บทที่ 592 บทใหญ่ (1)
บทที่ 592 บทใหญ่ (1)
พานลี่ฮวากล่าวลากับถังซวงและทุกคนอย่างไม่เต็มใจนัก “ซวงเอ๋อร์ ชุนหยาน เหวินรุ่ย ถ้ามีเวลาว่างก็แวะมาเที่ยวที่นี่บ้างนะ”
ถังซวงยกยิ้มตอบกลับ “ค่ะคุณป้า ถ้าพวกเราว่าง เราจะแวะมาเยี่ยมนะคะ”
ถังชุนหยานและจิงเหวินรุ่ยกล่าวคำลากับพานลี่ฮวา ส่วนจิงเหวินรุ่ยเองก็กล่าวคำลากับจูรุ่ย “เสี่ยวรุ่ย ผมกลับเมืองหลวงก่อน ไว้เราเจอกันตอนที่คุณจัดการทุกอย่างเรียบร้อยนะครับ”
จูรุ่ยไม่ได้เข้าเมืองหลวงไปพร้อมกับพวกเขา เพราะเธอจะจัดการเรื่องทั้งหมดในเมืองก่างเฉิงให้ดีเสียก่อน
“ค่ะ หลังจากฉันจัดการทุกอย่างแล้ว ฉันจะไปหาคุณ ถ้ามีเวลามากพอฉันอาจจะอยู่ฉลองปีใหม่ในเมืองหลวงเลยก็ได้”
จิงเหวินรุ่ยที่ได้ยินถึงกับประหลาดใจ
“ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะดี”
พานลี่ฮวาเองก็ตระหนักได้ว่าพ่อแม่สามีของเธออยู่ในเมืองหลวง เธอจึงพูดขึ้นว่า “เข้าเมืองหลวงก็ดีเหมือนกันนะ ช่วงปีใหม่เผื่อจะได้ไปหาคุณพ่อคุณแม่ด้วย”
จูรุ่ยอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “จริงหรือคะป้าพาน อย่างนั้นเราไปเมืองหลวงพร้อมกันดีไหมคะ?”
“ถ้าเราว่างตรงกัน ก็ไปพร้อมกันได้”
เดิมทีจิงเหวินรุ่ยเป็นห่วงถ้าหากจูรุ่ยต้องเดินทางคนเดียว แต่เมื่อได้ยินพานลี่ฮวาพูดอย่างนั้น เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ป้าพาน อย่างนั้นทั้งสองคนก็เดินทางด้วยกันดีกว่าครับ จะได้ดูแลกัน”
พานลี่ฮวารู้ว่าจิงเหวินรุ่ยคิดอะไรอยู่ อีกฝ่ายคงเป็นห่วงจูรุ่ยที่ต้องเดินทางคนเดียว… แต่เธอเองก็กำลังจะไปเมืองหลวงเช่นกัน หากไปด้วยกันได้ก็คงจะดีกว่าอยู่แล้ว “จ้ะ ไม่ต้องกังวลหรอก ป้าจะดูแลเสี่ยวรุ่ยของเธออย่างดี”
จิงเหวินรุ่ยรีบกล่าวขอบคุณทันที ยิ่งใกล้ถึงวันที่ต้องเดินทางกลับ เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องจะพูดคุยกับจูรุ่ยมากมาย ทั้งสองจึงแยกตัวออกไปนั่งพูดคุยกันเงียบ ๆ ที่มุมห้อง
พานลี่ฮวาอดไม่ได้ที่จะอิจฉาเด็กทั้งสอง พวกเขาเต็มไปด้วยความหวานชื่น ขณะเดียวกันเธอยิ่งกังวลเรื่องของลูกชายขึ้นมา เดิมทีวันนี้เธออยากจะให้ลูกชายอยู่บ้านเพื่อให้โอกาสเขาได้พูดคุยกับถังชุนหยานสักหน่อยด้วยซ้ำ แต่เพราะที่บริษัทเกิดเรื่อง เขาจึงรีบออกไป โธ่… ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกชายถึงไม่มีคนรักสักที
จิงเหวินรุ่ยกับจูรุ่ยพูดคุยกันเสร็จ ทุกคนก็กล่าวลากันอีกครั้ง
ถังซวงมาถึงเผิงเฉิงพร้อมกับถังชุนหยานและจิงเหวินรุ่ย แต่ยังไม่ได้ออกจากเมืองทันที
ถังชุนหยานถามถังซวงว่า “พี่สาวซวง เราจะอยู่ที่นี่ก่อนไหมคะ?”
