ตอนที่ 107 เข้าใจ
ได้ยินเฮ่อชิงเซียวเอ่ยว่าฮ่องเต้ทรงใส่พระทัยเรื่องท่านซงหลิง ปฏิกิริยาแรกองซินโย่วก็คือนึกรังเกียจ
นางเดินทางเข้าเมืองหลวงมาเพียงลำพัง แต่ละก้าวเดินมาจนถึงสถานการณ์ในวันนี้ สุดท้ายมีความเป็นไปได้มากว่าจะต้องพังทะลายลงเพราะความคิดที่เกิดขึ้นฉับพลันของคนผู้หนึ่งหรือ
จากนั้นซินโย่วก็รู้สึกสว่างวาบขึ้นมา
ในเมื่อท่านซงหลิงเป็นที่สนใจของฮ่องเต้ บางทีนางอาจใช้เรื่องนี้ทำอันใดสักอย่าง
ซินโย่วมองไปที่คนนำข่าวนี้มาบอกให้นางได้รู้ นางแอบรับน้ำใจนี้ไว้แล้ว
นางย่อมรู้ดี สำหรับเฮ่อชิงเซียวแล้ว การสั่งให้ลูกน้องตรวจสอบเป็นเรื่องสบายที่สุด
“ท่านซงหลิง…” ซินโย่วลังเล “น่าจะเป็นชายหนุ่ม”
“น่าจะ?”
“ข้าเคยพบท่านซงหลิงเพียงแค่สองครั้ง เขาปิดบังใบหน้า แต่รูปร่างและน้ำเสียงพอจะตัดสินใจว่าน่าจะยังหนุ่ม”
“พบเพียงแค่สองครั้ง?” คำตอบนี้ทำให้เฮ่อชิงเซียวรู้สึกตกใจ
เขาได้อ่าน ‘วาดหนัง’ ทั้งชุดแล้ว แม้ว่าไม่รู้สึกสนใจหนังสือแนวนี้ แต่ก็ต้องกล่าวว่าเป็นเรื่องภูตผีที่น่าสนใจมาก
การฟื้นคืนชีพของร้านหนังสือชิงซงไม่อาจไร้ซึ่ง ‘วาดหนัง’ เขาคิดว่าความสัมพันธ์ท่านซงหลิงกับร้านหนังสือชิงซงน่าจะแน่นแฟ้นมาก
ในใจซินโย่วรู้ว่าคำตอบนี้ยากจะทำให้เชื่อได้ แต่กลับแสดงสีหน้าเปิดเผยจริงใจยิ่ง “ใช่ สองครั้ง ล้วนเป็นข้าออกไปข้างนอกแล้วท่านซงหลิงก็ปรากฏตัวเอง ครั้งแรกให้ต้นฉบับ ‘วาดหนัง’ เล่มหนึ่งกับข้า ครั้งที่สองนำต้นฉบับเล่มสองมา ท่านซงหลิงบอกว่าไม่อยากให้คนรู้สถานะของเขา ไม่ได้ให้ที่อยู่และวิธีการติดต่อไว้”
เห็นสายตาครุ่นคิดลุ่มลึกของเฮ่อชิงเซียว ซินโย่วก็ยิ้ม
อย่าว่าแต่สองครั้ง เพราะแท้จริงไม่เคยพบท่านซงหลิงมาก่อน นางได้ฟังเรื่องราวของบุคคลผู้มีพรสวรรค์น่าตกใจนี้จากปากมารดานางเท่านั้น
สาวน้อยสีหน้าจริงใจ แววตากระจ่างใส เฮ่อชิงเซียวได้แต่เชื่อตามนี้
“ขอบคุณคุณหนูโค่วที่บอกกล่าว”
เห็นเฮ่อชิงเซียวทำท่าจะขอตัวกลับ ซินโย่วก็รีบรินน้ำชาเติมให้เขา “ใต้เท้าเฮ่อต้องการตรวจสอบเรื่องของท่านซงหลิงหรือเจ้าคะ”
เฮ่อชิงเซียวตอบตามตรง “ฝ่าบาทตรัสถาม จำต้องตรวจสอบสักหน่อย”
ซินโย่วยิ้มเอ่ยว่า “ฝ่าบาทจัดการราชกิจมากมาย ยังจะมีเวลามาสนพระทัยนักเขียนเล็กๆ คนหนึ่งอีกหรือ ทรงมีกำลังวังชามากมายเสียจริง”
เฮ่อชิงเซียวไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือไม่ เห็นอยู่ว่าทุกคำพูดล้วนเป็นคำพูดตามปกติ แต่กลับรู้สึกเสียดสีอย่างน่าประหลาด
เสียดสีฮ่องเต้?
