บทที่ 571 ถังซวงยุ่งมาก
บทที่ 571 ถังซวงยุ่งมาก
ถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งพาถังหลานพร้อมครอบครัวกลับมาที่ตระกูลถังอีกครั้ง
ทันทีที่ผู้เฒ่าตระกูลเห็นว่าถังซวงกลับมาแล้ว เขาก็ยินดีมาก “ท่านผู้นำ เธอกลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าจะติดต่อเธออยู่พอดี”
ถังซวงรีบถามอย่างอดไม่ได้ “ผู้เฒ่าใหญ่ มีอะไรให้ฉันทำหรือเปล่าคะ?”
“มีเรื่องเกิดขึ้นน่ะ”
ถังคุนหาวได้ยินทั้งสองพูดคุยกันอย่างนั้น ก็กล่าวขึ้นว่า “ผู้เฒ่าตระกูล อย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อน คุณคุยกับถังซวงได้ตามสบายครับ”
“อื้ม”
ผู้เฒ่าตระกูลโบกมือให้ถังคุนหาวและคนอื่น ๆ บอกกล่าวให้พวกเขารีบกลับไปพักผ่อน
โม่เจ๋อหยวนเป็นห่วงถังซวง เพราะเธอแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย หลังออกจากตระกูลหัว ยังต้องมาพบเจอเรื่องวุ่นวายของตระกูลถังต่อ หลังเห็นว่าคนอื่น ๆ เดินออกไป เขาก็ทำได้แค่หันไปพยักหน้าให้ถังซวงแล้วเดินตามคนอื่น ๆ ไป
หลังจากทุกคนออกไปแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลมองถังซวงแล้วเอ่ยปาก “ท่านผู้นำ ฉันเตรียมส่วนผสมยาทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไหร่ที่เธอพร้อม พวกเราจะเริ่มกลั่นยาได้ทันที”
หลังจากได้ยิน เธอเหลือบมองผู้เฒ่าตระกูลด้วยความประหลาดใจ “คุณได้รับส่วนผสมของยาทั้งหมดในตำราแล้วหรือคะ?” ส่วนผสมของยาคืนชีพนั้นหาได้ยากมาก วัตถุดิบหลายอย่างถือเป็นของหายาก แม้แต่ตัวใบสั่งยาก็ยังต้องตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก ส่วนผสมของมันก็เป็นเรื่องเหนือจินตนาการ
ผู้เฒ่าตระกูลพยักหน้า “ใช่ เรารวบรวมมันครบแล้ว”
ถังซวงพยักหน้ารับ “อื้ม ถ้าเราพร้อมทุกอย่างแล้วก็เริ่มกันพรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ ยังไงต้องรบกวนให้คุณเข้ามาช่วยฉันด้วยแล้วละ”
“ผู้นำตระกูลถ่อมตัวเกินไปแล้ว แต่ถ้าเธอยินดีให้ฉันร่วมมือด้วย ฉันจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน”
หลังจากกลั่นยาในครั้งก่อน เขาตระหนักได้ว่าตนเองไม่สามารถกลั่นยาในตำรานั้นได้เลย เขาจึงทำได้เพียงช่วยเหลือถังซวงเท่านั้น ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอไว้ใจเขามากแค่ไหน และส่วนตัวเขาเองก็อยากจะศึกษาให้ดี และหากมีโอกาสจะลองพยายามอีกครั้งในอนาคต สักวันเขาอาจจะประสบความสำเร็จได้
หลังจากตกลงกันแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลบอกกล่าวให้ถังซวงกลับไปพักผ่อน
“ท่านผู้นำคงจะเหนื่อยมากแล้วเดินทางมาไกล รีบกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า”
“ค่ะ”
เมื่อถังซวงกลับมาถึงห้อง เธอเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนนั่งรออยู่ “ซวงเอ๋อร์คุยกับผู้เฒ่าตระกูลเสร็จแล้วหรือ”
