริ่มโกรธ แม่เฒ่าถังรีบดึงเขาไว้ก่อนจะหันไปหาหัวเฟยเฟิ่งแล้วพูดต่อว่า “เฟยเฟิ่ง ให้เวลาพวกเราสักสิบวันเถอะนะ เราจะมีคำอธิบายมาให้เธอแน่นอน”
…………………………………………………