ตอนที่ 140 รวบรวมเงิน
ทางจวนรองเจ้ากรม ตอนนายหญิงผู้เฒ่าได้รับรายงานจากคนเฝ้าประตูว่าคุณหนูนอกมีธุระด่วนรีบกลับร้านหนังสือชิงซงไปแล้ว ตอนนั้นไม่ได้คิดมาก แต่พอเปิดหีบนับตั๋วแลกเงิน
ตอนนั้นสมบัติที่โค่วชิงชิงนำติดตัวมากก้อนใหญ่มหาศาลมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บไว้ที่ตัวอยู่ตลอดเวลา นางได้นำจำนวนหนึ่งไปฝากร้านรับฝากเงินแล้ว ส่วนหนึ่งนำปซื้อร้านค้าตำแหน่งดี อีกส่วนเอาไปปล่อยกินดอก
เงินปล่อยกินดอกไม่น้อย ตอนนี้เงินก้อนนี้ยังเก็บกลับมาไม่ได้ ร้านค้าเหล่านั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแปลงเป็นเงินทันที เงินที่นายหญิงผู้เฒ่าจะนำมาได้ก็มีแค่จากร้านรับฝากเงินกับตั๋วแลกเงินที่เก็บไว้ในจวนเท่านั้น
ส่วนที่ฝากไว้ที่ร้านรับฝากเงินรวมแล้วสามแสนตำลึง กระจายกันอยู่ตามร้านรับฝากเงินหลายร้าน สามแสนตำลึงไม่เพียงแต่ไม่ได้กำไร แต่ยังต้องเสียค่าดูแลให้ร้านรับฝากเงินอีกด้วย นายหญิงผู้เฒ่าละโมบเงินทอง แต่ก็ระมัดระวังรอบคอบ หลายปีมานี้ยินดีเสียค่าดูแลรักษา ก็ต้องเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ที่ร้านรับฝากเงิน ตอนนี้ย่อมต้องเบิกเงินก้อนนี้ออกมาก่อน
ตั๋วแลกเงินเก็บไว้ที่จวนนับรวมแล้วก็หนึ่งแสนตำลึง แม้เทียบไม่ได้กับสมบัติมหาศาลของโค่วชิงชิง แต่ในครอบครัวขุนนางธรรมดาทั่วไปเรียกได้ว่ามากมายจนไม่อาจนึกภาพได้แล้ว
ทั้งหมดนี้รวมกันแล้วก็สี่แสนตำลึง ห่างจากตัวเลขที่ซินโย่วต้องการอีกสองแสนตำลึง นายหญิงผู้เฒ่านับตั๋วแลกเงินที่เก็บไว้ที่จวน นับแล้วนับอีก ในใจดังโลหิตไหลหยด
รองเจ้ากรมต้วนกลับมาตอนเย็น พอเข้ามาก็ตรงไปเรือนหรูอี้ถัง
“เบิกมาแล้ว?” นายหญิงผู้เฒ่าให้บ่าวถอยออกไป ก่อนจะถามบุตรชาย
รองเจ้ากรมต้วนยกน้ำชาขึ้นจิบแล้วก็เอ่ยว่า “ไปหลายร้าน เบิกมาสองแสนตำลึง หนึ่งแสนตำลึงจากร้านรับฝากเงินจิ่นเซิงบอกว่าอีกสองวันจึงจะเบิกได้”
ร้านรับฝากเงินจิ่นเซิงเป็นร้านรับฝากเงินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง เป็นร้านที่ฝากในตอนนั้นมากที่สุด จะเบิกเงินออกมาก็ต้องแจ้งล่วงหน้า รองเจ้ากรมต้วนไม่ได้นำเงินสามแสนตำลึงกลับมาก็ไม่แปลกอันใด
“ก็ไม่เป็นไร อย่างมากพรุ่งนี้ก็พาชิงชิงไปร้านรับฝากเงินจิ่นเซิง ให้คนร้านรับฝากเงินตรวจนับแล้วก็มอบตราประทับเบิกเงินให้นาง แล้วที่จวนเรามีเงินสดเท่าไร”
“ข้านับตอนบ่ายแล้ว ตั๋วแลกเงินราวหนึ่งแสนตำลึง”
“เงินทองเครื่องประดับนับรวมแล้วก็แสนกว่าตำลึงได้” นายหญิงผู้เฒ่าคิดว่าไม่อยากแตะต้องเงินทองก้อน
สำหรับนางที่ผ่านวิกฤตเหตุการณ์มามาก ตั๋วแลกเงินและร้านค้าล้วนเป็นของธรรมดา อย่างไรก็เทียบกับเงินก้อนขาวทองคำแท้ไม่ได้
รองเจ้ากรมต้วนคิดแล้วก็กัดฟันกล่าวว่า “เช่นนั้นก็นำออกมาห้าหมื่นตำลึง”
นายหญิงผู้เฒ่าปวดใจอย่างที่สุด “เงินทองก้อนพวกนี้ล้วนเก็บไว้ในห้องคลัง นำออกมายุ่งยากอยู่”
“ท่านแม่ มาถึงตอนนี้แล้ว ท่านยังกังวลยุ่งยากอันใด หากข้าถูกนางทำร่วงจากตำแหน่งขุนนางขึ้นมา จวนรองเจ้ากรมก็กลายเป็นชาวบ้านธรรมดา เงินทองเหล่านี้เราก็รักษาไว้ไม่อยู่แล้ว!”