ถังซวงพยักหน้า “อื้ม ฉันว่าจะดูทำเลสักหน่อยน่ะ ว่าต้นปีหน้าจะสามารถเปิดสาขาที่นี่ได้ไหม”
อีกไม่นานก็จะมีนโยบายใหม่ประกาศออกมา และเมืองแรกที่จะถูกพัฒนาคือเมืองทางใต้ ดังนั้นเผิงเฉิงจึงเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดี
ถังชุนหยานตอบรับทันที “ค่ะ งั้นเราค่อย ๆ ดูกันไป”
จิงเหวินรุ่ย ถังซวง และถังชุนหยานออกสำรวจเผิงเฉิง ในที่สุดถังซวงก็พบเจอสถานที่เหมาะสมแห่งหนึ่ง และคิดปักหลักที่นี่ทันที
“ที่นี่ค่อนข้างดี แต่ต้องหารือเรื่องนี้กับคุณป้าอีกสักหน่อย”
ถังชุนหยานไม่รู้รายละเอียด รู้แค่ว่าถ้าถังซวงบอกว่าดี เธอก็คิดว่าดี และยินดีจะทำตามที่ถังซวงบอกกล่าวทุกอย่าง
ถังซวงจัดการทุกอย่างรวดเร็ว เพราะเลือกสถานที่ได้แล้ว ต่อจากนั้นเธอจึงเริ่มการรื้อถอนทุกสิ่ง พอเสร็จธุระก็พาจิงเหวินรุ่ยและถังชุนหยานเข้าเมืองหลวงทันที
ถังหลานเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ กลับมา ก็ยกยิ้มด้วยความดีใจ
“ซวงเอ๋อร์ ในที่สุดลูกก็กลับมาแล้ว ถ้าอีกสองสามวันลูกไม่กลับมา แม่จะให้พ่อเขาไปรับแล้วนะเนี่ย คราวนี้พวกลูกออกจากบ้านไปนานเกินไปแล้ว”
ถังซวงยิ้มกว้าง “แม่คะ พวกเราก็กลับมาแล้วไงล่ะ”
ถังหลานยิ้มตอบกลับ “จ้ะ ดีแล้วที่กลับมาอย่างปลอดภัย” ขณะพูด เธอก็ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้ให้นะ พวกลูกเพิ่งกลับมาคงจะเหนื่อย เดี๋ยวเย็นนี้ทานข้าวด้วยกัน”
“ค่า”
ถังหลานเดินเข้าครัวไป ส่วนคุณย่าจิงก็ดึงถังซวงกับถังชุนหยานออกไปพูดคุย
ส่วนถังเซวี่ยยังไม่กลับจากโรงเรียน
เมิ่งผิงเองก็ดึงลูกชายของตัวเองมาถามไถ่สถานการณ์ “เหวินรุ่ย ได้เจอกับจูรุ่ยไหม? แล้วเรื่องพวกลูกเป็นยังไงบ้าง?”
คุณย่าจิงถึงกับหันขวับกลับมา
จิงเหวินรุ่ยยกยิ้มกว้าง
“แม่ครับ เสี่ยวรุ่ยตอบตกลงเป็นคนรักของผมแล้ว แต่ตอนนี้เธอกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องบางอย่าง หลังจากจัดการเสร็จแล้วเธอจะมาที่เมืองหลวง แล้วอาจจะมาอยู่ฉลองปีใหม่กับเราครับ”
“โอ้… จริงหรือ? ดีจริง ๆ ลูกมีคนรักกับเขาสักที”
แต่เธอเหมือนจะนึกบางอย่างได้ จึงถามอย่างสับสน “ไม่สิ ก่อนหน้านี้ลูกบอกว่าจูรุ่ยกำลังจะหมั้นไม่ใช่หรือ?”