“ค่ะ เราคุยกันนิดหน่อย พรุ่งนี้ไปฉันคงจะยุ่งมาก เดี๋ยวจัดการอะไรเรียบร้อยแล้วจะได้กลับเมืองหลวงกันนะ”
โม่เจ๋อหยวนทราบทันทีว่าถังซวงคงจะต้องยุ่งกับเรื่องที่ผู้เฒ่าตระกูลบอกกล่าว
เขามองถังซวงอย่างกังวลใจ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบศีรษะของเธออย่างเบามือ “ซวงเอ๋อร์ เธอทำงานมากเกินไปหรือเปล่า?” ครั้งอยู่ในเมืองหลวง เธอก็ต้องยุ่งกับการเรียน หลังจากมาที่ตระกูลถัง ก็ยังพบเจอเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อน และต้องจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในตระกูลถัง แม้กระทั่งไปเยี่ยมญาติที่ตระกูลหัว ก็ยังไม่ได้ว่างเว้นจากความวุ่นวาย
ถังซวงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละ เธอลูบฝ่ามือของโม่เจ๋อหยวนพร้อมเอนตัวพิงเขา
ความจริงแล้ว เธอเครียดมาตลอดตั้งแต่ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลถัง และไม่ได้ผ่อนคลายเลยแม้กระทั่งเวลาที่อยู่ในตระกูลหัว เวลานี้ที่กลับมาตระกูลถังอีกครั้ง ก็ยังมีเรื่องวุ่นวายไม่จบสิ้น นอกจากการกลั่นยาในตำราแล้ว เธอก็ยังต้องเตรียมยาบางส่วนกลับเมืองหลวงด้วย แล้วยังต้องเตรียมส่วนของตระกูลถังอีก จนตอนนี้เธอยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างไร
โม่เจ๋อหยวนสัมผัสได้ถึงความกดดันของถังซวง เขากอดเธอไว้แผ่วเบา “อย่างนั้นพักผ่อนเถอะนะ เดี๋ยวมื้อเย็นฉันจะมาเรียก”
เมื่อถึงเวลาทานอาหาร ถังซวงยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เห็นอย่างนั้นแล้วโม่เจ๋อหยวนจึงไม่รบกวน
ถังซวงนอนหลับจนกระทั่งเช้าวันถัดมา และเมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนนั่งอยู่ข้าง ๆ
“กี่โมงแล้วหรือ?”
โม่เจ๋อหยวนยิ้ม กล่าวตอบ “เช้าแล้วละ ไปอาบน้ำก่อนเถอะแล้วเดี๋ยวเราไปกินข้าวกัน”
ถังซวงถึงกับตกใจ
“ฉันหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือ”
“ใช่ เมื่อวานนี้ฉันเห็นเธอหลับสนิทมากเลยไม่อยากปลุก”
ถังซวงเองรู้สึกว่าตัวเธอได้หลับเต็มอิ่มมาก เธอเงยหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “โชคดีที่พี่ไม่ได้ปลุก ฉันนอนเต็มอิ่มมากเลยละ”
โม่เจ๋อหยวนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว รีบไปล้างหน้าแปรงฟันเร็วเข้า”
หลังจากทานมื้อเช้าแล้ว ถังซวงมาที่ห้องโถงด้านหน้า และเห็นว่าผู้เฒ่าตระกูลกำลังนั่งดื่มชารออยู่
“ผู้เฒ่าใหญ่ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
ผู้เฒ่าตระกูลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เพิ่งมาสักครู่เอง ท่านผู้นำ เราจะเริ่มกันเลยไหม? หรือจะรอสักเดี๋ยว?”
“เริ่มกันเลยค่ะ”
ถังซวงกับผู้เฒ่าตระกูลตรงไปที่ห้องกลั่นยา ที่ผู้เฒ่าตระกูลเตรียมวัตถุดิบทำยาทั้งหมดเอาไว้แล้ว
“ท่านผู้นำ เราจะเริ่มจากใบสั่งยาไหนก่อน?”
ถังซวงยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เธอกล่าวขึ้นง่าย ๆ ว่า “อืม… เราเริ่มจากใบสั่งยาใบแรกก่อนแล้วกัน แล้วค่อยไล่ไปเรื่อย ๆ”
“ได้”
เพราะมีผู้เฒ่าตระกูลคอยช่วยเหลือ ถังซวงจึงจัดการทุกอย่างได้รวดเร็วดั่งใจนึก สามารถกลั่นยาระเบิดพลังได้ถึงสามเตา และแต่ละเตามียากว่าสามสิบเม็ด ทั้งหมดเป็นเพราะมีวัตถุดิบยาที่ผู้เฒ่าตระกูลเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ
แม้เขาจะเคยเห็นทักษะการกลั่นยาของถังซวงมาก่อนแล้ว แต่หลังได้เห็นอีกครั้ง ผู้เฒ่าตระกูลเองก็ยังคงประหลาดใจที่ถังซวงสามารถกลั่นยาออกมาได้มากมายในแต่ละครั้ง “ท่านผู้นำ เธอเก่งมาก น่าทึ่งจริง ๆ”
ถังซวงยิ้มอย่างอดไม่ได้ “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ เรามาทำยาต่อเถอะค่ะ”
“ตกลง”
สามวันถัดมา ถังซวงและผู้เฒ่าตระกูลใช้เวลาอยู่ในห้องกลั่นยาตลอดทั้งวัน ทั้งสองจะกลั่นยาที่ยากที่สุดเป็นอย่างสุดท้าย รวมถึงยาคืนชีพ และยาอีกหลายชนิดที่ถังซวงยังไม่เคยทำมาก่อน
“ผู้เฒ่าใหญ่ เรากลั่นเม็ดยาคืนชีพก่อนดีกว่าค่ะ อย่างน้อยฉันก็คุ้นเคยกับมัน”
“ได้เลย”
คราวนี้มีเม็ดยาคืนชีพสองเม็ดในเตา
หลังจากเห็นว่ามีเพียงสองเม็ด ถังซวงถอนหายใจก่อนจะบ่นอุบ “น้อยจริง ๆ เลย”
แต่เป็นผู้เฒ่าตระกูลทราบดีว่ายาคืนชีพนี้มีค่ามากแค่ไหน และเขาเองก็รู้สึกว่ายาเพียงสองเม็ดนี้ก็มากเกินพอแล้ว “ท่านผู้นำ คราวก่อนเธอสามารถกลั่นได้เพียงเม็ดเดียวใช่ไหม? ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันเพิ่มขึ้นนี่”
“ค่ะ”
ผู้เฒ่าตระกูลหยิบเม็ดยาคืนชีพขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเก็บไว้หนึ่งเม็ด และมอบให้ถังซวงหนึ่งเม็ด “ท่านผู้นำ ส่วนของคุณอยู่นี่”
ถังซวงพยักหน้ารับ “ค่ะ หนึ่งเม็ดสำหรับตระกูล และอีกหนึ่งเม็ดเป็นของฉัน” เธอเก็บมัน ก่อนจะเริ่มกลั่นยาอีกสองชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน
หลังจากที่ถังซวงใช้วัตถุดิบยาทั้งหมดที่ผู้เฒ่าตระกูลนำมาแล้ว เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “เสร็จสักที”
ช่วงไม่กี่วันนี้ ผู้เฒ่าตระกูลเองก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก
“ท่านผู้นำ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก”
“ไม่เป็นไรค่ะ อีกไม่กี่วันฉันต้องกลับเมืองหลวงแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลตระกูล”
ผู้เฒ่าได้ยินอย่างนั้น ก็รีบกล่าวคำ “ให้เป็นความรับผิดชอบของฉันเถอะ หลังจากที่ผู้นำตระกูลกลับมา ทุกอย่างจะเรียบร้อยแน่นอน” เขายังเสนอชื่อของถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งด้วย “ท่านผู้นำตระกูล เธอสามารถให้คุนหาวกับเฟยเฟิ่งจัดการกิจของตระกูลได้ ทั้งสองคนก็มีความสามารถมากไม่แพ้กันนะ”
ถังซวงเองก็คิดอย่างนั้น หลังจากกลับออกมาแล้ว เธอก็ตรงไปหาถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งทันที
ซึ่งถังคุนหาวไม่ลังเลใด ๆ ตอบตกลงอย่างจริงจัง
ทว่าหัวเฟยเฟิ่งไม่เห็นด้วย “ซวงเอ๋อร์ ยายจะกลับเมืองหลวงด้วย หลานฝากตระกูลถังไว้กับคุณตาและผู้เฒ่าตระกูลก็พอแล้ว”
ถังคุนหาวหันมองภรรยาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเอ่ยปากอย่างน้อยใจ “คุณจะไปเมืองหลวงอีกแล้วหรือ? คุณจะให้ผมอยู่บ้านคนเดียวจริง ๆ หรือ?”
หัวเฟยเฟิ่งเหลือบมองถังคุนหาว “คุณเป็นเด็กหรือไงที่ต้องให้ฉันอยู่ด้วยตลอดเวลา?”
ได้ยินอย่างนั้นถังคุนหาวถึงกับพูดไม่ออก
ท้ายที่สุดหัวเฟยเฟิ่งก็ติดตามถังซวงและคนอื่น ๆ กลับเมืองหลวงด้วย