นายหญิงผู้เฒ่าสะอึกในใจก่อนจะพยักหน้า
“ยังขาดอีกหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง…” รองเจ้ากรมต้วนตัดสินใจอย่างปวดใจ “ใช้ร้านค้าก็แล้วกัน ร้านค้าพวกนั้นสร้างเงินทองได้ นังเด็กนั่นก็คงไม่เรื่องมาก”
วันหน้าเขาจะต้องยึดทรัพย์สมบัติเหล่านี้กลับคืนมา รวมทั้งร้านหนังสือชิงซง!
สองคนแม่ลูกลังเลว่าจะมอบร้านค้าร้านใดให้ดี ยังไม่กล้าให้คนอื่นในจวนรู้เรื่องนนี้ ดังนั้นอาหารค่ำก็ยังคงจัดที่เรือนหรูอี้ถัง
“น้องชิงล่ะขอรับ” ต้วนอวิ๋นหลางเห็นจัดวางตะเกียบเรียบร้อย ก็ไม่เห็นซินโย่ว จึงถามอย่างสงสัย
นายหญิงผู้เฒ่าไม่ค่อยชอบหลานชายที่ไม่รู้จักสงวนท่าทีผู้นี้สักเท่าไร แต่แน่นอนว่าไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เพียงแค่เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ร้านหนังสือมีธุระ น้องชิงชิงเจ้ากลับไปแล้ว”
นางนึกถึงบุตรชายได้ยินว่าหลานสาวกลับร้านหนังสือแล้ว บอกว่าชิงชิงป้องกันพวกนาง ในใจก็รู้สึกไม่พอใจ
หลานสาวคนนี้ช่างแล้งน้ำใจจริง
รองเจ้ากรมต้วนกระดกมุมปากอย่างไม่เป็นที่สังเกต
ปักเข็มแหลมคมไว้ในใจท่านแม่ก่อน วันหน้าแม้ท่านแม่รู้ว่าเขาลงมือ ก็จะไม่โมโหมากนัก
“ระยะนี้ร้านหนังสือน้องชิงน่าจะมั่นคงดีมาก” ต้วนอวิ๋นหลางแววตาส่องประกาย “คงมิใช่ว่านิยายใหม่จะออกวางขายกระมัง”
ระยะนี้รองเจ้ากรมต้วนทนฟังคำว่า ‘นิยายใหม่’ ไม่ได้อย่างมาก จึงสีหน้าบึ้งขึ้นมาทันที “กินข้าว!”
ต้วนเหวินไป่มองพี่ชายอย่างแปลกใจ
แม้พี่ใหญ่เป็นนายใหญ่ของตระกูล แต่การชักสีหน้าใส่พวกเขาสองสามีภรรยาและหลานชาย เป็นเรื่องน่าแปลกอยู่บ้าง
มีเรื่องอันใดกระทบจิตใจมาหรือ
ต้วนเหวินไป่กำลังคิดเช่นนี้ พลางสบสายตากับจูซื่อ นายหญิงบ้านสอง
จูซื่อจิบน้ำชาเงียบๆ
หลายเดือนมานี้นางดูแลจวน หูตาไวกว่าแต่ก่อนมาก บ่ายวันนี้เรือนหรูอี้ถังมีการเคลื่อนไหวไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่ามีเรื่องอันใด แต่เกรงว่าเกี่ยวข้องกับชิงชิง
นางมองความคิดนายหญิงผู้เฒ่าออก คิดจะจับคู่หลางเอ๋อร์กับชิงชิง เรื่องนี้นางไม่คิดเข้าแทรก หากชิงชิงยินดีแต่งงานกับหลางเอ๋อร์ นางก็ไม่ได้มีอันใดไม่พอใจ แต่หากไม่อยาก นางก็ไม่คิดจะทำอันใด
ส่วนนายหญิงผู้เฒ่าจะทำอย่างไร นางเป็นแค่สะใภ้บุตรชายอนุ ก็ยิ่งไม่อาจข้องเกี่ยวได้
“เอาละ กินข้าว” นายหญิงผู้เฒ่าถลึงตาใส่รองเจ้ากรมต้วนทีหนึ่ง ก่อนหยิบตะเกียบขึ้นมา
คนที่นั่งล้อมโต๊ะก็พากันเงียบลง เริ่มกินข้าวกันเงียบๆ
ต้วนอวิ๋นหลิงบีบตะเกียบแน่น คีบผักชิ้นหนึ่งกินลงไปอย่างไม่รู้รสแม้แต่น้อย
คงมิใช่เพราะพี่ชิงช่วยนาง ทำให้ท่านย่ากับท่านพ่อโมโห?