จิงเหวินรุ่ยบอกเล่าเรื่องราวในตระกูลจูทั้งหมด ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “โชคดีที่ผมไปทันเวลา ไม่อย่างนั้นเสี่ยวรุ่ยคงตกอยู่ในอันตรายแล้วครับ”
คุณย่าจิงเผยสีหน้าเคร่งเครียดทันที “คนเป็นพ่อกลับเชื่อภรรยาใหม่ยิ่งกว่าลูกสาว แม่เลี้ยงพวกนี้นี่แย่จริง ๆ แล้วคนเป็นพ่อทำไมถึงปฏิบัติกับลูกสาวของตัวเองได้เลวร้ายแบบนั้นได้!”
เมิ่งผิงเองก็ขุ่นเคืองใจกับเรื่องนี้มาก แต่เธอก็รู้สึกว่าจูรุ่ยจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ดี
จากที่เธอฟังลูกชายเล่า ความยิ่งใหญ่ของตระกูลจูทุกวันนี้เป็นเพราะแม่ของจูรุ่ยทั้งหมด แต่นี่คือผลตอบแทนที่ตระกูลจูปฏิบัติต่อจูรุ่ยงั้นหรือ
“โชคดีที่จูรุ่ยจัดการทุกอย่างได้ยอดเยี่ยม เธอทำได้ดีจริง ๆ ควรจะใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟันแบบนี้สิถึงจะถูกต้อง!”
คุณย่าจิงเองก็รู้สึกแบบนั้นด้วยเหมือนกัน
จิงเหวินรุ่ยพูดต่อว่า “ครับ ผมก็คิดว่าเสี่ยวรุ่ยทำถูกต้องแล้ว ตอนเราไปบ้านตระกูลจู เสี่ยวรุ่ยถูกขังอยู่ในห้องและยังถูกฉีดยาบางอย่างด้วย แม่ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เธอในตอนนั้นอ่อนแอมากเลยครับ”
ถังเซวี่ยกลับมาจากโรงเรียน เด็กสาวเห็นว่าถังชุนหยาน จิงเหวินรุ่ย และพี่สาวกลับมาแล้ว ก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “พี่คะ กลับมาแล้วหรือคะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
ถังซวงยิ้มกว้าง ตอบว่า “พวกเราเพิ่งมาถึงสักพักจ้ะ แล้วที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?”
ถังเซวี่ยพยักหน้ารับ “ไม่มีอะไรต้องกังวลค่า”
หลังจากนั้นสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลจิงก็เริ่มกลับมา
โม่เจ๋อหยวนเองก็มาด้วยเช่นกัน
ดวงตาของถังซวงเปล่งประกายยินดีเมื่อเห็นว่าคนรักมาหา
“อาหยวน ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ”
โม่เจ๋อหยวนมองถังซวงอย่างไม่พอใจ เอ่ยปากตอบกลับ “ซวงเอ๋อร์ เธอไม่คิดติดต่อฉันเลยตั้งแต่ไปเมืองก่างเฉิง ฉันก็แวะมาที่บ้านของเธอทุกครั้งที่มีเวลา คาดหวังว่าเธอจะกลับมา แต่ทำไมถึงไม่มีจดหมายอะไรส่งถึงฉันบ้างเลยล่ะ?”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
ตั้งแต่ที่เธอไปเมืองก่างเฉิง เธอเองก็ไม่ได้ติดต่อครอบครัวเลย
“อาหยวน คือว่า… ฉันไม่ค่อยมีเวลาน่ะ พวกเราเจอแต่เรื่องวุ่นวายตลอดเวลาตอนอยู่ที่เมืองก่างเฉิง”