เฮ่อชิงเซียวแอบส่ายหน้า
ต้องเป็นเพราะเขาคิดมากไปเป็นแน่
“ฝ่าบาท…” เฮ่อชิงเซียวชะงักไปครู่หนึ่ง “ทรงมีกำลังวังชา มุ่งมั่นในราชกิจ”
คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่คำพูดลอยๆ ผู้ที่ก่อตั้งแผ่นดินได้ต้องมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนปกติทั่วไป พวกที่วันหนึ่งคิดแต่อยากจะนอนสักหกชั่วยาม คนที่ก้าวเดินไม่กี่ก้าวก็คิดพัก ย่อมไม่อาจก้าวเข้าสู่ถนนสายนี้ได้
“เพียงแต่ไม่คิดว่าฝ่าบาทจะทรงอ่านนิยายด้วย” ซินโย่วกังวลว่าเฮ่อชิงเซียวจะมองออก จึงไม่พูดมากต่อ “เช่นนั้นก็ขออวยพรให้ใต้เท้าเฮ่อตรวจสอบราบรื่น…ข้ามีคำขอร้องที่อาจจะเกินไปสักหน่อยเจ้าค่ะ”
เฮ่อชิงเซียวทำท่าทางตั้งใจฟัง “คุณหนูโค่วเชิญกล่าว”
“หวังว่าใต้เท้าเฮ่อจะไม่ทำให้ท่านซงหลิงตกใจ ร้านหนังสือข้าพึ่งพาเพียงนิยายของท่านซงหลิง เกิดทำท่านซงหลิงตกใจหนีไป เกรงว่าการค้าร้านหนังสือก็คงกลับไปอยู่ในสภาวะฝืดเคืองดังเดิม”
เฮ่อชิงเซียวพยักหน้ารับปาก
ซินโย่วไปส่งเฮ่อชิงเซียวออกจากประตูมุมเรือนตะวันออกด้วยตนเอง พอดีถูกเมิ่งเฝ่ยที่มาซื้อของกินเล่นเห็นเข้าพอดี
หนุ่มน้อยเรียวตาหงส์เบิกตาค้าง กลับถึงสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนก็มาดึงต้วนอวิ๋นหลางไปที่มุมหนึ่ง รายงานข่าวว่า “อวิ๋นหลาง ข้าเพิ่งเห็นใต้เท้าเฮ่อนั่นออกมาจากที่พักน้องสาวเจ้า!”
ต้วนอวิ๋นหลางตกใจมาก สีหน้ากลับนิ่งสงบ “จะไปมีอันใด น้องสาวข้าเปิดร้านหนังสือ มีบางครั้งก็ต้องคุยงาน ในโถงด้านหน้าคนมากไม่สะดวก ก็ไปต้อนรับด้านหลัง”
“ก็จริง” เมิ่งเฝ่ยพยักหน้า
สหายสนิทถูกกล่อมง่ายดายเพียงนี้ ต้วนอวิ๋นหลางกลับไม่ชิน
เห็นต้วนอวิ๋นหลางแสดงท่าทีสงสัย เมิ่งเฝ่ยหัวเราะหึๆ กล่าวว่า “อย่าเห็นว่าใต้เท้าเฮ่อดำรงตำแหน่งใหญ่โต ความจริงชีวิตลำบากมาก น้องสาวเจ้าอายุน้อยๆ ชุบชีวิตร้านหนังสือให้คืนมาได้ เงินทองไหลมาเทมา นับว่าเป็นหญิงอัศจรรย์ นางไม่สนใจใต้เท้าเฮ่อมีอันใดน่าแปลกใจ”
ต้วนอวิ๋นหลางยิ่งตกใจ ถือโอกาสออกไปตอนกลางวัน รีบตรงไปหาซินโย่ว
“น้องชิง เจ้าเดาดูว่าเหตุใดใต้เท้าเฮ่อมักมาอ่านหนังสือที่ร้านหนังสือเจ้า”
ซินโย่วส่ายหน้า
ต้วนอวิ๋นหลางหรี่เสียงเอ่ยว่า “เพราะไม่มีเงินซื้อ”
ซินโย่วนิ่งอึ้งไปทันที ในห้วงความคิดปรากฏภาพงดงามของชายชุดแดงที่อ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ในโถงท่ามกลางแสงสายัณห์สายส่องเข้ามา
ที่แท้…เพราะจนหรือ
แต่คำพูดต้วนอวิ๋นหลาง ซินโย่วยังคงไม่เชื่อทั้งหมด “พี่รองได้ยินมาจากที่ใด”
“จริงนะ อย่าเห็นว่าใต้เท้าเฮ่อเป็นท่านโหว ความจริงชีวิตลำบากมาก น้องชิง เจ้าอย่าไปบอกผู้ใดนะ รู้กระจ่างใจตนเองก็พอ” ต้วนอวิ๋นหลางไม่ได้เป็นคนตรงไปตรงมาที่จะเตือนตรงๆ อย่างไรน้องชิงก็เป็นสาวเป็นนางหน้าบาง