หากเป็นเช่นนี้ นางทำให้พี่ชิงเดือดร้อนไหม…
ต้วนอวิ๋นหลิงลอบมองนายหญิงผู้เฒ่าทีหนึ่ง คิดไปคิดมาก็คิดว่ารักษาท่าทีนิ่งเงียบดีกว่า
พี่ชิงให้นางอยู่เฉยๆ นางต้องระงับใจตนเองให้ได้
คืนนี้คนส่วนใหญ่ในจวนรองเจ้ากรมต่างนอนไม่หลับ นายหญิงผู้เฒ่าปวดใจกับเงินทองมหาศาลที่ต้องควักออกมา รองเจ้ากรมต้วนคิดวางแผนสังหารหมายปองทรัพย์สิน จูซื่อคิดเรื่องแต่งงานของบุตรชาย ต้วนอวิ๋นเฉินหงุดหงิดกับการเปลี่ยนแปลงในจวน ต้วนอวิ๋นหวาหงุดหงิดกับเนื้อคู่ที่คลาดแคล้วไป ต้วนอวิ๋นหลิงเป็นห่วงโค่วชิงชิงกับปัญหายุ่งยากของตนเอง
ซินโย่วกลับนอนหลับสบาย วันรุ่งขึ้นก็กระปรี้กระเปร่า รอเฮ่อชิงเซียวอยู่ที่โถงหน้าประตู
เฮ่อชิงเซียวมาจากที่ทำการ ไม่ได้นำลูกน้องมาด้วย
เรื่องนี้เพราะซินโย่วเอ่ยไว้ อย่างไรนางก็เชื่อใจเพียงแค่เฮ่อชิงเซียว มิใช่กองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน
“ใต้เท้าเฮ่อ พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ” ซินโย่วนำเฮ่อชิงเซียวเดินไปยังรถม้าสามคันที่จอดอยู่ริมถนน
รถม้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้คุ้มกันที่จะตามนางไปจวนรองเจ้ากรมก็เลือกไว้แล้ว สัญญาขายตัวของผู้คุ้มกันเหล่านี้อยู่ในมือซินโย่ว ไม่กลัวว่าพวกเขาเห็นเงินก้อนโตแล้วจะเกิดความละโมบคิดการไม่ซื่อ
“ข้าขี่ม้าก็พอ”
แม้มีรถม้าสามคัน เฮ่อชิงเซียวก็ยังรู้สึกว่านั่งรถม้าคันเดียวกันตามที่คุณหนูโค่วเสนอมาดูประหลาดอยู่บ้าง
“ใต้เท้าเฮ่อเชิญตามสบายเจ้าค่ะ”
เห็นซินโย่วเดินไปที่รถม้าคันแรก เฮ่อชิงเซียวก็ถามขึ้นว่า “รถม้าสามคันไปด้วยกันหรือ”
“อา ใช่ ใช้ทั้งสามคันเจ้าค่ะ” ซินโย่วยิ้ม ก้มตัวเข้าในตัวรถ
วันนี้เงินก้อนโตที่นางจะได้มาก็คือตั๋วแลกเงิน แต่ก็ย่อมมีเงินทองก้อนอีกจำนวนหนึ่ง เงินทองพวกนี้จำเป็นต้องใช้รถม้าขน
จวนรองเจ้ากรมห่างจากร้านหนังสือชิงซงไม่ไกล ไม่นานก็ถึง ซินโย่วลงจากรถม้าเดินไปหาเฮ่อชิงเซียว “รบกวนใต้เท้าเฮ่อรอข้าที่นี่สักครู่นะเจ้าคะ”
เฮ่อชิงเซียวยังไม่รู้ว่าซินโย่วมาขนเงินจากบ้านยายของนาง ได้ยินก็พยักหน้า ในใจคาดเดาถึงการค้าก้อนโตที่คุณหนูโค่วว่าเจรจาสำเร็จคือการค้าใด
เรือนหรูอี้ถัง นายหญิงผู้เฒ่านั่งตัวตรงด้วยสีหน้าเข้มงวด รองเจ้ากรมต้วนเองก็ส่งคนไปที่ทำการขอลาหยุด วันนี้ตั้งใจอยู่จวน
ได้ยินสาวใช้รายงานว่าคุณหนูนอกมาถึงแล้ว ทั้งสองคนก็มองไปที่ประตูพร้อมกัน