ซินโย่ว “…” เหตุใดนางต้องกระจ่างในเรื่องนี้ด้วย
เฮ่อชิงเซียวยังไม่รู้ ‘คุณหนูโค่ว’ มีความเข้าใจเขามากขึ้นไปอีกก้าวแล้ว ไม่นานก็สั่งการให้ลูกน้องไปสืบเรื่องท่านซงหลิง แต่สุดท้ายสืบไปจบที่เส้นทางปิดตาย ไม่พบอันใด
ไม่ว่าสอบถามบรรดานักเขียนหรือว่าร้านหนังสือต่างๆ ล้วนไม่เคยได้พบท่านซงหลิง
เหตุการณ์นี้ไม่นับว่าเหนือความคาดหมาย ชาวเมืองหลวงเดิมมีคนมาก คนนอกพื้นที่เข้าเมืองมาทำการค้า เรียนหนังสือ หางานทำก็มาก แม้กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินที่จับตาขุนนางไม่มีเล็ดลอด แต่เผชิญกับความไม่รู้โฉมหน้าแท้จริงว่าเป็นอย่างไร จะหาคนที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดก็ไม่ต่างอันใดกับงมเข็มในมหาสมุทร
วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือจับตาดูคุณหนูโค่ว รอท่านซงหลิงปรากฏตัวเอง
เฮ่อชิงเซียวไปร้านหนังสือชิงซงอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นยามพลบค่ำ หลบเลี่ยงเวลาคนมาซื้อหนังสือจำนวนมาก เฮ่อชิงเซียวรอเวลาให้ซินโย่วออกมาจากเรือนตะวันออก จึงตรงเข้าไปยังชั้นหนังสือที่คุ้นเคย หยิบบันทึกการเดินทางเล่มใหม่ขึ้นมาค่อยๆ พลิกอ่าน
ตอนซินโย่วมาถึงก็เห็นภาพเช่นนี้
ภาพที่คุ้นเคยมาก และหลังจากได้ยินคำพูดต้วนอวิ๋นหลาง สายตาก็อดมองไปยังถุงเงินที่เหน็บไว้ที่เอวของเฮ่อชิงเซียวไม่ได้
เฮ่อชิงเซียวรู้สึกได้ว่าซินโย่วมา จึงวางหนังสือลงเดินออกไป
“คุณหนูโค่วขอคุยด้วยสักครู่”
คำนึงถึงว่ายามนี้ไม่มีผู้อื่น ซินโย่วพาเฮ่อชิงเซียวเข้าไปในห้องรับรอง
“ใต้เท้าเฮ่อต้องการพบข้าเพราะเรื่องท่านซงหลิงหรือ”
ซินโย่วรู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเฮ่อชิงเซียวหลายครั้ง และเพราะเข้าใจผิดอีกฝ่ายจนลงมือลอบสังหารเขา ทำให้นางรู้สึกผิด หากไม่คำนึงถึงเรื่องการแก้แค้น ก็คงไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเสียแรงเปล่าเช่นนี้ แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ปล่อยผ่านไปให้ถึงที่สุดเช่นนี้แล้ว
“สองสามวันมานี้ หลังสืบหลายทางก็ไม่ได้เบาะแสของท่านซงหลิงแม้แต่น้อย เกรงว่าคงต้องขอรบกวนคุณหนูโค่วแล้ว”
ซินโย่วคลี่ยิ้ม “ใต้เท้าเฮ่อมีอันใดรบกวนข้าหรือเจ้าคะ”
เฮ่อชิงเซียวอึ้งไปเล็กน้อย
แต่ไรมาไม่ว่าเรื่องใด เขามีความรู้สึกรับรู้ได้ไวมาก ย่อมรู้สึกได้ว่าคุณหนูโค่วมีท่าทีผ่อนคลายยามอยู่ต่อหน้าเขา เกิดเรื่องอันใดที่ทำให้คุณหนูโค่วท่าทีเปลี่ยนไปอยู่บ้างเช่นนี้
แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เลว
เฮ่อชิงเซียวครุ่นคิดทันที
ระยะนี้เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้ช่วยเหลืออันใด ยังมารบกวนคุณหนูโค่ว เรื่องเดียวที่เคยทำให้ก็คือ…ซื้อบันทึกการเดินทางไปเล่มหนึ่ง?